“พ่ะย่ะค่ะ” ฉีไหวเอินเห็นเป็นพระชายาฉินอ๋องจึงไม่ปิดบัง เขารายงานเสียงเบาว่า “ชาวเหมิงหนูมาเมืองหลวงอย่างไรเสียก็มิใช่เรื่องเล็กๆ ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวใดล้วนส่งผลกระทบต่อพระสนมเอกและท่านอ๋องทั้งสิ้น ดังนั้นก่อนที่เฮ่อเหลียนอวิ่นมาถึงเมืองหลวง ท่านอ๋องจึงกำชับเอาไว้ก่อนแล้วว่าให้บ่าวแอบจับตาดูการเคลื่อนไหวของเขาภายในวังไว้ นอกวังมีองครักษ์ซือคอยจับตาดูอยู่”
อวิ๋นหว่านชิ่นไม่ลังเลอีกต่อไป หาสถานที่เงียบๆ ไร้ผู้คนที่หนึ่ง แล้วบอกเล่าการสนทนาระหว่างเฮ่อเหลียนอวิ่นกับพระสนมเอกอย่างกระชับ
ฉีไหวเอินพอทราบว่าเฮ่อเหลียนอวิ่นต้องการจะทำร้ายไท่จื่อก็ตกใจ “หากชาวเหมิงหนูมาเมืองหลวงแล้วทำร้ายไท่จื่อ ท่านอ๋องจะไม่ถูกสงสัยได้อย่างไร ทั้งต้องถูกลากเข้ามาพัวพันด้วยแน่! ไม่ได้การแล้ว เรื่องนี้ต้องทูลฝ่าบาทให้ทรงทราบไว้ก่อน จะได้ไม่ทำให้ท่านอ๋องถูกลากลงน้ำไปด้วย!”
“เฮ่อเหลียนอวิ่นแค่พูดออกโดยไม่ใส่ใจเท่านั้น ซ้ำยังพูดอย่างกำกวม ยามนี้เป็นแค่การคาดเดาของเรา เขายังไม่ได้ลงมือสักนิด ต่อให้ฝ่าบาทกุมตัวเฮ่อเหลียนอวิ่นมา เขาจะยอมรับว่าต้องการจะทำร้ายไท่จื่อแห่งต้าเซวียนเพื่อช่วยให้ฉินอ๋องได้ตำแหน่งหรือไร”
ฉีไหวเอินขมวดคิ้ว “แต่อย่างไรเสียก็ต้องยับยั้งเฮ่อเหลียนอวิ่นนั่นให้ได้นี่พ่ะย่ะค่ะ”
ต้องยับยั้งเฮ่อเหลียนอวิ่นมิให้ทำร้ายไท่จื่อจริงๆ นั่นแหละ
ในสายตาเฮ่อเหลียนอวิ่น องค์ชายสามเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น หากไร้ซึ่งไท่จื่อแล้ว องค์ชายที่มีสายเลือดชาวเป่ยเหรินสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้ สำหรับชาวเหมิงหนูแล้วเป็นเรื่องที่ดี หากไท่จื่อถูกทำร้าย ตรวจสอบดูแล้วพบว่าชาวเหมิงหนูเป็นคนทำ องค์ชายสามถูกคนใช้เป็นทางผ่าน จบเห่ไปด้วย สำหรับชาวเหมิงหนูแล้วก็ไม่ได้มีผลกระทบใดทั้งนั้น
อวิ๋นหว่านชิ่นไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “ระยะนี้เจ้าต้องระวังนางกำนัลตำหนักชุ่ยหมิงให้ดี โดยเฉพาะสาวใช้คนสนิทข้างกายพระสนมเอก หากมีการเคลื่อนไหวเข้าออกใดเป็นพิเศษให้รีบรายงานข้าทันที”
ไท่จื่อเพิ่งจะหายจากการบาดเจ็บ เก็บตัวอยู่แต่ในตงกงไม่ออกไปไหน หากจะทำร้ายไท่จื่อในระยะเวลาแค่ไม่กี่วันนี้ เฮ่อเหลียนอวิ่นจำต้องลงมือในตงกง
แต่องครักษ์ในตงกงมีมากมาย เขาจะทำร้ายไท่จื่อได้อย่างไร
ภาพที่เขายัดสิ่งของบางอย่างให้แก่ชิงฉานปรากฏขึ้นในหัวอวิ๋นหว่านชิ่น ในใจพอจะคาดเดาอะไรออกบ้างแล้ว
ฉีไหวเอินก็เช่นกัน หากเฮ่อเหลียนอวิ่นต้องการจะทำร้ายไท่จื่อ เป็นไปได้มากว่าจะลงมือภายในวัง พอคิดว่ายามนี้พระชายาเดินไปไหนมาไหนในวังได้สะดวกก็รีบพยักหน้ารับคำ
ในเวลาเที่ยงวันของสองวันให้หลัง อวิ๋นหว่านชิ่นที่เพิ่งจะกลับมาจากห้องเครื่องกับบรรดาหมอหญิงเห็นฉีไหวกงรออยู่ที่ลานบ้านขนาดเล็ก ท่าทางมอมแมมไปทั้งร่าง
พอเห็นพระชายากลับมา ฉีไหวเอินก็รีบลากนางมายังมุมหนึ่ง “บ่าวเพิ่งจะเห็นชิงฉานสาวใช้ข้างกายพระสนมเอกไปตงกงคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ”
อวิ๋นหว่านชิ่นทำท่ารับรู้ แล้วให้เขากลับไปก่อน นางสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่ง รีบเดินไปทางตงกงทันที
วันนี้ตงกงคึกคักกว่าแต่ก่อน อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันครบร้อยวันของพระนัดดาน้อย
ระยะนี้ภายในวังมีแต่เรื่องร้ายๆ ฮ่องเต้ประชวรไม่หาย ทั้งไท่จื่อก็ได้รับบาดเจ็บ เจี่ยไทเฮารับสั่งให้ตงกงจัดงานมงคลเพื่อขจัดเสนียดจัญไรในวังให้เรียบร้อย
หมู่นี้ห้องเครื่องกับกองกิจการภายในกำลังนำสุราอาหารรวมถึงอุปกรณ์ใหม่เอี่ยมที่ใช้สำหรับงานเลี้ยงที่ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าส่งไปยังตงกง ประตูฝั่งริมของตงกงที่ใช้ขนย้ายข้าวของเปิดอ้าไว้ ขันทีของตงกงสองนายเฝ้าประตูไว้ ข้าวของแต่ละรอบที่ส่งมาล้วนต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งสิ้น
ในตอนที่อวิ๋นหว่านชิ่นตามเข้าไป ห้องเครื่องเพิ่งจะส่งสุราและจอกที่ใช้กินดื่มในงานเลี้ยงชุดหนึ่งเข้าตงกงไปพอดี ชิงฉานอยู่ข้างประตูด้านข้างกำลังหัวเราะพูดคุยกันกับขันทีหนึ่งในนั้นอยู่
ขันทีนายนั้นดูเหมือนจะรู้จักกับนาง พูดคุยกันไปพลาง ตรวจสอบแก้วและจอกที่ส่งเข้ามาให้ตงกงไปพลาง
อวิ๋นหว่านชิ่นหลบมาอยู่หลังกำแพง จดจ้องท่าทางของชิงฉานไว้ หากเฮ่อเหลียนอวิ่นสั่งนางให้ทำร้ายไท่จื่อจริง นางจะลงมืออย่างไร ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ ไม่มีทางวางยาพิษในสุราได้ ต่อให้ใส่ยาพิษไป ผู้ใดจะรู้ว่าอีกว่าไท่จื่อจะดื่มสุราจากไหใด หากคนอื่นดื่มเข้าไป ถูกพิษเข้าก่อน จะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นและทำให้เรื่องราวบานปลายรึ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชิงฉานก็หันหลังออกจากประตูข้าง ออกจากตงกงไป
รอจนกระทั่งชิงฉานกลับไปแล้ว อวิ๋นหว่านชิ่นจึงเดินไปยังประตูข้างที่อยู่ตรงมุม
ขันทีที่เฝ้าประตูสองนายรู้จักพระชายาฉินอ๋อง พอเห็นว่านางมาก็รีบหยุดการตรวจข้าวของทันที เรียกขันทีที่มาส่งสุราของห้องเครื่องหยุดพักไว้ก่อน คำนับนาง “พระชายาฉินอ๋องมาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ มีธุระอันใดหรือ”
อวิ๋นหว่านชิ่นไม่สนใจเขา อย่างไรเสียของชุดนี้ต้องมีปัญหาแน่นอน จึงรีบกวาดตาดูข้าวของบนรถแล้วยิ้มเอ่ยว่า “ทางหอจื่อกวงหมู่นี้ทำยาและสุรากันอย่างหนัก ข้าเพิ่งจะไปห้องเครื่องมา เดิมทีคิดจะขอให้คนยกสองสามไหไป แต่คนห้องเครื่องบอกว่าหมู่นี้ตงกงมีงานมงคล วันนี้ของกว่าครึ่งล้วนขนมานี่หมดแล้ว หากต้องการ คงต้องไปขนมาจากคลังแผ่นดิน คลังแผ่นดินไกลอยู่พอสมควร ข้าใจร้อนอยากจะทำเร็วๆ คร้านจะไปรอให้คนห้องเครื่องขนมา จึงแบกหน้าหนาๆ มาขอดูว่าจะให้ข้าเอาไปใช้ก่อนได้หรือไม่”
ขันทีคนหนึ่งลังเล “ของพวกนี้ล้วนส่งเข้ามาให้ทางตงกงทำสุราร้อยวันให้พระนัดดาน้อย หากพระชายาฉินอ๋องต้องการ บ่าวจะไปเรียกคนให้มา…”
ขันทีคนนั้นที่เพิ่งจะหัวเราะพูดคุยกับชิงฉานก็คือเพื่อนเก่าคนบ้านเดียวกันกับจางเต๋อไห่ และได้รับคำสั่งจากฉินอ๋องให้จับตาดูอวิ๋นหว่านชิ่นไว้ในก่อนหน้านี้ พอยามนี้เห็นว่านางต้องการก็ไม่อยากจะไปอกตัญญูต่อนาง จึงตีขันทีข้างกายไปคราหนึ่ง “หมอหญิงของหอหมิงกวงเป็นคนที่ถวายการรักษาให้แก่ฝ่าบาท และทำสุราให้ฝ่าบาทเช่นกัน เจ้าโง่กระมัง กล้าแย่งของของฝ่าบาทเช่นนี้ได้” แล้วยิ้มเอ่ยว่า “พระชายาฉินอ๋องอยากจะเอาไปก็เอาไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ขันทีอีกคนได้ยินก็ไม่กล้าพูดมาก เรียกขันทีห้องเครื่องเข็นสุราชุดนี้ตามอวิ๋นหว่านชิ่นไป
อวิ๋นหว่านชิ่นคำนับ “ขอบคุณกงกงทั้งสองยิ่ง”
ทั้งสองเห็นนางเดินออกไปไกลแล้วก็ไม่คิดอะไรมาก แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง พอหันไปมอง เห็นเหนียนกงกงพยุงไท่จื่อเดินมาก็รีบคุกเข่าลงถวายคำนับ “ไท่จื่อ”
อาการบาดเจ็บของไท่จื่อหายพอสมควรแล้ว หมู่นี้สามารถเดินไปไหนมาไหนในตงกงได้แล้วภายใต้การอนุญาตของหมอหลวง คิดได้ว่าภายในตงกงต้องจัดงานเลี้ยง วันนี้จึงได้มาดูการตระเตรียม ก็เห็นอวิ๋นหว่านชิ่นมาขอสุราเข้าพอดี
เดิมทีเหนียนกงกงยังคิดว่าไท่จื่อได้พบพระชายาฉินอ๋องได้ยากยิ่งเช่นนี้ คงต้องเข้าไปพูดคุยกับนางเป็นแน่ แต่นึกไม่ถึงว่าไท่จื่อจะทรงทำเพียงยืนอยู่ไม่ไกลจากด้านในของประตูข้าง มองไปอย่างเงียบๆ พอเห็นนางพาคนจากไปจึงได้เดินเข้าไป
“ตั้งแต่กลับจวนอ๋องไป นางก็เลี่ยงจะพบข้าตลอด” ไท่จื่อตรัสอย่างสนอกสนใจ “วันนี้ต้องการสุราแต่มาเอาถึงตงกงด้วยตัวเอง เจ้าว่าแปลกหรือไม่”
เหนียนกงกงตะลึงงัน “ดูเหมือนว่าจะปะ…แปลกอยู่บ้างจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
ไท่จื่อหุบยิ้มลง จ้องมองไปเบื้องหน้า สีหน้าค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น
พอกลับมายังหอหมิงกวง ฉีไหวเอินก็กำลังรออยู่หน้าประตูใหญ่ เห็นอวิ๋นหว่านชิ่นตามชิงฉานไปก็เดาได้พอสมควรไม่น้อย ยามนี้เห็นนางนำสุรา แก้วและจอกที่ใช้ในงานเลี้ยงกลับมาหนึ่งคันรถด้วย ก็ยิ่งกระจ่างแจ้ง คิ้วขมวดหันหลังเดินจากไป
ขันทีส่งสุราไปในห้องเครื่องตามที่อวิ๋นหว่านชิ่นสั่ง แล้วจึงออกไป
อวิ๋นหว่านชิ่นปิดประตูลง ดึงผนึกกระดาษที่ปิดสนิทบนไหสุราออก ใช้เข็มเงินตรวจสอบไปทีละไหจนครบ
ไม่มีไหใดมีพิษเลย
เป็นไปตามที่นางคิด ต่อให้ชิงฉานเก่งกาจสามารถกว่านี้ก็ไม่มีทางใส่พิษลงในสุราหรือสับเปลี่ยนของได้กลางวันแสกๆ
สายตานางขยับไหวตกลงบนแท่นด้านข้าง มันคือจอกสุราที่ส่งเข้าตงกงไปพร้อมกับสุราชุดนี้ ยามนี้วางอยู่บนถาดไม้ฮวาหลี มีผ้าไหมสีแดงคลุมไว้เพื่อกันฝุ่นละออง เหล่าขันทีส่งไหสุราหนึ่งคันรถมา พวกจอกสุราเหล่านั้นก็วางเอาไว้ด้วย มิได้เอาออกไป
นางก้าวเข้าไปเลิกผ้าไหมกันฝุ่นออก จอกหยกแกะสลักอย่างงดงามประณีตเหล่านั้นปรากฏสู่สายตาอย่างเป็นระเบียบ ลวดลายบนจอกแต่ละใบล้วนแตกต่างกัน