พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 429 มั่นใจ (1)

บทที่ 429 มั่นใจ (1)

เพราะ​ขุนนาง​หลูซือ​อัน​ถูก​สั่งให้​ไป​ประจำการ​นอก​เมืองหลวง​ จึงเป็นเหตุให้​เขา​ยื่นคำร้อง​ขอให้​ไต​ร่​สวน​ความผิด​ ฮ่องเต้​ทราบ​จึงกริ้ว​เป็นอย่างมาก​ ไม่ถึงครึ่ง​วัน​ข่าว​ก็​แพร่สะพัด​ไป​ทั้ง​ราชสำนัก​ เป็นที่​ถกเถียง​กัน​ทุกหน​แห่ง​ เหล่า​ขุนนาง​อกสั่นขวัญแขวน​ ไม่รู้​ว่า​คราวนี้​จะมีกี่​คน​ที่​โชคร้าย​โดน​หางเลข​ไป​ด้วย​ ทั้ง​ยัง​ไม่รู้​ผู้ใด​จะได้ประโยชน์​จาก​เรื่อง​นี้​ไป​

หลูซือ​อัน​คาดการณ์​ไว้​อยู่แล้ว​ว่า​เรื่องราว​ต้อง​บานปลาย​ แต่​เขา​กลับ​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ ยาม​ที่​คำร้อง​ถึงมือ​ฮ่องเต้​ กรม​ขุนนาง​จะมาลากตัว​เขา​เข้า​คุก​ถึงบ้าน​เช่นนี้​

พอ​เห็น​ท่าทาง​ของ​หลูซือ​อัน​ที่​ถูก​กุม​ตัว​มาไต่สวน​กลาง​ห้องโถง​ เจ้ากรม​ขุนนาง​ที่นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​ก็​หงุดหงิด​ไม่น้อย​

ทุกคน​ล้วนแต่​เป็น​ขุนนาง​แห่ง​ราชสำนัก​ เดิน​ชูคอ​เชิดหน้า​กัน​อยู่​ทุกวัน​ น้อย​นัก​ที่จะ​เห็น​ผู้ใด​เดิน​คอตก​ แต่​สำหรับ​กรม​ขุนนาง​แล้ว​กลับ​ไม่ใช่เรื่อง​แปลก​ นับว่า​เป็น​ภาพ​ที่​พบเห็น​ได้​บ่อยครั้ง​เสีย​ด้วยซ้ำ​

เพียงแต่​ท่าทาง​ผึ่งผาย​แสน​มั่นใจ​ของ​หลูซือ​อัน​ใน​วันนี้​ ทำให้​เข้า​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ยิ่งนัก​

ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ว่าที่​แห่ง​นี้​คือ​กรม​ขุนนาง​ที่​เหล่า​ขุนนาง​ใด​ได้ยิน​ชื่อ​เข้า​เป็น​ต้อง​หน้าถอดสี​ แต่​ยาม​ปกติ​หลูซือ​อัน​ผู้​นี้​ก็​มิใช่คน​ที่​ยืน​อกผายไหล่ผึ่ง​เช่นนี้​

คน​ที่​ยืน​อย่าง​เคารพ​นบนอบ​อยู่​ด้านหลัง​เฉินเซ่า​และ​พวกพ้อง​มาตลอด​ คน​หัวอ่อน​ ขี้ขลาด​ อวดดี​ แสน​เชื่อง​ผู้​นั้น​ ได้​กลายเป็น​คน​สง่าผ่าเผย​ถึงเพียงนี้​ตั้งแต่​เมือ​ใด​กัน​

“หลูเจิ้ง​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ตน​ต้องโทษ​อัน​ใด​” เจ้ากรม​ขุนนาง​เคาะ​ไม้จิงถังแล้ว​ตะโกน​ลั่น​

“ข้า​หลูเจิ้ง​ผู้​นี้​ต้องโทษ​ใช้อำนาจหน้าที่​ใน​ทาง​มิชอบ​” หลูซือ​อัน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​

“พูดจา​เฉไฉ!” เจ้ากรม​ขุนนาง​แค่น​หัวเราะ​ “ความ​ผิดที่​เจ้าใส่ร้ายป้ายสี​ขุนนาง​ด้วยกัน​นั้น​ เจ้ายอมรับ​หรือไม่​”

หลูซือ​อัน​หัวเราะ​

“ข้า​น่ะ​หรือ​ใส่ร้ายป้ายสี​ ข้า​มิได้​เก่งกาจ​ถึงเพียงนั้น​ ข้า​เพียงแต่​ตรวจตรา​สารทุกข์สุกดิบ​ของ​ชาวเมือง​แล้ว​กราบทูล​ต่อ​ฝ่าบาท​เพียง​เท่านั้น​” เขา​เงยหน้า​เอ่ย​ “หาก​ตรวจตรา​ความทุกข์ยาก​ของ​ชาวเมือง​นั้น​เป็น​ความผิด​ หลูเจิ้ง​ผู้​นี้​ก็​จะขอ​น้อม​รับ​ไว้​”

เจ้ากรม​ขุนนาง​เย้ยหยัน​อยู่​ใน​ใจ สีหน้าที่​แสดง​ออกมา​จึงเปลี่ยนไป​

“หรู​เจิ้ง เจ้าจะพูด​เช่นนี้​ให้ได้​อัน​ใด​ขึ้น​มา เพราะ​ถูก​ส่งตัว​ไป​ประจำ​ต่างเมือง​จึงแค้นเคือง​หรือ​…” เขา​พยายาม​ถามชักจูง​

ทว่า​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​หลูซือ​อัน​ก็​เอ่ย​แทรก​ขึ้น​มาก่อน​

“พูด​เช่นนั้น​ก็​ไม่ถูก​นัก​ ข้า​ไม่ได้​แค้น​เคืองใจ​อัน​ใด​ ข้า​เพียงแค่​ระบาย​ความคับแค้นใจ​แทน​ชาวเมือง​” เขา​เอ่ย​เสียง​หนักแน่น​

เจ้ากรม​ขุนนาง​เห็น​ท่าที​ของ​เขา​แล้วก็​พูดไม่ออก​

“หลูเจิ้ง​ เจ้าคิด​ดีแล้ว​หรือ​ที่​รนหาที่​ตาย​เช่นนี้​” เขา​ถาม

หลูซือ​อัน​หัวเราะ​ลั่น​

“เหตุใด​ถึงกลายเป็น​รนหาที่​ตาย​ไป​เสียได้​ ข้า​เพียงแต่​ตรวจตรา​สารทุกข์สุกดิบ​ของ​ชาวเมือง​แทน​ฮ่องเต้​ คน​เป็น​ขุนนาง​ย่อม​ไม่อาจ​ทำการ​ใด​เกินขอบเขต​อำ​นา​หน้าที่​ได้​ นี่​คือ​ชีวิต​ของ​ขุนนาง​ นี่​คือ​หนทาง​ของ​ขุนนาง​” เขา​เอ่ย​เสียง​ดังลั่น​

เจ้ากรม​ขุนนาง​ส่ายหน้า​แล้ว​ส่งสัญญาณมือ​ให้​คน​พา​ตัว​เขา​ออก​ไป​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ไต่สวน​ครั้งแรก​ก็​คง​ไม่ได้ความ​อัน​ใด​อยู่แล้ว​ แม้กรม​ขุนนาง​ไม่อาจ​ใช้กำลัง​เพื่อ​เค้น​ความจริง​จาก​เหล่า​ขุนนาง​ได้​ แต่​ก็​ใช่ว่า​จะไม่มีหนทาง​อื่น​ ทรมาน​เขา​สัก​สามสี่วัน​ เขา​คง​ตาสว่าง​แล้ว​ยอม​ปริปาก​เอง​

หลูซือ​อัน​ไม่มีท่าที​หวาดกลัว​เลย​แม้แต่​นิด​ เขา​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​หันหลัง​เดิน​ยืดอก​จากไป​ ก่อน​จะเห็น​รอง​เสนาบดี​ประจำ​กรมวัง​ยืน​หน้า​เคร่งขรึม​อยู่​ที่​ประตู​

“หลูเจิ้ง”​ รอง​เสนาบดี​เรียก​เขา​ยาม​เดินสวน​กัน​

หลูซือ​อัน​มอง​เขา​ด้วย​ใบหน้า​เรียบ​เฉย​

“เจ้ามั่นใจ​ได้​อย่างไร​ว่า​คราวนี้​เฉินเซ่า​จะปกป้อง​เจ้าได้​” รอง​เสนาบดี​ถามเสียงต่ำ​

หลูซือ​อัน​มอง​เขา​แล้ว​หัวเราะ​

“ที่​ข้า​มั่นใจ​ไม่ใช่เพราะ​คนใดคนหนึ่ง​” เขา​เอ่ย​ “แต่​เพราะ​คน​ทั่วหล้า​ต่างหาก​”

เจ้าหมอ​นี่​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ คง​เป็น​เพราะ​ถูก​ส่งไป​ประจำ​หนาน​โจว​ เขา​ถึงได้​สิ้นหวัง​แล้ว​ทำ​เรื่อง​บ้าบิ่น​เช่นนี้​

รอง​เสนาบดี​ขมวดคิ้ว​แล้ว​นึก​อะไร​ขึ้น​ได้​บางอย่าง​ หลี​ซือ​อัน​ย่อม​รู้ดี​อยู่แล้ว​ว่า​หาก​พูด​ออก​ไป​ เรื่อง​คง​ไม่จบ​ลง​ง่ายๆ​ เป็นแน่​ คราวนี้​เขา​เดิมพัน​ด้วย​ชีวิต​ แต่​คน​ที่​ทำให้​เขา​มั่นใจ​และ​กล้า​เดิมพัน​ด้วย​ชีวิต​กลับ​ไม่ใช่เฉินเซ่า​ ที่จะ​คอย​ช่วย​ค้ำชู​เขา​ใน​วันข้างหน้า​

คน​ทั่วหล้า​อย่างนั้น​หรือ​….

เรื่อง​คราวนี้​บานปลาย​ใหญ่โต​ถึงขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​

“ใครก็ได้​เข้ามา​ที​ พวก​เจ้าไป​สืบถาม​ตาม​ตลาด​ ดู​สิว่า​ภาพวาด​ของ​หลูซือ​อัน​มีส่วน​ใด​ที่​เกิน​จริง​ หรือ​ส่วน​ใด​ที่​เป็นจริง​บ้าง​” เขา​เรียก​เหล่า​ขุนนาง​ผู้น้อย​ให้​เข้ามา​แล้ว​สั่งการ​

ขณะเดียวกัน​อำมาตย์​ฝ่ายขวา​แห่ง​ศาลา​ว่าการ​ประจำ​เมืองหลวง​ก็​กำลัง​เดือดดาล​ราวกับ​พายุ​สายฟ้า​

“เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​ เจ้าขุนนาง​ฉ้อฉล​นั่น​ก่อเรื่อง​ใหญ่โต​ถึงเพียงนี้​ แต่​พวก​เจ้ากลับ​ไม่รู้เรื่อง​อย่างนั้น​หรือ​! พวก​เจ้าตาย​กัน​ไป​หมด​แล้ว​หรือ​อย่างไร​” เขา​ตวาด​ลั่น​ หลังจาก​รู้​ข่าว​ เขา​ก็​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ซึมไป​ทั้ง​ร่าง​

เรื่องราว​ใน​วันนั้น​เขา​เอง​ก็​พอ​ได้ยิน​มาบ้าง​ แต่​รู้​เพียงแค่​ว่า​มีเศรษฐี​จัด​งานศพ​ ใช้เงิน​ไป​มหาศาล​บ้าง​ล่ะ​ รวย​ล้นฟ้า​บ้าง​ล่ะ​ เป็นเจ้าของ​เรือน​ไท่​ผิง​ เรือน​นางฟ้า​บ้าง​ล่ะ​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​เก็บ​มาใส่ใจ ใคร​จะไป​รู้​ว่า​เจ้าหลูซือ​อัน​จะใช้ฉวยโอกาส​หา​ผลประโยชน์​จาก​เรื่อง​นี้​ได้​!

ผู้ใต้บังคับบัญชา​ที่​ยืน​อยู่​ข้างหน้า​สีหน้า​หวาดหวั่น​

ใคร​จะไป​คิด​กัน​ว่า​คน​ใกล้​ตาย​อย่าง​หลูซือ​อัน​จะกล้า​เล่น​ไม้นี้​ อันที่จริง​สำหรับ​เหล่า​ขุนนาง​ชั้นสูง​แล้ว​ผู้​ใน​จะยื่นคำร้อง​ให้​ไต่สวน​ผู้ใด​นั้น​มิใช่เรื่องสำคัญ​ แต่​เรื่องใหญ่​คือ​ภาพวาด​นั้น​ต่างหาก​ เพราะ​เหตุการณ์​บน​ภาพ​นั้น​ได้​เกิดขึ้น​จริง​ ทั้ง​ยัง​เกิดขึ้น​ใน​เมืองหลวง​ แถมยัง​เกิดขึ้น​ตั้งแต่​ทิศตะวันตก​ไป​จรด​ทิศตะวันออก​ของ​เมือง​ ซึ่งอยู่​ใน​ความดูแล​ของ​ฝ่ายขวา​อย่าง​พวกเขา​ด้วย​

ยาม​นี้​เรื่อง​ถึงหู​ฮ่องเต้​แล้ว​ หาก​โทษเบา​ ผู้ว่า​เมืองหลวง​ก็​คง​ไม่ไว้ชีวิต​เขา​ แต่​หาก​โทษหนัก​ ฮ่องเต้​ก็​ย่อม​ไม่ไว้ชีวิต​เช่นกัน​ เอาเป็นว่า​เจ้าหลูซือ​อัน​คือ​ตัวการ​ที่​ให้​เขา​ต้อง​ซวย​เช่นนี้​!

“ใต้เท้า​ ดูเหมือนว่า​คราวนี้​จะไม่ใช่แผนการ​ของ​พวก​เฉินเซ่า​ขอรับ​” มีคน​เอ่ย​ขึ้น​

“หาก​ไม่ใช่แผนการ​ของ​พวกเขา​ จะมีผู้ใด​กล้า​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​อีก​ เหตุใด​ถึงมีคน​มากมาย​ขนาด​นั้น​มาดู​ขบวน​ศพ​” อำมาตย์​หลิว​ตะโกน​ลั่น​

“ได้ยิน​มาว่า​เจ้าภาพ​งานศพ​แจก​เหล้า​ชาวเมือง​ขอรับ​”

“ใช่ขอรับ​ ใช่ขอรับ​ เหล้า​ชั้นดี​ เหล้า​ที่​แรง​ที่สุด​บน​โลก​หล้า​…”

“บ่าว​เรือน​ข้า​แย่ง​มาได้​จอก​หนึ่ง​ เมาไป​สอง​วัน​สอง​คืน​กว่า​จะสร่าง​!”

“แรง​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”

พอ​เห็น​ว่า​หัวข้อ​สนทนา​ใน​ห้อง​เปลี่ยนไป​ อำมาตย์​หลิว​ที่​เหม่อลอย​อยู่​จึงได้สติ​ขึ้น​มา ก่อน​จะตบ​โต๊ะ​อย่าง​แรง​

“เหล้า​!” เขา​แค่น​หัวเราะ​ “เหล้า​เอง​หรอก​หรือ​ ก็​แค่​คน​ทั้งเมือง​แห่​กัน​มารุม​แย่ง​เหล้า​ มิได้มา​ร่วม​ส่งดวงวิญญาณ​ของ​เหล่า​ผู้​กล้า​อะไร​นั่น​เสียหน่อย​ เจ้าหลูซือ​อัน​จอม​โป้ปด​!”

เหล่า​คน​ที่อยู่​ตรงนั้น​ก็​ลอง​หวน​นึกดู​ ก็​เห็น​ว่า​จริง​อย่าง​ที่ว่า​

“เป็น​เพราะ​เหล้า​นั่น​เรื่อง​ถึงได้​วุ่นวาย​เช่นนี้​!” ทุกคน​พา​กัน​พยักหน้า​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​

“เช่นนั้น​ก็​ง่าย​แล้ว​” อำมาตย์​หลิว​เอ่ย​พลาง​พยักหน้า​ “เรือน​นางฟ้า​และ​เรือน​ไท่​ผิง​ทำผิดกฎหมาย​ ไป​จับตัว​มาให้​หมด​ โทษ​ฐาน​ลักลอบ​ดอง​เหล้า​ขาย​!”

เขา​กัดฟัน​กรอด​

ก็​แค่​พ่อค้า​ไร้​คุณธรรม​ใช้วิธี​หัวหมอ​ขาย​เหล้า​ก็​เท่านั้น​ หา​ใช่เรื่อง​ความคับแค้นใจ​ของ​เหล่า​ชาวเมือง​แต่อย่างใด​!

ไม่ผิด​แน่​ เรื่องราว​ก็​ง่ายดาย​เพียงเท่านี้​ เขา​จะหยุดยั้ง​ไม่ให้​เจ้านั่น​พลิกแพลง​ข้อเท็จจริง​ให้​กลาย​เป็นอื่น​ไป​เสีย​ก่อน​ ดู​ซิว่า​เจ้าหลู​ซื่อ​อัน​จะมาไม้ไหน​อีก​!

อำมาตย์​หลิว​ลูบ​เครา​อย่าง​ลำพองใจ​ เรื่อง​นี้​ไม่จำเป็นต้อง​กวนใจ​ใต้เท้า​ผู้ว่า​หรือ​เกา​ห​ลิง​ปอ​ เขา​เอง​ก็​สามารถ​จัดการ​ได้​ ต้อง​ได้รับ​คำชม​อย่าง​แน่นอน​

“ยัง​ไม่รีบ​ไป​อีก​ พา​คน​ไป​ปิด​ร้าน​พวก​นั้น​ด้วย​!”

….

หลังจาก​ทำพิธี​ฝังศพ​สวี​เม่าซิว​และ​พวกพ้อง​ไป​ได้​ห้า​วัน​ ฟ่าน​เจียง​หลิน​ก็​ออกจาก​เรือน​ไป​ยัง​เรือน​ไท่​ผิง​

ผู้ดูแล​อู๋​มาต้อนรับ​เขา​ด้วย​ตนเอง​ พร้อม​แนะนำ​ผู้ดูแล​ร้าน​คน​ใหม่​ให้​แก่​เขา​

ได้​เห็น​เหล่า​บ่าว​ใน​ร้าน​ถามไถ่สาร​ทุกข์สุข​ดิบ​อย่าง​นอบน้อม​เป็นกันเอง​ บวก​กับ​ใบหน้า​ไร้กังวล​ของ​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ แม่นาง​หวง​ภรรยา​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​เบาใจ​ขึ้น​มาไม่น้อย​

“ห้อง​พวก​เถ้าแก่​ยังคง​รักษา​ไว้​ดังเดิม​ขอรับ​” ผู้ดูแล​อู๋​เอ่ย​

แม่นาง​หวง​มอง​ฟ่าน​เจียง​หลิน​อย่าง​เป็นห่วง​ ตั้งแต่​กลับบ้าน​มา ไม่ว่า​จะเดินทาง​ไป​แห่งหน​ใด​ก็​ล้วนแต่​มีความทรงจำ​ใน​วันวาน​ของ​เหล่า​พี่น้อง​ จะพบ​เจอ​จะพูดถึง​อีก​สัก​กี่​หน​ ก็​นึก​เจ็บปวด​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​ไม่ได้​ หาก​แต่​ฟ่าน​เจียง​หลิน​กลับ​ไม่ได้​เศร้าโศก​แต่อย่างใด​ กลับ​อารมณ์​ดีขึ้น​ทุกวัน​ เช่นนี้​ไม่ผิดปกติ​ไป​หน่อย​หรือ​

“เจ้าอย่า​ได้​เป็นกังวล​ไป​”

เมื่อ​เข้ามา​นั่ง​ใน​ห้อง​เป็นที่​เรียบร้อย​ ฟ่าน​เจียง​หลิน​จึงได้​เอ่ย​กับ​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​

“พวกเขา​คือ​พี่น้อง​ของ​ข้า​ แม้ข้า​จะสูญเสีย​พวกเขา​ไป​แล้ว​ แต่​ข้า​เอง​ก็​ไม่ได้​กลัว​ และ​ข้า​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​บังคับ​ตัวเอง​ให้​ลืม​พวกเขา​”

ขณะ​ที่สอง​สามมีภรรยา​พูดคุย​กัน​อยู่​ก็​ได้ยิน​เสียง​โหวกเหวก​จาก​ด้านนอก​

“เถ้าแก่​ เถ้าแก่​ขอรับ​” ผู้ดูแล​อู๋​เร่งฝีเท้า​เข้ามา​ใกล้​ “คน​จาก​ศาลา​ว่าการ​มาขอรับ​”

ศาลา​ว่าการ​อย่างนั้น​หรือ​

แม่นาง​หวง​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาอย่า​งอด​ไม่ได้​ ฟ่าน​เจียง​หลิน​กลับ​ดู​ผ่อนคลาย​นัก​ ทั้ง​ยัง​ยิ้ม​ออกมา​อีก​ต่างหาก​

“มาจริงๆ​ เสีย​ด้วย​ น้องสาว​ว่า​ไม่เคย​ผิด​เลย​สัก​หก​” เขา​เอ่ย​พลาง​ลุก​ยืน​ขึ้น​ “เจ้ารอ​อยู่​ที่นี่​เถิด​ ข้า​จะออก​ไปดู​เสียหน่อย​”

“เถ้าแก่​ เชิญพวกเขา​เข้ามา​ไม่ดีกว่า​หรือ​” ผู้ดูแล​อู๋​นิ่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​

ฟ่าน​เจียง​หลิน​ยิ้ม​แล้ว​ส่ายหน้า​

“พวกเรา​ไม่มีเรื่อง​อัน​ใด​ต้อง​ปกปิด​” เขา​เอ่ย​แล้ว​ก้าว​เท้า​เดิน​ออก​ไป​

ยาม​นี้​ผู้คน​นั่ง​ที่​กัน​อยู่​เต็ม​เรือน​ไท่​ผิง​ไม่สนใจ​จะกิน​อาหาร​ แต่กลับ​มอง​ไป​ที่​เหล่า​ข้าหลวง​ที่​ยืน​อยู่​ใน​ร้าน​ พลาง​ยกมือ​ยก​ไม้ถกเถียง​กัน​ไปมา​

“ท่าน​ข้าหลวง​ทั้งหลาย​”

ฟ่าน​เจียง​หลิน​เดิน​เข้ามา​ก่อน​จะโค้ง​คำนับ​ให้​

“เจ้าคือ​เถ้าแก่​ของ​ที่นี่​ใช่หรือไม่​ เปิดร้าน​เสีย​ แล้ว​ตาม​พวก​ข้า​มา” ข้าหลวง​เอ่ย​

เสียงดัง​จอแจ​รอบด้าน​เงียบสงัด​ลง​ใน​ทันใด​ สีหน้า​ของ​ทุก​คนดู​ตกตะลึง​ยิ่งนัก​

“ปิด​ร้าน​อย่างนั้น​หรือ​”

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

Score 10
Status: Completed

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค แนวแก้แค้นสุดแสบฉบับหมอเทวดาสุดสวย! ผลงานจากผู้เขียน ‘หวนชะตารัก’


เฉิงเจียวเหนียงก็เป็นแค่เด็กสติไม่สมประกอบคนหนึ่งไม่ใช่หรือ แต่เหตุใดนางถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเจียวเหนียง?’

ภาพความทรงจำประหลาดมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเด็กสาวคนหนึ่ง…

ภาพของเฉิงเจียวเหนียง คุณหนูที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในวัดเต๋า แต่จู่ๆ กลับมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ใจกลางวัดจนทำให้นางสลบไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าแม้ร่างกายจะหายดีเป็นปกติ แต่ความทรงจำของนางกลับหายไปหมดสิ้น

นางจึงตัดสินใจกลับมายังบ้านตระกูลเฉิงเพื่อตามหาความทรงจำที่แท้จริงของตัวเอง

และระหว่างทางกลับบ้าน นางก็ค้นพบความสามารถพิเศษในการรักษาคน

กระทั่งใช้ทักษะนี้ รักษาคนไข้จนเลี้ยงตัวเองได้และกลายเป็นที่เลื่องลือในฐานะ ‘หมอเทวดา’

ทว่าทันทีที่คนในตระกูลทราบข่าวการกลับมาของนาง พวกเขากลับมิได้ยินดีแม้แต่น้อย

…แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าหวังว่านางจะเป็นเหยื่อให้ใครกลั่นแกล้งเหมือนเมื่อก่อน!

และหากจะมีศึกใดที่น่าตื่นใจ… สำหรับนางแล้วก็เห็นจะเป็นศึกในบ้านตระกูลเฉิงหลังนี้นี่แหละ!

Options

not work with dark mode
Reset