Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง 479

ตอนที่ 479

บทที่ 479 : นักล่าขุมทรัพย์

 

เย่โม่เคยเห็นผู้หญิง 2 คนนี้มาก่อน หนึ่งในนั้นคือผู้หญิงที่เย่โม่ตัดแขนของเธอ หลังจากที่เขาเพิ่งออกจากทะเลทราย ผู้หญิงคนนั้นมากับอาจารย์ของเธอในการประมูลครั้งก่อน มือของเธอถูกเชื่อมต่อกับร่างกายอื่นแล้ว

 

อาจารย์ของเธอเป็นแม่ชีที่สวยและชื่อของเธอคือ จือซวี เขาไม่ได้คาดหวังให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วย เธออยู่ในขั้นตติยสีเหลืองแล้ว ความคิดเห็นของเย่โม่คือเธอเก่งในการใช้มีดสั้น

 

เย่โม่ได้เห็นผู้หญิงคนอื่นเมื่อไม่นานมานี้ เธอเป็นผู้หญิงเย็นชาที่เขาเห็นเมื่อเขาไปที่ฐานทัพในเขตเซี่ยงยวิน เธอดูเหมือนจะไม่ได้มีเจตนาดีต่อเขา เย่โม่ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร แต่ผู้หญิงทั้งสองนั้นมีความเป็นศัตรูกับเขา

 

ในรอบที่ 2 ฮันหยานก็เอาชนะขั้นสีเหลืองสูงสุดได้อย่างง่ายดาย แล้วกลับมาที่นิกายวารีซานลิ่ว เพื่อดูการแข่งขัน

 

ฝ่ายตรงข้ามของจือซวีอยู่ในขั้นสีเหลืองระดับกลาง ซึ่งเป็นขั้นพลังที่ต่ำที่สุดในการแข่ง หญิงสาวไม่ได้ใช้มีดสั้นของเธอ เธอใช้ดาบยาวเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ของเธอและชนะในรอบนั้นได้อย่างง่ายดาย ผู้หญิงที่เย็นชาก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างง่ายดายเช่นกัน แต่เย่โม่รู้สึกว่าหลังจากที่เธอทำเสร็จแล้ว เธอก็จ้องมองด้วยความเย็นชา

 

เย่โม่พักนิ้วโป้งและนิ้วชี้ที่คาง ขณะที่คิดว่า ‘ฉันไม่เคยพบเธอมาก่อน ทำไมเธอมีอคติต่อฉันแบบนี้นะ?’

 

รอบบ่ายใช้เวลานานกว่ารอบเช้า เมื่อมี 80 คนที่ได้รับการตัดสินใจ มันก็เป็นเวลา 18.00 น. แล้ว

 

รอบต่อไปอาจเกิดขึ้นในวันถัดไป จะไม่มีใครพักที่เทือกเขายอดทลายข้ามคืน ดังนั้นทุกคนจึงกลับไปที่โรงแรมของพวกเขา

 

เมื่อเย่โม่ได้รับเชิญจากหวังซือเยวียให้ไปทานอาหารเย็นบนดาดฟ้า เขาก็พบว่ามีคนมากมายรอเขาอยู่

 

อาจกล่าวได้ว่าเกือบทุกตัวแทนของนิกายที่มาพักที่โรงแรมมาทักทายเขา ฮันหยานไม่รู้ว่าเย่โม่ฆ่าหวังเลิ๋นชรัน ดังนั้นเธอจึงตกใจกับคนหลายคน

 

เย่โม่ไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าใกล้คนเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงทักทายกับพวกเขาอย่างเรียบง่ายและหลังจากนั้นเขาก็ให้พวกเขาไป

 

หลังจากที่เย่โม่ส่งพวกเขาออกไป เขาก็ปล่อยให้ฮันหยานฝึกการเคลื่อนไหวดาบเล่มที่สอง และเขาก็กลับไปที่บนเทือกเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาไปที่นั่นด้วยดาบบิน

 

 

ทันทีที่เย่โม่ลงถึงพื้น เขาเห็นชายสองคนแอบย่องไปรอบๆ เขาอยู่ที่เชิงเขาแล้ว เย่โม่งงงวย ทุกคนรู้ว่าสถานที่นั้นมีผีสิง ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ตอนกลางดึกอีกละ?

 

เย่โม่ใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เขาจะพบว่ามีคนอื่นอีกสองคนที่อยู่ด้านหลัง ในไม่ช้าเย่โม่ก็รู้ว่าทั้งสองคนนั้นไม่มีการฝึกตนใดๆ และสิ่งที่พวกเขานำมาก็เป็นเครื่องมือในการทำลายหลุมฝังศพ

 

เย่โม่ส่ายหัว นักล่าขุมทรัพย์ทั้งสองนั้นไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แหงๆ

 

แต่เมื่อเย่โม่เห็นคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขา เขาก็ตกใจมากขึ้นนั่นคือผู้หญิงที่เย็นชา เธอกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นในเวลาแบบนี้ หลังจากที่นักล่าขุมทรัพย์สองคนนี่ก็ไม่เคยฝึกตนมาก่อน

 

เย่โม่เข้าไปใกล้พวกเขาในโหมดล่องหนและเฝ้าดูนักล่าขุมทรัพย์ทั้งสอง ขณะที่พวกเขาก้าวเข้าไปในเทือกเขาลึกมากขึ้นอย่างระมัดระวัง

 

เย่โม่สับสนมาก เนื่องจากพวกเขาคุ้นเคยกับการจู่โจมหลุมศพ พวกเขาด็ไม่ควรเลือกช่วงนี้สิ มันเป็นการแข่งที่มีคนจากนิกายลี้ลับมากมาย

 

“เอ๋อหยา ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่นี่เย็นกว่าและน่ากลัวกว่าที่อื่นเนี้ย ฉันไม่สบายใจเลย มันจะไม่มีปัญหาอะไรแน่เหรอ?” ชายร่างเตี้ยตัวสั่นและพูดขึ้น

 

ผู้ชายที่ชื่อว่า เอ๋อหยา สูงกว่าเล็กน้อยและดูฉลาดกว่าผู้ชายร่างเตี้ยกว่ามาก เขาตอบอย่างเงียบๆ ว่า “กังฮู เราทำได้แค่วันนี้เท่านั้น เทือกเขายอดทลายไม่ใช่สถานที่ธรรมดา นายคิดว่าเราเป็นคนเดียวที่รู้เกี่ยวกับสถานที่นี้รึไง? ฉันแน่ใจว่าคนอื่นก็รู้ แต่ทำไมพวกเขาไม่กล้ามาละ? มันเป็นเพราะลมปราณหยินที่นี่แข็งแกร่งเกินไปไง”

 

“วันสุดท้ายนี้ รัฐบาลดูเหมือนว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างอยู่ด้านบนบน ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมาย นายเห็นในระหว่างวันนิ มีประมาณ 10,000 คนที่ด้านบน เมื่อมีผู้คนจำนวนมากลมปราณหยานจะต้องเข้มข้นและลมปราณหยินอ่อนลง นี่คือช็อตที่ดีที่สุดของเรา หลังจากนี้จะไม่มีใครมาที่นี่อีก หลังจากลมปราณหยินรวมตัวกัน เราจะไม่มีโอกาสแล้ว”

 

กังฮูพยักหน้าและพูดอย่างเงียบๆ “ถ้านี่เป็นสุสานลูกหลานของหยวนเทียนกังจริงๆ บางทีเราอาจเปลี่ยนธุรกิจของเราเป็นฮวงจุ้ยหลังจากนี้ก็ได้นะ”

 

เย่โม่อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับเหตุผลของเอ๋อหยา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าลมปราณหยินนั้นไม่เป็นธรรมชาติ มันมีคนทำขึ้นมา

 

เมื่อเย่โม่ได้ยินเกี่ยวกับลูกหลานของหยวนเทียนกัง เขาก็เริ่มสนใจ หยวนเทียนกังเป็นหมอดูและเป็นหลักฮวงจุ้ย บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับเย่โม่ที่นั่น เย่โม่จึงติดตามทั้งสามคน

 

เอ๋อหยาและคนอื่นๆ เดินมาเกือบชั่วโมงแล้ว เมื่อเอ๋อยาถึงเนินเขา เขาก็หยิบอุปกรณ์วัดออกมาแล้วมองไปรอบๆ เป็นเวลานานก่อนจะหยุดที่จุดหนึ่ง

 

“อยู่ที่นี่เหรอ?” กังฮูเห็นสิ่งนี้และถาม

 

“น่าจะอยู่ที่นี่นะ” เอ๋อหยาวางกระเป๋าของเขาและหยิบจอบลั่วหยางออกมา และประกอบมันในไม่กี่วินาที

 

“เอ๋อหยา ฉันรู้สึกกลัวอะ เวลานี้มันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง” กังฮูซุกตัวในคอของเขาและพูดอย่างกังวล

 

เอ๋อหยาสบถออกมา “อย่าบ้าน่า! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำแบบนี้นะ ถ้านี่เป็นหลุมฝังศพของเขาจริงๆ นี่จะเป็นงานสุดท้ายของเรา นายต้องจำไว้ว่าอย่ากลัว ในช่วงเวลาแบบนี้เท่านั้น และฉันมั่นใจว่าเราจะไม่สามารถทำเสร็จได้ในวันนี้ เราจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน”

 

ทั้งสองพูดในขณะที่พวกเขาขุด เย่โม่ต้องยกย่องพวกเขา พวกเขาไม่มีการฝึกตน แต่พวกเขายังคงขุดเร็วมาก พวกเขาร่วมมือกันเป็นอย่างดี

 

เย่โม่สังเกตว่าผู้หญิงเย็นกำลังซ่อนตัวอยู่ข้างๆ แต่เธอไม่ได้แสดงตัวใดๆ เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ บางทีเธออาจต้องการหารายได้จากสองสิ่งนี้หรือเธอสนใจความรู้ที่ซ่อนอยู่ในหลุมฝังศพนี้

 

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา เอ๋อหยาคลานออกมาและวางระเบิดปรมาณู จากนั้นพวกเขาก็วิ่งห่างออกไป 1 เมตรจากที่นั้น

 

มีเสียงระเบิดออกมาจากช่องโหว่เก่าๆ มีใครบางคนอยู่ที่นั่นมานานแล้ว แต่ในไม่ช้าสัมผัสจิตวิญญาณของเย่โม่ก็พบว่าหลุมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา มีร่าง 2 ร่างที่วางอยู่ภายในรูนั้น

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างทั้งสองถูกขังอยู่ที่นี่

 

เอ๋อหยาและกังฮู เอาคบเพลิงออกมาและวิ่งเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นไม่นาน เอ๋อหยาก็ตะโกนด้วยความดีใจ “ฮูจือ ครั้งนี่เราโชคดีแล้วละ มีหลุมจู่โจมที่ขุดไว้แล้ว แต่ยังไม่เปิดเต็มที่ เราต้องขุดอีกหน่อย เชียนเปย 2 คนเสียชีวิตที่นี่ ฮูจือ เอาเท้าลาสองตัวให้ฉันด้วย ในกรณีที่มีอาจปีศาจอยู่ข้างใน”

Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง

Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง

Score 10
Status: Completed

Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง


ตอนที่ 1 – 402 อ่านนิยาย

อ่านต่อข้างล่าง


เมื่อจู่ๆเย่โม่ได้ตื่นขึ้นมาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งต่างๆรอบข้างเปลี่ยนไป เขาถูกส่งมาอยู่โลกสมัยใหม่ที่มีพลังงานจิตวิญญาณเบาบาง เขาไม่มีทางได้พบกับอาจารย์คนสวยจากโลกเดิมได้อีก ที่สำคัญที่สุดคือเขาพบว่าตัวเองได้อยู่ในร่างกายของนายน้อยที่ถูกขับไล่ออกากตระกูลเพราะเหตุผลที่แสนน่าอับอาย...


Options

not work with dark mode
Reset