หมอร้ายคลั่งรัก 23

ตอนที่ 23

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

โอ้ยเสียงนี้อีกแล้วผมพึ่งจะได้นอนยังไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำต้องมาตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกมหาภัยของเมียอีกแล้ว ผมลุกขึ้นมานั่งเกาหัวตัวเองแรงๆ อย่างคนอารมณ์เสีย ตื่นเพราะคนไข้ยังไม่หงุดหงิดเท่ากับเสียงแหลมๆ นี้เลย เจ้าของเครื่องจะรู้มั้ยเนี่ยว่าเสียงนี้มันสร้างความรำคาญให้กับผัวตัวเองแค่ไหน ส่วนเจ้าของเครื่องก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยแค่ควานหาเครื่องกดปิดทั้งๆ ที่ตายังไม่ลืมด้วยซ้ำยังจะซุกหมอนนอนต่ออีกด้วยนะ เออให้มันได้อย่างนี้สิเมียกู ผมมันคนตื่นง่ายได้ยินเสียงอะไรนิดอะไรหน่อยก็ตื่นแล้วอาจเป็นด้วยอาชีพการงานที่ผมทำอยู่ด้วยมั้งที่ต้องตื่นตัวอยู่เสมอเพราะเราไม่รู้ว่าคนไข้จะมาเมื่อไหร่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาอยู่แล้ว

ผมนึกอะไรบางอย่างได้ก็รีบออกจากห้องทั้งๆ ที่ยังใส่แค่เสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาวอยู่ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรและผมก็ใส่ชุดนี้เดินในโรงพยาบาลออกจะบ่อยเป็นเรื่องปกติของผมเลยด้วยซ้ำบ่อยไปที่ผมนอนๆอยู่แล้วมีคนไข้ฉุกเฉินกลางดึก และชุดที่ผมเตรียมไว้ที่โรงพยาบาลก็พร้อมสำหรับใส่ออกมาข้างนอกตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมเดินไปเอาของที่รถแวะซื้อกาแฟกับนม ขนมปังที่ร้านสะดวกซื้อในโรงพยาบาล เป็นมื้อเช้าเบาๆ สำหรับเราสองคน

“อะ” ผมยื่นถุงใส่ของสำคัญให้กับหนูอิงที่ตอนนี้กำลังแต่งตัวอยู่ ดีนะที่เมื่อวานซื้อชุดนักศึกษามาใหม่พอดีวันนี้เธอเลยไม่มีปัญหาในการไปทำงานวันนี้สงสัยผมต้องหาชุดสำหรับหนูอิงมาไว้ที่นี่บ้างแล้วเผื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดเหมือนเมื่อคืนนี้

“อะไรคะ” เธอรับไปอย่างงงๆ แต่ก็ยังรับไปเปิดดูตาโตเป็นประกายที่เห็นของข้างใน

“ให้หนูทำไม” ถามทั้งเสียงตื่นเต้นดีใจ

“เครื่องนี้มันเก่าแล้ว” ผมหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าของเธอที่วางอยู่บนที่นอนโชว์ให้ดูว่ามันเก่าจริงๆ การใช้งานก็ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนรุ่นใหม่ๆ แล้วด้วย

“ไม่เก็บตังหนูที่หลังนะ” บ้าใครจะไปกล้าเอาเงินเมียกันล่ะ ขอแค่เอ่ยปากมาจะหาให้ทุกอย่างเลยแต่ติดอยู่ตรงที่เมียไม่เคยจะร้องขออะไรเลยสักอย่างมีแต่ผมเนี่ยที่ยัดเยียดให้ตลอด อย่าคิดนะว่าผมไม่เห็นซองเงินที่ผมเคยให้ไว้เมื่อก่อนยังอยู่ครบไม่ได้ถูกแกะออกเลยด้วยซ้ำผมเห็นวันที่ไปเก็บของที่ห้องเธอแต่ผมไม่พูดเท่านั้นเอง ก็เข้าใจว่าเมื่อก่อนผมมันเลวแต่ตอนนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วไงผมจะชดเชยการกระทำเลวๆ ของผมเอง ใครจะไปรู้ล่ะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ผมเคยช่วยไว้วันนั้นจะทำให้ผมเสียอาการได้มากขนาดนี้ในวันที่เธอเจ็บ ใจผมก็เจ็บตามจนอยากจะเป็นคนเจ็บแทนมันบีบหัวใจผมแค่ไหนที่ได้ยินเสียงเธอร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

“ไม่เอาเงินหรอกน่า” เธอยิ้มจนตาหยีส่งมาให้ผม ยิ้มเธอที่ว่าละลายแล้วแต่หนูอิงทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนทำเอาใจผมเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากตัวลืมหายใจไปเลย เธอหอมแก้มผมกระซิบข้างหูผมเบาๆ ก่อนจะผละไป

“ขอบคุณนะคะ”

ตุ๊บ แต่ยังไงก็เร็วไม่เท่าผมหรอกผมเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียงนอนนุ่มแล้วคร่อมเธอหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบเราจ้องตากันอยู่เกือบนาทีแก้มขาวๆ ค่อยเริ่มเปลี่ยนสีอมชมพูระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายหนูอิงก็เป็นฝ่ายหลบตาผมก่อน ผมทนไม่ไหวก้มลงไปจูบปากบางเบาๆ ซ้ำๆ อยู่หลายที

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

“แต่คิดเป็นอย่างอื่นแทนนะ” หลังจากจูบปากบางจนพอใจแล้วผมพูดเสียงเบาชิดริมฝีปากบางที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเจ่อขึ้นเล็กน้อยด้วยฝีปากผมเอง

“อื้มพี่หมออะขี้โกง” หนูอิงผลักผมออกเบาด้วยมือขวาข้างเดียวแรงเท่าแรงมดทำอะไรผมไม่ได้หรอกแค่ที่ยอมถอยให้ก็เพราะยอมให้ก่อนหรอกนะ

“ไปทำงานมั้ยไม่ไปพี่ต่อได้นะ” ผมแกล้งแหย่ร่างบางที่ตอนนี้ยังนอนหน้าแดงอยู่บนเตียงไม่ไหวติง

“อิพี่หมอหื่น” เธอรีบลุกนั่งมองค้อนผม

“ฮ่าฮ่า” ผมขยี้ผมนุ่มแรงๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำถ้าช้ากว่านี้ใครบางคนคงได้ไปฝึกงานสายแน่ๆ และคนที่จะซวยคือผมนี่แหละ

Options

not work with dark mode
Reset