(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 37

ตอนที่ 37

ตระกูลเบิร์กลีย์

 

โรเซตต้ากำลังจนมุม

 

ปีหนึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง แต่คะแนนของเธอแย่มาก

 

เกรดโดยรวมของเธอถูกทิ้งห่างจากเพื่อนในห้อง

 

ซึ่งเทียบเฉพาะในหมู่นักเรียนของอาคารเรียนหลังที่หนึ่ง แน่นอนว่ามันต่ำสุด

 

“ทั้งๆที่ฉันตั้งใจมากขนาดนั้น…”

 

เธอเรียนจนแทบไม่ได้นอน

 

แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเธอที่จะตามทัน

 

ขณะที่เธอเดินผ่านโถงทางเดินด้วยสีหน้าสิ้นหวัง นักเรียนบางคนที่ปกติแล้วคุณจะไม่เห็นในอาคารเรียนหลังที่หนึ่งได้เข้ามาหาเธอ

 

ที่ศูนย์กลางของกลุ่มห้าคนคือ บารอนของบ้านเบิร์กลีย์-เดอร์ริก

 

โรเซตต้าหันหลังกลับทันทีและพยายามจะหนี แต่เขาคว้าแขนเธอไว้

 

“เดี๋ยวก่อนเซ่ คนจนอย่างคุณจะหนีไปไหน”

 

แม้ว่าโรเซตต้าจะพยายามสะบัดมือที่คว้าเธอไว้ แต่แขนของเดอร์ริกซึ่งดูบอบบางก็แข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

เดอร์ริกซึ่งผ่านการเสริมสร้างร่างกายมาหลายครั้งนั้น แข็งแกร่งกว่าโรเซตตาซึ่งได้รับความแข็งแกร่งจากการทำงานหนักและการฝึกฝน

 

—นั่นคือความเป็นจริงของจักรวาลนี้

 

“ป-ปล่อยฉันนะ!”

 

“อย่าพูดจาเย็นชาอย่างนั้นสิ ดยุกผู้ยากไร้ โรเซตต้า”

 

ผู้ติดตามของเดอร์ริกหัวเราะ

 

เมื่อเดอร์ริกจ้องมองโรเซตต้า เธอรู้สึกว่าการจ้องมองของเขานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย

 

“แม้ว่าคุณจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายของคุณค่อนข้างดีเลยนี่? อย่างที่คิด สำหรับคนยากจนที่ทำได้เพียงขายร่างกาย คุณสมบูรณ์แบบจริงๆ”

 

หลังจากถูกผลัก โรเซตต้าก็ล้มลง กระเป๋าเธอตกกระจายเต็มพื้นสมุดเกรดของเธอก็ถูกแสดง

 

เดอร์ริกเห็นเนื้อหาของมัน – และหัวเราะ

 

“ย-อย่ามองนะ!”

 

เธอพยายามเอาอุปกรณ์ของเธอคืน แต่มันอยู่ในกำมือของเดอร์ริกแล้ว

 

“คุณนี่มันน่าสิ้นหวังจริงๆ คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นขุนนางด้วยซ้ำ”

 

โรเซตต้าพยายามที่จะดึงเอกสารของเธอ เดอร์ริกหัวเราะขณะที่ผลักเธอล้มลงอีกครั้ง

 

“ว้าย…!”

 

ผู้ติดตามเดอร์ริกยืนล้อมโรเซตต้า หลังจากเดอร์ริกผลักเธอลง

 

“–โรเซตต้า ครอบครัวของคุณกำลังมองหายีนของขุนนางที่มีความสามารถไม่ใช่เหรอ?”

 

เดอร์ริกถอดเข็มขัดออก และมองโรเซตตาขณะที่เลียริมฝีปาก

 

โรเซตต้ารู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังของเธอขณะที่เธอเหงื่อตก

 

“ก-แกพูดบ้าอะไร?”

 

เดอร์ริกทไหน้าจริงจัง

 

“ขอบคุณฉันซะซี่ บ้านของคุณจะสามารถสืบทอดยีนอันสุดยอดของตระกูลเบิร์กลีย์ได้… โอ้…แต่อย่าได้มีความคิดว่าจะได้รับอะไรจากครอบครัวเบิร์กลีย์ เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นลูกของเรา”

 

โรเซตต้าพยายามหนีจากเดอร์ริก ผู้ซึ่งเพิ่งพูดเรื่องหยาบคายใส่ แต่เธอทำไม่ได้เพราะลูกน้องของเขาที่อยู่รอบตัวเธอ

 

“ดัชเชสผู้น่าอับอายควรจะรู้สึกขอบคุณที่ได้รับยีนอันยอดเยี่ยมของท่านเดอร์ริคคนนี้!”

 

เมื่อเดอร์ริกเอื้อมมือออกไปหาโรเซตต้า เธอพยายามต่อต้านแต่ถูกกดลงอย่างง่ายดาย

 

“มะ-ไม่ หยุดนะ! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

 

นักเรียนและครูที่เดินผ่านโถงทางเดินนั้น เมินหน้าหนี

 

พวกเขาไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับเดอร์ริคและครอบครัวเบิร์กลีย์

 

และไม่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ที่มีสถานะแบบโรเซตต้า

 

(…ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้?)

 

ปากของเธอถูกปิดไว้เพื่อกลบเสียงกรีดร้องของเธอ ดังนั้นสิ่งที่ โรเซตต้าทำได้คือจ้องไปที่พวกเขา

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องคนหนึ่งปลิวออกไป

 

“…ฮะ?”

 

หลังจากเห็นลูกน้องคนหนึ่งของเดอร์ริคปลิวออกไป โรเซตต้าหันหน้ามองไปทิศทางตรงกันข้ามที่เขาปลิว  

 

คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเลียมซึ่งมีเคิร์ทและวอลเลซอยู่ข้างๆ

 

“พวกนี้คือใครละเนี่ย? ผมไม่เคยเห็นหน้าเจ้าพวกนี้ที่นี่มาก่อน”

 

เพราะคำพูดของเลียม วอลเลซหน้าซีด

 

“เลียม! นั่นบารอน เบิร์กลีย์!”

 

เคิร์ทรู้สึกประหลาดใจ

 

“เขาคือผู้ชนะของทัวร์นาเมนต์ที่แล้วไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สองนี่?”

 

เคิร์ทดูเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวเบิร์กลีย์มากนัก

 

เลียมก็เหมือนกัน

 

“แล้วเขามาที่นี่ทำไมล่ะนั่น? ช่างเหอะ เฮ้ย หลีกทางไปหน่อยซิ”

 

หลังจากที่เลียมพูดแบบนั้น เดอร์ริกรู้สึกว่าเลือดพุ่งไปที่หัวของเขาและเริ่มตะโกน

 

“ไอ้เหี้ย มึงคิดว่ากำลังทำน้ำเสียงแบบนี้กับใครวะไอ้สัส! กูชื่อ บารอน เบิร์กลีย์นะเว้–!”

 

ยังไม่ทันจบประโยคดี เดอร์ริกก็ปลิวออกไปอย่างแรง

 

เลียมย่นระยะห่างในพริบตา หมัดของเขากระแทกเข้าไปที่ใบหน้าของเดอร์ริก

 

“– คุณคิดว่าคุณใช้น้ำเสียงนี้กับใครเหรอ? ผมขอคืนคำนั้นกลับไปให้คุณ ผมเป็นเคานต์”

 

ลูกน้องคนหนึ่งที่รีบไปหาเดอร์ริคได้รู้ความจริงหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

 

“เคานต์? คุณคือเบนฟิลด์!”

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องที่เหลือปลิวไป

 

“อย่ามาเรียกเหมือนเราสนิทกัน ไอ้ขยะ!”

 

เคิร์ทและวอลเลซกรีดร้องกับการกระทำของเลียม

 

“เลียม รุนแรงเกินไปแล้ว!”

 

“อ๊ากกกกก!!! เลียม! ช่วยดูคู่ต่อสู้ของคุณก่อนที่จะสู้เซ่!”

 

เหล่าลูกน้องหิ้วปีกเดอร์ริกที่หมดสติขึ้นมาแล้วรีบหนีไป

 

โรเซตต้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดขณะนั่งอยู่บนพื้น ตอนนี้ชุดที่เธอใส่ดูไม่เรียบร้อยเอาซะเลย

 

เลียมเข้าไปหาเธอและเอื้อมมือออกไปเพื่อจะดึงเธอขึ้นมา

 

“เฮ้ คุณโอเคไหม?”  

 

มือนั้นที่ยื่นมาหา…โรเซตต้าตบมันออกไป

 

“โอ๊ะ?”

 

เลียมพยายามช่วยเธอ แต่โรเซตต้าก็จ้องมาที่เขา

 

“อย่ามายุ่งกับฉัน… ฉัน… แม้ว่าฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังเป็นลูกสาวของบ้านดยุค!”

 

เธออยากจะขอบคุณเขา

 

อย่างไรก็ตาม โรเซตต้าพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ เพราะเป็นเลียมที่ช่วยเธอไว้

 

เธอรีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไป

 

(…ทำไมฉันถึงทำตัวแบบนี้นะ?)

 

เธอเกลียดตัวเองที่ไม่มีอำนาจใดๆ

 

เธอเกลียดคนรอบข้างที่ไม่ได้ช่วยเธอ

 

และเธอเกลียดเลียมที่สมบูรณ์แบบและมีคุณธรรมที่เธออิจฉามากที่สุด

 

เธอดีใจในตอนแรก แต่แล้วเธอก็รู้ว่ามันเป็นความสงสารของคนที่ชีวิตดีพร้อม และความรู้สึกของเธอก็กลับกลายเป็นความเกลียดชัง

 

โรเซตต้าเกลียดชีวิตของเธอที่โรงเรียนประถม

 

◇ ◇ ◇

 

ขณะที่ผมมองดูร่างของโรเซตต้าวิ่งหนีไป ผมอดคิดไม่ได้

 

-เธอดูสบายดีนะ

 

ผมที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าบ้านยศเคาท์ แต่เธอปฏิเสธที่จะก้มหัวให้ผมเพราะเธอกำลังจะเป็นดัชเชส

 

เมื่อเธอหายไปจากสายตาของผมในที่สุด วอลเลซก็เรียกผม

 

“เลียม คุณรู้ใช่ไหมว่านั่นคือใคร”

 

ผมหันไปยิ้มให้วอลเลซที่กำลังมีสีหน้ากังวล

 

“โอ้ฉันรู้…ผมชักจะชอบเธอแล้วสิ”

 

เคิร์ทมองมาที่ผมและเบิกตากว้าง

 

“เลียม นิสัยแย่ๆ ของคุณกำลังออกมาอีกแล้ว”

 

วอลเลซดูไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินความคิดเห็นเกี่ยวกับนิสัยแย่ๆ ของผม

 

แต่เคิร์ทไม่ได้อธิบาย

 

–มันไม่ใช่เรื่องที่วอลเลซต้องรู้

 

โดยพื้นฐานแล้ววอลเลซเป็นคนดี

 

เขาไม่ใช่วายร้ายอย่างเคิร์ทกับผม

 

“อย่าพูดอย่างนั้น มันเหมือนกับงานอดิเรกของผมมากกว่า”

 

ผมต้องการให้โรเซตต้าผู้มีความภาคภูมิใจในสายเลือดของเธอ ยอมมอบตัวและหัวใจให้ผมจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

มันน่าสนใจมากที่จะมีผู้หญิงที่เย่อหยิ่งมายอมจำนนต่อผม

 

ผมชอบผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟัง แต่บางครั้งผู้หญิงที่ดื้อรั้นก็ดีเหมือนกัน

 

ไม่ว่าจะเป็นเทียหรือมารีพวกเขาทั้งหมดยอมจำนนต่อผมง่ายดายเกินไป

 

ผมไม่ได้เกลียดทัศนคติแบบนั้น แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่มองหาสิ่งเร้าอยู่เสมอ

 

ผมต้องการเห็นการยอมจำนนของบุคคลที่จองหอง

 

– เลือดของลอร์ดชั่วร้ายในตัวผมกู่ร้อง

 

นี่เป็นนิสัยเสียที่เคิร์ทพูดถึงก่อนหน้านี้

 

โรเซตต้า หนอ โรเซตต้า…เมื่อคุณทำสายตานั่นใส่ผม คุณก็จบสิ้นแล้ว

 

ผมจะทำลายคุณ

 

◇ ◇ ◇

 

เลียมเข้าไปในหอพักนักเรียนพร้อมกับยิ้ม

 

เคิร์ทมองภาพดังกล่าวพลางถอนหายใจ ตอนนี้มีเพียงวอลเลซเป็นคนเดียวที่อยู่รอบๆ

 

“เลียมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”

 

วอลเลซดูกังวล

 

“เฮ้ เลียมจะไม่เป็นไรเหรอเนี่ย? ฉันไม่ต้องการให้ผู้อุปถัมภ์ของฉันหายไปทันทีหรอกนะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนทั้งตระกูลเบิร์กลีย์เป็นศัตรูไปแล้ว”

 

“ทั้งตระกูล?”

 

วอลเลซยิ่งกังวล

 

“คุณไม่รู้เหรอ! พวกเขามีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘ขุนนางโจรสลัด’ พวกมันคือขยะของจักรวรรดิ ในแง่ของขนาดพวกเขาสามารถเทียบได้กับบ้านของดยุค!”

 

ในตระกูลเบิร์กลีย์ เมื่อใดก็ตามที่เด็กเกิดมา พวกเขาจะพิชิตดินแดนและทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นบารอน

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การจัดการโดยบารอน พ่อของเดอร์ริค

 

พวกเขาอยู่ในยศแค่บารอน เพื่อลดการมีส่วนร่วมที่พวกเขาต้องปฏิบัติตามจักรวรรดิ

 

เป็นผลมาจากการหาความมั่งคั่งมากกว่าสถานะทางสังคม

 

ด้วยเหตุนี้ บ้านเบิร์กลีย์ จึงถูกเรียกว่าตระกูลเบิร์กลีย์ซึ่งเป็นกลุ่มของยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวพันกัน

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดตั้งแต่รากเหง้า แต่พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการผลิตและจัดหาน้ำอมฤตให้จักรวรรดิ

 

“…พวกเขาเป็นโจรสลัด? อ่อ…แบบนี้นี่เอง”

 

“พวกมันอันตรายมาก เราต้องขอโทษทันที”

 

เคิร์ทส่ายหัวกับความคิดเห็นของวอลเลซ

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้… เลียมจะไม่มีวันยอมก้มหัวให้โจรสลัด”

 

“แต่คู่ต่อสู้เป็นทั้งตระกูลเชียวนะ!”

 

“ถึงอย่างนั้น เลียมก็มองพวกนั้นไม่ต่างอะไรจากอาชญากร ถ้าพวกเขาเข้ามาหาเรื่องกับเขา เบัยมจะทำลายกองยานของพวกเขาเหมือนที่เกิดกับบ้านพีตัค”

 

กรามของวอลเลซลดลงอย่างประหลาดใจ

 

“บ้านพีตัค… มาลองคิดดูแล้ว คุณบอกว่าคุณทั้งคู่ฝึกมาจากบ้านของอดีตไวเคานต์ราเซลก่อนหน้านี้ อย่าบอกนะว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นงั้นหรอ!”

 

แท่งที่หว่างขาขอปีเตอร์ของบ้านพีตัคได้ระเบิดขึ้น ดังนั้นการลงทะเบียนเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาของเขาจึงถูกเลื่อนออกไปสำหรับการพักฟื้น

 

“ต-แต่ตระกูลเบิร์กลีย์มันแย่กว่านั้นมาก! เลียมไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้! ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขายังมีโจรสลัดเป็นพันธ์มิตร!”

 

เคิร์ทส่ายหัวแม้จะได้ยินอย่างนั้น

 

“ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เลียมจะเปลี่ยนใจ เลียมไม่เคยปรานีต่อโจรสลัด”

 

วอลเลซทรุดตัวลงกับพื้นและเอามือกุมหน้า

 

“อิสรภาพของฉันสิ้นสุดลงแล้ว มันจบแล้ว…”

 

วอลเลซตกอยู่ในความกลัวเมื่อคิดถึงการตอบโต้ของบ้านเบิร์กลีย์

 

◇ ◇ ◇

 

หอพักนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สอง

 

เดอร์ริกพันผ้าพันแผลบนใบหน้าของเขา

 

“…ฉันจะฆ่าไอ้เวรเลียมนั่นซะ!”

 

ในขณะที่เขายังคงโกรธจากการถูกต่อย ไม่มีใครในบริเวณโดยรอบของเขาแย้งคำพูดของเขาที่จะฆ่าเลียม

 

สำหรับเดอร์ริกแล้ว แม้แต่ความตายก็ยังไม่พอ

 

“ฉันจะทำลายอาณาเขตทั้งหมดของเขา ฉันจะพรากทุกอย่างที่เขารัก ก่อนที่ฉันจะทรมานและฆ่าเขาซะ”

 

ถ้าไกด์ฟังอยู่ เขาคงดีใจมาก

 

แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น

 

“เฮ้ย แกไปรู้อะไรเกี่ยวกับเขามา”

 

“ครับ! นี่คือสิ่งที่เรารวบรวมมาได้ในตอนนี้”

 

ข้อมูลที่รวบรวมถูกฉายขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยเหตุนี้ เดอร์ริกจึงได้เรียนรู้ว่าดาวหลักของเลียมมีกองทัพจำนวนมาก

 

“–มีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกซะด้วย”

 

เขาสังเกตเห็นว่ามีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา

 

“มียานทางทหารประมาณพันลำประจำการอยู่ที่นั่นด้วย”

 

เดอร์ริคยิ้มทั้งที่เขาไม่มีฟันหน้า

 

“ส่งกองยานส่วนตัวของฉันออกไป ติดต่อบ้านพ่อแม่ของฉันด้วย รวบรวมโจรสลัด เราจะใช้ ‘สิ่งนั้น’ ในบ้านของเขาและเอาทุกสิ่งมา บีบทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้จากเขา”

 

เดอร์ริกแทบไม่มีอำนาจภายในครอบครัวของเขา

 

แต่เขายังคงมีกองยานอยู่สามพันลำภายใต้การควบคุมของเขา

 

ถ้าเขารวบรวมกองกำลังอื่น จำนวนจะเพิ่มเป็นสองเท่า

 

เขาคิดว่ามันง่ายที่จะเผาทุกอย่างถ้ามันเป็นเพียงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เลียม… ฉันจะทำให้คุณเสียใจที่ทำให้ฉันโกรธ”

 

เดอร์ริกตัดสินใจโจมตีอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์

 

◇ ◇ ◇

 

ที่ดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์

 

เกิดความโกลาหลขึ้นที่ฐานป้องกันที่ประจำการอยู่ที่นั่น

 

“ท่านผู้บัญชาการ! มีกองยานจำนวนหกพันลำกำลังใกล้เข้ามา!”

 

“อะไรนะ?!”

 

ผู้บัญชาการที่ได้รับมอบหมายให้ประจำฐานป้องกันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นกองยานข้าศึกฉายบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่

 

“มีหกพันลำจริงๆเหรอ?”

 

“ใช่ครับ ยืนยันแล้ว”

 

จำนวนหน่วยป้องกันที่พวกเขาประจำการอยู่ที่นั่นเพิ่งเพิ่มขึ้นเป็นพันสองร้อย

 

พวกเขาน้อยกว่าในเรื่องจำนวน แต่…

 

“…พวกเขาโง่หรือบ้า? ยังมีโจรสลัดที่เต็มใจจะต่อสู้กับบ้านเบนฟิลด์อีกรึเนี่ย?”

 

กองยานโจรสลัดกำลังบุกรุกอาณาเขตของเลียม ซึ่งเป็นที่เกรงกลัวของโจรสลัดอย่างมาก

 

พวกเขามาเพื่อโจมตีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก แต่ผู้บังคับบัญชาไม่กลัวเลย

 

เพราะว่า-

 

“–รีบไปอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ ฐานป้องกันจะช่วยในการสกัดกั้น”

 

ยานขนาดใหญ่พิเศษระดับป้อมปราการ ซึ่งเลียมตัดสินใจซื้อหลังจากได้เห็นชุดกีฬาของไนอัสที่ตอนนี้เป็นฐานทัพชั่วคราวสำหรับฐานป้องกัน

 

ประสิทธิภาพของมันสูงมาก

 

เหมาะสมกับชื่อยานระดับป้อมปราการ เป็นยานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเหมือนป้อมปราการที่เข้มแข็ง

 

เจ้าหน้าที่รีบออกคำสั่ง  

 

ผู้บัญชาการมองไปที่กองยานศัตรูอย่างไม่เชื่อ

 

“ทำไมกองยานโจรสลัดถึงเข้าต่อสู้กับเราด้วยยานเพียงหกพันลำ”

 

กองยานของบ้านเบนฟิลด์ ซึ่งมีระดับป้อมปราการเป็นเรือธง ได้ทำลายล้างข้าศึกอย่างต่อเนื่องเพื่อรอกองกำลังหลัก

 

โจรสลัดร้องขอชีวิต แต่คำวิงวอนของพวกเขาถูกเพิกเฉยและพวกเขาก็ถูกสังหาร

 

ขณะที่ทีมป้องกันกำลังตามล่าศัตรูเพียงลำพัง ศัตรูพยายามวิ่งหนี แต่แล้วพันธมิตรก็มาถึง

 

ศัตรูไม่มีเวลาในการถอนตัวและไม่มีที่จะหลบหนี

 

“พวกเขาพยายามจะทำอะไรกันแน่?”

 

ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันเอียงคอ

 

กองยานที่เดอร์ริกรวบรวมไว้ ไม่สามารถเข้าถึงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์ได้ด้วยซ้ำ

 

————————–

 

ไบรอัน (´・ω・`) “ช่วงนี้ฉันไม่สามารถติดต่อกับลอร์ดเลียมหรือเพื่อนของเขาได้เลย ไบรอันคนนี้เป็นห่วงจริงๆ”

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset