หมอร้ายคลั่งรัก 19

ตอนที่ 19

“เปลี่ยนทำไมหนูไม่สวยหรอ” ยังยังจะทำหน้าเอ๋อใส่ผมอีก ใช่หนูสวยสวยมากๆ เลยครับแต่จะสวยกว่านี้ถ้าไม่ใส่กระโปรงตัวนี้ นี่เป็นอีกตัวที่จะลงถังขยะในวันนี้

“สวยแต่มันผ่าเกินไปมั้ยถอดเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผมบอกเสียงเรียบเริ่มไม่พอใจแล้วนะ

“ไม่เอาหนูชอบตัวนี้” ยังจะเถียงอีกนะคุณเมีย

“ไม่เปลี่ยนก็ไม่ต้องไป” ผมพูดเสร็จก็เดินไปแต่งตัว ไม่สนใจหนูอิงอีกเลยอยากจะรู้เหมือนกันว่าเมียจะฟังผัวคนนี้บ้างมั้ย

“หึ้ย เปลี่ยนก็ได้” ผมยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงจากอีกคนถึงจะเป็นเสียงที่ไม่พอใจก็ตามเถอะ

ปัง เสียงปิดห้องน้ำแค่ฟังเสียงก็รู้ว่าคนปิดอารมณ์ไม่ดีขนาดไหน แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ

“พอใจยัง” หนูอิงเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกระโปรงพีทยาวเลยเข่าดูก็รู้ว่าประชด

“พอใจมากครับเมีย” ผมพูดเสียงแบบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ จะไม่ให้ขำได้ยังไง หนูอิงทำหน้ายู่ หมุนรอบตัวให้ผมดูแขนก็ยังใส่เฝือกอยู่เลย ผมก็ยุ่งเหมือนคนยังไม่ได้หวี ตอนแรกก็หวีเรียบแล้วนะแต่น่าจะยุ่งตอนมุดตู้เสื้อผ้าหากระโปรงตัวใหม่เมื่อกี้

“อย่าให้ถึงตาหนูบ้างนะ” ยังจะบ่นไม่หยุด กลัวตายแหละยัยหนูอิงตัวเล็กนิดเดียวจะทำอะไรผมได้

ผมแต่งตัวเสร็จแล้วในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากางเกงแสล็คสีดำเดินไปกระซิบข้างหูคนตัวเล็กเบาๆ

“ผัวจะรอวันนั้นนะครับ”

โอ้ยทำไมฉันไม่เคยเอาชนะอิพี่หมอคินได้เลยสักครั้งนะ ดูสิมาทำให้เขาหน้าร้อนแล้วก็เดินจากไป ฝากไว้ก่อนนะอิพี่หมอคิน อย่าให้ถึงตาอิอิงบ้างคอยดูนะจะเล่นให้จำไปจนตายเลย

“แค่แขนหักต้องหยุดงานเป็นอาทิตย์ขนาดนี้มั้ย” เสียงจิกก็ลอยมาแต่ไกลกระทบแก้วหูน้อยๆ ของอิอิงตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในแผนกเลยแหละค่ะดูท่าแล้วจะคิดถึงกันมากนะคะพี่ๆ

ได้แต่มองบนท่องในใจ ‘อดทน อดทน’ ทนเข้าไว้อิงชาอีกแค่สองเดือน ขอให้ได้ลายเซ็นผ่านฝึกงานมาให้ได้ก่อนเถอะอิอิงจะจัดให้ จิกกันไม่ได้อีกนานเลย จะทำให้ไม่มีวันลืมอิอิงคนนี้ไปจนวันตายเลย อย่าคิดว่าที่อิอิงเงียบแล้วจะยอมนะแต่ยังทำอะไรไม่ได้ไงอนาคตของฉันอยู่ที่ปลายปากกาของผู้จัดการคนเดียว ทุกวันนี้อดทนรอแค่กระดาษแผ่นนั้นแผ่นเดียวเท่านั้นแหละ

 

“ไปทำอีท่าไหนฮะเรา” พี่คิตตี้หยักหน้าไปที่แขนที่มีเฝือกอยู่ยิ้มๆ พี่คิตตี้คนนี้เป็นห่วงฉันจริงดูออกพี่แกไลน์ไปถามอาการฉันตลอด ฉันยิ้มแหยๆ ให้แกแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ใครจะกล้าประจานความโง่เดินตกบันไดจนแขกหักของตัวเองให้ใครฟังกันล่ะ

ตุ๊บ กลับมาทำงานได้ยังไม่ถึง 5 นาทีก็มีงานกองโตมาวางตรงหน้าฉันแล้วไม่มีการถามถึงสุขภาพกันสักคำเลยหรือไงคะ

“แค่แขนหักคงทำได้นะ” อ้าวเห้ยแขนหักนะเว้ยนี่ฉันแขนหัก ถึงฉันจะทำงานได้แต่มันไม่เต็มร้อยเหมือนเดิมปะวะ อย่างนี้มันแกล้งกันชัดๆ อยากจะตะโกนใส่หน้าชะนีหน้าจูออนนี้จัง แต่ทำไม่ได้ไงเดี๋ยวไม่ผ่านฝึกงานเรียนต่ออีกปีไม่เอานะเว้ย

“เป็นเด็กฝึกงานก็ควรมีความรับผิดชอบหน่อยสิ” สาบานว่านี่คือคำพูดของผู้จัดการแผนกที่ลอยมาจากหลังห้อง

“เห้อ!!!” งานของฉันไม่มีอะไรมากหรอกแค่จัดเรียง คัดแยกเอกสาร ส่งเอกสารให้แผนกอื่น แต่ฉันมือเดียวนะทำอะไรลำบากอยู่แล้วแต่ก็ต้องทำแหละทำให้เต็มที่เท่าที่ทำได้แล้วกัน

 

“ช่วงนี้หัวหน้าอารมณ์ไม่ดี” พี่คิตตี้กระซิบข้างๆ ฉันหันมองแกเห็นอิอิงเงียบๆ แบบนี้อิอิงก็อยากกินเผือกเหมือนกันนะ

“ก็ยัยเมลล์กับยัยพลอยลูกน้องคนโปรดอยู่ดีๆ ก็ลาออกน่ะสิลาออกแบบไม่บอกไม่กล่าวเลยนะแก” ฮะ!! อะไรนะลาออก ลาออกได้ไงตอนไหน สองคนนั้นยังพาฉันไปหาหมออยู่เลยนะ

“ไม่มีใครรู้หรอกว่าออกไปทำอะไรตอนนี้ไม่มีใครติดต่อสองคนนั้นได้เลย” พี่คิตตี้อธิบายต่ออีกคงเห็นหน้าสงสัยหมางงของฉันมั้ง

“นั่งด้วยนะ” ถ้าพี่จะนั่งโดยไม่รอคำตอบก็ไม่ต้องขออนุญาตหรอกใคร ฉันมองผู้ชายที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม ผู้ชายคนนี้ยิ้มหล่อจัง

“เป็นไงบ้าง” ถามแต่ตามองที่แขน อ๋อฉันก็งงว่าเขาหมายถึงอะไร

“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” ยิ้มมายิ้มตอบค่ะแต่พี่อย่ายิ้มเยอะได้มั้ยใจอิอิงมันสั่นนะ

“อย่ายิ้มเยอะพี่ยังไม่อยากโดนหมอฆ่าหมกโรงพยาบาลนะ” เหวอสิคะพี่รู้จักอิพี่หมอได้ไงอะ ฉันจำได้ว่าไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะเพื่อนๆ ฉันก็ไม่มีใครรู้เลยสักคน

“นี่อย่าบอกนะว่าเราจำพี่ไม่ได้” สั่นหน้าจนคอแทบเคล็ดแบบนี้พี่เขาจะรู้มั้ยนะว่าฉันไม่รู้จักเขาเราไม่รู้จักกันนะคะเผื่อพี่ลืม

Options

not work with dark mode
Reset