บ่วงมาร 17

ตอนที่ 17

แอ่นหยัดกายขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อให้คนตัวโตได้ดื่มกินเต้าอวบได้อย่างถนัดถนี่ ขณะที่มือบางเริ่มสะเปะสะปะไปตามกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่ม พยายามจะแกะมันออก แต่ก็ทำไม่สำเร็จจนในที่สุดก็กระชากมันแรงๆ ด้วยความรีบร้อน

เดนนิสที่กำลังเลียปลายถันอยู่หัวเราะเบาๆ “ใจเย็นคนสวย…”

และก็เป็นเขานั่นแหละที่จัดการเพียงแค่ไม่กี่วินาที เสื้อเชิ้ตน่ารำคาญตัวนั้นก็ร่วงหล่นลงไปจากตัว กายใหญ่โตที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหนั่นปรากฏอยู่ตรงหน้า นาริกามองอย่างตื่นตะลึงกับความงดงามนั้น แล้วก็ห้ามมือของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ในที่สุดมันก็ยกขึ้นไปลูบไล้แผงอกกว้างนั้นแผ่วเบา ผิวของเดนนิสให้ความรู้สึกเหมือนผ้าแพรราคาแพงดีๆ นี่เอง ทั้งเรียบตึงและร้อนผ่าว

“เดนนิส…”

เรียกชื่อเขาซ้ำอีกครั้ง เมื่อเจ้านิ้วไม่รักดีลูบต่ำลงไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องแบนเรียบที่แข็งปั๋งยิ่งกว่าไม้กระดานเสียอีก ก่อนจะหยุดที่ขอบกางเกงขายาวเนื้อดี เดนนิสรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลอมละลายกลายเป็นช็อกกาแล็ตถูกไฟลนอยู่ภายใต้มือเล็กๆ ของแม่ผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดสุดใจนั่นเอง

“หยุดแค่นั้นเถอะ…”

เขาสั่งเสียงพร่า แต่ไม่รู้ว่าผีบ้าตัวไหนมันเข้าสิงหล่อน เพราะไม่ใช่แค่ไม่หยุดเท่านั้น แต่หล่อนยังกอบกุมท่อนชายผ่านกางเกงผ้าเนื้อดีของเขาเอาไว้เต็มมือ แถมยังลูบไล้ขยำเป็นจังหวะเร่าร้อนเสียอีก เดนนิสร้องลั่น พลางกระชากมือของหล่อนให้พ้นจากจุดอันตรายของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเงยหน้าจากปทุมถันอวบสล้างขึ้นไปกระซิบเสียงดุดันที่ริมใบหูของหล่อน

“เตือนแล้วไง… ว่าอย่าจับ”

“เดนนิส… ได้โปรด…”

คนตัวโตไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรอีก เขาผละออกห่างเพียงแค่อึดใจเดียว จากนั้นก็ก้มลงช้อนร่างเปลือยเปล่าของหล่อนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เดินดุ่มๆ กลับไปยังห้องนอน เสียงปิดประตูแรงๆ เกิดขึ้นพร้อมๆ กับร่างของหล่อนที่ถูกโยนลงบนเตียงอย่างไร้ความปรานี

เขายังไม่เดินเข้ามาหา เพราะกำลังจัดการกับอาภรณ์สองชิ้นสุดท้ายอยู่ กางเกงผ้าขายาวถูกเจ้าของเตะออกไปไกลตัว จากนั้นกางเกงในแบบบ็อกเซอร์สีน้ำเงินเข้มที่หล่อนมองยังไง๊ยังไงก็เล็กไปกว่าขนาดของคนใส่ลอยละลิ่วตามไปกองรวมอยู่ที่เดียวกันกับกางเกง

นาริกานอนมองความอลังการของผู้ชายที่กำลังจะครอบครองด้วยความความตื่นตะลึง แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่หล่อนก็ช็อกซะทุกครั้งที่ได้มองมัน เขาเดินใกล้เข้ามาด้วยท่าทางของนายพรานกำลังจะขยำเหยื่อไร้ทางสู้ ใช่…หล่อนไร้ทางสู้ ไม่มีทางสู้เลย ตอนนี้ก็ได้แต่นอนให้เขาตามลงมาเชือดเท่านั้นเอง

ใบหน้าของเดนนิสถูกฉาบด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะเอาไว้อย่างมหาศาล และเมื่อเขาทาบทับลงมา ร่างกายไม่รักดีของหล่อนก็ผวาเฮือกกอดรัดตอบอย่างน่าละอาย ทั้งๆ ที่ควรจะขัดขืน ทั้งๆที่ควรจะต่อต้าน แต่หล่อนกลับตอบสนองความป่าเถื่อนของผู้ชายแสนหล่อคนนี้ด้วยความเต็มอกเต็มใจ

แพศยา…! ทำไมถึงได้ไร้ยางอายแบบนี้นะ…

นาริการ้องด่าทอตัวเองอยู่ภายในอกด้วยความเจ็บช้ำ พยายามจะต้านทาน แต่สาวน้อยไร้ประสบการณ์อย่างหล่อนไม่มีทางต่อสู้กับความหิวกระหายของนายพรานผู้เจนจัดได้อย่างแน่นอน

และเมื่อเขาก้มลงมามอบจูบที่ลึกล้ำชวนวาบหวามอีกครั้ง ทุกความคิดในหัวก็เหือดหายไปจนหมดสิ้น เหลือทิ้งไว้แค่ความต้องการทางกายเท่านั้นที่ขับเคลื่อนทุกอย่าง หญิงสาวตอบสนองด้วยการแอ่นกายขึ้นหาเป็นจังหวะ ความร้อนฉ่าที่กัดกินอยู่ภายในร่างกายทำให้หน้าขาของหล่อนเปียกชื้น

“ได้โปรด… เดนนิส…”

คนตัวโตไม่ใส่ใจกับคำอ้อนวอนของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขายังคงเดินหน้าปลุกปล้ำกับเต้างามของหล่อนด้วยความหิวกระหาย มือข้างหนึ่งของเขาบีบเคล้น ปาก ลิ้น ฟันดูดเม้มอย่างป่าเถื่อน ขณะที่มืออีกข้างโจมตีที่หน้าขาอย่างอำมหิต

นาริกากรีดร้องด้วยความเสียวซ่าน เสียดกระสันอย่างรุนแรง ยิ่งยามที่นิ้วแกร่งบดคลึงเกสรรักที่แสนอ่อนไหวเป็นจังหวะหนักหน่วงด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งร้องแทบขาดใจ ใบหน้างามแดงก่ำส่ายสะบัดไปมากับที่นอน สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อคลายความรัญจวน แต่มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เมื่อคนตัวโตยังเดินหน้าสร้างความทรมานที่แสนหวานไม่หยุด

“ได้โปรด… ไม่ไหวแล้ว”

หญิงสาวยกสะโพกขึ้นหานิ้วแกร่งที่ตอนนี้ข้ามขั้นไปดำดิ่งลงสู่อ่าวเสน่หาที่ชื้นแฉะรอคอยด้วยจังหวะเร่งเร้า ปากก็วิงวอนร้องขอให้เขาทำมากกว่าแค่นิ้วครั้งแล้วครั้งเล่า

หล่อนกำลังจะตาย… กำลังต้องการอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่แค่นิ้วของเขา…

หญิงสาวยุติการขยุ้มผ้าปูที่นอนมาเป็นการกอบกุมท่อนกายชายแข็งชันแทน “ได้โปรด… เดนนิส ริก้าต้องการคุณ”

“อย่าจับมัน…”

หนุ่มหล่อปัดมือบางให้ออกจากกายของตัวเอง และเมื่อเห็นสาวน้อยทำท่าจะไม่ยอมเขาจึงต้องตรึงมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้เหนือศีรษะ จากนั้นก็ก้มลงมอบลิ้นแกร่งแทนนิ้วด้วยลีลาขั้นเทพ สาวน้อยส่ายสะบัด กรีดร้องนับครั้งไม่ถ้วน

เดนนิสตวัดปาดเลีย ดูดกลิ่นน้ำหวานบริสุทธิ์ด้วยความหิวกระหาย ให้ตายเถอะ ทำไมนาริกาหวานแบบนี้ หวานฉ่ำเหลือเกิน และความหวานของหล่อนก็ทำให้เขาทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“เธอเกิดมาเพื่อดีดดิ้นใต้ร่างผู้ชายโดยแท้ นาริกา…”

และความอดทนอดกลั้นก็สิ้นสุดลงพร้อมๆ กับการขึ้นทาบทับอีกครั้งของเดนนิส ชายหนุ่มคุกเข่าที่หว่างขาอวบ ขยับจัดท่าทางให้เหมาะสมกับการร่วมรักเร่าร้อนครั้งนี้ ก่อนจะฝากฝังกายใหญ่โตลงไปในนั้น ชายหนุ่มจับจ้องมองกลีบสาวด้วยความลุ่มหลงราวกับต้องมนต์

นาริกามีร่างกายที่งดงามเหลือเกิน และหล่อนก็หวานฉ่ำไปทั้งร่าง

ในที่สุดเดนนิสก็มอบทั้งตัวให้กับหญิงสาว เขาพุ่งเข้าใส่ช่องรักคับแคบอย่างรุนแรง แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของนาริกา

เหมือนกับเวลาหยุดหมุน ชายหนุ่มหยุดชะงัก แล้วก้มลงมองร่างอรชรที่เคยตอบสนองและเร่งเร้าให้เขาครอบครองอย่างบ้าคลั่งด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะสบถออกมาด้วยความเดือดดาล เมื่อได้เห็นน้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่งามของนาริกา

“เธอบริสุทธิ์…”

เดนนิสแทบจำเสียงของตัวเองไม่ได้เลยยามที่พูดประโยคนี้ออกมา เขาจ้องมองแม่ภรรยาสดๆ ร้อนๆ ของตัวเองราวกับไม่เคยเห็นหล่อนมาก่อน จ้องมองร่างกายบอบช้ำที่เกิดจากความป่าเถื่อนของตัวเอง วูบหนึ่งก็รู้สึกอยากจะเตะตัวเองให้คว่ำนักที่ทำให้แม่สาวน้อยแสนบริสุทธิ์คนนี้ต้องเจ็บปวด

แต่… เขาไม่ผิด… ไม่มีใครคิดหรอกว่าผู้หญิงที่ยอมขายตัวเองเพื่อเงินน่ะ จะยังเป็นพรหมจารีอยู่ มันหนึ่งในล้าน หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

“เธอเจ็บเพราะฉันคาดไม่ถึง…”

“ออกไปก่อน… ได้โปรด…”

นาริกาผลักไสร่างกำยำที่แนบแน่นอยู่ภายในกายของตัวเองด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลพรากออกมาเป็นสาย ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าความสุขสมจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บเจียนตายแบบนี้ หล่อนเจ็บปวดราวกับถูกฉีกทึ้ง ทั้งเจ็บทั้งอึดอัด

แต่ดูเหมือนว่าเดนนิสจะไม่มีความเวทนาให้หล่อนสักนิด เพราะเขายังคงฝังกายอยู่ในร่างของหล่อนเช่นเดิม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขยับเขยื้อนแล้วก็ตาม

“แต่ฉันจะไม่หยุดแค่นี้แน่… เธอเป็นของฉันแล้ว”

ทั้งน้ำเสียง ทั้งแววตาของคนตัวโตที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความหวงแหน ทุกสัมผัสของเขาเต็มไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ นาริกาน้ำตาไหลไม่หยุด ความน้อยใจกัดกินไปทั่วทั้งพื้นที่หัวใจ มือบางผลักไสแผ่นอกกว้างเต็มแรงแต่เขาไม่ยอมขยับ

“ออกไปนะ ฉันเจ็บ…”

“มีผัวครั้งแรกก็เจ็บแบบนี้ทุกคนนั่นแหละ แต่มันจะเจ็บน้อยกว่านี้หากฉันรู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ ฉันไม่ได้ระวังเลย ไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างเธอจะยังรักษามันเอาไว้จนถึงฉันได้…”

เดนนิสเค้นเสียงกระด้างตอบออกไป ขณะพยายามกัดฟันข่มไอ้เจ้าความอยากจะขยับขับเคลื่อนเอาไว้สุดกำลัง นี่แม่นาริกาแสนหวานจะรู้ไหมนะว่าตอนนี้เขากำลังทรมานแค่ไหนกับการที่ต้องอยู่นิ่งๆ ภายในกายของหล่อนน่ะ

ให้ตายเถอะ… ตอนนี้นาริกาโอบรัดเขาเอาไว้ด้วยความร้อนรินในทุกทิศทาง และเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แค่อยู่เฉยๆ ไม่ทันได้ขยับ เขาก็แทบจะระเบิด ไม่ไหวแล้ว…

“ฉันไม่ไหวแล้ว… ต้องเดินหน้าแล้ว…”

“ไม่นะ”

“จะหวงอะไรอีกล่ะ เธอเป็นเมียของฉันอย่างสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ฉันทำลายไอ้เยื่อบางๆ ของเธอนั่นแหละ ทำใจดีๆ ไว้ มันจะดีขึ้น ใช่… มันจะค่อยๆ ดีขึ้น…”

แม้สาวน้อยจะไม่ให้ความร่วมมือในครั้งแรกที่ขยับ แต่ครั้งต่อๆ มาเจ้าหล่อนกลับตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งแอ่น ทั้งหยัดรับแรงรักจากเขาด้วยความเร่าร้อนเจียนคลั่ง เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองร้องออกไปกี่ครั้ง ร้องดังแค่ไหน แต่ให้รู้เถอะว่าเขาไม่เคยรู้สึกยอดเยี่ยมแบบนี้มาก่อน

นาริกาหวานไปทั้งตัว… และยิ่งได้รู้ว่าเขาคือคนแรกที่ได้ลิ้มลองรสรักของเจ้าหล่อน เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธว่าไม่ภาคภูมิใจ

“คนสวย… เธอแน่นมาก… แน่นจริงๆ”

Options

not work with dark mode
Reset