พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 431 ต้องได้

บทที่ 431 ต้องได้

อากาศ​ที่​เมือง​หลง​กู่​ใน​ช่วง​กลางเดือน​แปด​เริ่ม​หนาวเย็น​

เสียง​ตี​เหล็ก​ดัง​ออก​มาจาก​ภายในบ้าน​หลัง​เก่า​ทรุดโทรม​

“หัวหน้า​สวี​ เผา​เกือกม้า​ใส่ให้​ม้าแบบนี้​แล้ว​มัน​จะวิ่ง​บน​น้ำแข็ง​ได้​เร็ว​จริง​หรือ​”

ด้านนอก​เพิง​ของ​ร้าน​ตี​เหล็ก​ธรรมดา​แห่ง​หนึ่ง​ ทหาร​สอง​สามคน​ บ้าง​ก็​ยืน​ บ้าง​ก็​นั่ง​ยอง​ เอ่ย​ถามคน​ที่​กำลัง​ง่วน​อยู่​ด้านใน​เพิง​

“ใช่แล้ว​” ชาย​ด้านใน​เพิง​ที่​ไม่สวม​เสื้อ​ท่อน​บน​เอ่ย​ตอบ​ขณะ​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​งาน​ใน​มือ​

“ถ้าอย่างนั้น​ฤดูหนาว​ปี​นี้​พวก​ข้า​ก็​จะสามารถ​ข้าม​แม่น้ำ​เลี่ยง​หม่า​ไป​บุก​เข้า​ฐานทัพ​ของ​พวก​โจร​ตะวันตก​ได้​อย่างนั้น​หรือ​” เหล่า​ทหาร​ถามพลาง​หัวเราะ​

“ก็​ต้อง​ได้​อยู่แล้ว​” ชาย​คน​นั้น​เอ่ย​ตอบ​พลาง​ยื่นมือ​รับ​เกือกม้า​ที่​ช่างตีเหล็ก​ยื่น​ให้​ เขา​พินิจ​มัน​อย่าง​ละเอียด​แล้วจึง​โยนทิ้ง​ “หนา​บาง​ไม่เสมอกัน​”

เหล่า​ช่างตีเหล็ก​หันไป​ก้มหน้า​ตี​เหล็ก​ต่อ​

ส่วน​ชาย​ผู้​นั้น​เดิน​ไป​นั่งคุกเข่า​ลง​ด้าน​หน้าม้า​ตัว​หนึ่ง​ที่​ถูก​ผูก​อยู่​ เขา​ยก​ขาม้า​ขึ้น​อย่าง​คล่องแคล่ว​ มือหนึ่ง​ดึง​แผ่น​ไม้เข้ามา​แล้ว​วาง​กีบ​ม้าลง​ อีก​มือหนึ่ง​ช้อน​เหล็ก​ที่​ถูก​เผา​จน​ร้อน​ขึ้น​มา

ถึงแม้ยาม​นี้​ม้าของ​กองทัพ​จะใส่เกือกม้า​กัน​เกือบ​ทุก​ตัว​แล้ว​ และ​ทุกคน​ต่าง​ก็​เห็น​เกือกม้า​กัน​จน​คุ้นเคย​ แต่​คน​ที่​เคย​เห็น​ม้าถูก​ตี​เกือก​ใส่ต่อหน้า​นั้น​มีไม่มาก​นัก​ ทหาร​บาง​นาย​ถึงกับ​อด​ไม่ได้​ ร้อง​ขึ้น​ด้วย​ความ​หวาดเสียว​

“เจ็บ​แค่​ไหน​กัน​..” คน​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​อย่า​งอด​ไม่ได้​

สวี​ซื่อ​เกิน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ เห็น​ทหาร​เด็ก​อายุ​ราว​สิบ​สี่หรือ​สิบห้า​ ร่าง​ผอมบาง​ ใบ​หน้าซีด​ขาว​ ชุด​ทหาร​ที่​สวมใส่​ดู​ใหญ่​เกินตัว​ แต่​ดวงตา​เขา​สดใส​และ​ตื่นเต้น​นัก​ เหมือนกับ​ตอนที่​พวกเขา​ได้​เป็น​ทหาร​และ​ใส่ชุด​ทหาร​เป็นครั้งแรก​

“ไม่เจ็บ​หรอก​ ครู่เดียว​เอง​” เขา​ตอบ​พลาง​หัวเราะ​ ข้าง​หนึ่ง​เพิ่งจะ​ใส่เกือกม้า​เสร็จ​ อีก​ข้าง​หนึ่ง​ก็​วาง​แท่น​เหล็ก​ลง​แล้ว​หยิบ​พลั่ว​ขึ้น​มาแก้​ทรง​เกือกม้า​เรียบร้อย​แล้ว​ ชั่วพริบตาเดียว​เกือกม้า​ทั้ง​สี่ก็​ถูก​ใส่จน​เสร็จ​เรียบร้อย​

“ใต้เท้า​สวี​ฝีมือดี​เสีย​จริง​” ทุกคน​พา​กัน​ชื่นชม​

สวี​ซื่อ​เกิน​เผย​ยิ้ม​พลาง​ลุกขึ้น​ยืน​

“ใช่แล้ว​ใต้เท้า​สวี​ฝีมือดี​เสีย​จริง​”

เสียง​ประหลาด​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านนอก​

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​สวี​ซื่อ​เกิน​หุบ​ลง​ใน​ทันใด​ ทุกคน​ต่าง​หันกลับ​ไป​มอง​ เห็น​แม่ทัพ​สอง​สามนาย​กำลัง​เดิน​เข้ามา​

พวกเขา​เป็น​คน​จาก​ศาลา​ว่าการ​ เหล่า​ทหาร​ผู้น้อย​จึงพา​กัน​ก้มหน้า​แล้ว​ถอย​จากไป​

“ใต้เท้า​สวี​” หนึ่ง​ใน​แม่ทัพ​เอ่ย​ขึ้น​ เน้นย้ำ​เสียง​คำ​ว่า​ใต้เท้า​ “ดูท่า​ท่าน​จะทำงาน​ที่นี่​อย่าง​มีความสุข​ดี​”

“ข้า​มิได้​สวมใส่​ชุด​ขุนนาง​ คง​ไม่สามารถ​คำนับ​ทุกท่าน​ตาม​ธรรมเนียม​ได้​” สวี​ซื่อ​เกิน​เอ่ย​ “นี่​เป็นงาน​ใน​ความรับผิดชอบ​ของ​ข้า​”

งาน​ใน​ความรับผิดชอบ​

สวี​ซื่อ​เกิน​เป็น​หัวหน้า​ผู้ดูแล​เรื่อง​ม้าของ​กองทัพ​ ที่จริง​ก็​ไม่ถึงขั้น​ว่า​จะต้อง​มาเผา​เกือกม้า​ด้วย​ตนเอง​ แต่​เขา​ถูก​ลงโทษ​ให้​มาทำ​

“สวี​ซื่อ​เกิน​” แม่ทัพ​คน​หนึ่ง​ตะโกน​ขึ้น​ สีหน้า​เคร่งขรึม​ “พวก​ข้า​ไม่ได้มา​คุย​เรื่องไร้สาระ​กับ​เจ้า ไหน​บอก​มาสิว่า​ช่วงนี้​เจ้าทำร้าย​ม้าของ​ทหาร​ไป​แล้ว​กี่​ตัว​”

สวี​ซื่อ​เกิน​ส่งเสียง​อืม​

“ยี่​สิบห้า​ตัว​” เขา​เอ่ย​ตอบ​

“เจ้ายัง​มีหน้า​พูด​ออกมา​อีก​!” แม่ทัพ​อีก​คน​หนึ่ง​ตะคอก​พลาง​ก้าว​เท้า​ขึ้น​มาถลึงตา​ใส่เขา​ “ให้​เจ้าดูแล​เรื่อง​ม้าของ​ทหาร​ ไม่ได้​ให้​เจ้ามาทำร้าย​ม้าของ​ทหาร​!”

“ไม่ควร​เรียก​ว่า​ทำร้าย​ พวก​ข้า​ได้​ตี​เกือกม้า​เหล็ก​ที่​ดี​ที่สุด​ออกมา​แล้ว​” สวี​ซื่อ​เกิน​กล่าว​ “ฤดูหนาว​ปี​นี้​ ม้าของ​ทหาร​เรา​ก็​จะสามารถ​วิ่ง​ได้​เร็ว​ขึ้น​และ​ไกล​ขึ้น​ ม้ายี่​สิบห้า​ตัว​แลก​มาด้วย​ชีวิต​พวก​โจร​ตะวันตก​อีก​มากมาย​ คุ้มค่า​แล้ว​”

แม่ทัพ​หัน​มองหน้า​กัน​

มัน​คง​เป็นเรื่อง​ช่วยไม่ได้​จริงๆ​ เกือกม้า​ที่​คน​ผู้​นี้​ทำ​ออกมา​มัน​มีประโยชน์​จริงๆ​ ถึงแม้เมื่อก่อน​ตอน​ไม่มีเกือกม้า​ก็​สามารถ​ฆ่าศัตรู​เอา​ชัยชนะ​มาได้​ แต่​บัดนี้​เมื่อ​มีเกือกม้า​ก็​ไม่ใช่เรื่องเสียหาย​อะไร​ เพราะ​หาก​ม้าบาดเจ็บ​น้อยลง​ ทุกคน​ก็​จะมีม้าใช้กัน​อย่าง​ครบถ้วน​ยิ่งขึ้น​

ถ้าเป็นเรื่อง​เกือกม้า​ เขา​มีความมั่นใจ​มาก​ ในขณะที่​แม่ทัพ​พวก​นี้​ไม่มี

“ตั้งใจ​ทำงาน​อยู่​ที่นี่​ก็แล้วกัน​” แม่ทัพ​ทิ้ง​ประโยค​สุดท้าย​ไว้​แล้ว​หันหลัง​เดิน​กลับ​ไป​

สวี​ซื่อ​เกิน​ไม่ได้​สนใจ​ ยังคง​ทำงาน​ใน​มือ​ต่อไป​

เมื่อ​เดิน​ถึงประตู​ แม่ทัพ​คน​หนึ่ง​นึก​อะไร​ขึ้น​ได้​จึงหัน​กลับมา​

“สวี​เม่าซิว​” เขา​ตะโกน​ขึ้น​

สวี​ซื่อ​เกิน​หยุด​มือ​ ร่างกาย​แข็งทื่อ​

แม่ทัพ​คน​นั้น​หัวเราะ​ร่า​

“ขอโทษ​ด้วย​ ขอโทษ​ด้วย​ ชื่อ​พวก​เจ้าคล้าย​กัน​เกินไป​ ข้า​จึงเรียก​ผิด​” เขา​กล่าว​ “แต่​ข้า​จำสวี​เม่าซิว​ได้​แม่น​เลย​นะ​ เพิ่ง​เคย​เห็น​คนตาย​ใน​สนามรบ​เพราะ​ตัวเอง​ไร้ความสามารถ​แต่​กลับมา​เรียกร้อง​รางวัล​แบบนี้​ ถ้าจะพูด​แบบนี้​ศพ​ทหาร​ที่นอน​กอง​อยู่​นอกเมือง​หลง​กู่​ต้อง​ลุกขึ้น​มาอีก​กี่​คน​…”

สวี​ซื่อ​เกิน​กำ​พลั่ว​เหล็กใน​มือ​ไว้​แน่น​จน​เส้นเลือด​ปูด​

แม่ทัพ​ยังคง​พูด​ต่อ​

“…ข้า​ก็​แค่​ไม่ชิน​กับ​คน​ไร้ประโยชน์​แบบนี้​…”

สวี​ซื่อ​เกิน​ยก​ขา​ขึ้น​ทันที​

เสียงคำราม​ดัง​ขึ้น​จาก​ภายใน​บริเวณ​บ้าน​ ทุกคน​ยัง​ไม่ทัน​มองเห็น​ว่า​เป็น​ใคร​ แม่ทัพ​ก็​ถูก​เตะ​ลอย​ออก​ไป​แล้ว​

แต่​ยัง​ทัน​ไม่จบ​ เขา​ก็​โผ​เข้าไป​ปล่อย​หมัด​อย่าง​บ้าคลั่ง​

บริเวณ​เรือน​เกิด​ความวุ่นวาย​ขึ้น​ใน​ทันใด​

โชคดี​ที่​พวกเขา​ถูกจับ​แยกกัน​อย่าง​รวดเร็ว​ หน้า​แม่ทัพ​ผู้​นั้น​ถูก​ต่อย​จน​เลือด​ออก​มุมปาก​ จมูก​ และ​ตา​ เขา​ยก​มือขึ้น​เช็ด​เลือด​ แล้ว​คำราม​ขึ้น​ทำ​ท่าจะ​โผ​เข้าไป​ในทันที​ แต่กลับ​ถูก​อีก​สอง​สามคน​ห้าม​ไว้​

อีก​ฝั่งหนึ่ง​ หลิว​ขุย​ซึ่งถูก​คน​ลาก​ไว้​ก็​มีแผล​บน​ใบหน้า​เช่นกัน​

“เข้ามา​สิ ไอ้​สวะ​ ข้า​จะต่อย​เจ้าให้​ยับ​ไป​เลย​” เขา​ตะโกน​ขึ้น​

แม่ทัพ​ยังคง​คำราม​ต่อเนื่อง​

“ทหาร​สู้กันเอง​แบบนี้​ไม่ดี​หรอก​”

“จะมาก่อเรื่อง​กับ​เจ้านี่​ไม่ได้​นะ​”

“มัน​ไม่สนใจ​อนาคต​ ปล่อย​ชีวิต​ไป​ตามยถากรรม​แล้ว​ พวกเรา​จะเป็น​เหมือน​มัน​ไม่ได้​”

ทุกคน​ห้าม​ไว้​ไม่ปล่อย​ขณะ​หันไป​มอง​หลิว​ขุย​

หลิว​ขุย​หนวดเครา​ยาว​รุงรัง​ เสื้อผ้า​ยับยู่ยี่​ สีหน้า​เมามาย​ ดวงตา​ฉ่ำเยิ้ม​ เมื่อ​เห็น​ทุกคน​มอง​มา ก็​ทำท่า​เตรียม​สู้

ทุกวันนี้​เขา​เมาเหล้า​ก่อเรื่อง​ใน​กองทัพ​จน​ไม่คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ทหาร​แล้ว​ เบื้องบน​ได้​แจ้งตระกูล​หลิว​แล้ว​ว่า​อีก​ไม่กี่​เดือน​จะส่งตัว​เขา​กลับ​ไป​ กลับ​ไป​คราวนี้​จะไม่เหมือน​คราว​ก่อนที่​ไป​ทำงาน​ลาดตระเวน​ถนน​ใน​เมืองหลวง​ แต่​เป็นการ​กลับ​ไป​อยู่​บ้าน​เฉย​ๆ รอ​แก่​ตาย​

การ​ถูก​ขับไล่​ออกจาก​กองทัพ​ถึงสอง​ครั้ง​คง​ทำให้​เขา​ถูก​คนใน​ครอบครัว​ไล่​ออกจาก​บ้าน​ ทั้ง​ยัง​มองว่า​เป็น​คน​ไร้ประโยชน์​เช่นกัน​แน่นอน​

“หาก​ข้า​ใช้หมัด​ตัวเอง​ต่อย​สวะ​อย่าง​เจ้า ก็​คงจะ​เป็นเรื่อง​น่าอาย​” แม่ทัพ​ทิ้ง​ประโยค​สุดท้าย​ไว้​ด้วย​ความโกรธเคือง​ก่อน​จะถูก​คนอื่น​ลาก​ออก​ไป​

“ไอ้​สวะ​ หมัด​ของ​เจ้าใช้ต่อย​ได้​แค่​คน​ของ​ตัวเอง​เท่า​นั้นแหละ​” หลิว​ขุย​ตะโกน​ขึ้น​พลาง​กัดฟัน​หัน​มอง​คน​กลุ่ม​นั้น​ “ข้า​จะรอ​ รอ​ให้​เจ้ามาต่อย​ข้า​!”

แม่ทัพ​จากไป​แล้ว​ ผู้คน​ยืน​ล้อมรอบ​หลิว​ขุย​พลาง​ชี้นิ้ว​ไป​ที่​เขา​

หลิว​ขุย​ยกมือ​เช็ด​เลือด​ที่​ไหล​ออกจาก​จมูก​หน้าตาเฉย​

“มอง​อะไร​กัน​ ไม่เคย​เห็น​คน​ต่อย​กัน​หรือไง​ ถ้ายัง​มอง​อีก​ข้า​จะต่อย​พวก​เจ้าแทน​!” เขา​ตะโกน​ขึ้น​

ผู้คน​ที่​ยืน​มุงอยู่​เบะ​ปาก​ ทำ​สีหน้า​ดูถูก​ แล้ว​เดิน​จากไป​

“คนบ้า​…”

“คน​วิกลจริต​…”

“เศษสวะ​…”

เสียง​ซุบซิบ​ยังคง​ลอย​มา

หลิว​ขุย​ไม่สนใจ​ เขา​ก้มหน้า​หัน​ซ้าย​ขวา​มอง​ไป​ที่​พื้น​ แล้วจึง​โผ​เข้าใส่​ขวด​เหล้า​น้ำเต้า​ราวกับ​เจอ​ของรัก​ เขา​ยก​น้ำเต้า​ขึ้น​ เปิด​ฝาออก​ด้วย​ความดีใจ​แล้ว​ดื่ม​เข้าไป​อึก​ใหญ่​ เหล้า​หก​ออกจาก​มุมปาก​ ผสม​กับ​เลือด​บน​ใบหน้า​ไหล​ลงมา​

สวี​ซื่อ​เกิน​วาง​พลั่ว​เหล็กใน​มือ​ลง​แล้ว​เดิน​เข้าไป​

“เจ้านี่​มัน​ช่างไร้ประโยชน์​เสีย​จริง​” เขา​กล่าว​

“เป็น​คน​ไร้ประโยชน์​ก็​ไม่เลว​นะ​” หลิว​ขุย​เอ่ย​ตอบ​พลาง​ถลึงตา​ใส่เขา​ “จริง​ด้วย​ ข้า​คง​เทียบ​กับ​ท่าน​ใต้เท้า​สวี​ไม่ได้​ ก้มหน้าก้มตา​ตั้งใจ​ทำงาน​ รอ​วัน​เลื่อนตำแหน่ง​ร่ำรวย​”

สวี​ซื่อ​เกิน​ยื่นมือ​ไป​แย่ง​ขวด​เหล้า​น้ำเต้า​ของ​เขา​มาแล้ว​ปา​ลงพื้น​

ขวด​เหล้า​น้ำเต้า​แตก​ออก​ เหล้า​ที่อยู่​ด้าน​ไหล​ออกมา​ทุกทิศทาง​

“สวี​ซื่อ​เกิน​ เจ้าบ้า​ไป​แล้ว​!” หลิว​ขุย​คำราม​พลาง​กระโดด​ขึ้น​มาจับตัว​สวี​ซื่อ​เกิน​

ขณะนั้น​เอง​ เสียง​วุ่นวาย​ก็​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านนอก​ เป็น​เสียง​ม้าวิ่ง​ด้วย​ความเร็ว​สูง

“ข่าวด่วน​จาก​เมืองหลวง​”

เขา​หันหลัง​กลับ​ไป​ใน​ทันใด​

ข่าวด่วน​จาก​เมืองหลวง​หรือ​

สวี​ซื่อ​เกิน​ใบหน้า​แข็งทื่อ​ใน​ทันใด​ เขา​รีบ​ผลัก​หลิว​ขุย​ออก​อย่าง​แรง​แล้ว​พุ่งตัว​วิ่ง​ตาม​ออก​ไป​ จนกระทั่ง​ม้าส่งข่าวด่วน​พุ่ง​เข้าไป​ใน​โถงว่าการ​ เขา​ถึงหยุด​ยืน​หอบ​อยู่​ข้าง​ถนน​ สายตา​ยังคง​จดจ้อง​ไป​ทาง​โถงราชการ​

“เจ้าทำใจ​ยอมแพ้​เสียเถิด​”

เสียง​หลิว​ขุย​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​

“คราวก่อน​ คราวก่อน​เจ้าก็​วิ่ง​ตามมา​แบบนี้​ แล้ว​มัน​เป็น​อย่างไร​ ไม่มีอะไร​เลย​อย่างไรเล่า​! เขา​ก็​ยัง​ใช้ชีวิต​เสพ​สุข​อยู่​อย่างนั้น​”

“ไม่แน่​หรอก​ ไม่แน่​หรอก​” สวี​ซื่อ​เกิน​เอ่ย​พลาง​ส่ายหน้า​

“ไม่แน่​หรอก​ ไม่แน่​หรอก​ คราวก่อน​เจ้าก็​พูด​แบบนี้​!” หลิว​ขุย​ตะคอก​ใส่ “ไม่มีทาง​เป็นจริง​ได้​หรอก​ ไม่มีประโยชน์​อะไร​ทั้งนั้น​!”

“ไม่แน่​หรอก​ ไม่แน่​หรอก​” สวี​ซื่อ​เกิน​ยังคง​พึมพำ​พลาง​ส่ายหน้า​ สีหน้า​มุ่งมั่น​

ไม่แน่​หรอก​!

ไม่แน่​หรอก​!

“นาย​ท่าน​สี่ นาย​ท่าน​สี่”

เสียงดัง​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​พร้อมกับ​เสียง​ฝีเท้า​ม้า

สวี​ซื่อ​เกิน​หันกลับ​ไป​ ใน​ใจรู้สึก​เหลือเชื่อ​ เห็น​ม้าตัว​หนึ่ง​วิ่ง​เข้ามา​อย่าง​รวดเร็ว​

นี่​คือ​ภาพ​ที่​เห็น​ใน​ฝัน​มาแล้ว​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​

ครั้งนี้​เป็น​เรื่องจริง​ใช่ไหม​ มีคน​มาแล้ว​จริงๆ​ ใช่ไหม​ สำเร็จ​แล้ว​ใช่ไหม​

“นาย​ท่าน​สี่ จดหมาย​จาก​นายใหญ่​” ผู้มาเยือน​ลง​จาก​หลัง​ม้าพลัน​ยื่น​จดหมาย​ให้​

สวี​ซื่อ​เกิน​กลืนน้ำลาย​ ยื่นมือ​ออก​ไป​ด้วย​ความลังเล​ แล้ว​หยิบ​จดหมาย​มาเปิด​ด้วยมือ​อัน​สั่นเทา​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​อ่านหนังสือ​ไม่ค่อย​ออก​ สวี​ซื่อ​เกิน​ก็​เช่นกัน​ ดังนั้น​สอง​พี่น้อง​จึงรู้ดี​ว่า​ต้อง​เขียนจดหมาย​อย่าง​เรียบง่าย​ชัดเจน​ จดหมาย​ทั้ง​ฉบับ​มีคำ​อยู่​เพียง​คำ​เดียว​

พูด​

พูด​

พูด​ได้​แล้ว​

สามารถ​พูด​ได้​

ต้อง​พูด​แล้ว​

สวี​ซื่อ​เกิน​ถือ​จดหมาย​ไว้​ใน​มือ​ แผ่น​หลัง​ที่​เคย​ยืด​ตรง​มาตลอด​เริ่ม​โค้ง​งอ​ เขา​รู้สึก​เจ็บปวด​จน​ต้อง​ใช้มือ​ทา​บอก​

เขา​คิด​ไว้​อยู่แล้ว​ คิด​อยู่แล้ว​ว่า​ต้อง​ทำได้​ น้องสาว​ต้อง​ทำได้​

“พูด​ หมายความว่า​อย่างไร​”

ด้านใน​โถงว่าการ​ เจียง​เห​วิน​หยวน​มองดู​จดหมาย​ใน​มือ​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​

“ใต้เท้า​ นี่​คือ​เรื่อง​ที่​ท่าน​ต้อง​ตอบ​” ทหาร​นาย​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​

เพิ่งจะ​พูด​จบ​เจียง​เห​วิน​หยวน​ก็​ฟาด​จดหมาย​ลง​โต๊ะ​

“ให้​ข้า​ตอบ​อะไร​ ข้า​มีอะไร​ให้​ตอบ​หรือ​!” เขา​ตะคอก​ใส่ “ให้รางวัล​และ​ลงโทษ​ได้​ไม่ชัดเจน​ ทุจริต​และ​ฉ้อฉล​รางวัล​ อีก​ทั้ง​ยัง​ปิดบัง​ราชสำนัก​งั้น​หรือ​ ข้า​หรือ​ ข้า​ต้อง​ตอบ​แบบนี้​หรือ​ หมายความว่า​อย่างไร​กัน​”

ทหาร​นาย​นั้น​ถูก​ตะคอก​ใส่จน​ตัวสั่น​

“หมายความว่า​ฝ่าบาท​ทรง​รับ​คำร้อง​ที่​หลูเจิ้ง​ร้องเรียน​ไม่ไว้วางใจ​ใต้เท้า​แล้ว​ ฝ่าบาท​ต้องการ​สอบสวน​เรื่อง​ของ​คน​ทั้ง​ห้า​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​อย่าง​ละเอียด​”

เขา​ยังคง​ก้มหน้า​แล้ว​เล่า​สิ่งที่​ได้​รับมอบหมาย​ให้​บอกต่อ​ออกมา​อย่าง​ตะกุกตะกัก​

เรื่อง​ของ​คน​ทั้ง​ห้า​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​!

เจียง​เห​วิน​หยวน​ถลน​ตา​ใส่ทหาร​ตรงหน้า​ ราวกับ​อยาก​จะกลืน​กิน​เขา​เข้าไป​

“เรื่อง​ของ​คน​ทั้ง​ห้า​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​คือ​อะไร​ เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​!” เขา​ตะโกน​ขึ้น​

“ใต้เท้า​ บน​จดหมาย​บอ​กว่า​เป็นเรื่อง​ของ​พวก​ฟ่านสือ​โถว​ สวี​เม่าซิว​…” เสมียน​คน​หนึ่ง​กระซิบ​ตอบ​ “ใต้เท้า​ พวกเขา​ทำให้​เป็นเรื่อง​ใหญ่แล้ว​จริงๆ​ ”

คน​พวก​นั้น​หรือ​

เจียง​หยวน​เห​วิน​หยุดนิ่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​จึงนึกออก​ว่า​เป็นเรื่อง​อะไร​ เขา​แทบจะ​ไม่อยาก​เชื่อ​ ยื่นมือ​ไป​ดึง​จดหมาย​มาอ่าน​อีกครั้ง​

“…นักรบ​ห้า​นาย​แห่ง​เขา​เม่าหยวน​ซาน​เสียชีวิต​จาก​การปกป้อง​เมือง​ เป็น​ผู้จงรักภักดี​… คนหนุ่ม​เดือดดาล​ ชาวบ้าน​โกลาหล​…อาลัย​ห้า​คน​เสียชีวิต​ใน​สนามรบ​แต่กลับ​ไม่มีผล​งาน.​..เจียง​เห​วิน​หยวน​ดื้อรั้น​ไม่เห็นอกเห็นใจ​…ปิดบัง​ฝ่าบาท​…หาก​พวก​เจียง​เห​วิน​หยวน​ปิดบัง​ความจริง​ หลอกลวง​ฝ่าบาท​ จะปล่อย​ไว้​ไม่ได้​เด็ดขาด​…”

เมื่อ​อ่าน​ถึงตรงนี้​เขา​ก็​ทน​อ่าน​ต่อ​ไม่ไหว​ ฟาด​จดหมาย​ลง​บน​โต๊ะ​อย่าง​โกรธเคือง​

“หลูเจิ้ง!​ ข้า​ต้อง​จัดการ​มัน​ให้ได้​!” เขา​ตะโกน​ขึ้น​

“ใต้เท้า​ ตอนนี้​เรื่องสำคัญ​ไม่ใช่หลูเจิ้ง​หรอก​ แต่​เป็นเรื่อง​ห้า​คน​นั้น​” เสมียน​รีบ​เอ่ย​

ห้า​คน​นั้น​…

เจียง​เห​วิน​หยวน​เดิน​วน​ไปมา​ใน​ห้องโถง​

“ได้​ เก่ง​นัก​ใช่ไหม​ถึงกล้า​ส่งเรื่อง​ไป​ถึงเมืองหลวง​…” เขา​พูด​พลาง​หอบ​ด้วย​ความโกรธ​

ใต้เท้า​ ท่าน​จะต้อง​เสียใจ​

เสียง​ชายหนุ่ม​ดัง​ขึ้น​ใน​หู​เจียง​เห​วิน​หยวน​ เขา​หยุด​ฝีเท้า​ใน​ทันใด​พลาง​มอง​ไป​ตรงกลาง​ห้องโถง​ ราวกับ​เห็น​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​มอง​มาจาก​ตรงนั้น​ ใบหน้า​ดื้อรั้น​

ใต้เท้า​ ท่าน​จะต้อง​เสียใจ​

เจียง​เห​วิน​หยวน​ยก​ขา​ขึ้น​ถีบ​โต๊ะ​ข้างๆ​ จน​ล้ม​

“ไอ้​คน​ตระกูล​โจว​!” เขา​ตะโกน​ “พวก​เจ้ายื่นคำร้อง​ไม่ไว้วางใจ​ได้​ แล้ว​คิด​ว่า​ข้า​จะตอบโต้​ไม่ได้​งั้น​หรือ​”

การกล่าวหา​และ​ยื่นคำร้อง​ไม่ไว้วางใจ​ยัง​รุนแรง​กว่า​นี้​ได้​อีก​ เจียง​เห​วิน​หยวน​เดิน​มาถึงทุกวันนี้​ได้​ก็​ผ่าน​เล่ห์เหลี่ยม​ทุก​รูปแบบ​มาหมด​แล้ว​ ไม่ได้​ถูก​เลี้ยงดู​มาอย่าง​ทะนุถนอม​เยี่ยง​หญิงสาว​

มาดู​กัน​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​ผู้ใด​จะต้อง​เสียใจ​ภายหลัง​!

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

Score 10
Status: Completed

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค แนวแก้แค้นสุดแสบฉบับหมอเทวดาสุดสวย! ผลงานจากผู้เขียน ‘หวนชะตารัก’


เฉิงเจียวเหนียงก็เป็นแค่เด็กสติไม่สมประกอบคนหนึ่งไม่ใช่หรือ แต่เหตุใดนางถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเจียวเหนียง?’

ภาพความทรงจำประหลาดมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเด็กสาวคนหนึ่ง…

ภาพของเฉิงเจียวเหนียง คุณหนูที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในวัดเต๋า แต่จู่ๆ กลับมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ใจกลางวัดจนทำให้นางสลบไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าแม้ร่างกายจะหายดีเป็นปกติ แต่ความทรงจำของนางกลับหายไปหมดสิ้น

นางจึงตัดสินใจกลับมายังบ้านตระกูลเฉิงเพื่อตามหาความทรงจำที่แท้จริงของตัวเอง

และระหว่างทางกลับบ้าน นางก็ค้นพบความสามารถพิเศษในการรักษาคน

กระทั่งใช้ทักษะนี้ รักษาคนไข้จนเลี้ยงตัวเองได้และกลายเป็นที่เลื่องลือในฐานะ ‘หมอเทวดา’

ทว่าทันทีที่คนในตระกูลทราบข่าวการกลับมาของนาง พวกเขากลับมิได้ยินดีแม้แต่น้อย

…แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าหวังว่านางจะเป็นเหยื่อให้ใครกลั่นแกล้งเหมือนเมื่อก่อน!

และหากจะมีศึกใดที่น่าตื่นใจ… สำหรับนางแล้วก็เห็นจะเป็นศึกในบ้านตระกูลเฉิงหลังนี้นี่แหละ!

Options

not work with dark mode
Reset