พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 432 ถามเถิด

บทที่ 432 ถามเถิด

เจียง​เห​วิน​หยวน​ไม่ใช่คนเดียว​ที่​ได้รับ​ข่าวด่วน​จาก​เมืองหลวง​ โจว​เฟิ่งเสียง​ใน​ฐานะ​ผู้ตรวจการ​ก็​ได้รับ​ข่าวด่วน​นั้น​เช่นกัน​

“กระหม่อม​รับ​คำบัญชา​” เขา​โค้ง​ตัว​คำนับ​พลาง​เอ่ย​ขึ้น​

โจว​เฟิ่งเสียง​มองดู​พระบรมราชโองการ​ที่​รับ​มาด้วย​ความตื่นเต้น​

เป็นเวลา​สอง​ปีก​ว่าแล้ว​ที่​เขา​รับหน้าที่​ผู้ตรวจการ​แห่ง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ ในที่สุด​ก่อนที่จะ​ต้อง​จากไป​ เขา​ก็ได้​ทำหน้าที่​ของ​เขา​เสียที​

แน่นอน​ว่า​ฮ่องเต้​มิได้​ตำหนิ​เจียง​เห​วิน​หยวน​โดยตรง​ ถึงแม้จะทรง​รับ​เรื่อง​ไม่ไว้วางใจ​จาก​หลูเจิ้ง​ แต่​พระบรมราชโองการ​ที่​บัญชา​ลงมา​ก็​เพียง​ต้องการ​ให้​ทางการ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ตรวจสอบ​รางวัล​จาก​การ​ออกรบ​ของ​ห้า​คน​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​เท่านั้น​

นอกจากนี้​ ฮ่องเต้​ยัง​ได้​พิจารณา​ถึงสถานการณ์​ของ​เขา​แล้ว​ จึงเพียง​สั่งให้​เขา​ไป​ตรวจสอบ​เท่านั้น​ หาก​แต่​รายงาน​จะต้อง​ผ่านมือ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ก่อน​นำ​ทูล​ฮ่องเต้​ และ​เมื่อ​ต้อง​ผ่านมือ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ก่อน​ จึงเป็น​การป้องกัน​ไม่ให้​เขา​โจมตี​ได้​ตามใจชอบ​ แต่​หาก​เขา​สืบ​ได้เรื่อง​อะไร​ขึ้น​มาจริงๆ​ เจียง​เห​วิน​หยวน​เอง​ก็​ห้าม​ไม่อยู่​เช่นกัน​

ไม่ว่า​อย่างไร​ ครั้งนี้​ก็​เป็น​โอกาส​ครั้ง​ใหญ่​ที่จะ​ตัดสิน​ว่า​เขา​กับ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ ใคร​จะได้​อยู่​ และ​ใคร​จะต้อง​จากไป​

การ​อยู่​หรือ​ไป​ใน​ครั้งนี้​จะส่งผล​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ของ​พลทหาร​ทั่ว​ทั้ง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​

ราวกับ​กลับ​ไป​ช่วง​คดี​ของ​หวัง​ปู้​ถังอีกครั้ง​ ซึ่งการ​ตัดสิน​ใน​ครั้งนี้​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ความเป็นความตาย​ของ​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ สิ่งเดียว​ที่​ไม่เหมือนกัน​คือ​ สอง​ปีก่อน​ทำ​ไป​เพื่อ​คน​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ แต่​สอง​ปี​ถัดมา​ทำ​ไป​เพื่อ​คนตาย​

โชคชะตา​นั้น​ช่างตลก​ยิ่งนัก​

โจว​เฟิ่งเสียง​เหม่อลอย​พลาง​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจ

เสียง​เหล่า​เสมียน​ถกเถียง​กัน​ใน​ห้องโถง​ใหญ่​ทำให้​เขา​หลุด​ออกจาก​ภวังค์​ เขา​เดิน​วน​ไปมา​พลาง​ครุ่นคิด​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ตอนนี้​

คราวก่อน​ตอน​เจียง​เห​วิน​หยวน​ชิงเขียน​สาส์น​ปฏิเสธ​รางวัล​ เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ต้อง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​แน่​ แต่​การ​ที่​ขุนนาง​ถูก​โจมตี​และ​ถูก​ยื่น​เรื่อง​ไม่ไว้วางใจ​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​แปลก​ เขา​จึงไม่ได้​สนใจ​อะไร​ แต่​หลังจาก​เรื่อง​นั้น​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ราชสำนัก​ก็​ยัง​ประทาน​รางวัล​มาให้​อีก​ แถมยัง​ใช้คำ​ชื่นชม​เสีย​สวยหรู​ใน​ประกาศ​ เขา​ก็​นึก​ว่า​เรื่อง​จะจบ​ลง​เท่านี้​

นึกไม่ถึง​ว่า​ผ่าน​ไป​เพียง​เดือน​เดียว​ กลับ​ถูก​ยื่น​ไม่ไว้วางใจ​อีก​ แถมฮ่องเต้​ยัง​ทรง​รับ​เรื่อง​ไว้​เสีย​ด้วย​ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้น​จัดการ​ให้​เด็ดขาด​ใน​ทันใด​ แต่​สำหรับ​แม่ทัพ​แห่ง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ผู้​เพิ่ง​ได้​รับรางวัล​ไป​ก็​ถือ​เป็นการ​ลงโทษ​ที่​รุนแรง​แล้ว​

“ใต้เท้า​ ข้า​ได้​ถามผู้ตรวจการ​โจว​มาแล้ว​ เขา​บอ​กว่า​ไม่ทราบ​เรื่อง​นี้​ สีหน้า​ดู​ไม่จริงใจ​เลย​” เสมียน​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​

แต่​โจว​เฟิ่งเสียง​กลับ​ไม่ว่า​อะไร​

เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​เพราะ​ห้า​คน​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ คน​ที่จะ​ออกหน้า​แทน​ห้า​คน​นั้น​ใน​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ก็​มีเพียง​ท่านชาย​โจว​หก​เท่านั้น​ แต่​ยาม​ที่​ท่านชาย​โจว​หก​อยู่​ใน​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ เขา​ถูก​กดขี่​แถมยัง​ทำให้​เจียง​เห​วิน​หยวน​ไม่พอใจ​ จึงเก็บ​ความโกรธ​กลับ​เมืองหลวง​ เมื่อ​ไม่มีเจียง​เห​วิน​หยวน​คอย​จูงจมูก​จึงสร้างเรื่อง​ให้​คน​ทั่วเมือง​ออกมา​ต้อนรับ​วิญญาณ​วีรบุรุษ​ ได้​พบ​กับ​หลูเจิ้ง​ตอน​ใกล้​ตาย​ เขา​ราวกับ​ได้​จับ​ฟางเส้น​สุดท้าย​ที่จะ​ทำให้​รอดชีวิต​ เมื่อ​ทุกอย่าง​ประจวบเหมาะ​ จึงก่อเรื่อง​นี้​ขึ้น​มา

เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​จาก​ความบังเอิญ​ พวก​ตระกูล​โจว​เอง​ก็​คง​คิดไม่ถึง​ว่า​จะกลายเป็น​แบบนี้​ และ​คง​ไม่มีทาง​รู้เรื่อง​นี้​ก่อน​คนอื่น​เช่นกัน​

หรือ​จะเป็น​ใครคนหนึ่ง​ใน​ตระกูล​โจว​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ ถ้าแบบ​นั้น​คน​ตระกูล​โจว​ก็​คง​ไม่ยอมรับ​อยู่แล้ว​

ดังนั้น​ผู้อยู่เบื้องหลัง​คง​คิด​เหมือน​หลูเจิ้ง​ ว่า​ถึงอย่างไร​ท่านชาย​โจว​หก​กับ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ก็​บาดหมาง​กัน​อยู่แล้ว​ ถึงอย่างไร​คน​ตระกูล​โจว​ก็​คง​ไม่ได้​ใช้ชีวิต​อย่าง​สงบสุข​อีก​ ไหน​ๆ ก็​ใกล้​ตาย​แล้ว​ ก็​เอา​ให้​ตาย​กัน​ไป​ข้าง​หนึ่ง​เลย​เสีย​ดีกว่า​

“ใต้เท้า​ เรื่อง​นี้​เกี่ยวกับ​ตระกูล​โจว​จริง​ หาก​แต่​คน​บงการ​ไม่ใช่ท่านชาย​โจว​หก​” เสมียน​อีก​คน​หนึ่ง​วาง​จดหมาย​ใน​มือ​ลง​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​

นอกจาก​ราชโองการ​จาก​ฮ่องเต้​แล้ว​ ยังมี​จดหมาย​จาก​ญาติมิตร​ผู้ช่วย​สอดส่อง​ข่าวคราว​ส่งมาด้วย​ หาก​จะพึ่งพา​ราชโองการ​จาก​ฮ่องเต้​เพียง​อย่าง​เดียว​ คง​ไม่มีทาง​ตัดสิน​อย่าง​ถูกต้อง​ได้​ การ​ทำ​แบบนี้​ไม่ได้​มีแค่​พวกเขา​ที่​ทำได้​ พวก​เจียง​เห​วิน​หยวน​ก็​ทำได้​เช่นกัน​

คนใน​ห้อง​หันไป​มอง​เขา​

“…เป็น​หลานสาว​ตระกูล​โจว​” เสมียน​เอ่ย​ขึ้น​พลาง​ยื่น​จดหมาย​ใน​มือ​ให้​ “น้องสาว​บุญธรรม​ของ​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​”

น้องสาว​บุญธรรม​งั้น​หรือ​

เป็น​ผู้หญิง​งั้น​หรือ​

สีหน้า​ทุก​คนดู​ตกตะลึง​

“พวก​เจ้ายัง​จำข่าวลือ​ที่ว่า​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ร่ำรวย​มาก​ได้​หรือไม่​” เสมียน​เอ่ย​ถาม

อีก​ฟาก​หนึ่ง​มีคน​หยิบ​จดหมาย​ขึ้น​อ่าน​พลาง​พยักหน้า​

“ที่​บอ​กว่า​เป็น​เถ้าแก่​ใหญ่​ของ​ร้าน​ใน​เมืองหลวง​…” เขา​กล่าว​ “ช่างเป็น​ข่าวลือ​ที่​ไม่สมจริง​เอา​เสีย​เลย​”

“สมจริง​สิ พวกเขา​เป็น​เถ้าแก่​ใหญ่​จริงๆ​ แถมยัง​เป็น​ร้าน​ที่​มีชื่อเสียง​มาก​ด้วย​” เสมียน​คน​นั้น​พูด​ต่อ​ “เรือน​ไท่​ผิง​…”

คนใน​เหตุการณ์​เมื่อ​ได้ยิน​เขา​พูด​สามคำ​นี้​ออกมา​ต่าง​ก็​ร้อง​เสียงหลง​

ถึงแม้โจว​เฟิ่งเสียง​จะไม่ได้​มาจาก​เมืองหลวง​ แต่​ตอน​รอ​ตำแหน่ง​ก็​พัก​อยู่​ที่​เมืองหลวง​เป็นเวลา​นาน​พอสมควร​ ทุกคน​ต่าง​รู้จัก​ชื่อ​เรื่อ​นไท่​ผิง​ซึ่งเป็นเจ้าของ​เต้าหู้​ไท่​ผิง​เป็น​อย่าง​ดี​

เป็น​ถึงร้าน​ยอดนิยม​เลย​นี่​ ใช่สิ ตอน​ห้า​คน​นั้น​ถูกจับ​ ก็​ถูกจับ​ได้ที่​เรือน​ไท่​ผิง​ แต่​ตอนนั้น​ทุกคน​ต่าง​ไม่ได้​สนใจ​ เพียง​คิด​ว่า​พวกเขา​เป็น​คนงาน​ที่​ร้าน​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะมีความ​สัมพันธ์กัน​ขนาด​นี้​

ทุกคน​ถึงได้​บอ​กว่า​พวก​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ใช้เงิน​ฟุ่มเฟือย​นั่นเอง​

“…ส่วน​น้องสาว​บุญธรรม​ของ​พวกเขา​ ก็​คือ​เถ้าแก่​ใหญ่​ที่​แท้จริง​ของ​เรือน​ไท่​ผิง​” เสมียน​เอ่ย​

“ไม่ใช่ตระกูล​โจว​หรือ​” มีคน​ถามอย่าง​ตกใจ​ “นี่​เป็น​กิจการ​ของ​นาง​เพียงผู้เดียว​อย่างนั้น​หรือ​”

เสมียน​ส่ายหน้า​แต่​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​ คน​ที่​กำลัง​ถือ​จดหมาย​ก็​หันมา​มอง​เสมียน​แล้ว​พูด​ขึ้น​ก่อน​ว่า​ “ไม่ใช่ตระกูล​โจว​ ทางการ​สืบค้น​มาเรียบร้อย​แล้ว​ ตระกูล​โจว​เอง​ก็​ไม่มีทาง​ยอมให้​หลานสาว​ไป​รับ​หน้าเป็น​เถ้าแก่​หรอก​ มัน​ไม่สมเหตุสมผล​เลย​…อีก​อย่าง​…ไม่ใช่แค่​เรือน​ไท่​ผิง​…” เขา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​ “ยัง​มีเรือน​นางฟ้า​อีก​…”

เสียงร้อง​ตกใจ​ดัง​ขึ้น​ เท่านี้​ยัง​ไม่จบ​

“…และ​ยังมี​อี๋​ชุน​ถัง…ที่แท้​นาง​ก็​คือ​หมอ​เทวดา​ที่​รักษา​ท่าน​พ่อ​ของ​เฉินเซ่า​และ​ชุบชีวิต​บัณฑิต​ถง หาก​ไม่ป่วย​ใกล้​ตาย​นาง​จะไม่รักษา​ นาง​ร่ำรวย​มหาศาล​” เสมียน​คน​นั้น​เอ่ย​ต่อ​ เมื่อ​เล่า​ถึงตรงนี้​ผู้คน​ก็​พา​กัน​ตกอกตกใจ​กรีดร้อง​เสียงแหลม​

“แบบนี้​ค่อย​สมเหตุสมผล​หน่อย​! ว่า​ทำไม​นาง​ถึงมีกิจการ​เหล่านี้​ไม่ใช่ตระกูล​โจว​!”

ผู้​คนใน​เหตุการณ์​ต่าง​พา​กัน​กรู​เข้าไป​แย่ง​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​อย่าง​วุ่นวาย​

โจว​เฟิ่งเสียง​ไม่ได้​ต่อว่า​การกระทำ​นั้น​ เพราะ​เขา​เอง​ก็​นิ่ง​ตะลึง​อยู่​ เขา​ยืน​ขึ้น​นึกถึง​คำพูด​ของ​เหล่า​เสมียน​ แล้วจึง​หัน​มอง​ผู้คน​ที่​ตื่นตระหนก​จาก​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​

ให้​ตาย​เถอะ​

เถ้าแก่​ใหญ่​ของ​เรือน​ไท่​ผิง​ เรือน​นางฟ้า​และ​อี๋​ชุน​ถัง

หมอ​เทวดา​ผู้รักษา​ท่าน​พ่อ​ของ​เฉินเซ่าจน​หาย​ ทำลาย​ความกังวล​ของ​เฉินเซ่า​ และ​ช่วยชีวิต​บัณฑิต​ถง

กลับมา​ได้​

น้องสาว​บุญธรรม​ของ​พวก​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​!

ให้​ตาย​เถอะ​

มิน่าล่ะ​…

“ท่าน​จะต้อง​เสียใจ​!”

โจว​เฟิ่งเสียง​นึกถึง​คำพูด​ของ​ชายหนุ่ม​คน​นั้น​ ตอน​เขา​พูด​ประโยค​นั้น​กับ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ ผู้คน​ต่าง​หัวเราะ​ใน​ความไร้เดียงสา​ของ​เขา​

ที่แท้​ประโยค​นี้​ไม่ใช่ประโยค​ระบาย​ความโกรธ​ แต่​เป็น​ประโยค​ที่​เขา​มั่นใจ​มาก​ต่างหาก​

“ไม่ใช่สิ…” โจว​เฟิ่งเสียง​พึมพำ​ “มีน้องสาว​แบบนี้​อยู่แล้ว​ จะมาเป็น​ทหาร​ทำไม​!”

ข่าวด่วน​ทำให้​คน​มากมาย​โกรธเคือง​และ​ตกตะลึง​ แต่​สวี​ซื่อ​เกิน​ผู้​รอคอย​สิ่งนี้​มานาน​กลับ​สงบนิ่ง​ยิ่งนัก​

เมื่อ​เสร็จ​งาน​เผา​เกือกม้า​ที่​โรงม้า​เรียบร้อย​แล้ว​ ดวงอาทิตย์​ก็​ลับ​ขอบฟ้า​ฟาก​ตะวัน​ตกไป​แล้ว​ สวี​ซื่อ​เกิน​หิ้ว​ถังน้ำ​ไป​อาบน้ำ​ สวม​เสื้อผ้า​ของ​ตนเอง​แล้ว​เดิน​ออก​ประตู​ไป​ เขา​ตัก​เหล้า​มาสอง​ไห​แล้ว​ซื้อ​ขนม​ต่างๆ​ จน​เต็ม​ตะกร้า​ เดิน​คดเคี้ยว​ไปมา​จน​มาถึงถนน​เล็ก​ๆ สาย​หนึ่ง​

หน้า​เรือน​หลัง​หนึ่ง​มีเด็กน้อย​กำลัง​วิ่งเล่น​กัน​อยู่​ ประตู​เรือน​เปิดกว้าง​ สวี​ซื่อ​เกิน​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​ประตู​แล้ว​ก่อน​จะโกน​เรียก​พี่​หลิว​เจียง​

ภายใน​เรือน​ ชาย​คน​หนึ่ง​หยุด​ฝีเท้า​แล้ว​หันมา​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​จนปัญญา​

“เจ้าอีกแล้ว​หรือ​” เขา​เอ่ย​ “สวี​ซื่อ​เกิน​ เจ้ากลับ​ไป​เถิด​ เรื่อง​นั้น​ข้า​ไม่รู้​จริงๆ​ ไม่มีอะไร​จะพูด​”

สวี​ซื่อ​เกิน​หัวเราะ​โดย​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​ที่​เขา​พยายาม​หลบเลี่ยง​จะตอบ​ พลัน​นำ​เหล้า​ใน​มือวาง​ไว้หน้า​ประตู​

“ไม่เป็นไร​ วันนี้​ข้า​อารมณ์ดี​ ไป​ตัก​เหล้า​มาแต่​ก็​ไม่มีใคร​ให้​ดื่ม​ด้วย​ นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เจ้ากับ​พวกเขา​ก็​เป็นเพื่อน​ผอง​ออกรบ​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​มา เลย​แวะ​มาหา​” เขา​เอ่ย​แล้ว​หันหลัง​เดิน​จากไป​โดย​ไม่รอ​ให้​คน​ด้านใน​บ้าน​เอ่ย​ตอบ​

คน​ด้านใน​บ้าน​มอง​สวี​ซื่อ​เกิน​เดิน​จากไป​ด้วย​สีหน้า​สับสน​ ภรรยา​ของ​เขา​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​

“ชาย​ห้า​ ฉวี​ซื่อ​เกิน​อีกแล้ว​หรือ​” นาง​กระซิบ​ถาม

ชาย​คน​นั้น​ทำ​เสียง​อืม​

คน​เป็น​ภรรยา​ถอนหายใจ​

“แต่​ก็​น่าสงสาร​นะ​…” นาง​เอ่ย​ขึ้น​

“น่าสงสาร​ตรงไหน​กัน​” ชาย​คน​นั้น​ตะคอก​ใส่ “มีคนตาย​จาก​การ​ออกรบ​มากมาย​ ต้อง​สงสาร​กัน​ทุกคน​งั้น​หรือ​ ใน​เมื่อ​มาเป็น​ทหาร​ก็​ต้อง​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​สักวัน​จะต้อง​ตาย​ น่าสงสาร​ตรงไหน​กัน​!”

ภรรยา​ถูก​ตะคอก​ใส่จน​หน้าแดง​

“ก็​เพราะ​ข้า​รู้​ว่า​ต้อง​มีวันนั้น​ไงถึงได้​สงสาร​!” คราวนี้​นาง​ไม่ได้​ก้มหน้า​เดิน​จากไป​อย่าง​อ่อนโยน​เหมือน​ที่ผ่านมา​ แต่กลับ​เงยหน้า​ตะโกน​ตอบ​พร้อม​ดวงตา​แดงก่ำ​ “ข้า​สงสาร​ที่​คน​เป็น​ทหาร​ต้อง​มีวัน​แบบ​นั้น​ ตอน​ตาย​ก็​ตาย​เปล่า​ แถมยัง​ถูก​คน​ใส่ร้าย​ ลูกเต้า​ใช้ชีวิต​หา​ความสงบ​ไม่ได้​ ต้อง​ถูก​คน​ไล่ออก​ไป​ เพราะ​อย่างนั้น​ข้า​จึงสงสาร​ วันนี้​ไม่สงสาร​เขา​ วันหน้า​ใคร​จะมาสงสาร​พวกเรา​!”

ชาย​คน​นั้น​ถูก​ตะคอก​ใส่จน​หน้าซีด​ เขา​โมโห​แต่กลับ​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​

“พูด​ไร้สาระ​!” เขา​ตะโกน​พลาง​หันหลัง​สะบัด​ตัว​เดิน​เข้า​ห้อง​ไป​

ภรรยา​ยก​มือขึ้น​ปาด​น้ำตา​อย่าง​โกรธเคือง​ เมื่อ​เห็น​เหล้า​สอง​ไห​วาง​อยู่​หน้าบ้าน​จึงเดิน​ออก​ไป​หยิบ​ขึ้น​มาอย่าง​คล่องแคล่ว​

“…ปิดบัง​ให้​คนอื่น​มีประโยชน์​อะไร​ แค่​ได้​เลื่อนขั้น​นิดหน่อย​ แต่​ยัง​ต้อง​ติด​หนี้บุญคุณ​ ต้อง​ถูก​ห้าม​ สู้ให้​…” เมื่อ​เอ่ยถึง​ตรงนี้​ นาง​ก็​มองออก​ไป​ด้านนอก​ ซอย​เล็ก​ๆ ตรงหน้า​ไม่มีเงาของ​สวี​ซื่อ​เกิน​อยู่แล้ว​

“…สู้ให้​คน​ลืม​บุญคุณ​ แต่​เมตตา​ผู้อื่น​ยัง​จะดี​เสีย​กว่า​…”

นาง​พึมพำ​พลาง​มองดู​เหล้า​ใน​มือ​ สูด​ดมกลิ่น​เข้าไป​อย่าง​แรง​ แล้วจึง​ตะโกน​เข้าไป​ใน​เรือน​อย่าง​ดีใจ​

“… ต้า​โถว​ ต้า​โถว​ ไป​ซื้อ​กระดูก​แพะ​ใน​ตลาด​มาให้​หน่อย​ แม่จะเพิ่ม​อาหาร​ให้​จาน​หนึ่ง​”

ใน​ขณะ​ทึ่คนเป็ร​ภรรยา​เรียก​ให้​ลูก​ไป​ซื้อ​กระดูก​แพะ​ สวี​ซื่อ​เกิน​ก็​มาถึงประตู​บ้าน​อีก​หลัง​หนึ่ง​แล้ว​ แต่​เขา​ไม่ได้​เดิน​เข้าไป​ เพียงแต่​ยืน​อยู่​ใน​ซอย​ ยื่นมือ​ไป​ลูบ​หัว​เด็กน้อย​ที่​วิ่งเล่น​อยู่​ด้านนอก​

เด็กน้อย​คุ้นเคย​กับ​เขา​นัก​ หัวเราะ​คิกคัก​ไม่ได้​หลบหนี​

หน้า​ประตู​มีหญิง​อยู่​สอง​นาง​ หญิงสาว​เห็น​ดังนั้น​ก็​รีบ​เตรียมตัว​จะไล่​ แต่กลับ​ถูก​หญิง​มีอายุ​ยื่นมือ​มาห้าม​

“ท่าน​แม่…ถ้าเกิด​เขา​โกรธ​ขึ้น​มา ยิ่ง​เกลียด​พวกเรา​อยู่​…ลูก​น้อย​คง​…” หญิงสาว​พูด​อย่าง​ร้อนใจ​

หญิง​มีอายุ​ส่ายหน้า​

“ดู​หน้า​ก็​รู้ใจ​ เขา​ไม่ทำร้าย​เด็กน้อย​หรอก​ และ​ไม่มีทาง​ทำร้าย​พวกเรา​” นาง​เอ่ย​ตอบ​พลาง​มอง​ไป​ทาง​ซอย​

หญิงสาว​มองดู​อย่าง​ไม่วางใจ​ เห็น​สวี​ซื่อ​เกิน​นั่ง​ยอง​ลง​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​เด็กน้อย​ เขา​หัวเราะ​ เด็กน้อย​เอง​ก็​หัวเราะ​เช่นกัน​ จากนั้น​เขา​ก็​หยิบ​ขนมจาก​ตะกร้า​ออกมา​ให้​เด็กน้อย​ เด็กน้อย​ดีใจ​รีบ​ชูขึ้น​แล้ว​วิ่ง​เอา​แบ่ง​ให้​เพื่อน​ๆ

เขา​นั่ง​ยอง​บน​ถนน​ มองดู​เด็กน้อย​เล่น​กัน​อย่าง​สนุกสนาน​ เผย​ยิ้ม​ที่​มุมปาก​เป็นครั้งคราว​

“ได้ยิน​มาว่า​หนึ่ง​ใน​คน​ที่​ตาย​ทิ้ง​ลูก​เอาไว้​ด้วย​…” อยู่ดีๆ​ หญิง​มีอายุ​ก็​กระซิบ​ขึ้น​

หญิงสาว​ตัวสั่น​ราวกับ​ถูก​เข็ม​ทิ่ม​ นาง​หัน​ตัว​กลับ​ไป​

“ท่าน​แม่ อย่า​พูด​เรื่อง​นี้​!” นาง​เอ่ย​เตือน​ด้วย​ความ​ร้อนใจ​

หญิง​ชรา​มองหน้า​นาง​ แล้ว​ก้มหน้า​เย็บผ้า​ต่อ​ไม่พูด​อะไร​

หญิงสาว​หัน​กลับมา​เตรียม​จะเรียก​ลูก​กลับ​เข้า​บ้าน​ แต่​ก็​พบ​ว่า​สวี​ซื่อ​เกิน​ที่​เดิมที​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​พื้น​ได้​เดิน​จากไป​แล้ว​ นาง​ปิดปาก​ที่​เพิ่งจะ​อ้า​ลง​ สีหน้า​ดู​สับสน​

ยาม​ฟ้ามืด​ ตะกร้า​ของ​สวี​ซื่อ​เกิน​ก็​ว่างเปล่า​แล้ว​ สีหน้า​เขา​ดู​ผ่อนคลาย​ เขา​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​โรงม้า​อันเป็น​ที่พักอาศัย​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ เขา​กำลังจะ​ก้าว​เข้า​ประตู​ ก็​มีคน​กลุ่ม​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ด้านใน​

“สวี​ซื่อ​เกิน​” คน​เป็น​หัวหน้า​ทำ​สีหน้า​ขรึม​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ “ใต้เท้า​เจียง​มีเรื่อง​ต้อง​ถามเจ้า ไป​กับ​พวก​ข้า​ด้วย​”

สวี​ซื่อ​เกิน​พยักหน้า​ สีหน้า​สงบนิ่ง​ หันหลัง​เดินตาม​ไป​ทันที​ หาง​ตา​เหลือบเห็น​คน​มากมาย​ที่มา​หลบ​ๆ ซ่อน​ๆ ชี้นิ้ว​พูดคุย​กัน​เรื่อง​เขา​

ถามเถิด​ พูด​เถิด​ ไม่ต้อง​กลัว​ที่จะ​ถาม ไม่กลัว​ที่จะ​พูด​ กลัว​เพียงแต่​ไม่มีคน​ถาม ไม่มีคนพูด​

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

Score 10
Status: Completed

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค แนวแก้แค้นสุดแสบฉบับหมอเทวดาสุดสวย! ผลงานจากผู้เขียน ‘หวนชะตารัก’


เฉิงเจียวเหนียงก็เป็นแค่เด็กสติไม่สมประกอบคนหนึ่งไม่ใช่หรือ แต่เหตุใดนางถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเจียวเหนียง?’

ภาพความทรงจำประหลาดมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเด็กสาวคนหนึ่ง…

ภาพของเฉิงเจียวเหนียง คุณหนูที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในวัดเต๋า แต่จู่ๆ กลับมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ใจกลางวัดจนทำให้นางสลบไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าแม้ร่างกายจะหายดีเป็นปกติ แต่ความทรงจำของนางกลับหายไปหมดสิ้น

นางจึงตัดสินใจกลับมายังบ้านตระกูลเฉิงเพื่อตามหาความทรงจำที่แท้จริงของตัวเอง

และระหว่างทางกลับบ้าน นางก็ค้นพบความสามารถพิเศษในการรักษาคน

กระทั่งใช้ทักษะนี้ รักษาคนไข้จนเลี้ยงตัวเองได้และกลายเป็นที่เลื่องลือในฐานะ ‘หมอเทวดา’

ทว่าทันทีที่คนในตระกูลทราบข่าวการกลับมาของนาง พวกเขากลับมิได้ยินดีแม้แต่น้อย

…แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าหวังว่านางจะเป็นเหยื่อให้ใครกลั่นแกล้งเหมือนเมื่อก่อน!

และหากจะมีศึกใดที่น่าตื่นใจ… สำหรับนางแล้วก็เห็นจะเป็นศึกในบ้านตระกูลเฉิงหลังนี้นี่แหละ!

Options

not work with dark mode
Reset