พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 430 สู้กลับ

บทที่ 430 สู้กลับ

เสียง​เพี้ยะ​ดัง​ก้องกังวาน​ขึ้น​

อำมาตย์​หลิว​ใช้มือจับ​หน้า​ตัวเอง​พลาง​ก้าว​ถอยหลัง​ ขุนนาง​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ ทว่า​มองไม่เห็น​ไม่ได้​แปล​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่เคย​เกิดขึ้น​ อำมาตย์​หลิว​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ร่างกาย​ร้อนผ่าว​เหมือน​ถูก​ไฟเผา​ เจ้าเมือง​ผู้​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ สีหน้า​อับอาย​เช่นกัน​ สายตา​ที่​จ้องมอง​ไป​ยัง​อำมาตย์​หลิว​ดู​ดุดัน​ยิ่งกว่า​เดิม​

ถึงเขา​จะบอ​กว่า​ตัวเอง​ไม่รู้เรื่อง​ แต่​ลูกน้อง​ของ​เขา​ก็​เป็น​คน​ก่อเรื่อง​นี้​ขึ้น​มา ทำให้​คนใหญ่คนโต​ต้อง​มาพบ​เขา​ ท่าน​เจ้าเมือง​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​ตื่นตกใจ​อัน​ใด​

เขา​เพิ่งจะ​ได้​ตำแหน่ง​เจ้าเมือง​มาเพียง​สอง​เดือน​ และ​รู้ดี​ว่า​ตำแหน่ง​นี้​เป็น​เพียงแค่​ทางผ่าน​ เป้าหมาย​ของ​เขา​คือ​ตำแหน่ง​เสมียน​กลาง​แห่ง​ศาลา​ว่าการ​

แต่​บัดนี้​เขา​ดัน​ถูก​เกี่ยวโยง​กับ​เรื่อง​นี้​ ทำให้​ไม่สามารถ​รู้​อนาคต​ตัวเอง​ได้​ เมื่อ​ครู่​หาก​ไม่ใช่เพราะ​

เกา​ห​ลิง​ปอ​ลงมือ​อย่าง​รวดเร็ว​ เขา​คงจะ​เป็น​คน​ลงมือ​ฟาด​หน้า​อำมาตย์​หลิว​เสียง​เอง​

“เจ้าแค้น​อะไร​ข้า​หรือ​” เกา​ห​ลิง​ปอ​ตะคอก​อำมาตย์​หลิว​พลาง​ยื่น​มือขึ้น​ชี้หน้า​เขา​ “หรือ​เจ้าได้​ผลประโยชน์​จาก​เฉินเซ่า​ไป​เท่าไหร่​แล้ว​”

อำมาตย์​หลิว​ไม่มีอารมณ์​ใส่ใจคำ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ เขา​โบกมือ​ไปมา​

“ใต้เท้า​ ใต้เท้า​ ข้า​ไม่มี ข้า​ไม่มี ข้า​เพียงแค่​ต้องการ​แบ่งเบาภาระ​ใต้เท้า​…” เขา​รีบ​เอ่ย​ตอบ​

“แบ่งเบาภาระ​! นี่​เจ้ากำลัง​แบ่งเบาภาระ​ให้​ข้า​งั้น​หรือ​” เกา​ห​ลิง​ปอ​ตะโกน​ขัด​ขึ้น​ “เจ้าทำให้​เรื่อง​มัน​เลวร้าย​กว่า​เดิม​ต่างหาก​! เรื่อง​ยัง​ไม่ทัน​ซา แต่​เจ้ากลับ​เข้าไป​จับกุม​คน​ เรื่อง​ยิ่ง​บานปลาย​ไป​กัน​ใหญ่​!”

“ใต้เท้า​ เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยวกับ​ความ​แค้นเคือง​ของ​ชาวเมือง​จริงๆ​ เพียงแค่​มีคน​กลุ่ม​หนึ่ง​แย่ง​กัน​กิน​เหล้า​จากร้าน​นั้น​เท่านั้นเอง​ ข้า​ก็​เลย​คิด​ว่า​จะเอา​เหล้า​…” อำมาตย์​หลิว​พูด​ด้วย​สีหน้า​โอดครวญ​

เกา​ห​ลิง​ปอ​แค่น​หัวเราะ​

“หลิว​จิ่น​เฉวียน​ เจ้าโง่หรือ​อย่างไร​” เขา​กล่าว​ “มีเพียง​เจ้าคนเดียว​ที่​รู้​ว่าการ​ลักลอบ​บ่ม​เหล้า​ขาย​นั้น​เป็น​ความผิด​มหันต์​หรือ​”

ไม่ใช่อยู่แล้ว​ ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ ดังนั้น​ถึงได้​เรียกกันว่า​การ​แบ่ง​เหล้า​ ไม่ใช่การ​ขาย​เหล้า​ เพื่อ​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​ผู้คน​ และ​เพื่อ​หลบเลี่ยง​ความผิด​ด้วย​

“ใต้เท้า​ ข้า​ทราบ​ดี​ เพียงแต่​ข้า​ต้องการ​จับตัว​มัน​กลับมา​ก่อน​ แล้ว​รอ​ให้​เรื่อง​เงียบ​ค่อย​ว่า​กัน​ นึกไม่ถึง​ว่า​คน​พวก​นี้​จะ…” หลิว​จิ่น​เฉวียน​พูด​ตะกุกตะกัก​

เกา​ห​ลิง​ปอ​ส่งเสียง​เย้ยหยัน​

“นึกไม่ถึง​ว่า​คน​พวก​นี้​จะไม่ใช่พวก​ขี้ขลาด​ที่​เชื่อฟัง​ขุนนาง​ทุกอย่าง​ นึกไม่ถึง​ว่า​แม้กระทั่ง​สาวน้อย​ยัง​หลอก​เจ้าจน​ติดกับ​ได้​ เจ้าคิดได้​ว่า​จะฉวยโอกาส​ใช้เรื่อง​เหล้า​เข้า​จับกุม​เขา​ แล้ว​คิด​ว่า​พวกเขา​จะคิด​ไม่ได้​งั้น​หรือ​” เขา​เอ่ย​พลาง​มองหน้า​หลิว​จิ่น​เฉวียน​ “หลิว​จิ่น​เฉวียน​ เจ้ายัง​จำหลิว​จางแห่ง​หอ​ลับ​ที่​ฝ่าย​เสมียน​กลาง​ได้​หรือไม่​”

ชื่อ​นี้​ค่อนข้างจะ​เลือนลาง​ ไม่เพียงแต่​หลิว​จิ่น​เฉวียน​เท่านั้น​ที่​นึกไม่ออก​ กระทั่ง​เจ้าเมือง​ผู้​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ก็​นิ่ง​อยู่​นาน​กว่า​จะนึกออก​

คน​ที่​ตื่นเต้น​ยาม​รู้​ว่า​ได้​เลื่อนขั้น​จน​เป็น​อัมพาต​ไป​ และ​ภายหลัง​ยัง​ถูก​เกี่ยวโยง​กับ​การ​ความผิด​ของ​ลูกชาย​จน​ถูก​ถอด​ตำแหน่ง​ ถูก​รถลา​ลาก​กลับ​บ้านเกิด​ไป​ ราช​เลขา​หลิว​ผู้​ซึ่งไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​ยัง​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่​

แล้​วจะ​พูดถึง​เขา​ทำไม​กัน​

“เจ้าคิด​ว่า​สถานะ​ของ​เจ้าใน​ตอนนี้​เทียบ​กับ​เขา​ตอนที่​ยัง​ไม่ป่วย​เป็น​อย่างไร​” เกา​ปลิง​ปอ​เอ่ย​ถาม

ถึงแม้เขา​จะผ่าน​การ​สอบ​ของ​ราชสำนัก​จนได้​เป็น​ขุนนาง​ และ​รับ​ตำแหน่ง​ทงพั่น​ใน​อำเภอ​ที่​มีชื่อเสียง​มาสิบ​ปี​ จากนั้น​จึงได้รับ​เลือก​ให้​เข้า​เมืองหลวง​เพราะ​ผลงาน​ดี​ แต่​หาก​เทียบ​กับ​ราช​เลขา​หลิว​แห่ง​ฝ่าย​เสมียน​กลาง​แล้ว​ ก็​ยัง​ห่าง​กัน​มาก​อยู่ดี​

ไม่แน่​อีก​ห้า​ปี​ หก​ปี​ หรือ​สิบ​ปี​ เขา​อาจ​ได้​เป็น​ขุน​นางใน​ราชสำนัก​ก็ได้​ แต่​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​ผ่าน​วิกฤติ​ครั้งนี้​ให้ได้​ก่อน​

หลิว​จิ่น​เฉวียน​ขมวดคิ้ว​ทำ​สีหน้า​โอดครวญ​พลาง​ส่ายหน้า​

“ข้าน้อย​เทียบ​กับ​เขา​มิได้​อยู่แล้ว​” เขา​เอ่ย​

“เจ้ารู้ตัว​ว่า​เทียบ​กับ​ราช​เลขา​หลิว​ไม่ได้​ แล้ว​คิด​ว่า​พวก​คน​ที่​เรือน​ไท่​ผิง​กับ​เรือน​นางฟ้า​จะกลัว​เจ้าหรือ​” เกา​ห​ลิง​ปอ​แค่น​หัวเราะ​

ว่า​อย่างไร​นะ​

ทุก​คนใน​เหตุการณ์​ต่าง​หัน​มอง​เกา​ห​ลิง​ปอ​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

คำพูด​นี้​เหตุใด​ฟังดู​มีความหมาย​ลึกซึ้ง​ หรือว่า​เรื่อง​ราช​เลขา​หลิว​ใน​ตอนนั้น​…

“เจ้ารู้​ว่า​เถ้าแก่​ใหญ่​ของ​เรือน​ไท่​ผิง​กับ​เรือน​นางฟ้า​คือ​ใคร​ใช่ไหม​” เกา​ห​ลิง​ปอ​เอ่ย​ถาม

“คือ​กุย​เต๋อ​หลา​งตระกูล​โจว​…” หลิว​จิ่น​เฉวียน​รีบ​ตอบ​

เกา​ห​ลิง​ปอ​เลิกคิ้ว​แล้ว​หัวเราะ​ขึ้น​ใน​ทันใด​ นาน​กว่า​จะหยุด​หัวเราะ​ เขา​หัน​มอง​หลิว​จิ่น​เฉวียน​แล้ว​ส่งเสียง​ถุย​ออกมา​

“ไอ้​สวะ​ไร้ประโยชน์​ ไสหัวออก​ไป​!” เขา​ตะคอก​เสียงดัง​พลาง​ยกมือ​ชี้นิ้ว​ไป​ด้านนอก​

ถูก​ด่าทอ​ต่อหน้า​คน​มากมาย​แบบนี้​ แถมยัง​ถูก​ตบหน้า​อีก​ หลิว​จิ่น​เฉวียน​คงอยู่​เมืองหลวง​ต่อไป​ไม่ไหว​ เขา​เอา​มือ​ปิดหน้า​และ​รีบ​เดิน​ออก​ไป​

“ไร้ประโยชน์​ ไร้ประโยชน์​เสีย​จริง​ ถามก็​ไม่ถาม ไม่ดู​ให้​ดี​แต่กลับ​กล้า​ลงมือ​”

“ยัง​ไม่รู้ตัว​เลย​ว่า​เข้าถ้ำ​อะไร​ แต่กลับ​กล้า​ไป​ตี​เสือ​!”

“ขุนนาง​ระดับ​จิงจ้าว​อิ่น​ อย่าง​พวก​เจ้าบัดนี้​ไร้ประโยชน์​เช่นนี้​กัน​หมด​แล้ว​หรือ​”

เสียง​ก่น​ด่า​ของ​เกา​ห​ลิง​ปอ​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​ห้องโถง​ เหล่า​ขุนนาง​ต่าง​ก้มหน้า​เงียบกริบ​

จนกระทั่ง​เกา​ห​ลิง​ปอ​ด่า​จน​พอใจ​ จึงหยุด​ฝีเท้า​ลง​

“แล้ว​บัดนี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​” เขา​เอ่ย​ถามพลาง​ถอนหายใจ​

เจ้าเมือง​ส่งสายตา​ให้​ทุย​กวน​คน​หนึ่ง​ลุก​ขึ้นไป​ตอบ​

“ใต้เท้า​ บัดนี้​เรือน​ไท่​ผิง​กับ​เรือน​นางฟ้า​ต่าง​หยุดพัก​กิจ​การกัน​หมด​แล้ว​ แต่​มัน​ไม่ใช่สิ่งที่​เรา​ต้อง​กา​ร.​..” เขา​เอ่ย​ขึ้น​

เกา​ห​ลิง​ปอ​ส่งเสียง​เย้ยหยัน​

“ไม่ใช่สิ่งที่​พวก​เจ้าต้องการ​ ก็​ต้อง​กลายเป็น​สิ่งที่​พวก​เจ้าต้องการ​แล้ว​” เขา​กล่าว​

ความคึกคัก​จาก​พิธี​ส่งศพ​ยัง​ไม่ทัน​จางหาย​ เรื่อง​ที่​ข้าหลวง​จาก​ศาลา​ว่าการ​ไป​ก่อ​ไว้​ที่​เรือน​ไท่​ผิง​กับ​เรือน​นางฟ้า​เมื่อวาน​ดัน​มาเกี่ยวข้อง​กับ​หมอ​เทวดา​อีก​ แถมยังมี​คนตาย​ใน​สนามรบ​พร้อมกัน​ห้า​คน​ จน​ทำให้​มีเด็ก​ต้อง​กำพร้า​หนึ่ง​คน​ เรื่องราว​ที่​ทั้ง​แปลกประหลาด​และ​หลาก​อารมณ์​เช่นนี้​ช่างเหมาะ​แก่​การ​ให้​นัก​ใส่สีตี​ไข่​นำ​ไป​เล่า​ให้​คนฟัง​เสีย​จริง​ เพราะ​อย่างนั้น​ภายใน​เวลา​เพียง​หนึ่ง​วัน​ ทั่ว​เมืองหลวง​จึงเกิด​เรื่องเล่า​กระพือ​กัน​ขึ้น​อีกครั้ง​ ไม่ว่า​จะใน​โรงเตี๊ยม​โรง​ชาน้อย​ใหญ่​ หรือ​ตาม​ถนน​ จะใน​บ้าน​หรือ​นอกบ้าน​ ทั่ว​ทั้งเมือง​ต่าง​พา​กัน​พูดถึง​เรื่องราว​ของ​เขา​เม่าหยวน​ซาน​

ใน​หัวข้อ​สนทนา​ ทางการ​ได้​กลายเป็น​ฝ่าย​กลั่นแกล้ง​ข่มขู่​ชาวเมือง​อย่าง​เห็นได้ชัด​

เรือน​ไท่​ผิง​กับ​เรือน​นางฟ้า​ปิด​ร้าน​แล้ว​ แต่​ถึงแม้จะประกาศ​ว่า​เป็น​เพราะ​ธุระ​ของ​ครอบครัว​ แต่​ใน​สายตา​คน​ทั่วไป​ต่าง​มองว่า​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ที่​ทางการ​ก่อ​ขึ้น​

หาก​จะบอ​กว่า​ไม่กี่​วันก่อน​เป็นการ​พูดคุย​ทั่วไป​เกี่ยวกับ​เหล้า​และ​คนใน​เมือง​ วันนี้​เมื่อ​เรื่องราว​เกี่ยวเนื่อง​ไป​ถึงทางการ​และ​ราชสำนัก​แล้ว​ คง​เป็นการ​สร้าง​ความ​แค้นเคือง​ให้​ชาวเมือง​อย่าง​แท้จริง​ หาก​ทางการ​ไม่ให้​ข้อ​บทสรุป​หรือ​หลักการ​ใด​ คง​ไม่มีทาง​จบเรื่อง​ได้​แน่​

“ใต้เท้า​ เรื่อง​นี้​เรา​ควบคุม​ไม่ได้​แล้ว​จริง​หรือ​” เจ้าเมือง​ถามอย่าง​สงสัย​ “อันที่จริง​พวกเรา​ก็​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ผิด​ พวกเขา​แบ่ง​เหล้า​กัน​ ทางการ​เพียง​เข้าไป​ตรวจสอบ​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เกิน​กว่า​เหตุ​ เพียงแต่​เกิด​มีปากเสียง​กัน​นิดหน่อย​ หาก​เรา​ออก​ไป​พูดความจริง​ให้​ชัดเจน​ก็​น่าจะ​สามารถ​ทำให้​เรื่อง​คลี่คลาย​ลง​ได้​กระมัง​”

“ความจริง​อย่างนั้น​หรือ​” เกา​ห​ลิง​ปอ​แค่น​หัวเราะ​ “เรื่อง​การเมือง​ใช้ความจริง​เป็น​บทสรุป​ได้​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​”

เขา​ถอนหายใจ​พลาง​หัน​มอง​ไป​ด้านนอก​

“มัน​ต้อง​ดู​ความต้องการ​ต่างหาก​” เขา​เอ่ย​ “ดู​ความต้องการ​ของ​ฝ่าบาท​ ดู​ความต้องการ​ของ​ราชสำนัก​ ดู​ความต้องการ​ของ​ชาวเมือง​ ต้อง​ให้​สิ่งที่​พวกเขา​ต้องการ​ ไม่ใช่ให้​ความจริง​ ไม่มีใคร​สนใจ​ความจริง​หรอก​!”

ดังนั้น​หลูซือ​อัน​จึงได้​กล้า​ยื่นคำร้อง​ไม่ไว้วางใจ​ เดิมที​เขา​เพียง​ทำตาม​ความต้องการ​ของ​ฝ่าบาท​ แต่​นึกไม่ถึง​ว่า​คน​ไร้ประโยชน์​อย่าง​หลิว​จิ่น​เฉวียน​จะกระโดด​ออกมา​ให้​คนใช้​เป็น​เครื่องมือ​ปลุกปั่น​ชาวเมือง​

คราวนี้​โชค​ดูจะ​ไม่เข้าข้าง​ตัวเอง​เสีย​จริง​

“ใต้เท้า​ เรา​ต้อง​ตรวจสอบ​เจียง​เห​วิน​หยวน​จริง​หรือ​” เจ้าเมือง​เอ่ย​ถาม “ที่จริง​มัน​ก็​เป็น​เพียง​เรื่อง​เล็กน้อย​”

“เรื่อง​เล็กน้อย​อย่างนั้น​หรือ​ เรื่องใหญ่​ที่ไหน​ไม่เริ่ม​จาก​เรื่อง​เล็กน้อย​บ้าง​เล่า​” เกา​ห​ลิง​ปอ​เอ่ย​ “หาก​ไม่รีบ​ทำให้​ทุกฝ่าย​ได้​สิ่งที่​ต้องการ​ ก็​จะทำให้​เรื่อง​ไป​เกี่ยวโยง​กับ​คน​อีก​มาก​ และ​จะทำให้​เรื่องใหญ่​ขึ้นไป​เรื่อยๆ​ คน​ที่​รอ​จะแบ่ง​ผลประโยชน์​ก็​จะเพิ่มขึ้น​เรื่อยๆ​ ”

เป็นจริง​เช่นนั้น​ ความขัดแย้ง​ใน​ราชสำนัก​ทั้งหลาย​ต่าง​เริ่ม​จาก​เรื่องเล็ก​ทั้งสิ้น​ จากนั้น​ก็​จะมีการยื่นคำร้อง​ไม่ไว้วางใจ​กัน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ มีการ​รับมือ​และ​โต้แย้ง​กลับ​ ทำให้​เรื่อง​เกี่ยวโยง​กับ​คน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ สุดท้าย​ต้อง​มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง​สูญเสีย​อย่าง​หนัก​ ถึงแม้จะไม่มีใคร​อยาก​เป็น​ผู้แพ้​ แต่​ผลลัพธ์​ก็​มีได้​เพียง​สอง​อย่าง​ คือ​ แพ้​หรือ​ชนะ​เท่านั้น​ ได้​แต่​หวัง​ว่า​ผล​จะออกมา​ดี​ แต่​ก็​ต้อง​คำนึงถึง​ผล​ที่​ไม่ดี​ด้วย​เช่นกัน​

ทหาร​หนี​ทัพ​พวก​นั้น​อีกแล้ว​!

คราวก่อน​เกือบ​ทำ​แผน​เขา​ล่ม​ คราวนี้​ก็​มาอีกแล้ว​!

เป็น​พวกเขา​อีกแล้ว​! ไม่สิ เป็น​หญิง​นาง​นั้น​อีกแล้ว​!

หญิง​นาง​นั้น​!

นอกจาก​จะช่วย​คนตาย​ให้​ฟื้น​ได้​แล้ว​ นาง​ยัง​ก่อเรื่อง​ได้​เยอะ​เพียงนี้​อีก​!

หาก​รู้​ตัวตน​และ​ที่มา​ที่​ไป​ของ​เรือน​ไท่​ผิง​และ​เรือน​นางฟ้า​ตั้งแต่​ต้น คราวก่อน​คง​ไม่คิด​เพียง​เรื่อง​ว่า​จะให้​นาง​มารักษา​องค์​ชาย​รอง​หรือไม่​หรอก​ หาก​กำจัด​นาง​ได้​ตั้งแต่​ตอนนั้น​ บัดนี้​คง​ไม่ต้อง​ยุ่งยาก​วุ่นวาย​เพียงนี้​!

“เด็ก​บ้า​แห่ง​เจียง​โจว​!” เกา​ห​ลิง​ปอ​กำมือ​พลาง​กัดฟัน​พูด​สี่คำ​นี้​ออกมา​

“เด็ก​บ้า​แห่ง​เจียง​โจว​”

นาย​ท่าน​เฉิน​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ยิ้มแย้ม​จาก​อีก​ฟาก​หนึ่ง​

“ภายภาคหน้า​เมืองหลวง​จะมีเจียง​โจว​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​คือ​อาจารย์​เจียง​โจว​ อีก​คน​คือ​เด็ก​บ้า​แห่ง​เจียง​โจว​”

เฉินเซ่า​ริน​ชาแล้ว​ยื่น​ถ้วย​ชาให้​

นาย​ท่าน​เฉิน​ยื่นมือ​ไป​รับ​พลาง​โบกมือ​ไปมา​

เมื่อ​บ่าว​ด้านล่าง​โถงทางเดิน​เล่าเรื่อง​เขา​เม่าหยวน​ซาน​จบ​ก็​รีบ​คำนับ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​

“เจ้าคิด​จะรอ​ให้​นาง​ไป​ร้องเรียน​ ไม่คิด​บาง​หรือว่า​แม่นาง​ผู้​นี้​เคย​รอ​อะไร​บ้าง​” เขา​เอ่ย​

เฉินเซ่า​หัวเราะ​พลาง​พยักหน้า​

“เป็น​เช่นนั้น​ นาง​ไม่เพียง​ไม่รอ​ แต่​ยัง​ลาก​ทุกคน​มาทำให้​การแย่ง​เหล้า​กลาย​เป็นการ​ร้องทุกข์​ทั่วเมือง​ไป​ได้​” เขา​เอ่ย​พลาง​ถอนหายใจ​ “แต่​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​นาง​กลับ​ไม่เคย​พูด​อะไร​เลย​ มีแต่​คนอื่น​ที่​พูด​”

นาย​ท่าน​เฉิน​หัวเราะ​พลาง​ดื่ม​ชา

“ไม่ว่า​จะอย่างไร​ เจ้าก็​ต้อง​ขอบคุณ​นาง​” เขา​เอ่ย​ “หลูซือ​อัน​ยิ่ง​ต้อง​ขอบคุณ​นาง​”

เฉินเซ่า​พยักหน้า​ สีหน้า​หลากหลาย​ความรู้สึก​

เขา​กำลังจะ​เอ่ย​บางอย่าง​ บ่าว​ด้านนอก​ก็​วิ่ง​เข้ามา​อย่าง​รีบร้อน​

“ท่าน​อำมาตย์​ ใน​วัง​ส่งคน​มาเรียก​ให้​ท่าน​เข้าพบ​”

เฉินเซ่า​มอง​บ่าว​คน​นั้น​ แล้ว​หันไป​มอง​ท่าน​พ่อ​

“มาแล้ว​” เขา​เอ่ย​ขึ้น​

ไม่รู้​ว่า​หมายถึง​เรื่อง​ที่​ถูก​เรียก​ให้​เข้า​วัง​ หรือ​เรื่อง​ที่​กำลังจะ​เกิดขึ้น​

ร้าน​ตระกูล​ซ่งซึ่งตั้งอยู่​บริเวณ​ประตู​ทิศตะวันตก​ไม่ได้​เป็น​ร้าน​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​เมืองหลวง​ แต่​วันนี้​กลับ​มีแขก​คนสำคัญ​มาเยือน​

“แหม​ แม่นาง​ปั้น​ฉิน​ ผู้ดูแล​ใหญ่​อย่าง​ท่าน​มาทำ​อะไร​ที่นี่​หรือ​” ผู้ดูแล​ร้าน​ตระกูล​ซ่งเอ่ย​พลาง​หัวเราะ​

สาวใช้​ซึ่งเป็น​ผู้ดูแล​ใหญ่​แห่ง​เรือน​ไท่​ผิง​และ​เรือน​นางฟ้า​ต่าง​เป็นที่รู้จัก​ใน​หมู่คน​ของ​โรงเตี๊ยม​ใน​เมืองหลวง​

“ร้าน​ของ​พวก​ข้า​ปิด​อยู่​ ข้า​ต้องหา​ที่​กินข้าว​น่ะ​” สาวใช้​เอ่ย​พลาง​หัวเราะ​ จากนั้น​จึงหยุด​พูด​หยอกล้อ​ “ขอ​ห้อง​ด้านบน​ ติด​ถนน​”

ผู้ดูแล​กำลังจะ​พูด​อะไร​ แต่​สายตา​ก็​ไป​หยุด​อยู่​ที่​ด้านหลัง​สาวใช้​ ชาย​หญิง​คู่​หนึ่ง​กำลัง​ก้าว​เข้ามา​ใน​ร้าน​

ชายหนุ่ม​สวม​เสื้อผ้า​หรูหรา​ หยก​แขวน​ที่​ห้อย​จาก​เอว​ของ​เขา​และ​ร้อง​เท้า​ถัก​ด้าย​สีเงิน​ที่​โผล่​มาให้​เห็น​ระหว่าง​เดิน​ ต่าง​บ่งบอกถึง​ความร่ำรวย​ยศ​ถาอัน​สูงส่งของ​เขา​

สายตา​ของ​ผู้ดูแล​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​แม่นาง​คน​นั้น​ พลัน​ทำให้​มองไม่เห็น​ผู้อื่น​ใน​ทันใด​

ถึงแม้จะมีหมวก​ยาว​คลุม​หน้า​บัง​อยู่​จึงเห็น​ใบหน้า​ไม่ชัด​ แต่​ผู้ดูแล​กลับ​ทำ​สีหน้า​ราวกับ​ได้​พบ​สมบัติ​ล้ำค่า​

ไม่เพียงแค่​ผู้ดูแล​ใหญ่​เท่านั้น​ เถ้าแก่​ใหญ่​เอง​ก็​มาด้วย​เช่นกัน​!

แบบนี้​จะมีโอกาส​ได้​เหล้า​ฤทธิ์​แรง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ด้วย​หรือไม่​นะ​

“เชิญนาย​หญิง​ด้าน​นี้​ขอรับ​” เขา​รีบ​ทำ​สีหน้า​จริงจัง​ไม่ล้อเล่น​อีก​ พลัน​นำทาง​เข้าไป​เอง​

ในขณะที่​พวกเขา​กำลัง​ก้าว​เข้าไป​ใน​ร้าน​ มือ​อัน​ขาวนวล​ก็​ยื่น​มาเปิดม่าน​ของ​รถม้า​ที่​วิ่ง​มาจาก​นอก​เมืองขึ้น​ เผย​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ออกมา​ครึ่งหนึ่ง​

“ท่าน​พี่​ ใช่ท่านชาย​ตระกูล​ฉิน​จริง​ด้วย​” ชุน​ห​ลิง​ที่อยู่​อีก​ฝั่งหันมา​เอ่ย​ นาง​มองดู​โรงเตี๊ยม​ ค่อยๆ​ ห่างไกล​ออก​ไป​ ดวงตา​เปล่งประกาย​ “ไม่ได้​พบ​ท่านชาย​ฉิน​มาตั้ง​นาน​ นึก​ว่า​ท่าน​จะยุ่ง​กับ​การ​อ่านหนังสือ​ ที่แท้​ก็​มาเที่ยวเล่น​กับ​สาวงาม​อยู่​นี่เอง​ เหตุใด​ถึงไม่มาหา​ท่าน​พี่​บ้าง​ ลืม​ท่าน​พี่​ไป​แล้ว​หรือ​”

“หยุด​พูด​ไร้สาระ​ หาก​ท่าน​จำข้า​ได้​สิถึงเป็นเรื่อง​ไม่ดี​” แม่นาง​จูเอ่ย​ “เป็น​ถึงท่านชาย​แห่ง​ตระกูล​ชนชั้นสูง​ แต่กลับ​หลงระเริง​ใน​ความสุข​แบบนี้​มัน​ใช่หรือ​ อีก​อย่าง​เขา​เคย​มาหา​ข้า​ที่ไหน​กัน​ มีแต่​บังเอิญ​เจอ​หรือ​คนอื่น​เชิญมาพร้อมกัน​เท่านั้น​”

ชุน​ห​ลิง​หัวเราะ​

“ใช่ ท่านชาย​ฉิน​ไม่ใช่คน​แบบ​นั้น​เสียหน่อย​” นาง​เอ่ย​

เพราะเหตุนี้​เจ้าจึงชื่นชม​และ​ลืม​เขา​ไม่ได้​น่ะ​สิ

รถม้า​แล่น​ตาม​ทางเข้า​เมือง​ไป​ แต่กลับ​พบ​กับ​ความวุ่นวาย​บน​ท้องถนน​ ผู้คน​พา​กัน​หลบ​ทาง​ให้​ ม้าเร็ว​ที่​ขี่​ควบ​มาเพื่อ​รายงาน​ข่าวด่วน​

“นี่​คือ​ม้าเร็ว​ส่งข่าวด่วน​ที่​กำลัง​เดินทาง​ไป​ตะวันตกเฉียงเหนือ​” ท่านชาย​ฉิน​หัน​มอง​ม้าที่​กำลัง​วิ่ง​ไกล​ออก​ไป​ แล้วจึง​หัน​กลับมา​มอง​เฉิงเจียว​เหนียง​

เมื่อ​อยู่​ด้านใน​ เฉิงเจียว​เหนียง​ก็​ถอด​หมวก​คลุม​หน้า​ออก​ เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​อัน​งดงาม​

“พอ​ข่าวด่วน​นี้​ถูก​บอกต่อ​ เรื่อง​นี้​ก็​จะเริ่ม​ถูก​ตรวจสอบ​ให้​ถึงที่สุด​ ส่วน​เจ้าก็​จะกลาย​เป็นที่รู้จัก​ของ​ผู้คน​” เขา​เอ่ย​พลาง​ยิ้ม​น้อย​

เฉิงเจียว​เหนียง​จับ​แขน​เสื้อ​แล้ว​ใช้ตะเกียบ​คีบ​อาหาร​เข้า​ปาก​

“ข้า​ก็​อยู่​แบบนี้​ตลอด​ จะรู้​หรือไม่​รู้​ เห็น​หรือไม่​เห็น​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​คนอื่น​” นาง​เอ่ย​พลาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ท่านชาย​ฉิน​ซึ่งยังคง​ยิ้ม​อยู่​

นาง​ไม่ได้​พยายาม​ทำตัว​ให้​เป็นที่รู้จัก​ และ​ไม่ได้​ปิดบัง​ตัวตน​เช่นกัน​ คนอื่น​ไม่รู้จัก​เพราะ​มองไม่เห็น​ แต่​อย่าง​เขา​ เห็น​นาง​ครั้ง​เดียว​ก็​รู้จัก​นาง​แล้ว​

ท่านชาย​ฉิน​หัวเราะ​ร่า​ เขา​เดิน​เข้ามา​นั่ง​แล้ว​ยกแก้ว​ชน​ให้​เฉิงเจียว​เหนียง​

ครอบครัว​ทอดทิ้ง​แล้ว​อย่างไรเล่า​ เป็นใหญ่เป็นโต​ใน​เมืองหลวง​ไม่ง่าย​แล้ว​อย่างไรเล่า​ ธุรกิจ​ถูก​คน​เพ่งเล็ง​แล้ว​อย่างไรเล่า​ กล้า​แย่ง​เหยื่อ​จาก​ปาก​ขุนนาง​ชั้นสูง​ กล้า​ลงมือ​ฆ่าอันธพาล​ อุปสรรค​ขวากหนาม​ก็​เป็น​หน​ทางการ​ใช้ชีวิต​ใน​สายตา​ของ​นาง​ ภัย​ร้าย​อันตราย​ทั้งหลาย​ก็​ไม่ได้​ต่าง​ไป​จาก​วัน​ฟ้าใสอัน​เงียบสงบ​ใน​สายตา​ของ​นาง​

ก็​เหมือนกัน​ทั้งหมด​

เฉิงเจียว​เหนียง​หยิบ​ถ้วย​ชาขึ้น​ชน​กับ​แก้ว​ของ​เขา​แล้ว​ยก​ดื่ม​

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

Score 10
Status: Completed

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค แนวแก้แค้นสุดแสบฉบับหมอเทวดาสุดสวย! ผลงานจากผู้เขียน ‘หวนชะตารัก’


เฉิงเจียวเหนียงก็เป็นแค่เด็กสติไม่สมประกอบคนหนึ่งไม่ใช่หรือ แต่เหตุใดนางถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเจียวเหนียง?’

ภาพความทรงจำประหลาดมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเด็กสาวคนหนึ่ง…

ภาพของเฉิงเจียวเหนียง คุณหนูที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในวัดเต๋า แต่จู่ๆ กลับมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ใจกลางวัดจนทำให้นางสลบไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าแม้ร่างกายจะหายดีเป็นปกติ แต่ความทรงจำของนางกลับหายไปหมดสิ้น

นางจึงตัดสินใจกลับมายังบ้านตระกูลเฉิงเพื่อตามหาความทรงจำที่แท้จริงของตัวเอง

และระหว่างทางกลับบ้าน นางก็ค้นพบความสามารถพิเศษในการรักษาคน

กระทั่งใช้ทักษะนี้ รักษาคนไข้จนเลี้ยงตัวเองได้และกลายเป็นที่เลื่องลือในฐานะ ‘หมอเทวดา’

ทว่าทันทีที่คนในตระกูลทราบข่าวการกลับมาของนาง พวกเขากลับมิได้ยินดีแม้แต่น้อย

…แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าหวังว่านางจะเป็นเหยื่อให้ใครกลั่นแกล้งเหมือนเมื่อก่อน!

และหากจะมีศึกใดที่น่าตื่นใจ… สำหรับนางแล้วก็เห็นจะเป็นศึกในบ้านตระกูลเฉิงหลังนี้นี่แหละ!

Options

not work with dark mode
Reset