True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1111

ตอนที่ 1111
เชื้อเพลิงเทพมาร

‘ข้ารู้ว่าจุดจบของตัวเองกำลังใกล้เข้ามา วันนี้ขอปิดด่านเพื่อตามหาจุดสูงสุดของวิถีโอสถ หากสำเร็จก็อาจช่วยเซียวเซียวที่อยู่แดนปรโลกได้ ไม่รู้ว่าการปิดด่านนี้จะใช้เวลากี่เดือนกี่ปี บางทีอาจไม่มีชีวิตออกมา หากได้ฝังร่างในที่หลอมโอสถแห่งนี้ก็เป็นความปรารถนาของข้าเช่นกัน…’

อี้อวิ๋นอ่านประโยคสุดท้ายในม้วนกระดาษสีดำ ที่แท้ผู้อาวุโสท่านนี้ก็สร้างค่ายกลขึ้นในทะเลทรายกลบอาทิตย์เพื่อปิดด่านตาย

การปิดด่านนี้หลายร้อยล้านปี ทุกอย่างที่นี่คงถูกทิ้งหลายมาหลายร้อยล้านปี ผู้อาวุโสท่านนี้ปิดด่านตายนานถึงเพียงนี้ก็คงจบชีวิตไปแล้ว

‘ผู้อาวุโสปิดด่านเพื่อช่วยหลิงเซียวเซียวผู้เป็นลูกสาว นางก็คือเด็กหญิงที่เราเห็น?’

อี้อวิ๋นวางม้วนกระดาษลงแล้วเงยหน้าขึ้น เขาเห็นเด็กหญิงผิวขาวละเอียดผู้นั้นนั่งอยู่บนหม้อโอสถพร้อมกับเท้าคางมองเขา

เรื่องนี้ทำให้อี้อวิ๋นรู้สึกเข้าใจได้ยากไปชั่วขณะ หรือว่าหลังจากที่หลิงเซียวเซียวคืนชีพจะอยู่ที่นี่เพียงลำพังมาสองสามร้อยล้านปี? หรือว่าจะนานกว่าอีก?

เวลาผ่านมานานขนาดนี้แต่นางกลับไม่แก่ตายหรือเติบโต หรือท้ายที่สุดแล้วเทพโอสถจะไม่ใช่แค่หลอมโอสถคืนชีพสำเร็จ แต่ยังมีโอสถอายุวัฒนะด้วย?

อี้อวิ๋นคิดถึงตรงนี้แล้วก็ส่ายหน้า มีตำนานเล่าว่าคนเราจะเป็นอมตะได้ก็ต่อเมื่อไปถึงจุดสูงสุดของวิถียุทธ์ มีเรื่องง่ายแบบเป็นอมตะได้ด้วยโอสถธาตุกระดูกเม็ดหนึ่งที่ไหนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงชีวิตสุดท้ายของเทพโอสถก็ได้ยอมแพ้ต่อโอสถอายุวัฒนะ เลือกทุ่มเทกับการหลอมโอสถคืนชีพอย่างเดียว แม้แต่โอสถคืนชีพนี้ก็ทำให้เขาเสียพลังเฮือกสุดท้าย ต้องสร้างค่ายกลขึ้นจึงจะพอมีความหวัง

หวนกลับไปยังแม่น้ำแห่งกาลเวลาเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน คนที่ฟื้นคืนชีพคนตายในช่วงใดช่วงหนึ่งของแม่น้ำกาลเวลาได้ก็แทบเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้า!

เทพโอสถทำสำเร็จจริงๆ หรือ? หรือหลังจากที่เขาสร้างค่ายกลได้สองสามร้อยล้านปีแล้วจะเพิ่งทำสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นหลิงเซียวเซียวจึงเพิ่งฟื้นคืนชีพและไม่ทันได้เติบโต?

ในใจอี้อวิ๋นมีความคิดเหล่านี้แล่นผ่าน เขาพบว่าเด็กหญิงคนนั้นคอยมองเขาจากบนหม้อโอสถอยู่ตลอด ดวงตานางเป็นประกายเหมือนดาว ทั้งยังเป็นอัญมณีที่เรืองแสงยามค่ำคืน

คงมีเพียงหลิงเซียวเซียวที่รู้ว่าเพลิงเทพนั่นอยู่ที่ไหนในตำหนักศิลานี้

แต่ในเมื่อเทพโอสถเป็นผู้ทิ้งเพลิงเทพเอาไว้ก็น่าจะทิ้งให้หลิงเซียวเซียว เขาจะไปแย่งมาก็ไม่ถูกไม่ควรนัก

อี้อวิ๋นมีเส้นตายของตัวเองที่จะไม่มีวันข้าม ตัวหลิงเซียวเซียวน่าสงสารมากอยู่แล้ว หากไปแย่งเพลิงเทพที่ท่านพ่อนางทิ้งไว้ให้แล้วจะเรียกตัวเองว่าสุภาพชนได้หรือ?

ขณะที่อี้อวิ๋นกำลัง จู่ๆ เงาร่างเด็กหญิงคนนั้นก็กระพริบหายไป นางถูกหม้อโอสถขนาดยักษ์ที่นั่งอยู่ดูดเข้าไป

‘ที่แท้หม้อโอสถนี้ก็เป็นของวิเศษประเภทมิติเหมือนเจดีย์เทพจุติ’

เด็กหญิงเหมือนอยากให้อี้อวิ๋นเข้าไปในหม้อโอสถเช่นกัน อี้อวิ๋นลังเลเล็กน้อย เขาเดินมาตรงหน้าหม้อโอสถ วางมือลงบนหม้อเพื่อส่งพลังปราณสายหนึ่งเข้าไป จากนั้นเขาก็ถูกดูดเข้าไปทันที

เขาไม่ต่อต้านแรงดูดนี้ ปล่อยให้แรงดูดควบคุมตัวเขา ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไป อี้อวิ๋นมายืนอยู่หน้าทะเลสาบขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง

ทะเลสาบนี้คล้ายคลึงกับแอ่งลึกใต้น้ำตกที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ ในทะเลสาบมีเหล็กหลอมสีแดงไหลเชี่ยว ทว่าไอที่ปะทะหน้าเข้ามากลับไม่ใช่ไอร้อน แต่เป็นไอเย็น

อี้อวิ๋นรู้ว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเมื่อหยางพัฒนาถึงขีดสุดจะเกิดหยิน มีหยางอย่างเดียวจะไม่โต มีเพียงการหลอมรวมกันของหยินหยางเท่านั้นที่จะทำให้กฎแห่งหยางบริสุทธิ์ของที่นี่พัฒนาถึงขีดสุด

อี้อวิ๋นเห็นค่ายกลอยู่กลางทะเลสาบนี้ มองจากไกลๆ ก็พบว่าบนค่ายกลมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ หลิงเซียวเซียวนั่นเอง

ใต้เท้าหลิงเซียวเซียวมีเปลวไฟอันแผ่วเบาลุกโชนอยู่เงียบๆ เปลวไฟนี้เป็นสีดำเทา มันดูเงียบสงบมาก

กลิ่นอายอันยากจะบรรยายส่งมาจากเปลวไฟนี้ กลิ่นอายนี้ทำให้อี้อวิ๋นเคารพยำเกรงออกมาจากใจ ประหนึ่งว่ากำลังเผชิญกับเทพปีศาจทั้งสิบสองของโลกสวรรค์หมื่นปีศาจอย่างไรอย่างนั้น

หรือนี่จะเป็น…เชื้อเพลิงเทพมาร!?

อี้อวิ๋นกลั้นหายใจ แม้สติสัมปชัญญะจะบอกเขาว่านี่คือเชื้อเพลิงของหลิงเซียวเซียว แต่เมื่อได้มาเห็นสมบัติระดับนี้จริงๆ ก็ยากที่จะระงับความตื่นเต้น

หากสามารถสกัดเพลิงเทพระดับนี้ พลังของเพลิงเทพก็จะสะท้อนกลับมาในร่างเขาจนระดับยุทธ์พุ่งทะยาย ต้นไม้พิภพในร่างก็จะเติบโตอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน!

ไม่รู้ว่าพลังเขาจะพัฒนาถึงระดับไหน!

อยากได้จริงๆ…

อี้อวิ๋นสู้กับความคิดตัวเอง แม้จะไม่อาจแย่งชิงเพลิงเทพแต่เขาก็อยากพาหลิงเซียวเซียวไปจากที่นี่ ปล่อยให้นางอยู่ในค่ายกลทิ้งร้างเพียงลำพังก็คงโดดเดี่ยวเกินไป

เช่นนี้แล้วเชื้อเพลิงเทพมารก็จะตามหลิงเซียวเซียวไปด้วย ถึงเวลานั้นต่อให้เขาจะไม่ได้เพลิงนี้มาครอบครองก็ดูดซึมพลังส่วนหนึ่งและคว้าประโยชน์มาได้

อี้อวิ๋นรู้สึกละอายเล็กน้อยเมื่อคิดได้ว่าเขากำลังวางแผนต่อเด็กหญิงอายุเก้าถึงสิบขวบ แต่…นางอายุแค่เก้าถึงสิบขวบจริงๆ หรือ?

เหตุใดตัวนางที่ยืนอยู่กลางเปลวไฟจึงไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย ตอนที่นางกระโดดลงน้ำตกหยางบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะมีความเข้าใจต่อกฎแห่งหยางมากกว่าเขาด้วยซ้ำ?

เด็กหญิงอายุสิบขวบมีความเข้าใจด้านกฎเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน หรือนางจะได้การยอมรับจากพลังหยางบริสุทธิ์เพราะฟื้นคืนชีพที่นี่?

ขณะที่อี้อวิ๋นกำลังคิดก็เห็นว่าเชื้อเพลิงเทพมารสีเทากลายเป็นแสงสายหนึ่งอย่างฉับพลัน จากนั้นก็ผสานหายไปในร่างหลิงเซียวเซียว

สีหน้าหลิงเซียวเซียวไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย นางยังคงใช้ดวงตาที่เป็นดั่งอัญมณีมามองเขา

ทันใดนั้นอี้อวิ๋นก็ตะลึงงันขึ้นมา หลิงเซียวเซียวผสานเข้ากับเชื้อเพลิงเทพมาร!?

แค่กระโดดลงน้ำตกหยางบริสุทธิ์ก็น่าเหลือเชื่อแล้ว แต่นี่นางถึงขั้นผสานกับเชื้อเพลิงเทพมาร นี่…

คิดอย่างละเอียดแล้วแม้หม้อโอสถนี้จะเต็มไปด้วยพลังหยางบริสุทธิ์ที่เหมือนจะลุกโชนมาตลอดเวลาหลายร้อยล้านปี

แต่ในหม้อโอสถไม่มีสมุนไพรอะไรทั้งนั้น หากโอสถคืนชีพเพิ่งหลอมสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้จริงๆ เช่นนั้นก็ไม่ใช่แค่พืชสมุนไพร อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเหลือกากโอสถอยู่บ้าง

แค่คิดถึงหม้อโอสถที่หลอมมาหลายร้อยล้านปีก็น่าเหลือเชื่อแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบล้ำค่าอะไรก็สลายเป็นธุลี

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ค่ายกลที่เทพโอสถสร้างขึ้นจะคืนชีพให้ลูกสาวได้จริงๆ หรือ?

ค่ายกลเพิ่งสำเร็จหลังจากที่ผ่านเวลามาหลายร้อยล้านปี มีความเป็นได้มากแค่ไหนกัน?

อี้อวิ๋นเห็นเด็กหญิงคนนี้ครั้งแรกก็คิดว่านางคือหลิงเซียวเซียว แต่…นางใช่หลิงเซียวเซียวจริงหรือ!?

อี้อวิ๋นถอยหลังสองสามก้าวเมื่อคิดถึงตรงนี้ เขามองค่ายกลใต้เท้าเด็กหญิง เห็นได้ชัดว่าค่ายกลนี้คือค่ายกลแกนกลางของหม้อโอสถ หม้อโอสถนี้ถูกเผาในดินแดนหยางบริสุทธิ์มาร้อยล้านปีจนกลายเป็นสมบัติขั้นสุดยอด ส่วนค่ายกลนี้ก็คอยทำงานอยู่ตลอด มันคอยรวบรวมพลังหยางบริสุทธิ์ในทะเลทรายกลบอาทิตย์ พลังหยางนี้เข้มข้นจนแม้แต่อี้อวิ๋นก็ไม่กล้าสัมผัส

แต่เด็กหญิงคนนี้กลับเดินไปมาบนแกนกลางค่ายกลได้อย่างสบายๆ เหมือนเดินในสวนดอกไม้ มองพลังหยางบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ดุจมหาสมุทรที่ไหลเข้าออกร่างนางไม่หยุดแล้วในหัวอี้อวิ๋นก็มีความคิดหนึ่งผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว…

“เจ้าก็คือเชื้อเพลิงเทพมาร!?”

อี้อวิ๋นเข้าใจขึ้นมาทันที เปลวไฟสีเทาที่เขาเห็นบนค่ายกลก่อนหน้านี้ไม่ใช่ร่างจริงของเชื้อเพลิงมารเทพ

แม้เปลวเพลิงนั่นจะมีกลิ่นอายแข็งแกร่งดุจพลังแห่งความโกลาหลในยุคแรกเริ่มของจักรวาลแต่ก็อ่อนแอเกินไป ต่างจากเชื้อเพลิงมารเทพที่อี้อวิ๋นคิดไว้

เชื้อเพลิงสีเทานี้รวมตัวเข้าร่างหลิงเซียวเซียวอย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ เรื่องนี้ทำให้อี้อวิ๋นยากจะรับรู้ถึงกลิ่นอายของเชื้อเพลิงเทพมารได้อีก

ดังนั้นความคิดอันกล้าหาญอย่างหนึ่งจึงปรากฏในใจอี้อวิ๋น เป็นไปได้มากว่าเด็กหญิงคนนี้ก็คือร่างจริงของเชื้อเพลิงมารเทพ!

มีเพียงเช่นนี้จึงจะอธิบายได้ว่าเหตุใดนางอยู่ที่นี่มาร้อยล้านปีแต่กลับยังมีรูปลักษณ์เป็นเด็กหญิง ไม่แก่ไม่ตาย และมีเพียงเช่นนี้จึงจะอธิบายได้ว่าเหตุใดตอนที่นางกระโดดลงน้ำตกเหล็กหลอมก่อนหน้านี้จึงเหมือนกำลังเล่นน้ำ

อี้อวิ๋นรู้ว่าเพลิงเทพชั้นสูงและวัตถุล้ำค่าชั้นสูงมีความสามารถในการแปลงกาย พวกมันรวบรวมแก่นฟ้าดินมาเป็นร้อยล้านปี หากจะแปลงกายเป็นมนุษย์หรือปีศาจก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

เด็กหญิงทำแค่มองอี้อวิ๋น หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นานก็พูดเสียงใสว่า “เจ้ามาตามหาข้าหรือ? อยากได้ข้าใช่ไหม?”

True Martial World พิภพเทพยุทธ์

True Martial World พิภพเทพยุทธ์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1167 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


มหาสงครามที่มียอดฝีมือจากสามสิบสามชั้นฟ้าเข้าร่วม

ศึกสุดท้ายระหว่างจักรพรรดิของเหล่ามนุษย์และศัตรูได้ทำลายล้างโลกปีศาจ

ผลึกสีม่วงที่เคยใช้ผนึกราชาปีศาจกลับหายไปตามกระแสธารกาลเวลาอันไม่มีที่สิ้นสุด

เด็กหนุ่มชื่ออี้อวิ๋นเดินทางข้ามมิติมาพร้อมกับแผ่นผลึกซึ่งไม่รู้ที่มานี้

และมุ่งสู่ดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่ที่วิถีแห่งการยุทธ์ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น

นี่คือโลกแห่งการต่อสู้ที่ทั้งงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวเกินหยั่งรู้

นี่คือตำนานของเด็กหนุ่มธรรมดาที่จะเป็นยอดยุทธ์ผู้แข็งแกร่งเหนือใคร!

Options

not work with dark mode
Reset