Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 335

ตอนที่ 335

บทที่ 335
เจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์

 

 

กระแสเพลิงสีแดงสดจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลี่ฟู่เฉิน ขณะที่พลังฉีของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มไปจนถึงระดับที่ 1 ของขอบเขตสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว

 

แต่มันยังไม่เสร็จสิ้น ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์ ตราประทับเทพยุทธ์สวรรค์ลับร่างมังกรที่แท้จริงก็ปรากฏบนหว่างคิ้วของเขา มันปล่อยคลื่นลึกลับบางอย่างซึ่งชี้นำการบ่มเพาะของหลี่ฟู่เฉินและยังคงช่วยให้เขาก้าวไปสู่ความสำเร็จ

 

กรึก กรึก กรึก!

 

อุณหภูมิยังคงเพิ่มขึ้น ทุกสิ่งภายในรัศมีสิบไมล์กลายเป็นโลกสีแดงเข้มที่เต็มไปด้วยพลังฉีอันร้อนแรงมหาศาล พลังงานมาบรรจบกันจากทุกทิศทาง และหลอมรวมเข้ากับร่างกายของหลี่ฟู่เฉิน

 

แต่หลี่ฟู่เฉินรู้สึกได้ว่าพลังสวรรค์และโลกนั้นเบาบางเกินไป เนื่องจากหากเทียบกับยอดเขาโชคชะตาดารานั้นมันไม่ได้ใกล้เคียงกันแม้แต่น้อย

 

นำหินวิญญาณระดับต่ำออกมา หลี่ฟู่เฉินเริ่มใช้พลังฉีวิญญาณจากหินวิญญาณ

 

ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 1 ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 1 ขั้นสูงสุด

 

ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 2 ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 2 ขั้นสูงสุด

 

ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 3

 

พลังฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันจะไปต่อได้เรื่อยๆ

 

ในขณะนี้เอง หินวิญญาณระดับต่ำของหลี่ฟู่เฉินถูกใช้ไปทีละก้อนๆ

 

หากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำได้รับการฝึกฝนตามปกติ พวกเขาต้องใช้เวลาประมาณสามเดือนในการดูดซับหินวิญญาณระดับต่ำจนหมด แต่หลี่ฟู่เฉินกำลังตัดผ่านระดับ และเขากำลังตัดผ่านติดต่อกัน พลังฉีที่เขาต้องการนั้นไร้ขอบเขตยิ่งนัก และไม่ใช่สิ่งที่สามารถเติมเต็มได้ด้วยหินวิญญาณระดับต่ำเพียงหนึ่งหรือสองก้อน

 

เดิมทีโอหยางเหวินเทียนต้องการโยนหินวิญญาณระดับต่ำให้หลี่ฟู่เฉิน แต่หลังจากเห็นว่าหลี่ฟู่เฉินมีอยู่บ้างแล้วเขาก็ไม่ได้รบกวนหลี่ฟู่เฉินแต่อย่างใด เขาตัดสินใจว่ามันไม่น่าจะสายเกินไปแม้ว่าเขาจะรอให้หลี่ฟู่เฉินตัดผ่านจนเสร็จก่อนที่เขาจะมอบหินวิญญาณให้แก่เขา

 

ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 3 ขั้นสูงสุด

 

ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 4

 

บูม!

 

ปัจจุบันร่างกายของหลี่ฟู่เฉินถูกปกคลุมไปด้วยดวงอาทิตย์สีแดงสดขนาดยักษ์ รัศมีที่ส่องประกายและสว่างไสวให้ความรู้สึกราวกับว่ามันกำลังจะแผดเผาสวรรค์ ขณะที่มันเปล่งแสงและความร้อนออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

“ทะลุไปถึงขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 4 ได้ในทีเดียว เขาคู่ควรกับการเป็นราชาดารอันดับ 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาอย่างแท้จริง” โอหยางเหวินเทียนยิ้มกว้าง

 

ยิ่งหลี่ฟู่เฉินทะลุระดับได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เขาเข้าถึงขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้ง่ายขึ้นในอนาคต บางที หลี่ฟู่เฉินอาจเป็นบุคคลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เคยผ่านเข้าสู่ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดในฐานะผู้ที่มีโครงกระดูกระดับ 1 ดาวด้วยซ้ำ

 

เมื่อพลังฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินก้าวหน้าเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 4 ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินก็ลอยขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ราวกับว่าท้องฟ้าเหนือนิกายวารีครามมีดวงอาทิตย์อีกดวงหนึ่ง

 

“ทรงพลังยิ่ง”

 

ในเขตของศิษย์หลัก เขตของศิษย์ชั้นใน และแม้แต่กระทั้งเขตของศิษย์ชั้นนอกที่อยู่ไกลออกไป ทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์ดวงนั้นปรากฏอยู่ด้วยความอิจฉาและความตกใจ

 

ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ควบแน่นเข้าสู่ร่างกายของหลี่ฟู่เฉิน พลังฝึกฝนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของหลี่ฟู่เฉินก็ได้หยุดลงอยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์ และมันก็ไม่ได้อยู่ในสถานะเริ่มต้นของระดับที่ 4 แต่อย่างใด มันอยู่ในระดับกลางของระดับที่ 4

 

ตอนนี้ ศิษย์หลักหลายคนเห็นใบหน้าของหลี่ฟู่เฉินได้อย่างชัดเจน

 

“มันคือหลี่ชิเซียงจริงๆ”

 

“นักสู้ขอบเขตสวรรค์วัย 21 ปี นี่คือบันทึกที่จะไม่มีวันสั่นคลอน!”

 

ในเขตศิษย์หลัก เหล่าศิษย์หลักต่างก็สนทนากันอย่างดุเดือดและตื่นเต้น

 

บรรดาผู้ที่รู้จักหลี่ฟู่เฉินมีการแสดงออกที่ซับซ้อน บางคนมีความสุข บางคนรู้สึกหมดหนทาง ในขณะที่บางคนรู้สึกถึงนับถือ

 

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้รำคาญกับเสียงเหล่านั้นเพราะดวงตาของเขาปิดอยู่อย่างแนบแน่น ในขณะที่เขาเริ่มทำความคุ้นเคยกับพลังภายในร่างกายของเขา

 

ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์แล้ว เขารู้สึกว่าความจุพลังฉีในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ในขณะที่คุณภาพพลังฉีของเขาเติบโตขึ้นหลายเท่า

 

‘การโจมตีปกติในปัจจุบันของข้าน่าจะแข็งแกร่งกว่าการโจมตีเต็มกำลังเมื่อหนึ่งเดือนก่อนโดยที่ไม่ต้องใช้แก่นแท้ดาบทองแดง รูปแบบต่อสู้ทักษะดาบนภากระจ่าง หรือเทคนิคศักดิ์สิทธิ์ฉีบริสุทธ์เก้าโคจรเลย ข้าน่าจะรู้ความแข็งแกร่งของตัวเองหลังจากที่ทดลองดูในตอนที่ใช่ไพ่ตายไปแล้วเท่านั้น’

 

ในทำนองเดียวกันระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์ หากไม่ใช้ไพ่ตายของเขา หลี่ฟู่เฉินก็แข็งแกร่งกว่านักสู้ระดับที่ 4 ขอบเขตสวรรค์โดยเฉลี่ยอยู่ดี

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว เทคนิคเพลิงโลกันต์ของเขาก็อยู่ในขั้นที่ 18 แล้วและทักษะดาบเพลิงโลกันต์ของเขาก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกับการเข้าใจเจตจำนงแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ขอบเขตสวรรคระดับ 4 ทั่วไปจะสามารถเปรียบเทียบได้

 

หลังจากลืมตาขึ้น หลี่ฟู่เฉินก็เห็นโอหยางเหวินเทียนบินอยู่บนท้องฟ้าไม่ไกล

 

“ท่าเจ้านิกาย” หลี่ฟู่เฉินทักทาย

 

โอหยางเหวินเถียนยิ้มและกล่าวว่า “หลี่ฟู่เฉิน เจ้ายอดเยี่ยมกว่าที่ข้าคิดไว้มาก หินวิญญาณเหล่านี้นิกายมอบให้เจ้า”

 

โอหยางเวินเถียนมอบถุงเก็บของให้หลี่ฟู่เฉินซึ่งบรรจุหินวิญญาณระดับต่ำจำนวนหนึ่งร้อยก้อนไว้อยู่ให้ การให้ครั้งนี้มากกว่าคนอื่นๆ ที่มาถึงขอบเขตสวรรค์

 

“ขอบคุณท่านเจ้านิกาย” หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สงวนท่าทีและรับถุงเก็บมา

 

ในระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลี่ฟู่เฉินได้ดูดซับหินวิญญาณระดับต่ำไปเกือบร้อยก้อน ซึ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวด

 

เขาเชื่อว่าจำนวนศิลาวิญญาณที่เจ้านิกายมอบให้นั้นต้องมากอย่างแน่นอน

 

“ตั้งแต่ที่เจ้าได้ตัดผ่านเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์แล้ว ข้าจะทำตามสัญญาที่ข้าทำไว้ก่อนหน้านี้ และบอกเจ้าเกี่ยวกับนิกายต้นกำเนิดดาบล่วงหน้า” หลังจากผลการแข่งขันการจัดอันดับดาราออกมา โอหยางเหวินเทียนเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อหลี่ฟู่เฉินก้าวเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ เขาจะมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับหลี่ฟู่เฉิน ในความเป็นจริงแล้ว เขากำลังวางแผนที่จะมอบนิกายต้นกำเนิดดาบให้กับหลี่ฟู่เฉิน

 

ด้วยความสามารถในการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉิน เขาสมควรจะฝึกฝนนิกายต้นกำเนิดดาบได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็จะสามารถปกป้องตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

 

หลังจากได้ยินโอหยางเหวินเทียนกล่าว หลี่ฟู่เฉินก็แสดงสีหน้าดีใจ

 

เขาต้องการนิกายต้นกำเนิดดาบของนิกายมานานแล้ว

 

แต่เขารู้ว่าเทคนิคลับระดับ 5 ดาวมีความต้องการสูงสำหรับพลังฉีต่อการฝึกฝน ก่อนที่จะมาถึงขอบเขตสวรรค์ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนมัน

 

“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน สองสัปดาห์ต่อจากนี้ เมื่อเจ้าคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว ค่อยมาหาข้า”

 

โอหยางเหวินเทียนไม่ได้ปรารถนาที่จะเห็นหลี่ฟู่เฉินรีบร้อนเพื่อผลลัพธ์ที่ได้มา หลังจากทั้งหมดแล้ว เขาก็เพิ่งตัดผ่านเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ นอกจากนี้ มันก็เป็นการพัฒนาระดับอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาอาจไม่คุ้นเคยกับความแข็งแกร่งใหม่ของเขา

 

“ข้าเข้าใจแล้ว ท่าเจ้านิกาย”

 

หลี่ฟู่เฉินเองก็รู้สึกว่าเขาต้องทำความคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของตัวเองเสียก่อน

 

***

 

หลังจากทะลุมายังขอบเขตสวรรค์แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็ได้มีครอบครองภูเขาเป็นของตัวเอง และในไม่ช้าก็มีการสร้างโถงห้องพักที่สวยงามบนยอดเขา

 

หลังจากใช้เวลาสามวัน หลี่ฟู่เฉินเกือบจะคุ้นเคยกับระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์แล้ว

 

ปัจจุบันเขาอยู่ในสถานะปกติก็เพียงพอแล้วที่ความแข็งแกร่งของเขาจะไปถึงขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 6 หากเขาเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 4 ดาว พลังฉีหยางบริสุทธ์ เขาจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 7 หรือ 8 ได้เลย

 

และนี่เป็นเพียงในสภาวะปกติของเขาโดยที่ไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอก

 

ในหุบเขาอนุสาวรีย์ดาบ…

 

ในวันนี้ มีเจตจำนงแห่งดาบที่มีความร้อนแรงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เมื่อเจตจำนงดาบนี้ระเบิดออก ศิษย์หลักหลายคนและแม้แต่ผู้อาวุโสนิกายชั้นในที่อยู่ท่ามกลางเจตจำนงแห่งดาบทั้งหมดก็ออกจากหุบเขาอนุสาวรีย์ดาบ

 

“นี่คือเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์?” ผู้อาวุโสนิกายชั้นในรู้สึกหวาดกลัว

 

ทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุดนั้นยากมากที่จะเข้าใจ ในบรรดาผู้อาวุโสชั้นในของนิกาย ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นดีเลิศย่อยเท่านั้น มีเพียงผู้อาวุโสชั้นในที่มีระดับการบ่มเพาะสูงๆ เท่านั้นที่สามารถเข้าใจทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุดจนถึงขั้นดีเลิศ สำหรับการเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ ในบรรดาผู้อาวุโสชั้นในของนิกายวารีคราม มีไม่ถึงห้าคนที่ทำได้ ผู้อาวุโสใหญ่จ้าวหวูจินเป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาก็เข้าใจเจตจำนงของดาบวารีครามซึ่งต่างกัน

 

“อย่างที่คาดไว้ ตอนนี้พลังฝึกฝนของข้าอยู่ในขอบเขตสวรรค์ มันลื่นไหลและเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบได้ง่ายกว่ามาก ข้าไม่ต้องลงแรงใดๆ ด้วยซ้ำ”

 

ในส่วนลึกของหุบเขาอนุสาวรีย์ดาบ หลี่ฟู่เฉินคลี่ยิ้มออกมา

 

ด้วยเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์ ความแข็งแกร่งของเขาอาจกล่าวได้ว่าเพิ่มขึ้นตามระดับการฝึกฝนที่เพิ่มขึ้น

 

สามวันต่อมา หลี่ฟู่เฉินยังคงทำความเข้าใจเจตจำนงของดาบสวรรค์ลับต่อไป

 

ตอนนี้พลังฝึกฝนของเขาอยู่ในระดับสวรรค์ การรับรู้ของเขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มันถูกจำกัดด้วยพลังฝึกฝนของเขา ซึ่งตอนนั้นมันอนุญาตให้เขาใช้ประโยชน์จากการรับรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

“เกือบจะถึงเวลาแล้ว ข้าควรไปหาท่านเจ้านิกายได้แล้ว”

 

หลี่ฟู่เฉินมีความคาดหวังอย่างมากต่อเทคนิคลับนิกายต้นกำเนิดดาบ

 

ในความคิดของเขา บทดาบไร้สมบรูณ์อาจจะดีกว่า แต่นิกายต้นกำเนิดดาบดูแพรวพราวและน่าเกรงขามกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องการทราบว่าเทคนิคลับของบทดาบไร้สมบรูณ์สามารถซ้อนทับกับเทคนิคลับนิกายต้นกำเนิดดาบได้หรือไม่ หากสามารถซ้อนกันได้ ความแข็งแกร่งของเขาอาจสามารถเข้าถึงระดับที่น่ากลัวกว่านี้ได้

 

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว แม้คนอื่นๆ อาจจะมีนิกายต้นกำเนิดดาบเหมือนกัน แต่เขาจะมีนิกายต้นกำเนิดดาบที่มีดาบพลังฉีเป็นสีทองแดง และจากทั้งสองที่มันก็อยู่ในระดับที่แตกกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

 

ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ INdyNovel

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset