Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 326

ตอนที่ 326

บทที่ 326

ความสามารถของรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพี

 

 

ในขอบเขตสวรรค์มันอาจจะไม่เหมาะสมหากจะอธิบายแต่ละระดับว่าเป็นโลกที่แตกต่างกัน แต่ความแตกต่างนั้นก็ยิ่งใหญ่มาก

 

ในระหว่างการแข่งขันการจัดอันดับดารา ความสามารถของสือตูเหล่ยถือเป็นระดับเสมือนขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 2 ความสามารถที่หลี่ฟู่เฉินแสดงให้เห็นก็คือระดับเสมือนขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 2 เช่นกัน

 

ตอนนี้ด้วยความก้าวหน้าของเขาในเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง และด้วยทักษะดาบเพลิงโลกันต์ในขั้นดีเลิศ ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินจึงได้ทะลุระดับเสมือนขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 3 ไปแล้ว ซึ่งเป็นก่อนที่เขาจะเปิดใช้งานบทดาบทองแดง

 

ชายชุดดำที่ไล่ตามเขาอยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตสวรรค์ ความสามารถของเขาเพียงพอที่จะสังหารหลี่ฟู่เฉินได้อย่างแน่นอน

 

หนึ่งกำลังหนีในขณะที่อีกหนึ่งกำลังไล่ตาม เพียงไม่นาน พวกเขาก็เดินทางไปไกลกว่า 100 ไมล์

 

“เด็กน้อย ได้เวลาตายแล้ว อสูรทมิฬเฉือน!”

 

ร่างของชายชุดดำปลดปล่อยกระแสพลังฉีสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ซึ่งมันก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นใบมีดแหลมคมหลายอันพุ่งเข้าไปโจมตีหลี่ฟู่เฉินอย่างรุนแรง

 

“เผาผลาญคานสวรรค์!”

 

หลี่ฟู่เฉินหันกลับมาและฟาดดาบออกไปเพื่อตอบโต้การโจมตีที่ดุดันของชายชุดดำ

 

ครึก!

 

ราวกับดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก แสงดาบแพรวพราวส่องกระจ่างอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด ซึ่งมันก็มาพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงไม่รู้จบ

 

แคร็ก!

 

ใบมีดคมสีดำและแสงดาบแพรวพราวเข้าปะทะกัน แสงดาบของหลี่ฟู่เฉินถูกหักล้างออกไปและส่วนที่เหลือของพลังนั้น ส่งผลทำให้หลี่ฟู่เฉินลอยออกไปไกล

 

“เขาสมคู่ควรกับการเป็นนักสู้ระดับที่ 5 ขอบเขตสวรรค์”

 

หลี่ฟู่เฉินสวมชุดเกราะหนังสัตว์อสูรระดับ 5 ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

 

“ความสามารถของเขาแข็งแกร่งมาก และเกือบจะไปถึงระดับเสมือนขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 4” ชายชุดดำขมวดคิ้ว และระเบิดพลังฉีออกมาทันทีพร้อมๆ กับเจตนาสังหาร ศักยภาพโดยกำเนิดของคู่ต่อสู้เขามีความสามารถมาก และเขาก็สมควรเป็นราชาดาราที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงสองสามร้อยปีที่ผ่านมาของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ถ้าเขาสามารถสังหารอัจฉริยะเช่นนี้ได้ มันจะเพิ่มความสามารถของเขาได้มากอย่างแน่นอน

 

“เฉือนแยกวิญญาณ!”

 

เหยียดมือขวาของเขาตรงออกไปประดุจกระบี่ ร่างของชายในชุดดำก็ทยานตัวไปพร้อมกับกระแสพลังฉีสีดำ มือของเขากลายเป็นใบมีดคมสีดำที่ปกคลุมไปด้วยรูปแบบปีศาจ

 

ฉึก!

 

ในขณะที่มือขวาของเขากำลงฟันลงมันก็ดูราวกับว่ามันกำลังจะเปิดช่องว่างได้ มันเฉือนเข้าไปที่หลี่ฟู่เฉิน

 

พลังของการเฉือนนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 5 ก็ไม่สามารถหลบได้ ชายชุดดำไม่เชื่อว่าหลี่ฟู่เฉินจะสามารถหลบหนีไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

‘ดูเหมือนว่าข้าจะต้องใช้พลังของบทดาบทองแดงแล้วสินะ’

 

ในช่วงเวลานี้อหลี่ฟู่เฉินใช้พลังทั้งหมดออกมา และตอนนี้ 60% ของกระดูกเขาถูกประทับด้วยรูปแบบดาบทองแดงทำให้เหลือเพียง 40% เท่านั้นที่เป็นรูปแบบดาบเหล็กดำ

 

หากไม่ได้เป็นเช่นนี้ ความสามารถที่หลี่ฟู่เฉินเปิดเผยออกมาก็จะยิ่งสูงขึ้น

 

แต่ในทางตรงกันข้าม นั้นก็หมายความว่าหลี่ฟู่เฉินจะมีความสามารถที่ซ่อนเร้นสูงกว่าความสามารถที่เปิดเผยออกมา

 

ภายในร่างกายของเขารูปแบบดาบทองแดงสว่างขึ้นและพลังฉีหยางบริสุทธิ์จำนวนมากก็ถูกเปลี่ยนเป็นพลังฉีดาบทองแดงซึ่งได้ไหลไปตามเส้นชีพจรและเข้าสู่ดาบแสงดำ ดาบแสงดำซึ่งแต่เดิมเป็นสีเงินถูกย้อมด้วยชั้นสีทองแดงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นดาบทองแดง

 

ในตอนนี้ หลี่ฟู่เฉินไม่จำเป็นต้องปกปิดความสามารถของเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องผสมพลังกับพลังฉีดาบเหล็กดำอีกต่อไป

 

“เพลิงร้อนสุดขีด”

 

ดาบแสงสีดำทองแดงเป็นถูกกวัดแกว่งออกไป ซึ่งมันก็พุ่งออกไปอย่างรุนแรงด้วยดาบทองแดงที่ลุกเป็นไฟ ดาบเล่มนี้รวดเร็วอย่างไม่อาจพรรณนาได้ราวกับว่ามันกลายเป็นแสงยามรุ่งอรุณ มื่อถึงเวลาที่ปรากฏ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว

 

“อันตราย”

 

ผมของชายที่สวมชุดดำลอยอยู่เริ่มลุกชัน ขณะที่เขารู้สึกได้ถึงสภาวะของความตายในขณะนี้เอง

 

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิด เมื่อดาบเล่มนี้ถูกใช้ออก มันก็เป็นช่วงเวลาแห่งความตายของเขา

 

บทดาบทองแดงน่ากลัวแค่ไหน? แก่นแท้ดาบทองแดงที่สมบูรณ์เป็นเทคนิคลับระดับ 6 ดาวชั้นยอด และเมื่อถูกใช้งซ้อนทับกับพลังฉีหยางบริสุทธิ์ มันก็อยู่ในระดับของเทคนิคลับระดับ 7 ดาวแล้วอย่างแน่นอน

 

หลี่ฟู่เฉินอาจจะตรึงกระดูกของเขาด้วยรูปแบบดาบทองแดงเพียงแค่ 60% แต่มันเกือบจะอยู่ในระดับของเทคนิคลับระดับ 5 ดาวแล้ว และเมื่อเสริมด้วยพลังฉีหยางบรริสุทธิ์มันก็ไม่ด้อยไปกว่า เทคนิคลับระดับ 6 ดาว

 

แนวคิดของเทคนิคลับระดับ 6 ดาวคืออะไร? มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านิกายต้นกำเนิดดาบหลายเท่านัก

 

เมื่อดาบถูกใช้เพื่อสังหารชายชุดดำ เขาก็เลยไม่มีเวลาแม้แต่จะขยับนิ้ว เกราะพลังฉีของเขาถูกเจาะก่อนที่หน้าอกของเขาจะถูกเจาะทะลุ ในช่วงเวลาต่อมา มีเปลวไฟสีทองแดงระเบิดออกมาซึ่งทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นขี้เถ้า แม้แต่ข้าวของของชายชุดดำก็ยังกลายเป็นขี้เถ้า ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าน่าเสียดาย

 

หลังจากสังหารชายชุดดำแล้ว หลี่ฟู่เฉินก็กลับไปที่สนามรบ

 

มีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ครั้งใหญ่ในสนามรบ หน้าท้องของหลินคุนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกรงเล็บของชายสวมหน้ากากแมว

 

เห็นได้ชัดว่าการตายอย่างต่อเนื่องของผู้ฝึกฝนเต๋าปีศาจทำให้ชายที่สวมหน้ากากแมวไม่พอใจอย่างมาก

 

ในขณะที่ฉินหมิงและซูชานเองไม่เพียงแต่กังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ พวกเขายังกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลี่ฟู่เฉินอีกด้วย ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาอยู่ในสภาพที่เลวร้ายและเกือบจะถูกฆ่าโดยชายสวมหน้ากากตะขาบ พวกเขาอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช

 

“มีคนกลับมาแล้ว”

 

ในความมืดมีร่างบินผ่านท้องฟ้า ขณะที่ทุกคนมองไป

 

“นั่นคือหลี่ฟู่เฉิน” ฉินหมิงและซูชานทั้งดีใจและตกใจในเวลาเดียวกัน

 

ถ้าหลี่ฟู่เฉินกลับมาและชายในชุดดำไม่ได้กลับมา เช่นนั้นก็อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนแล้ว

 

‘บางทีเขาอาจมีสิ่งของช่วยชีวิตที่ทรงพลัง ซึ่งสมควรถูกมอบให้โดยผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก’ ผู้อาวุโสในนิกายชั้นในหลายคนกำลังคิดในใจ

 

เป็นไปไม่ได้ที่หลี่ฟู่เฉินจะไม่ได้รับสิ่งใดจากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก เนื่องจากหลี่ฟู่เฉินเป็นศิษย์หลักส่วนตัวของเขา

 

ฉินหมิงหัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าเรารู้ว่าเด็กคนนั้นมีสิ่งของช่วยชีวิตที่ทรงพลังขนาดนี้ เราก็คงไม่กังวลมากนัก”

 

ซูชานแสดงความคิดเห็นว่า “บางสิ่งเกิดขึ้นได้เสมอ เนื่องจากสิ่งของช่วยชีวิตก็ต้องใช้เวลาในการเปิดใช้งานเช่นกัน”

 

“เจ้าสองคนทำเหมือนกับข้าเหมือนคนไม่มีตัวตนหรือไม่” ชายสวมหน้ากากตะขาบใช้กระบวนท่าสังหารติดต่อกัน ซึ่งจากสิ่งทำให้ฉินหมิงและซูชางไม่สามารถต่อสู้กลับได้

 

หากพวกเขาสองคนถูกส่งออกไปเพื่อปกป้องหลี่ฟู่เฉินนั่นก็หมายความว่าพวกเขามีความสามารถที่เพียงพอเช่นกัน

 

ความสามารถของพวกเขาขึ้นอยู่กับทักษะโจมตีประสานกันของพวกเขา และเมื่อทั้งสองคนใช้มันร่วมกันความสามารถของพวกเขาก็จะสามารถสู้กับนักสู้ระดับที่ 7 หรือ 8 ขอบเขตสวรรค์ได้เลย พวกเขาอาจจะไม่ชนะกับชายสวมหน้ากากตะขาบ แต่พวกเขาก็สามารถทนได้เป็นเวลานาน

 

เมื่อเขากลับมาที่สนามรบหลี่ฟู่เฉินก็จัดการชายชุดดำและสังหารอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะนี้เอง ผู้อาวุโสชั้นในที่กำลังพัวพันอยู่กับชายชุดดำ ถอนตัวจากการต่อสู้เพื่อไปช่วยเหลือผู้อื่น

 

เขาไม่กังวลว่าหลี่ฟู่เฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ของชายชุดดำคนนี้หรือไม่ เพราะชายคนนี้อยู่ในระดับล่างๆ ของขอบเขตสวรรค์เท่านั้น

 

ด้วยดาบเพียงไม่ถึงสิบเล่ม หลี่ฟู่เฉินก็ได้สังหารชายชุดดำผู้นี้ซึ่งอยู่ในระดับที่ 2 ของขอบเขตสวรรค์

 

ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกฝนเต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์จำนวนสิบห้าคนจึงตายไปเหลือเพียงแค่เก้าคนเท่านั้น ในแง่ของจำนวนผู้ฝึกตนเต๋าปีศาจกำลังเสียเปรียบอย่างแน่นอน

 

“ผู้อาวุโสหลินให้ข้าช่วยเจ้า”

 

ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามสองคนที่อยู่ในระดับ 6 ของขอบเขตสวรรค์ร่วมมือกันเพื่อสังหารชายสวมหน้ากากแมว

 

เมื่อทั้งสามคนประสานงานร่วมกัน ชายที่สวมหน้ากากแมวก็เสียศูนย์ไปชั่วขณะ

 

“เนื่องจากพวกเจ้าทุกคนต่างเรียกร้องหาความตาย ดังนั้นก็อย่าได้โทษข้าเลย”

 

ชายสวมหน้ากากแมวหยิบไข่มุกสีเลือดออกมา กลุ่มพลังเลือดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขาก่อนที่ชายสวมหน้ากากแมวจะตะโกนออกมา “แรงดันโลหิตเทพ!”

 

ฟึบ!

 

กระแสเลือดพุ่งออกมาและเจาะเข้าไปที่ไหล่ของหลินคุนทำให้เลือดและเนื้อเหี่ยวแห้ง

 

“ท่าไม่ดีแล้ว นี่คือพลังโลหิต” สีหน้าของหลินคุนซีดลง ในขณะที่เขาแจ้งผู้อาวุโสอีกสองคนอย่างรวดเร็ว

 

พลังงานเต๋าโลหิตของเป็นสิ่งที่เผด็จการอย่างยิ่ง เนื่องจากมันเป็นพลังงานที่ผลิตจากแก่นแท้ของเลือด

 

เทคนิคการสูบเลือดทั้งหมดเป็นเทคนิคเต๋าโลหิต

 

“สายไปแล้ว”

 

ชายที่สวมหน้ากากแมวแสดงรอยยิ้มที่น่าขนลุกออกมา ในขณะที่ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยสีโลหิต ซึ่งส่งให้หลินคุนและผู้อาวุโสอีกสองคนในนิกายบินถอยออกไปในทันที

 

เว้นแต่จำเป็น เขาก็ไม่อยากที่จะใช้พลังของมวลไข่มุกโลหิตมากมายนัก ทุกครั้งที่เขาใช้มัน มันจะสร้างภาระให้กับร่างกายของเขา หลังจากทั้งหมดแล้ว

 

แม้แต่กระทั้งมวลไข่มุกโลหิตระดับต่ำที่สุดก็จำเป็นต้องควบแน่นด้วยเลือดสดของนักสู้กว่า 10,000 คน พลังเต๋าโลหิตที่มีอยู่ภายในนั้นแตกต่างกันและยังเผด็จการยิ่ง นอกจากนี้ มันยังผสมกับสติที่สับสนอลหม่านและวุ่นวายอีกตำนวนนับไม่ถ้วน

 

การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา และสถานการณ์ที่อยู่ผู้อาวุโสหลินคุนเผชิญอยู่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของเขา

 

“ข้าไม่สามารถใช้บทดาบทองแดงต่อหน้าผู้คนได้ แต่ข้าสามารถใช้พลังของรูปแบบต่อสู้ได้”

 

ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกได้สลักรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีไว้บนข้อมือขวาของหลี่ฟู่เฉินซึ่งหลี่ฟู่เฉินไม่เคยใช้มาก่อน มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ตอนนี้

 

เมื่อความคิดเกิดขึ้นในใจของเขา หลี่ฟู่เฉินก็โคจรดาบพลังฉีเหล็กดำซึ่งเป็นกระบวนท่าต่อสู้มาที่ข้อมือขวาของเขา

 

นี่คือรูปแบบต่อสู้ทักษะดาบและรูปแบบก็ดูเหมือนมังกร เพียงแวบเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกถึงความรุนแรงได้

 

ในขณะที่พลังฉีดาบเหล็กดำพุ่งเข้าสู่รูปแบบต่อสู้ ทันใดนั้นเองรูปดาบก็เปล่งแสงที่รุนแรงออกมาและมีหมอกเกิดขึ้น

 

เจตจำนงเข้ามาในจิตใจของเขา

 

“ทักษะดาบนภากระจ่าง!”

 

ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ…

 

หลี่ฟู่เฉินตวัดดาบแสงดำออกไปโดยไม่ตั้งใจ ในช่วงเวลาถัดมาแสงดาบนับไม่ถ้วนก็เปล่งประกายออกมา ก่อนที่มันจะระเบิดออกมาด้วยความงดงาม
ภายในอากาศมีพื้นที่ที่มองไม่เห็นอยู่

 

พื้นที่นั้นห่อหุ้มบุคคลในชุดดำสองคนที่อยู่ในระดับที่ 3 และ 4 ของขอบเขตสวรรค์

 

ปิสส ปิสส ปิสส…

 

ในขณะที่แสงดาบส่องประกายออกมา ชายชุดดำทั้งสองก็ถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ ทันที

 

“นี่คือพลังของทักษะดาบขอบเขตปฐพีงั้นหรอ?” หลี่ฟู่เฉินตะลึงเล็กน้อย

 

พลังของดาบนี้เพียงดาบเดียวอาจเทียบไม่ได้กับบทดาบทองแดงเขาเปิดใช้งาน แต่มันก็เกือบจะเท่ากันและเพียงพอที่จะสังหารนักสู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับที่ 5 ของขอบเขตสวรรค์ได้ในทันที

 

แต่การฝึกฝนในปัจจุบันของเขาอยู่ในระดับสูงสุดของระดับที่ 8 ขอบเขตปฐพีเท่านั้น

 

แน่นอนว่าพลังส่วนใหญ่ได้รับการเสริมพลังจากแก่นแท้ดาบเหล็กดำ ไม่เช่นนั้นแล้วพลังมันอาจจะลดลงไปหนึ่งขั้น

 

ดาบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ฟู่เฉินตกตะลึงเท่านั้น แต่มันก็ยังทำให้คนอื่นๆ ตกตะลึงด้วยเช่นกัน

 

ในที่สุดคนเหล่านี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลี่ฟู่เฉินถึงสามารถสังหารชายชุดดำระดับที่ 5 ขอบเขตสวรรค์ที่ไล่ตามหลี่ฟู่เฉินไปก่อนหน้านี้ได้

 

เป็นเพราะผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกได้ประทับตรารูปแบบต่อสู้ไว้บนตัวหลี่ฟู่เฉิน และมันก็ยังเป็นรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพี

 

รูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีเทียบเท่ากับทักษะต่อสู้ระดับปฐพี แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะสามารถนำความสามารถออกมาใช้ได้เพียงบางส่วน แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะเตร็ดเตร่ไปทั่วสนามรบ

 

เหตุผลที่พวกเขาสามารถระบุได้ว่ามันเป็นรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีเป็นเพราะดาบที่หลี่ฟู่เฉินใช้สังหารก่อนหน้านี้ได้ก้าวข้ามระดับของทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุดไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีพลังของพื้นที่และนิกายวารีครามก็ไม่มีทักษะดาบในระดับดังกล่าว

 

“เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะแห่งสวรรค์อย่างแท้จริง”

 

ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามต่างก็ตกใจและอิจฉา

 

หากพวกเขามีรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีที่ตรึงอยู่บนร่างกายของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ยงคงกระพันในขอบเขตสวรรค์ได้ แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาก็จน่าะมีความสามารถของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุด

 

หลังจากสังหารบุคคลในชุดดำสองคนไปด้วยการฟาดดาบเพียงครั้งเดียว มันก็เหลือชายชุดดำเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้น

 

ทันทีหลังจากนั้น หลี่ฟู่เฉินก็ได้สังหารชายชุดดำอีกสองคนลงไป ตอนนี้จึงเหลือเพียงห้าคนเท่านั้น

 

“ทุกคนไปช่วยผู้อาวุโสหลินคุน” หลี่ฟู่เฉินเสนอ

 

“ได้เลย”

 

นอกเหนือจากชายสวมหน้ากากแมวและชายสวมหน้ากากตะขาบแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก เกี่ยวกับบุคคลในชุดดำอีกสามคน หลี่ฟู่เฉินเชื่อว่าเขาสมควรจัดการกับพวกเขาได้ ผู้อาวุโสชั้นในทั้งหมดและนอกเหนือจากนกยักษ์เคียวสยองแล้ว ต่างก็พุ่งเข้าหาชายที่สวมหน้ากากแมว

 

ชายสวมหน้ากากแมวมีสีหน้าแย่มาก ก่อนที่เขาจะมาที่เมืองเมฆหมอก เขาก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าแผนของเขาจะถูกทำลายลงโดยเด็กน้อยที่อยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพี แทนที่จะเป็นนักสู้ในขอบเขตสวรรค์ มันช่างน่าตลกเสียจริง

 

“เพราะพวกเจ้าทุกคนต้องการที่จะตาย เช่นนั้นก็จงตายเสียเถอะ!”

 

ชายที่สวมหน้ากากแมวนั้นไร้ความกลัว ในขณะที่เขาระเบิดพลังแห่งโลหิตออกมาโดยไม่มีการจำกัดพลังใดๆ เพื่อต่อสู้กับศัตรูหลายคนด้วยตัวเอง

 

“เขาทรงพลังอย่างแท้จริง” หลี่ฟู่เฉินหันสายตาและมองไปยังบุคคลในชุดดำทั้งสาม

 

ชายชุดดำทั้งสามรวมตัวกันและส่งข้อความถึงกันและกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนที่จะกำจัดหลี่ฟู่เฉิน และช่วยเหลือชายสวมหน้ากากแมวในภายหลัง

 

 

ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ INdyNovel

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset