True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1094

ตอนที่ 1094
 ปิดล้อม

มีเวลาหนึ่งชั่วยาม อี้อวิ๋นไม่รู้สำนักกระบี่สระใสจะตัดสินใจอย่างไร เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับชีวิตคนทั้งสำนัก หากพวกเขาตัดสินใจที่จะส่งอี้อวิ๋นออกไป เช่นนั้นอี้อวิ๋นก็ไม่ถือโทษโกรธ สำนักกระบี่สระใสไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องเขา ก่อนหน้านี้เจี้ยนอู๋เฟิงก็ช่วยชีวิตเขามาครั้งหนึ่งแล้ว

ตอนนี้ใจอี้อวิ๋นทรมานมาก เขาไม่อยากให้ความอยู่รอดของสำนักกระบี่สระใสตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะเขา

ความแข็งแกร่ง ท้ายที่สุดก็เพราะความแข็งแกร่ง หากแข็งแกร่งมากพอแล้วจะถูกผู้อื่นกุมชะตาได้อย่างไร

“ท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยไม่ต้องการให้คนจำนวนมากในสำนักกระบี่สระใสต้องมีอันตรายเพราะข้าน้อย” อี้อวิ๋นประสานมือพูดกับเจี้ยนอู๋เฟิง

เจี้ยนอู๋เฟิงตบบ่าอี้อวิ๋นและพูดปลอบใจว่า “อี้อวิ๋น เจ้าวางใจเถอะ ค่ายกลโบราณของสำนักข้าไม่ได้ทำลายง่ายขนาดนั้น”

เจี้ยนอู๋เฟิงมั่นใจในค่ายกลโบราณของสำนักกระบี่สระใสมาก หากไม่ใช่เพราะมีค่ายกลนี้อยู่ เขาก็คงไม่กล้าเสี่ยงอันตรายขนาดนี้เพื่อช่วยอี้อวิ๋น เพราะหากสำนักกระบี่สระใสถูกทำลายเพราะเรื่องนี้ เช่นนั้นเจี้ยนอู๋เฟิงคงเป็นคนบาป

“ขออภัยที่สร้างปัญหาให้นะขอรับ”

ตอนนี้อี้อวิ๋นจะพูดอะไรได้อีก เขาตัดสินใจแล้วว่าจะรีบเพิ่มความแข็งแกร่งโดยเร็ว

“ฮ่าฮ่า อี้อวิ๋น เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดไป สิ่งที่สำคัญที่สุดของสำนักคือมรดก เจ้ากับศิษย์สำนักสระใสของข้าประลองกันจนต่างฝ่ายต่างพัฒนา เรื่องนี้มีประโยชน์ต่อสำนักข้ามาก อีกอย่าง แม้สำนักกระบี่สระใสจะถูกปิดล้อมแต่ก็มีค่ายกลส่งออกไปด้านนอก หากระมัดระวังมากพอก็ส่งคนออกไปได้อยู่”

เจี้ยนอู๋เฟิงพูดอย่างมองโลกในแง่ดี

สีหน้าเจี้ยนปู๋อี้จริงจังขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากนั้นไม่นานเจี้ยนปู๋อี้ก็พูดขึ้นว่า “อี้อวิ๋น เจ้ามากับข้าหน่อย เรามาหารือเรื่องบางอย่างกันเถอะ”

“ได้ขอรับ”

……

ห้องกระบี่ฟ้าคือตำหนักด้านหลังสำนักกระบี่สระใส ปกติแล้วเป็นที่พักส่วนตัวของเจี้ยนปู๋อี้ อี้อวิ๋นคิดไม่ถึงว่าแค่หารือเรื่องบางอย่างจะถึงกับต้องมายังที่พักของเจี้ยนปู๋อี้

เมื่ออี้อวิ๋นมาถึงห้องกระบี่ฟ้าก็พบว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เจี้ยนปู๋อี้ เจี้ยนอู๋เฟิงกับเจี้ยนเสี่ยวซวงก็อยู่ด้วยเช่นกัน

ตอนนี้เจี้ยนอู๋เฟิงกับเจี้ยนปู๋อี้กำลังคุยอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นอี้อวิ๋นเดินเข้ามา เจี้ยนปู๋อี้ที่มีสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อยก็ยิ้มออกมา

“อี้อวิ๋นนั่งสิ เสี่ยวซวง เจ้าไปรินน้ำชาให้ศิษย์พี่อี้”

ศิษย์พี่อี้?

อี้อวิ๋นตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ มีบางครั้งที่ในโลกของจอมยุทธ์จะเรียกคนที่ไม่ได้มาจากสำนักเดียวกันว่าศิษย์พี่ หากเจอคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองก็จะเรียกว่าศิษย์พี่เช่นกัน

“คะ?” เจี้ยนเสี่ยวซวงเหมือนงุนงงไปชั่วขณะ จากนั้นนางก็รินชาถ้วนหนึ่งอย่างหน้าแดงและนำมาวางตรงหน้าอี้อวิ๋นอย่างระมัดระวัง

“ศิษย์พี่อี้…เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”

เจี้ยนเสี่ยวซวงเป็นคนหน้าบาง คำว่า ‘ศิษย์พี่อี้’ สามคำนี้ทำให้นางเขินอายมาก

อี้อวิ๋นแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเจี้ยนเสี่ยวซวงแก้มแดงน้อยๆ เขาจำได้ว่าตอนที่เจออีกฝ่ายครั้งแรกนางถือกระบี่ไว้ในมือ เส้นผมมัดเป็นหางม้าอย่างเรียบร้อยสะอาดตา ตอนนี้มาเป็นอะไรไป? เหตุใดจึงเหมือนสาวงามขี้อาย?

“อะแฮ่ม!” เจี้ยนปู๋อี้กระแอมไอแห้งๆ สองครั้งเพื่อหยุดความคิดอี้อวิ๋น เขาพูดขึ้นว่า “นี่คือชาบัวหิมะพันปีที่เก็บจากภูเขาหิมะสระใส นำกลีบบัวไปผึ่งแห้ง จากนั้นก็ใช้น้ำที่ละลายจากน้ำแข็งหมื่นปีมาต้ม ถือว่าไม่เลวเลย”

อี้อวิ๋นงงงวยเล็กน้อยที่จู่ๆ เจี้ยนปู๋อี้ก็แนะนำชา เขาดื่มไปหนึ่งคำก็พบว่าหอมชโลมใจมากจึงพูดชมว่า “ชาดี”

เจี้ยนปู๋อี้พูดด้วยรอยยิ้ม “สหายน้อยอี้อวิ๋น ข้าอยากให้สำนักกระบี่สระใสมีศิษย์อัจฉริยะเช่นเจ้าจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ได้ยินเจ้าบอกว่ามีอาจารย์อยู่แล้ว เรื่องที่จะให้เจ้าเข้าสำนักกระบี่สระใสจึงเป็นไปไม่ได้…”

เจี้ยนปู๋อี้พูดถึงตรงนี้แล้วก็ส่ายหน้าอย่างเสียดาย แต่จากนั้นไม่นานก็เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาเขาเป็นประกาย “สหายน้อยอี้อวิ๋น เจ้ารู้สึกว่าเสี่ยวซวงเป็นอย่างไร?”

คำถามที่มาอย่างฉับพลันของเจี้ยนปู๋อี้ทำให้อี้อวิ๋นที่ดื่มชาอยู่เกือบสำลัก

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ที่แท้เจี้ยนปู๋อี้ให้เขามาหารือในที่พักของตัวเอง ทั้งยังเชิญเจี้ยนอู๋เฟิงกับเจี้ยนเสี่ยวซวงมาด้วยก็เพราะเหตุนี้นี่เอง

มิน่าเล่า ก่อนหน้านี้เจี้ยนเสี่ยวซวงถึงได้หน้าแดงเหมือนยามพระอาทิตย์ตก เจี้ยนปู๋อี้คงพูดเรื่องนี้กับเจี้ยนเสี่ยวซวงก่อนแล้ว

อี้อวิ๋นได้แต่พูดว่า “ศิษย์น้องเสี่ยวซวงงดงามโดยกำเนิด ทั้งยังเป็นอัจฉริยะด้านวิถีกระบี่ นางย่อมสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ”

“ข้าเป็นอัจฉริยะวิถีกระบี่ที่ไหนกัน” เจี้ยนเสี่ยวซวงแลบลิ้น หากเป็นคนอื่นที่พูดเช่นนี้นางก็คงยอมรับ แต่เมื่ออี้อวิ๋นเป็นคนพูดนางจึงอายเล็กน้อย

“อี้อวิ๋น ถึงขั้นนี้แล้วข้าจะพูดตามตรงเลยแล้วกัน เสี่ยวซวงเป็นศิษย์ของอู๋เฟิง เป็นเจ้าสำนักรุ่นต่อไปของสำนักกระบี่สระใส กระบี่บรรพชนสระใสเองก็จะตกทอดสู่นาง ข้าจึงคิดว่าจะให้นางหมั้นหมายกับเจ้า…”

เจี้ยนปู้อี้พูดอ้อมค้อมอยู่นาง ในที่สุดก็พูดเรื่องนี้ออกมา ความจริงอี้อวิ๋นก็สังหรณ์ใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

อี้อวิ๋นเข้าใจอย่างสมบูรณ์เมื่อนึกถึงท่าทีเหมือนกำลังคิดอะไรก่อนหน้านี้ของเจี้ยนปู๋อี้ เจี้ยนปู๋อี้เห็นว่าอี้อวิ๋นมีพรสวรรค์โดดเด่น อยากให้เขาช่วยเหลือสำนักกระบี่สระใส แต่หากไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันก็รู้สึกไม่มั่นคง ทว่าหากเจ้าสำนักรุ่นต่อไปแต่งงานกับเขาก็ย่อมมั่นคงแน่นอน

เรื่องนี้ทำให้อี้อวิ๋นไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี วังวิถีเจ็ดดาราบุกมาสังหาร สำนักกระบี่สระใสทุ่มทุนไปไม่น้อย เจี้ยนอู๋เฟิงมีนิสัยซื่อตรงก็ช่างเถอะ แต่นี่เจี้ยนปู๋อี้เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เขาย่อมไม่ยอมทำธุรกิจที่ขาดทุน หากวันหน้าความสัมพันธ์ของสำนักกระบี่สระใสกับอี้อวิ๋นห่างกันไปเรื่อยๆ จะทำอย่างไร?

“คือ ศิษย์พี่เฟิงหงเขา…”

อี้อวิ๋นไม่เข้าใจ ตัวเขาที่เป็นคนนอกยังมองออกว่าเจี้ยนเฟิงหงชอบพอในเจี้ยนเสี่ยวซวง และในฐานะที่เจี้ยนปู๋อี้เป็นอาจารย์ของเจี้ยนเฟิงหงก็ไม่น่าใจร้ายขนาดนี้กระมัง

เจี้ยนปู๋อี้ส่ายหน้าเมื่ออี้อวิ๋นพูดถึงเจี้ยนเฟิงหง “ข้าย่อมอยากเห็นเฟิงหงแต่งงานกับเสี่ยวซวง แต่การแต่งงานต้องยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย เสี่ยวซวงนางไม่ยินยอม…”

เจี้ยนอู๋เฟิงพูดแทรกเข้ามาเมื่อเจี้ยนปู๋อี้พูดถึงตรงนี้ “เสี่ยวซวงเคยสาบานไว้ว่าคนที่นางแต่งงานด้วยจะต้องมีพรสวรรค์เหนือกว่านางหรือไม่ก็กระตุ้นพลังในกระบี่บรรพชนสระใสสำเร็จ เฟิงหงเลิกคิดเรื่องกระตุ้นกระบี่บรรพชนได้เลย เขาล้มเหลวไปนานแล้ว ส่วนเรื่องที่พรสวรรค์เหนือกว่าเสี่ยวซวงก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก ดังนั้น…”

เจี้ยนอู๋เฟิงเป็นคนตรงไปตรงมา เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยที่ต้องพูดเรื่องเหล่านี้

อี้อวิ๋นเผยอปากมองเจี้ยนเสี่ยวซวงแวบหนึ่ง เขารู้สึกว่าเจี้ยนเสี่ยวซวงบริสุทธิ์เหมือนกระดาษ เกรงว่าแม้แต่นางเองก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือการชอบพอ

อี้อวิ๋นได้แต่พูดว่า “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสทั้งสองที่หวังดีขอรับ แต่ขอน้อยมีภรรยาแล้ว”

ทว่าเจี้ยนปู๋อี้กลับพูดว่า “ข้าเองก็คิดเรื่องนี้มาก่อน ชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์ไม่จำเป็นต้องมีคู่เพียงคนเดียว ขอเพียงเจ้าไม่ล้มตายเสียก่อนในอนาคตก็จะมีอนาคตไร้จำกัด เป็นโชคดีของเสี่ยวซวงที่ได้แต่งงานกับเจ้า จะเรียกร้องให้เจ้ามีภรรยาแค่คนเดียวได้อย่างไร?”

เจี้ยนปู๋อี้คัดค้านคำตอบของอี้อวิ๋นอย่างง่ายดาย

อี้อวิ๋นพูดอะไรไม่ออกเล็กน้อย เมื่อตอนนี้มามองเจี้ยนปู๋อี้อีกครั้งก็รู้สึกขึ้นมาอย่างฉับพลันว่าชายชราผู้นี้เจ้าเล่ห์มาก เขาเลือกโอกาสที่จะให้เจี้ยนเสี่ยวซวงแต่งงานได้อย่างเหมาะเจาะ เพราะตอนนี้วังวิถีเจ็ดดารารออยู่หน้าประตู!

True Martial World พิภพเทพยุทธ์

True Martial World พิภพเทพยุทธ์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1167 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


มหาสงครามที่มียอดฝีมือจากสามสิบสามชั้นฟ้าเข้าร่วม

ศึกสุดท้ายระหว่างจักรพรรดิของเหล่ามนุษย์และศัตรูได้ทำลายล้างโลกปีศาจ

ผลึกสีม่วงที่เคยใช้ผนึกราชาปีศาจกลับหายไปตามกระแสธารกาลเวลาอันไม่มีที่สิ้นสุด

เด็กหนุ่มชื่ออี้อวิ๋นเดินทางข้ามมิติมาพร้อมกับแผ่นผลึกซึ่งไม่รู้ที่มานี้

และมุ่งสู่ดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่ที่วิถีแห่งการยุทธ์ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น

นี่คือโลกแห่งการต่อสู้ที่ทั้งงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวเกินหยั่งรู้

นี่คือตำนานของเด็กหนุ่มธรรมดาที่จะเป็นยอดยุทธ์ผู้แข็งแกร่งเหนือใคร!

Options

not work with dark mode
Reset