จอมใจจอมทัพ 22 ขมขื่น

ตอนที่ 22 ขมขื่น

พระองค์ถอนใจเฮือกใหญ่ ทว่าต้องตัดสินแล้ว ประโยชน์สุขแห่งปวงชนย่อมต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตนเสมอ

“ ได้ ข้าตอบตกลง ท่านให้ม้าเร็วส่งข่าวไปยังเจี้ยนจิงได้เลย ! ” สิ้นคำตอบของท่านเจ้าเมือง ร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพเหิงก็ผลุนผลันลุกพรวดแล้วเดินออกจากท้องพระโรงทันที !

เขารู้ดีว่าสิ่งที่ท่านเจ้าเมืองทำนั้นถูกต้องแล้วหากมองหลักการอย่างผู้เป็นประมุข เมืองเล็กและอ่อนแออย่างหงโจวต้องการเมืองใหญ่มาคอยสนับสนุนส่งเสริมบารมี มิเช่นนั้นสักวันคงไม่พ้นถูกล่าเป็นเมืองขึ้นของหัวเมืองใดก็หัวเมืองหนึ่ง หญิงงามเช่นองค์หญิงซูเม่ยก็คงมิวายถูกบังคับให้เป็นสนม อนุภรรยาหรือนางบำเรอของเจ้าเมืองนั้น ๆ

แต่การที่ต้องตกไปเป็นชายาของบุรุษใจคอโหดร้ายอย่างองค์ชายจิ้งฝูนั้นต่างอะไรกันเล่า เพียงเท่านี้ก็ดูออกแล้วว่าเขาเป็นคนเช่นไร พอองค์หญิงขัดใจแม้เพียงนิด เขาก็ใช้อำนาจในการเอาชนะคล้ายจะสั่งสอนให้รู้ว่าอย่ามาแข็งข้อกับคนเช่นเขา

องค์หญิงซูเม่ยนั้นช่างบริสุทธิ์งดงามราวดอกเหมยที่เพิ่งผลิบาน นางจะย่ำแย่ชอกช้ำเพียงใดหากถูกบดขยี้อย่างทารุณโหดร้าย

เหิงซื่อหลุนกำหมัดแน่นเสียจนเส้นเลือดขึ้นหลังมือปูดโปน กรามถูกขบเป็นสันนูน หลากหลายอารมณ์ประดังประเด ทั้งเคียดแค้นต่อคนไร้ซึ่งความเป็นลูกผู้ชายเช่นไอ้องค์ชายจิ้งฝู ทั้งสงสารองค์หญิงซูเม่ย ทั้งโมโหตัวเองที่มิอาจแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้เลย ทั้งที่รู้ว่ามีหญิงสาวตัวเล็ก ๆ กำลังจะถูกรังแกและทุกข์ทรมานราวตกนรกทั้งเป็น

“ อย่าแส่หาเรื่องเลยซื่อหลุน หาใช่เรื่องของเจ้าไม่ ! ” เขาย้ำกับตัวเองหลายครั้ง หลายปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอิสระ มิขึ้นต่อใคร มิเอาหัวใจไปผูกไว้กับสิ่งไหน แล้วเหตุใดยามนี้จึงต้องมากังวลเรื่ององค์หญิงซูเม่ยด้วยเล่า

เขาก็แค่เคยกอด เคยจูบ เคยนอนเคียงข้างกันในราตรีหนึ่งและชิงผละจากมาก่อนตะวันขึ้น หลังจากนั้นเขาก็พยายามข่มใจตัวเองไม่ให้กลับไปหานางอีก

เพราะเขากลัวใจตัวเอง…

นางสะอาด บริสุทธิ์เกินกว่าจะแตะต้อง ทั้งที่ใจของเขาอยากจะกลืนกินนางใจแทบขาด

“ อย่าได้รักใครอีก ซื่อหลุน เจ้าจำไม่ได้หรืออย่างไรว่าความรักมันทำให้เจ้าตายทั้งเป็นมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่าได้ริรักอีกเป็นอันขาด ! ” เขาย้ำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะ ไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก

ทว่าในใจยังคงมีแต่ใบหน้างดงามวนเวียน กลิ่นกรุ่นเนื้อนางหอมอ่อนตราตรึง โดยเฉพาะเสียงอ่อนหวานอ้อนออดละเมอออกมาในยามหลับใหล

‘ พี่ซื่อหลุน อย่าทิ้งข้า อย่าทิ้งหงโจวนะ ได้โปรด ’

จิตใจที่เคยหนักแน่นมั่นคงดั่งหินผา บัดนี้สั่นคลอนอ่อนไหวเป็นยิ่งนัก

อย่าแส่หาเรื่องนักเลย อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว

แม่ทัพเหิงบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่จิตใจกลับวนเวียนคนึงหาห่วงใยถึงแต่นาง

ลืม เขาต้องลืมนางเสีย…

แม่ทัพหนุ่มบอกตัวเอง

เขาเรียกหาสาวงามพร้อมทั้งสุรารสดีมาบำบัดความเครียด ทว่าแปลกนัก ยิ่งดื่มให้ลืมกลับยิ่งจดยิ่งจำ นี่มันอะไรกันหนอ…

เมื่อสุรามิอาจบรรเทา แม่ทัพหนุ่มหมายใช้สตรีผู้อื่นทดแทนสตรีที่คนึงหา ทว่าแท่งทวนยาวใหญ่ที่เคยคึกคักฟาดฟันไม่ไหว้หน้าอยู่เสมอของเขากลับอ่อนเปลี้ยไร้สมรรถภาพขึ้นมาเสียอย่างนั้น จนเขาต้องไล่ตะเพิดพวกนางกลับไปอย่างหัวเสีย

ทั้งหมดทั้งมวลนี่สาเหตุก็เพราะนาง องค์หญิงซูเม่ย !

ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงผู้เดียวทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ !

***

ผ่านไปเพียงสองราตรี เมืองหงโจวก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เมืองเจี้ยนจิงดำเนินการทุกอย่างรวดเร็วราวเนรมิตทั้งทหาร นางกำนัล และผู้มีหน้าที่ในการตระเตรียมความพร้อมของงานอภิเษกถูกส่งมาที่หงโจว ทำให้เมืองเล็กดูคึกคักขึ้นมาทันที

ทว่ามีผู้หนึ่งที่ทุกข์ระทมแต่ต้องเก็บงำมันไว้ให้ลึกสุดนั่นคือองค์หญิงซูเม่ย

บ่ายคล้อย ณ ริมบึงบัว

ร่างงดงามขององค์หญิงนั่งเหม่อมองเหล่าผึ้งน้อยที่กำลังดื่มดูดน้ำหวานจากดอกบัวในสระ แม้เป็นเพียงแมลงตัวน้อยแต่กลับมีอิสระอยากทำสิ่งใดก็ได้ตามใจตน ดีกว่านางเสียอีกที่มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงแต่หาได้มีสิทธิ์ทำสิ่งใดตามใจตนไม่ ถูกภาระหน้าที่ผูกมัดจนในบางครั้งแทบหายใจไม่ออก

“ หากข้ามีอิสระสักเพียงครึ่งของพวกเจ้า ข้าคงแย้มยิ้มได้อย่างสนิทใจ พวกเจ้ามีใครอยากเป็นองค์หญิงแทนข้าหรือไม่ ข้ายินดีแลก ” เหรินซูเม่ยยิ้มขื่นกล่าวกับเหล่าผึ้งน้อย

Options

not work with dark mode
Reset