หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 294 มาเป็นแฟนของผม

บทที่ 294 มาเป็นแฟนของผม

หลังจากที่ชิวรั่วหานต่อโทรศัพท์ไปไม่นานก็ติด

หลินเสี่ยวเฟิงถามอย่างยิ้มแย้ม “ว่าไงรั่วหาน? โทรหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลินเสี่ยวเฟิงได้ตามจีบชิวรั่วหานมาตลอด เขาเป็นฝ่ายเข้าหาเสมอ ชิวรั่วหานไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่วันนี้ชิวรั่วหานโทรมาหาเอง นั่นทำให้หลินเสี่ยวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

แต่คำพูดต่อมาของชิวรั่วหานนั้นทำให้หลินเสี่ยวเฟิงไม่ค่อยพอใจในระดับหนึ่ง

“คุณชายหลิน ตอนนี้ฉันกำลังมีปัญหานิดหน่อย คุณช่วยมาหาฉันหน่อยได้ไหม ดูว่าจะช่วยฉันจัดการได้ไหม?” ชิวรั่วหานกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเสี่ยวเฟิงก็จางหายลงไปมาก ที่แท้ก็นึกถึงฉันแค่ตอนมีปัญหา ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่สนใจราวกับว่าฉันเป็นอากาศ

“เรื่องอะไรเหรอ? คุณลองบอกมาก่อนสิ?” หลินเสี่ยวเฟิงถาม

ชิวรั่วหานพูดคร่าวๆ ทางโทรศัพท์

หลังจากได้ยินเช่นนั้นหลินเสี่ยวเฟิงก็เข้าประเด็นทันที “ผมช่วยคุณแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้ แต่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง คุณต้องมาเป็นแฟนของผม”

แม่งเอ๊ย! ตนเองตามจีบเธอมาตั้งนาน แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ตอนนี้กล้าดียังไงต้องการให้ตนช่วยอย่างไม่มีเหตุผล? เขาต้องได้รับดอกเบี้ยกลับคืนมาบ้าง!

ตอนแรกด้วยนิสัยมาดามใหญ่อย่างชิวรั่วหานนึกจะวางสายโดยไม่ลังเล แต่พอคิดว่ามารดาถูกโกงเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ ถ้าเธอไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เกรงว่าชิวซื่อกรุ๊ปจะปิดกิจการล้มละลาย

เธอทนไม่ได้ที่เห็นภาพนี้จึงต้องฝืนใจพูดว่า “โอเค ตกลงตามนี้”

ฮ่าๆๆ พูดดีๆ ไม่ฟังต้องให้ใช้กำลังบังคับ อย่างไรก็ต้องให้คุณตกลงรับเงื่อนไขของผมให้ได้ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะยอม สวรรค์เข้าข้างฉันจริงๆ

หลินเสี่ยวเฟิงแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่พลางพูดว่า “โอเค คุณรอผมก่อน ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

หึหึ ขอแค่ชิวรั่วหานตกลงเป็นแฟนกับตน ที่เหลือก็เป็นแค่เรื่องของเวลาที่จะพาเธอขึ้นเตียงเท่านั้น

…

ยี่สิบนาทีต่อมา หลินเสี่ยวเฟิงก็มาถึงลานกว้างใต้อาคารของซินหยวนกรุ๊ป

เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นลู่เสี้ยงหยางอยู่ที่นี่ด้วย “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”

“มันสำคัญหรือ?” ลู่เสี้ยงหยางพูดพร้อมยิ้มเล็กน้อย

หลินเสี่ยวเฟิงยิ้มเยาะอย่างไม่แยแสพลางกล่าวว่า “คุณมาที่นี่เพราะเรื่องซินหยวนกรุ๊ปเหมือนกันสินะ ดูท่าทางคุณก็มาเพื่อช่วยคุณน้าชิวเหมือนกัน งั้นเชิญคุณก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมค่อยออกหน้า จะได้ไม่เป็นการขโมยซีนคุณ”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เจ้าโง่นี่ทำไมถึงมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ว่าเขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน

ประธานซินหยวนกรุ๊ปไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน เขากล้าโกงเงินจำนวนมากของผู้ถือหุ้นอย่างโจ่งแจ้ง หมายความว่าเขามีที่พึ่งจึงไม่มีอะไรต้องกลัว

ถ้าอาศัยแค่ตัวหลินเสี่ยวเฟิงเอง เขาไม่มีปัญญาที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้โดยลำพัง

ในตอนนี้ชิวเจียงหั้วได้ลุกขึ้นกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิงไม่ต้องคิดมาก ลู่เสี้ยงหยางแค่ผ่านมาดูเท่านั้น เขาจะมีความสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ยังไง เรื่องนี้ต้องให้คุณลงมือเอง ดูว่าจะจัดการได้หรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเสี่ยวเฟิงก็พยักหน้าและรู้สึกสบายใจมาก เขาผลักลู่เสี้ยงหยางออกแล้วเดินเข้าไป

แม่งเอ๊ย ไอ้เศษสวะเกาะผู้หญิงกินอยู่ที่นี่ เห็นเขาแล้วหงุดหงิดหัวใจ

เมื่อผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เห็นหลินเสี่ยวเฟิงก็กวาดสายตาพิจารณาเขา แค่เห็นเขาสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม นาฬิกาทอง Rolex รุ่นลิมิเต็ดก็รู้ว่าเขาไม่ธรรมดา

พลันเอาลู่เสี้ยงหยางมาเปรียบเทียบโดยไม่รู้ตัว คนหนึ่งอยู่บนสวรรค์ คนหนึ่งอยู่ในนรก

ทันใดนั้นก็มีเสียงสรรเสริญดังขึ้นมา

“คนแบบคุณชายหลินนี่สิถึงจะเรียกว่าเป็นมังกรหงส์ในฝูงชน ถ้ารั่วหานได้แต่งงานกับเขาในอนาคต เธอจะมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน”

“เฮ้อ เพราะประธานชิวเป็นผู้กว้างขวาง แม้แต่คุณชายหลินก็ยังรู้จัก”

“ฮ่าๆ คุณชายหลินยอมออกหน้าแทนพวกเรา เราต้องสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำสรรเสริญเหล่านี้ หลินเสี่ยวเฟิงก็รู้สึกภาคภูมิใจ เขาโบกมือพลางพูดว่า “คุณน้าคุณอาทุกท่าน เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”

เมื่อเห็นความอาจหาญของเขา หลายคนแอบอิจฉาชิวเจียงหั้วที่กำลังจะได้ลูกเขยในอุดมคติ

จากนั้นหลินเสี่ยวเฟิงก็เดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วเริ่มคุยกับพวกเขา

“โทรหาประธานของพวกคุณตอนนี้แล้วบอกเขาว่าหลินเสี่ยวเฟิงจากตระกูลหลินต้องการพบเขา ให้เขาออกมาคุยกับผม”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองหน้าสบสายตากันเลิ่กลั่ก เมื่อเห็นน้ำเสียงที่มีอำนาจของหลินเสี่ยวเฟิง พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าหลินเสี่ยวเฟิงมีภูมิหลังอย่างไร จึงไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ พลันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาประธานของพวกเขาเพื่อเตรียมรายงานสถานการณ์

ขณะเดียวกันในห้องทำงานของประธานซินหยวนกรุ๊ป

หวงจู ประธานซินหยวนกรุ๊ป กำลังโค้งคำนับชายวัยกลางคนคนหนึ่งด้วยความเคารพ

“พี่สาม ผมได้จัดการเรื่องที่คุณต้องการเรียบร้อยแล้ว ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้คุณจะได้กำไร 70% ตอนนี้ในบัตรใบนี้มีอยู่ 1,500 ล้านสำหรับคุณ”

พูดพลางเลื่อนบัตรธนาคารไปอยู่ตรงหน้าชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนชำเลืองมองบัตรธนาคารพลางหยิบขึ้นมาสอดเข้าไปไว้ในเสื้อ ตบบ่าหวงจูเบาๆ พลางกล่าวว่า “ดีมาก เรื่องนี้คุณจัดการได้ดีมาก ตราบใดที่คุณเชื่อฟังผมและทำตามในสิ่งที่ผมบอกคุณ เงินของพวกเราสองคนใช้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมด”

หวงจูตื่นเต้นจนตัวสั่น แต่ในไม่ช้าเขาก็คิดอะไรออกบางอย่างพลันขมวดคิ้วกล่าวว่า “แต่ว่าพี่สาม เรื่องนี้มันผิดกฎหมาย จะไม่มีปัญหายุ่งยากหรือ?”

ชายวัยกลางคนยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “อย่าลืมว่าใครมีอำนาจชี้ขาดโลกใต้ดินของเมืองปินเหอ จะว่าไปแล้วที่ถูกคุณหลอกใช้ล้วนไม่มีเบื้องหลัง คุณจะกลัวอะไร? หรือว่าคุณกลัวว่าพวกเขาจะก่อเรื่องอะไรที่เมืองปินเหอหรือ?”

หวงจูพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ได้ยินแบบนี้จากพี่สามผมก็โล่งใจ”

ชายวัยกลางคนพยักหน้าแล้วพูดอย่างไม่หนักใจ “ต่อจากนี้ไปเรื่องแบบนี้ก็จัดการได้อย่างสบายใจ ถึงแม้จะมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ผมจะรับผิดชอบแทนคุณเอง”

“ดี ได้ยินแบบนี้จากพี่สาม ผมจะทำทุกอย่างโดยไม่ลังเลเลย” หวงจูรู้สึกฮึกเหิมมาก เขารู้ความสามารถของพี่สาม มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลัง ถ้าเขาคุ้มครองตนจริงๆ ตนก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

ติ๊งๆๆ!

ในเวลานี้เสียงโทรศัพท์มือถือของหวงจูดังขึ้น เขาหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นสายโทรเข้าจากลูกน้อง เขากดปุ่มรับสายทันทีแล้วถามว่า “ว่าไง มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”

ลูกน้องรีบรายงานสถานการณ์ข้างนอกกับเขา

หลังจากวางสาย สีหน้าของหวงจูก็ไม่น่าดูพลันกล่าวว่า “พี่สาม มีคนกำลังเอะอะโวยวายอยู่ข้างนอก พวกเขามาที่นี่ด้วยเรื่องนี้”

ชายวัยกลางคนหรี่ตาพลางพูดว่า “ใครเป็นแกนนำ? อยากตายเหรอ?”

“เป็นชายหนุ่มชื่อหลินเสี่ยวเฟิง เขาบอกว่าเขาเป็นคุณชายจากตระกูลหลิน ต้องการให้พวกเราลงไปคุกเข่าขอโทษเขา” หวงจูกล่าว

ใบหน้าของชายวัยกลางคนฉายแววความเย็นชาพลางกล่าวว่า “คุณชายจากตระกูลหลิน ฮ่าๆ กล้าดีจริงๆ อย่าว่าแต่ตระกูลหลินเทียบกับสมัยก่อนไม่ได้แล้ว ต่อให้ตระกูลหลินอยู่ในจุดสูงสุดก็อาจจะยังไม่กล้าเอะอะโวยวายต่อหน้าผม”

“ไปเถอะ ในเมื่อเจ้าลูกนอกคอกจากตระกูลหลินมารนหาที่ตายถึงที่ พวกเราก็มาช่วยให้เขาสมความปรารถนากันเถอะ”

พูดจบชายวัยกลางคนก็โบกมือแล้วพาลูกน้องจำนวนมากออกไปพร้อมกับหวงจู