ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) 32 คาดหวังไว้สูง

ตอนที่ 32 คาดหวังไว้สูง

“ใช่ครับ ดีเหมือนกันยืนฟังด้วยกันจะได้จบสักที” กล่าวแล้วก็หันไปเอ่ยกับเจตน์ “เฮียครับ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้เฮียเซ็นรับเป็นพ่อของลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

“จริงเหรอครับน้องพลับ เฮียดีใจสุด ๆ เลย”

“ลูกพลับ! ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ กูเป็นพ่อก็ต้องได้สิทธิ์นั้น” แทนไทโกรธจนหน้าแดงก่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาคมมีหยาดน้ำใส ๆ คลอเคล้าราวกับกำลังจะร้องไห้

“ก็อย่างที่บอก สิทธิ์มันหมดไปแล้วตั้งแต่คุณปฏิเสธลูกในท้อง รู้อย่างนี้แล้วหวังว่าคุณคงจะเข้าใจ ที่ผ่านมาผมใจดีกับคุณมากแล้ว ขอบอกตามตรงว่าเรื่องระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นไปได้ นับจากนี้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับผมและลูกอีก เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกคุณและจะไม่มีวันเป็น ผมจะไม่รับความหวังดีจากคุณอีก กลับไปซะและหวังว่าเราจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก”

ลูกพลับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความหมางเมิน หากให้แทนไทมีโอกาสเข้าหาอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สักวันเขาจะต้องยอมใจอ่อนเป็นแน่ มันจะไม่มีวันนั้นเด็ดขาด บอกตัวเองให้นึกถึงวันที่โดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ถึงอย่างไรเรื่องของเขาและแทนไทมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักอยู่แล้ว

“มึง…ทำให้กูเสียใจมากรู้ไหม” น้ำเสียงของคนพูดสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ออกมาเต็มที

“คุณทำให้ผมเสียใจมากกว่าอีก ถือว่าเราเจ๊ากันแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้ว กลับไปเรียนให้จบแล้วขายบ้านหลังนั้นซะ ห้ามมาอยู่ใกล้ผมเด็ดขาด”

“กูไม่มีวันทำอย่างนั้น กูจะไม่ไปไหน”

“มึงจะหน้าด้านหน้าทนทำไมวะ ในเมื่อน้องพลับพูดขนาดนี้แล้ว ไสหัวกลับไปเลย ชิ่ว ๆ” เจตน์ได้ทีก็เดินมายืนโอบไหล่แล้วปัดมือไล่ออกไป ลูกพลับได้แต่ยืนนิ่งให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจเพราะอยากจะให้แทนไทยอมถอยกลับไป

“ปล่อยมือจากลูกพลับไม่งั้นมึงไม่ตายดีแน่” คนพูดชี้หน้าขู่ด้วยสีหน้าน่ากลัว

“ไม่ปล่อยมีอะไรไหม”

แทนไทกำลังจะพุ่งตัวเข้ามาหาเรื่อง ทว่าลูกพลับฉวยโอกาสยกมือขึ้นฟาดที่ใบหน้าเสียก่อน ทำเอาอีกฝ่ายต้องหยุดชะงักแล้วมองมายังร่างเล็กด้วยแววตาน้อยใจ น้ำตาหยดแหมะลงมาอย่างน่าอาย แต่มันห้ามไม่ได้แล้วจริง ๆ

“จะไปได้หรือยัง”

“แค่นี้มึงหยุดกูไม่ได้หรอกจำไว้”

ในที่สุดแทนไทก็ต้องจำใจยอมถอยทัพ เพราะไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าศัตรูหัวใจให้อับอายขายขี้หน้าไปมากกว่านี้แล้ว ก่อนกลับถลึงตามองเจตน์อย่างเอาเรื่อง ลูกพลับได้แต่พรูลมออกมาเบา ๆ อย่างรู้สึกโล่งใจที่เรื่องมันจบลงแล้ว

“น้องพลับโอเคไหมครับ”

“ผมโอเคครับ เฮียกลับไปก่อนเถอะผมอยากอยู่คนเดียว”

“ก็ได้ครับ งั้นวันหลังเฮียจะมาหาใหม่นะ”

“ไม่ต้องบ่อยก็ได้นะครับ ผมไม่อยากรับแขกสักเท่าไหร่”

พูดโดยไม่ยอมมองหน้าเลยสักนิด เจตน์เองก็พอจะรู้ตัวว่าเป็นหมากเพื่อช่วยไล่แทนไทเท่านั้นเอง แววตาแห่งชัยชนะเริ่มเศร้าหมองลงทันที เขายกมือไหว้ปิ่นวดีแล้วเดินกลับไปอีกคน

เมื่อไม่มีใครให้รำคาญใจแล้วลูกพลับก็ปล่อยโฮออกมา ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างรู้สึกท้อแท้ คนเป็นป้าต้องรีบเข้ามาช่วยพยุงและปลอบใจหลานชาย

“ป้าครับ ฮึก ผมทำถูกแล้วใช่ไหมครับ”

“อะไรที่เอ็งคิดว่าทำแล้วมีความสุขก็ทำไป แต่หากทำแล้วไม่มีความสุขป้าก็อยากให้คิดดี ๆ อีกสักครั้ง”

“ผมยอมรับว่าเสียใจที่ต้องพูดอย่างนั้น แต่ผมไม่อยากเป็นคนใจง่ายอีกต่อไปแล้ว คนอย่างคุณแทนไทไม่ควรได้สิ่งที่ต้องการง่ายเกินไป เขาจะต้องได้รับบทเรียนซะบ้าง ผมกลัวว่าหากเขามาอยู่ใกล้อย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ผมจะใจอ่อนยอมรับเขาง่ายเกินไปครับป้า”

“เอ็งรักเขาแล้วใช่ไหมล่ะ”

“ฮึก น่าจะใช่ครับ”

“แล้วไม่อยากให้ลูกเกิดมามีพ่อหรอกเหรอ”

“อยากครับ ผมถึงให้เฮียเจตน์มาเป็นพ่อของลูก”

“แต่มันไม่ถูกต้องนะพลับ เอ็งทำประชดเพราะความโกรธป้าเข้าใจ แต่เรื่องนี้มันสำคัญ ป้ายังยืนยันคำเดิมว่าคนที่เป็นพ่อตามกฎหมายควรจะเป็นคุณแทนไทหรือไม่ก็คุณไททันเท่านั้น ป้าไม่อยากให้มันมีปัญหาทีหลังเข้าใจไหม”

“ผม…”

“เอาเถอะถึงยังไงมันก็เป็นเรื่องของเอ็ง ป้าไม่ใช่เอ็งคงไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน ป้าจะเคารพการตัดสินใจของเอ็ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม”

“ขอบคุณครับป้าปิ่นที่เข้าใจผม ผมตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเองเพียงคนเดียวและจะต้องทำให้ได้”

“คนเดียวที่ไหน เอ็งยังมีป้าและนับดาวอีกลืมไปแล้วเหรอ”

“ผมไม่ลืมครับป้า เพราะชีวิตผมมีแค่ป้ากับพี่ดาวเท่านั้นนี่นา ครอบครัวเราจะมีกันแค่สามคนเท่านั้น ไม่สิสี่คนกับลูกในท้องผมด้วย” เมื่อได้ระบายออกมาแล้วลูกพลับก็เริ่มยิ้มออก

“หากเลือกแล้วเอ็งจะต้องทำใจยอมรับให้ได้นะ ป้ายอมรับว่าการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมันลำบากมากแค่ไหน แต่มันก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน ไม่ต้องมีเรื่องคู่ชีวิตให้ต้องปวดหัว สามารถตัดสินใจอะไรได้เอง แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องห่วง เพราะเอ็งยังมีป้าคนนี้อยู่ข้าง ๆ นะ”

“ฮึก ขอบคุณนะครับป้าปิ่น ผมรักป้าที่สุดในโลกเลย”

“ป้าก็รักเอ็ง”

สองป้าหลานสวมกอดกันด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นหัวใจ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่หัวใจดวงน้อยเจ็บปวด ทว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายกับเรื่องนี้แล้ว เพราะหลังจากนี้ลูกพลับจะตั้งหน้าตั้งตาดูแลตัวเอง เพื่อรอวันที่จะได้เห็นหน้าลูกในท้อง หลังจากนั้นจะเลี้ยงดูเขาให้เป็นเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์ และเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม

*-*-*-*-*-*-*-*

วันที่เกิดเรื่องแทนไทกลับไปนั่งร้องไห้อยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ เขายอมรับว่าโกรธลูกพลับมากจนไม่อยากจะเห็นหน้าอีกต่อไปแล้ว ทว่าความรักที่มีให้กลับยังคงรั้งให้สู้ต่อไป ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะไปเผชิญหน้ากัน ลูกพลับพูดตัดรอนขนาดนั้นแสดงว่าคิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว จากนี้คงเป็นเรื่องลำบากที่จะได้เข้าใกล้ ทางเดียวที่ทำได้นั่นคือกลับไปขอร้องให้บิดามารดามาช่วยเจรจาอีกแรง เพราะเชื่อว่าลูกพลับจะเกรงใจผู้ใหญ่บ้าง

โชคดีที่วันนี้ทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้า เมื่อเห็นแทนไทปรากฏตัวทุกคนต่างก็ประหลาดใจ นานมากแล้วที่ลูกชายคนเล็กไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้เลย หลังทราบข่าวจากไททันว่าแอบขายรถหรูเพื่อไปซื้อบ้านสวน ทีปกรและศรัยฉัตรต่างก็พอใจที่ลูกชายกลับเนื้อกลับตัวได้ และตั้งใจจะลบล้างความผิดด้วยการเข้าไปดูแลลูกพลับ ทั้งสองไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเพราะอยากให้ลูกชายได้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง

“ทำไมวันนี้แกกลับมาบ้านล่ะ ไม่อยู่ดูแลลูกพลับหรอกเหรอ” ทีปกรเอ่ยถามลูกชายขณะนั่งจ้องมาสักพักแล้ว

“นั่นสิ หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“คือ…ผมไปมีเรื่องกับคนที่เข้ามาจีบลูกพลับ เลยโดนไล่ตะเพิดออกมาจากบ้าน ที่ทำอย่างนั้นเพราะผมโกรธที่ลูกพลับจะให้ไอ้นั่นมาเป็นพ่อของลูก ผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด”

“แม่ก็ไม่มีทางยอม นั่นลูกของแกจะให้คนอื่นมาเป็นพ่อได้ยังไงกัน” ศรัยฉัตรขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยิน ถึงแม้ว่าตอนแรกจะไม่ยินดีสักเท่าไหร่แต่ตอนนี้เธอทำใจยอมรับได้แล้ว โดยเฉพาะหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกยังไงก็จะต้องใช้นามสกุลดิษยาวรโชติเท่านั้น

“แล้วแกกลับมาคราวนี้จะให้ช่วยอะไรล่ะ” คนเป็นพ่อถามต่อ

“ผมอยากให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปสู่ขอลูกพลับครับ หากคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วยตัวเองทางโน้นจะต้องเกรงใจบ้าง ผมยอมรับว่าตอนนี้รักลูกพลับไปแล้ว ผมอยากแต่งงานกับลูกพลับครับ”

“ให้ไปน่ะไปได้ แต่ทางโน้นจะยอมเหรอ แล้วหากโดนปฏิเสธพ่อกับแม่จะไม่เอาปี๊บคลุมหัวกลับมาเหรอ เพราะแกเองก็ทำกับเขาไว้เยอะขนาดนั้น”

“มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วครับคุณพ่อ ผมจนปัญญาแล้วจริง ๆ ลำพังหน้าผมลูกพลับยังไม่อยากจะมองเลย ตอนแรกก็ดี ๆ อยู่หรอกแต่ไม่รู้ทำไมช่วงหลังถึงเปลี่ยนไป ใจแข็งขึ้น ไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย”

“ไม่ต้องคิดหาเหตุผลเลย มันเป็นเพราะแกนั่นล่ะ ลูกพลับคงไม่ยอมหายโกรธอีกนานแน่ ๆ หากครั้งนี้ไม่สำเร็จแกจะเอายังไงกับชีวิต นี่ก็จะเรียนจบแล้วนะ”

“ถ้าลูกพลับไม่ยอมรับผมก็จะไปบวชครับ ห่มจีวรไปหาถ้ากล้าด่าก็ลองดู ผมไม่ยอมแพ้หรอก”

สีหน้าลูกชายจริงจังจนคนเป็นพ่อกับแม่ถึงกับตกใจ

“แกเอาจริงเหรอตาแทน อย่างแกจะบวชได้สักกี่วัน”

“ผมทำจริงแน่ จะบวชตลอดชีวิตเลยคอยดูถ้าพ่อกับแม่ทำไม่สำเร็จ”

“เอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยน ปัญหาของตัวเองแท้ ๆ ยังจะมาให้พ่อกับแม่แก้ให้ แต่ก็เอาเถอะพวกฉันจะลองไปดู แต่เรื่องบวชขอไว้ก่อนเถอะนะ หากจะบวชจริงๆ ก็อย่านานจนเกินไป เพราะงานที่บริษัทยังรอแกมารับช่วงต่ออยู่”

“ก็ให้ไอ้ไททันมันทำไปสิครับ”

“เมื่อไหร่แกกับพี่ชายจะเข้าใจกันสักที พ่อกับแม่เบื่อจะปวดหัวด้วยแล้วนะ”

“พวกผมไม่ได้ทะเลาะกันนี่ครับก็แค่ไม่กินเส้นเท่านั้น ผมแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้”

“เฮ้อ ช่างเถอะ พูดเรื่องนี้ฉันล่ะปวดกบาล จะไปไหนก็ไป”

ทีปกรส่ายหน้าพลางปัดมือไล่ลูกชายให้ไปไกล ๆ แทนไทรีบยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง เดินเข้ามาในห้องนอนแล้วกระโดดขึ้นบนเตียง นอนดิ้นไปมาราวกับคนที่มีเรื่องดีใจมากมาย เพราะคาดหวังเอาไว้สูงมากว่าการมัดมือชกครั้งนี้จะทำให้ลูกพลับยอมใจอ่อนได้

ลูกพลับสีหม่น (Mpreg)

ลูกพลับสีหม่น (Mpreg)

Score 10
Status: Completed

ความผิดพลาดในค่ำคืนแห่งความอัปยศอดสู ทำให้ลูกพลับซึ่งกำลังจะมีอนาคตที่สดใส กลับกลายมาเป็นคุณแม่มือใหม่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทว่าสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับลูกในท้อง ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นเมีย ไม่ยอมรับการมีตัวตนของเขาและลูก เสียทุกอย่างได้แต่จะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี เขาจะต้องทำให้ผู้ชายคนนั้นเจ็บปวดและทรมานอย่างแสนสาหัสที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset