องครักษ์เสื้อแพร 952 กำลังที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ตอนที่ 952 กำลังที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ข่าวต่างๆ จากทุกสายของชาวเมืองหนิงเซี่ยมายังสำนักองครักษ์เสื้อแพรยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ข่าวที่หวังทงได้มานับวันก็ยิ่งครบรอบด้าน

ทุกคนล้วนรู้ตระกูลปัวไม่มั่นคง แต่อย่างไรก็ไม่อยากฉีกหน้าเป็นปรปักษ์เปิดเผย เรื่องที่ว่าคนส่วนใหญ่ในเมืองจะแสดงจุดยืนอันใดย่อมไม่มี หวังทงแสดงกำลังไปแล้ว คนที่คิดแสดงความเป็นมิตรก็มาเยือนถึงที่

หวังทงเรียกผู้บัญชาการกับผู้ว่าการมณฑลเข้าพบได้วันเดียว ทั้งเมืองคนที่มีหน้ามีตาล้วนพากันมาแสดงการนอบน้อมพร้อมให้ข่าวต่างๆ

หวังทงรู้สึกผิดหวังและเริ่มเบื่อ ตามหลักแล้วแผนการร้ายควรมีอะไรที่ตนเองวิเคราะห์ไม่ถึง คิดไม่ถึงว่ากลับไม่มีอันใดในกอไผ่ ต่างกับที่ตนคิดไว้ไม่มาก

จุดมุ่งหมายตระกูลปัวนี้ทำให้หวังทงรู้สึกผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็รู้สึกเบื่อไปด้วย วุ่นวายกันมาตั้งนาน ผู้บัญชาการกับผู้ว่าการมณฑลล้วนตกใจจนหัวหดเช่นนั้น กลับเพื่อแค่อยากเป็นผู้บัญชาการ และยังต้องมาให้หลิวตงหยางเปิดทางให้อีก สถานการณ์นี้เล็กเสียเหลือเกิน

“ผู้บัญชาการ เถ้าแก่กาวเซิ่งเหอขอพบ!”

นายกองพันองครักษ์เสื้อแพรหลิวจี๋หลินตอนนี้มีหน้าที่คอยติดตาม เขาตะโกนแจ้ง กาวเซิ่งเหอผู้นี้เป็นพ่อค้าใหญ่ซานซีคนหนึ่ง ว่ากันว่าเบื้องหลังมีตระกูลหม่ากับจวนอ๋องไต้หนุนหลัง เป็นพ่อค้าคนสำคัญของเมืองกุยฮว่าเฉิง พวกเขามีสาขาอยู่หนิงเซี่ย หวังทงเชิญให้เข้ามา

พอหลิวจี๋หลินส่งกาวเซิ่งเหออกไป หวังทงก็เปลี่ยนเป็นชุดขุนนางแล้ว หลิวจี๋หลินยังสังเกตเห็นว่า ทหารติดตามในลานหน้าก็ล้วนสวมเกราะ ล้วนเป็นเกราะหู่เวย และยังมีอาวุธพร้อม

“ไปเชิญพ่อลูกตระกูลปัว แล้วก็หลิวตงหยางมา ให้พวกเขาไปที่ประตูตะวันออก บอกว่าข้าต้องการพบพวกเขา”

หวังทงใช้คำว่า เชิญ ก็แสดงว่าไม่ใช้อาวุธจับกุม หลิวจี๋หลินรีบรับคำไปจัดการ หวังทงตรวจสอบปืนสั้นพก กล่าวว่า

“ให้ซานเปียวนำกำลังพันนายไปรักษาความสงบในเมือง ไม่มีคำสั่ง ห้ามเคลื่อนไหวพลการ!”

หม่าซานเปียวกับเฉินต้าเหอล้วนถูกส่งออกไปคุมกำลัง มีพลทหารรีบรับคำสั่งไปแจ้งต่อ หวังทงคิดว่าตนเองต้องอยู่เสียเวลาที่เมืองหนิงเซี่ยหลายเดือน ตอนนี้ดูแล้วไม่ต้องใช้เวลานานเพียงนั้นแล้ว เดือนสามก็น่าจะกลับถึงเมืองหลวงไปดูบุตรชายตนได้แล้ว หวังเซี่ย  ชื่อนี้ฟังแล้วแปลกอยู่ แต่คิดแล้วก็รู้สึกสนิทชิดเชื้อ หวังทงเดิมคิดว่าตนเองสามารถตั้งใจทำงานได้ แต่คิดไม่ถึงตกดึกก็มักจะคิดถึง บางทีอาจเป็นเพราะเพิ่งเป็นบิดาครั้งแรกก็เป็นได้

วันนี้เป็นวันที่ 8 เดือนหนึ่งปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 15 เมืองหนิงเซี่ยกลับครึกครื้นยิ่งกว่าวันที่ 1-2 เดือนหนึ่งเสียอีก ตามข่าวที่องครักษ์เสื้อแพรสืบมาได้ คหบดีหลายตระกูลล้วนรู้สึกว่าผ่อนคลายอิสระกว่าวันที่ 1-2 เสียอีก ดังนั้นจึงจัดงานรื่นเริงกัน

อันนี้ก็เข้าใจได้ ที่ทุกคนกังวลกันมานาน เกรงว่าจะเกิดเรื่องสู้รบ ตอนนี้หวังทงมาแล้ว เวลาสั้นๆ ก็ปราบปรามสถานการณ์เรียบร้อย ทุกคนแน่นอนต้องฉลองปีใหม่ชดเชย

อากาศสดชื่นแจ่มใสมาก ทางตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีลมพัดแรง ยืนบนที่สูงก็สามารถมองไปได้ไกล เป็นความรู้สึกที่ไม่เลว

หลิวจี๋หลินไม่นานก็กลับมา พ่อลูกตระกูลปัวกับหลิวตงหยางกำลังออกเดินทางไปยังประตูตะวันออก ในสถานการณ์นี้ พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงขั้นไม่กล้าแม้ปฏิเสธ เพื่อไม่ให้หวังทงหาเหตุ ตอนหลิวจี๋หลินกลับมา ทหารที่ไปแจ้งหม่าซานเปียวกับเฉินต้าเหอก็กลับมาเช่นกัน

ด้านนอกจูงม้ามา หวังทงโดดขึ้นม้า ทหารติดตามร้อยกว่านายขึ้นม้าตาม องครักษ์เสื้อแพรอีก 400 กว่า นอกจาก 50 นายขี่ม้า ที่เหลือก็เดินแถวเป็นขบวนตามมา

กองกำลังใหญ่เช่นนี้เดินยิ่งใหญ่ไปตามท้องถนนเมืองหนิงเซี่ย ก็ทำให้เกิดเสียงดังไปทั่ว องครักษ์เสื้อแพรไม่เท่าไร ชุดมัจฉาเวหาขององครักษ์เสื้อแพรเมืองหนิงเซี่ยใหม่ๆ มีไม่กี่ชุด ผู้ใดก็ขี้เกียจจะมอง แต่ทหารหวังทงร้อยกว่านายในชุดเกราะทุกคน อาวุธวาววับ แสดงถึงบารมีเกรียงไกรแท้จริง

คนบนท้องถนนยังรู้ว่า ทหารติดตามติ้งเป่ยโหว ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรใต้เท้าหวังล้วนมีความสามารถ ทหารติดตามตระกูลปัวหนิงเซี่ยเหิมเกริมมานาน ใช่ว่าโดนจัดเสียเละเทะไปหมดหรือ นี่ไม่เพียงแค่ความสามารถ ดูการแต่งกายทหารติดตาม ชุดเกราะนี้เกรงว่าตระกูลปัวคงมีคนสวมได้แค่ 10 กว่าคนเท่านั้น

เห็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็รู้ตระกูลปัวไม่อาจลุกขึ้นอีกแล้ว ตามพวกหวังทงไปยังประตูตะวันออก เมืองหนิงเซี่ยยิ่งคึกคักขึ้น

หวังทงมาถึงประตูตะวันออก พ่อลูกตระกูลปัวกับหลิวตงหยางและทหารสิบกว่านายก็กำลังรออยู่อย่างนอบน้อม สถานการณ์เช่นนี้หากยังไม่ยอมรับจะสู้ต่อก็คงเป็นการนำภัยมาสู่ตัวเองเป็นแน่  ไม่สู้ทำตามธรรมเนียมขุนนาง นี่เป็นสิ่งที่หวังทงวิเคราะห์ ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้ว เช่นนั้นตระกูลปัวก็ย่อมต้องเห็นแก่ผลประโยชน์ตนไว้ก่อน แอ่งน้ำฮัวหม่าไม่อาจสูญเสียไป ที่นั่นเป็นพื้นที่แห่งอำนาจวาสนาของตระกูลปัว อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยหลุดมือไปได้ ดังนั้นจึงต้องส่งกำลังส่วนใหญ่ไป พอหวังทงแสดงสถานะจริงแล้ว ตระกูลปัวที่กำลังน้อยก็ได้แต่กลายเป็นก้อนเนื้อปลารอสับบนเขียง

“ข้าน้อยคารวะท่านโหว!”

พ่อลูกตระกูลปัวคำนับ หลิวตงหยางก็คุกเข่าลงโขกศีรษะ พวกเขาเห็นด้านหลังหวังทงเป็นทหารติดอาวุธ แต่มาถึงตอนนี้ ย่อมไม่มีอันใดน่าตกใจอีก

“ตามข้าขึ้นกำแพงเมือง!”

หวังทงพยักหน้า กล่าวน้ำเสียงเรียบ ทั้งสามคนรับคำ รีบตามขึ้นไป เดินไปได้สองก้าว ก็มีพวกหานกังรั้งไว้อย่างไม่เกรงใจกล่าวว่า

“ใต้เท้าทุกท่านปลดอาวุธ”

สามคนอึ้งไป ปัวไป้ถอนหายใจ พยักหน้าปลดดาบประจำกาย ปัวเฉิงเอินกับหลิวตงหยางล้วนทำตาม สามคนยังสังเกตว่าคนติดตามถูกกันออกไปแล้ว กำลังจะเดินตามต่อไป หลิวตงหยางส่ายหน้า ยังดึงดาบสั้นจากรองเท้าตนออกมาส่งให้อีกฝ่าย เพราะเขาสังเกตเห็นว่าทหารหวังทงตอนรับดาบประจำกายเขาไป เอาแต่จ้องมองรองเท้าสองข้างของเขา ลูกไม้พวกนี้ไม่เล่นดีกว่า จะได้ไม่นำภัยมาสู่ตนเอง

บนกำแพงเมืองเดิมทีเป็นหอมองไกลที่สำคัญและที่เก็บเสบียงบางส่วนเฉพาะหน้า หลายคนขึ้นไปก็เห็นว่ามีกระโจมสร้างจากพรม ด้านในมีเตาไฟและสุราอาหารพร้อม หวังทงเข้าไปนั่งตำแหน่งกลาง โบกมือกล่าวว่า

“ทุกคนนั่ง!”

ในห้องถึงกับแม้แต่ทหารติดตามล้วนอายุมากกว่าหวังทง ปัวไป้ยิ่งผมขาวโพลน แต่หวังทงแสดงบารมีเช่นนี้ก็ไม่รู้สึกแปลก ทุกคนล้วนรู้สึกว่าก็ควรเป็นเช่นนี้ คนที่สถานะสูงเช่นนี้ ก็ควรมีลักษณะท่าทางและบารมีเช่นนี้

ทุกคนพากันนั่งลงอย่างนอบน้อม มีคนข้างๆ ย่างเนื้อส่งมาให้ สุราอาหารชั้นดี หวังทงกินไปสองสามคำ สามคนตระกูลปัวสบตากัน ปัวไป้กระแอมไอ กำลังจะลุกขึ้นกล่าว หวังทงยกมือห้าม หันไปถามขึ้น

“ไปดูว่าอีกนานเท่าไรจะมาถึง!”

ทหารติดตามด้านหลังรับคำวิ่งออกไป หวังทงกำลังบรรจงหั่นเนื้อย่าง จากนั้นจิ้มกับผักดองสับส่งเข้าปาก วิธีกินแปลกๆ  แต่ทว่าไม่ได้มันเลี่ยน หวังทงชอบมาก

พวกที่นั่งอยู่ ต่างไม่มีกระจิตกระใจสนใจสถานการณ์แปลก ๆ พวกนี้  สามคนตระกูลปัวเริ่มนั่งไม่ติด แต่มองเห็นทหารติดตามหวังทงกับหวังทงในชุดเกราะน่าเกรงขามแล้ว ก็ได้แต่ทนนั่งเงียบๆ ต่อไป

“ท่านโหว อีกราวหนึ่งก้านธูป!”

ทหารติดตามกลับมา รายงานด้วยเสียงไม่เบานัก หวังทงพยักหน้ากล่าวว่า

“ทุกท่านตามข้ามา!”

ตะวันตกเฉียงเหนือเดือนหนึ่ง ยืนบนกำแพงเมืองลมพัดแรง ไม่รู้สึกสบายนัก แต่ทว่าทุกคนล้วนมีประสบการณ์มา ก็พอทนได้ แต่ไม่รู้ว่ารออะไร

เวลาหนึ่งก้านธูปจะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็สั้น ค่อยๆ เห็นทางตะวันออกมีทหารม้ากับขบวนใหญ่เริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้  ขุนพลบนกำแพงเมืองเริ่มลนลาน ราษฎรด้านล่างก็พากันตกใจรีบวิ่งหนีเข้าเมือง แต่ก็ยังมีขุนพลทหารบนกำแพงตะโกนให้ทุกคนอยู่ในระเบียบ ไม่ให้ปิดประตูเมือง บอกว่าเป็นคนกันเอง

ความตื่นตระหนกค่อยๆ สงบลง ทหารม้ากับขบวนใหญ่ไกลๆ มาถึงกำแพงเมืองแล้ว กองกำลังพวกนี้ไม่เข้าเมือง เพียงแค่หยุดตั้งค่ายอยู่นอกเมือง

มีทหารม้าราว 2,000 พร้อมรถใหญ่ราว 200 ทหารราบเกือบ 2,000 หนิงเซี่ยบนทุ่งหญ้ารู้ความได้เร็ว พอเห็นรถใหญ่ยังมีพวกติดอาวุธ พวกเขาก็รู้ว่าคนเบื้องหน้าติดอาวุธนี้ แปดเก้าส่วนย่อมเป็นกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิง

“ใต้เท้าปัว ใต้เท้าปัวน้อย ที่แอ่งน้ำฮัวหม่าข้ายังมีทหารอีกมากกว่านี้สามเท่า แต่คิดว่าทหารในสังกัดตระกูลปัวคงไม่กลัว”

จะไม่กลัวได้อย่างไร ทหารม้าติดอาวุธจากเมืองกุยฮว่าเฉิงเหนือกว่าตระกูลปัว ประสบการณ์การต่อสู้ไม่เป็นรอง และเห็นชาวฮั่นบนหลังม้าเหล่านี้  ปัวไป้ก็รู้แล้วว่า แอ่งน้ำฮัวหม่าแปดเก้าส่วนเป็นทหารม้าชนเผ่ารอบนอกเมืองกุยฮว่าเฉิง เป็นทหารกล้าของแต่ละชนเผ่า เก่งกล้าว่าทหารตระกูลปัว

ปัวไป้ถอนหายใจยาว ไม่ส่งเสียง คุกเข่าลงทันที ปัวเฉิงเอินก็คุกเข่าตาม ยังไม่ทันได้กล่าวอันใด หวังทงก็กล่าวว่า

“ที่พวกเจ้าคิดทำ ตอนนี้ยังจะทำไหม?”

“ท่านโหว ข้าน้อยตอนนี้พึ่งรู้ว่าตนเองเป็นดังกบในกะลา  หลงตนลืมตัว”

ปัวไป้กล่าวหมดหวัง โขกศีรษะพร้อมกับปัวเฉิงเอิน  หลิวตงหยางสีหน้าตื่นตระหนก เพราะมีทหารติดตามสองนายเดินมาด้านหลังเขา หวังทงจ้องมองเขากล่าวว่า

“เจ้าไปติดต่อพวกเผ่าหั่วลั่วชื่อว่าหากเจ้าได้เป็นผู้บัญชาการ ก็จะให้พวกเขาเข้ามา บอกว่าจะให้เงินทองและหญิงชาวฮั่นเป็นรางวัลงั้นหรือ?”

หลิวตงหยางสะดุ้งโหยง พ่อลูกตระกูลปัวล้วนเงยหน้ามองไป หลิวตงหยางอึ้งไป จากนั้นก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะไม่หยุดหวังทงสีหน้ารังเกียจ มองหลิวตงหยาง กล่าวว่า

“ตระกูลปัวเป็นชาวมองโกล ยังไม่คิดทำเรื่องเช่นนี้ แต่เจ้าเป็นชาวฮั่น ถึงกับชั่วร้ายน่ารังเกียจเช่นนี้…”

“ท่านโหว พวกเขากล่าววาจาให้ร้าย พวกเขาต้องการใส่ร้าย ตระกูลปัวพวกนอกด่านสิเป็นคนคิดก่อการ…”

“หุบปาก! ผู้ติดตามเจ้าเป็นคนมาฟ้องเอง ใส่ร้ายอะไร ไร้ยางอายสิ้นดี  แม้แต่ทหารคนสนิทก็ยังไม่ภักดี สมควรแล้ว รัด!”

หลิวตงหยางกำลังจะกล่าวต่อ ทหารหวังทงด้านหลังก็ใช้เชือกรัดคนเขาไว้ แล้วดึงอย่างแรง

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1116 อ่านนิยาย


หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

Options

not work with dark mode
Reset