มรรคาสู่สวรรค์ 178 มองไม่เห็นคมกระบี่จักรวาล

ตอนที่ 178 มองไม่เห็นคมกระบี่จักรวาล

จัว​หรู​ซุ่ย​ตื่นเต้น​เป็นอย่างมาก​ เสียง​ตะโกน​ดังลั่น​ กระทั่ง​ปลาย​หางเสียง​ก็​ยัง​แตก​พร่า​ ฟังดู​ค่อนข้าง​น่าขัน​

คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​เขา​ยิ่ง​น่าขัน​

ไม่ว่า​ใคร​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​กำ​ยันต์​เซียน​เอาไว้​อยู่​ ไม่สามารถ​คลาย​ได้​ ได้​แต่​ต้อง​ไพล่​ไว้​ด้านหลัง​ แต่​การ​ที่​เขา​พูด​เช่นนี้​กลับ​ดูเหมือนว่า​เขา​ต่อให้​ฉีหลิน​โดย​ใช้แค่​มือ​เดียว​จริงๆ​ อย่างไร​อย่างนั้น​

ยิ่งไปกว่านั้น​การ​ฝึก​กระบี่​ของ​สภาวะ​ขั้น​คเนจร​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้การ​ร่าย​เคล็ด​กระบี่​มาช่วยเหลือ​ อย่างนั้น​มือ​เดียว​กับ​สอง​มือ​จะต่าง​อะไร​กัน​?

ฉีหลิน​ไม่ได้​สนใจ​ศิษย์​ชิงซาน​ที่​เลอะเลือน​ แต่กลับ​ไม่กล้า​เงยหน้า​ขึ้น​มามอง​ตัวเอง​ผู้​นี้​ เขา​จ้องมอง​ดวงตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​พลาง​กล่าวถาม​ว่า​ “ที่นี่​?”

เจ้าล่า​เยวี่ย​พลัน​กล่าว​ขึ้น​มาว่า​ “อยู่​มาหลาย​พันปี​ กระทั่ง​คุม​กำลัง​ก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​ อายุ​ของ​ท่าน​มัน​ไป​อยู่​ที่ไหน​หมด​?”

นาง​นิ่งเงียบ​อยู่​ครู่ใหญ่​ จู่ๆ พลัน​กล่าว​คำพูด​เสียดสี​ที่​ปกติ​ไม่มีทาง​พูด​ออกมา​เด็ดขาด​ออกมา​ นั่น​เป็น​เพราะ​ในเวลานี้​นาง​รู้สึก​ตื่นเต้น​จริงๆ​

นาง​ไม่รู้​ว่า​สวน​จิ้งหยวน​แห่ง​นี้​มีความหมาย​อะไร​ต่อ​จิ๋งจิ่ว​กัน​แน่​ แต่​นาง​เชื่อ​ว่า​หาก​จิ๋งจิ่ว​อยู่​ที่นี่​น่าจะ​มีประโยชน์​มากกว่า​

“อย่างไร​เสีย​ก็​มิได้​ไป​อยู่​บน​ตัว​หมา​ตัว​นั้น​ของ​เจ้าก็แล้วกัน​”

ฉีหลิน​กล่าว​ออกมา​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​เฉยเมย​ มิได้​สนใจ​ศิษย์​ชิงซาน​ที่​เลอะเลือน​แต่กลับ​เอาแต่​มอง​ไป​ทาง​ตำหนัก​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​คน​นี้​อีก​ เขา​กล่าวถาม​ว่า​ “เริ่ม​เลย​?”

ในขณะที่​พูด​ เขา​จ้องมอง​ดวงตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​อยู่​ตลอดเวลา​ — เขา​กับ​นักพรต​ไป๋​กำลัง​สงสัย​เรื่อง​ความเป็นมา​ของ​จิ๋งจิ่ว​ หาก​อีก​ฝ่าย​เป็น​จิ่งหยาง​กลับมา​เกิด​ใหม่​จริงๆ​ อย่างนั้น​ต่อให้​ระวัง​มาก​แค่​ไหน​ก็​ไม่ถือว่า​เกินไป​ ถึงแม้ตอนนี้​อีก​ฝ่าย​จะอยู่​แค่​คเนจร​ระดับ​กลาง​ เพียงแต่​ดีดนิ้ว​ก็​สามารถ​ฆ่าได้​ก็ตาม​

จิ๋งจิ่ว​มิได้​พูด​อะไร​ ข้อมือ​ขยับ​เบา​ๆ ปลาย​กระบี่​เหล็ก​สีดำ​ยกขึ้น​เล็กน้อย​

การเคลื่อนไหว​นี้​ดู​สบาย​ๆ แต่กลับ​แฝงเอาไว้​ด้วย​ความมั่นใจ​อย่าง​มาก​ แต่​สำหรับ​ฉีหลิน​แล้ว​ นั่น​ย่อม​ต้อง​เป็นการ​ท้าทาย​อย่าง​ร้ายแรง​

ฉีหลิน​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ มือขวา​ขยับ​เบา​ๆ เส้นตรง​ที่​ดูเหมือน​ควัน​สาย​หนึ่ง​พุ่งตรง​เข้า​ไปหา​จิ๋งจิ่ว​

ควัน​สาย​นี้​ดูเหมือน​เรียว​เล็ก​เป็นอย่างมาก​ แต่กลับ​ให้​ความรู้สึก​ที่​่น่ากลัว​เป็น​อย่างยิ่ง​ คล้าย​ภูเขา​ที่​หนักอึ้ง​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ สีหน้า​เจ้าล่า​เยวี่ย​พลัน​แปรเปลี่ยน​เล็กน้อย​ รู้​ว่า​ตนเอง​ไม่สามารถ​รับ​การ​โจมตี​นี้​เอาไว้​ได้​อย่าง​แน่นอน​

ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ ต่อให้​นาง​อยาก​จะใช้กระบี่​มิคำนึง​เข้าไป​รับ​การ​โจมตี​ครั้งนี้​ นาง​ก็​ปล่อย​กระบี่​ออก​ไป​ไม่ทัน​อยู่ดี​

ความเคลื่อนไหว​ที่​ดู​เรียบง่าย​ของ​ฉีหลิน​ ความจริง​แล้ว​กลับ​รวดเร็ว​ปาน​สายฟ้า​ คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​มองไม่เห็น​ด้วยซ้ำ​ว่า​เขา​ยก​มือขึ้น​มาเมื่อไร​ งอ​นิ้ว​เมื่อไร​ แล้ว​ดีด​ออก​ไป​เมื่อไร​

เวลา​คล้าย​หยุดนิ่ง​ลง​

จริงอยู่​ที่​เขา​สะกด​สภาวะ​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ที่​ขั้น​จิต​ก่อ​รูป​ แต่​พลัง​ยังคง​น่ากลัว​เป็นอย่างมาก​

เขา​มีพละกำลัง​มหาศาล​อย่าง​ที่​ยาก​จะจินตนาการ​ได้​ แล้วก็​ย่อม​ต้อง​มีความเร็ว​อย่าง​ที่​ไม่มีใคร​เทียบ​ได้​

ไม่ว่า​จะมอง​จาก​มุมไหน​ จิ๋งจิ่ว​ก็​ไม่สามารถ​หลบ​การ​ดีด​ครั้งนี้​ของ​ฉีหลิน​ได้​ ต่อให้​กระบี่​เซียน​แห่ง​ยมโลก​ของ​เขา​จะพิสดาร​ยาก​คาดคะเน​แค่​ไหน​ก็ตาม​

แต่​เขา​รับ​เอาไว้​ได้​

ใน​ตอนที่​ฉีหลิน​จ้องมอง​ดวงตา​ของ​เขา​ เขา​ก็​มองดู​ฉีหลิน​

สิ่งที่​เขา​มองดู​มิใช่มือ​ของ​ฉีหลิน​ มิใช่ไหล่​ของ​ฉีหลิน​ แล้วก็​มิใช่แขน​เสื้อ​ของ​ฉีหลิน​ที่​ขยับ​ขึ้น​เพราะ​แรงลม​ หาก​แต่​เป็น​ดวงตา​ของ​ฉีหลิน​

สายตา​ของ​ฉีหลิน​ขยับ​เล็กน้อย​ เขา​ก็​ขยับ​ทันที​ อีก​ทั้ง​ยัง​คำนวณ​ตำแหน่ง​ที่​ฉีหลิน​จะดีด​มาได้​ล่วงหน้า​ด้วย​

กระบี่​เหล็ก​สีดำ​ที่​กว้างใหญ่​และ​อัปลักษณ์​แหวก​อากาศ​พุ่ง​กลับมา​ มัน​เป็น​เหมือน​ชุด​เกราะ​และ​หมวกเหล็ก​ที่​คอย​ปกป้อง​อยู่​ด้านหน้า​ร่างกาย​เขา​ ปกปิด​ดวงตา​ของ​เขา​เอาไว้​ แล้วก็​ปกปิด​ท้องฟ้า​

กระทั่ง​ท้องฟ้า​ก็​ยัง​ปกปิด​ได้​ เช่นนั้น​ก็​ย่อม​ไม่มีอะไร​ผ่าน​เข้ามา​ได้​

ควัน​สาย​นั้น​ตกลง​ไป​บน​กระบี่​สีดำ​อย่าง​แม่นยำ​

คราบ​สกปรก​และ​รอยไหม้​ที่อยู่​บน​ตัว​กระบี่​เหล็ก​สีดำ​เหมือน​ยืดหยุ่น​ขึ้น​มา มัน​ยุบตัว​ลง​ไป​เล็กน้อย​ จากนั้น​ดีด​กลับ​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​

พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ตาม​ออก​มาจาก​ใน​กระบี่​ กระจาย​ออก​ไป​รอบ​ทิศ​ สุดท้าย​พุ่ง​กลับ​ไป​ใน​ท้องฟ้า​อีกครั้ง​ เกิด​เป็น​คลื่น​อากาศ​ที่​ไร้​รูปร่าง​สิบ​กว่า​สาย​

สุดท้าย​เหตุการณ์​ทั้งหมด​ก็​แสดง​ออกมา​ใน​รูปแบบ​ของ​เสียง​

เสียง​ฟึบ​เบา​ๆ ดัง​ขึ้น​ จากนั้น​เปลี่ยนเป็น​เสียงดัง​กัมปนาท​ที่​น่าหวาดกลัว​อย่าง​รวดเร็ว​

ตู้​ม! คล้าย​สายฟ้า​ฟาด​ลงมา​ที่​พื้น​

ต่อให้​เคาะ​ระฆัง​ใน​วัด​ฌาน​ทั่ว​ทั้ง​ใต้​หล้า​พร้อมกัน​ก็​ไม่สามารถ​กลบ​เสียง​ที่​ดังสนั่น​นี้​ไป​ได้​

คลื่น​อากาศ​ม้วน​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​ขึ้น​มา ฝุ่น​ควัน​ฟุ้งกระจาย​

จัว​หรู​ซุ่ย​ใบหน้า​ขาวซีด​

ซีอี้​อวิ๋น​กระอัก​เลือด​ออกมา​อีกครั้ง​

ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ส่งเสียง​กระอัก​ออกมา​ ถอยหลัง​ไป​สอง​ก้าว​

นี่​คือ​ผลกระทบ​จาก​การ​โจมตี​ครั้งนี้​ แม้จะมีสมณะตู้​ไห่​และ​สมณะต้า​ฉางคอย​ช่วย​ป้องกัน​แล้ว​

การ​ดีด​ที่​ดูเหมือน​ควัน​เมื่อครู่นี้​แฝงเอาไว้​ด้วย​พลัง​ที่​น่ากลัว​ขนาด​ไหน​กัน​?

……

……

หนึ่ง​ดีด​หนึ่ง​กระบี่​

สั่นสะเทือน​ไป​เก้า​ชั้น​ฟ้า

สมณะทุกคน​ที่อยู่​ใน​วัด​กั่วเฉิง​ต่าง​ได้ยิน​เสียง​นี้​ ต่าง​ทยอย​เดิน​ออกมา​ด้านนอก​ตำหนัก​ มอง​ไป​ทาง​สวน​ด้านหลัง​อย่าง​สงสัย​

เหล่า​ชาวบ้าน​ที่​เตรียม​ฉลอง​ปีใหม่​อยู่​ด้านนอก​วัด​ก็​ได้ยิน​เสียง​นี้​อย่าง​ชัดเจน​เช่นกัน​ พวกเขา​คิด​ขึ้น​มาอย่าง​งุนงง​ทันที​ว่า​หมู่บ้าน​ไหน​มีฟ้าฝ่าลงมา​อย่างนั้น​หรือ​ เหตุใด​ถึงได้​ดัง​ขนาด​นี้​

ภายใน​สวนผัก​ หลิ่ว​สือซุ่ย​ได้ยิน​เสียง​ดังสนั่น​ ใน​ใจค่อนข้าง​เป็นกังวล​ เขา​ย่อม​ต้อง​ฟังออก​ว่า​นั่น​มิใช่เสียง​สายฟ้า​

เสี่ยว​เห​อม​อง​ดู​สีหน้า​ของ​เขา​ กล่าว​เสียง​เบา​ๆ ว่า​ “ถ้ายังไง​…เจ้าจะไปดู​หน่อย​ไหม​?”

หลิ่ว​สือซุ่ย​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​จะหยิบ​ตะเกียบ​ขึ้น​มากินข้าว​ต่อ​ จากนั้น​กล่าวว่า​ “คุณชาย​ไม่ให้​ข้า​ไป​ เขา​ย่อม​ต้อง​มีเหตุผล​ของ​เขา​ ข้า​เชื่อฟัง​เขา​”

เสี่ยว​เห​อ​ไม่ค่อย​เข้าใจ​ กล่าวถาม​ว่า​ “เจ้าไม่กลัว​เขา​จะเกิดเรื่อง​หรือ​?

หลิ่ว​สือซุ่ย​คีบ​เนื้อ​ผัด​ผัก​ดอง​ใส่ใน​ชามข้าว​ ก่อน​จะกิน​เข้าไป​คำ​หนึ่ง​ใหญ่​ๆ พลาง​กล่าว​เสียง​อู้อี้​ว่า​ “คุณชาย​ไม่มีทาง​เกิดเรื่อง​”

……

……

จิ๋งจิ่ว​มีเรื่อง​

ฝุ่น​ควัน​ร่วง​ตก​ลงมา​จน​หมด​ เขา​มิได้​อยู่​ที่​เดิม​ หาก​แต่​ถอย​ ‘เข้า​’ ใน​ระเบียง​ทางเดิน​….

ร่าง​ของ​เขา​กระแทก​ระเบียง​ทางเดิน​จน​เป็น​รอยแตก​ลึก​เข้าไป​หลาย​ฉื่อ​ ดู​คล้าย​โค้ง​เว้า​เข้าไป​

เจตน์​กระบี่​ที่​เบาบาง​แต่กลับ​ชัดเจน​สิบ​กว่า​สาย​แผ่​กระจาย​ออกมา​พร้อมกับ​เส้น​ผม​และ​เสื้อผ้า​ที่​พลิ้วไหว​ ร่าง​กระบี่​ไร้​ลักษณ์​แต่กำเนิด​ยังคง​แสดง​ออกมา​

ฉีหลิน​เพียงแค่​ดีด​เบา​ๆ ก็​บีบ​ให้​เขา​ต้อง​ระเบิด​เจตน์​กระบี่​ทั้งหมด​ออกมา​ได้​

ถูกต้อง​ จริงอยู่​ที่​ฉีหลิน​ใช้พลัง​ใน​ขั้น​จิต​ก่อ​รูป​ แต่​ร่างกาย​ของ​เขา​…แข็งแกร่ง​มากเกินไป​

เหมือนกับ​ที่​เคย​บอก​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ เขา​คือ​สิ่งมีชีวิต​ที่อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ ยกเว้น​ผู้​ที่อยู่​ใน​แคว้น​เสวี่ย​ผู้​นั้น​

แต่​สิ่งที่​ทำให้​คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​พา​กัน​ตกใจ​นั้น​มิใช่ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ฉีหลิน​ เพราะ​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​ทุกคน​รู้กัน​อยู่แล้ว​ หาก​แต่​เป็นเรื่อง​ที่​…จิ๋งจิ่ว​ยัง​ไม่ล้ม​ลง​ไป​

จิ๋งจิ่ว​เดิน​ออก​มาจาก​ระเบียง​ทางเดิน​ เศษไม้ที่อยู่​บน​เสื้อผ้า​ร่วง​ตก​ลงมา​ เลือด​สดๆ​ ไหล​ออก​มาจาก​มุมปาก​

เขา​ยก​มือซ้าย​ที่​กำ​ยันต์​เซียน​ขึ้น​มาเช็ด​เลือด​ที่​มุมปาก​ จากนั้น​เผา​มัน​จน​กลาย​เป็นควัน​ ไม่เหลือ​ร่องรอย​ใดๆ​ ทิ้ง​เอาไว้​

ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ว่า​ใน​ควัน​สาย​นั้น​มีควัน​บางส่วน​ที่​ไหล​เข้าไป​ใน​ร่อง​นิ้ว​มือซ้าย​ของ​เขา​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ ซีอี้​อวิ๋น​ตกตะลึง​จน​พูดไม่ออก​ ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ตะลึง​ลาน​ — จิ๋งจิ่ว​รับ​การ​โจมตี​ของ​ฉีหลิน​เอาไว้​ได้​!

ฉีหลิน​หรี่ตา​เล็กน้อย​ ก้าว​ไป​ข้าง​หน้าหนึ่ง​ก้าว​

ในเวลานี้​เอง​ ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​มีเสียง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​มา “

“ครั้ง​ที่หนึ่ง​!”

คน​ที่​ตะโกน​ขึ้น​มาคือ​จัว​หรู​ซุ่ย​ เขา​ยังคง​ตะโกน​ใน​สิ่งที่​ทุกคน​ต่าง​รู้กัน​ดี​อยู่แล้ว​

เขา​มิใช่ว่า​อยาก​จะทำลาย​บรรยากาศ​อัน​ตึงเครียด​ภายใน​สวน​ หาก​แต่​ต้องการ​จะทำลาย​จังหวะ​ เพื่อให้​จิ๋งจิ่ว​ได้​มีเวลา​ฟื้นฟู​กำลัง​

จนกระทั่ง​ในเวลานี้​ เขา​ก็​ยัง​ไม่เงยหน้า​ขึ้น​มา มองดู​กระบี่​เหล็ก​สีดำ​ที่​ห้อย​ตก​อยู่​ข้าง​กาย​ของ​จิ๋งจิ่ว​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​กระบี่​นี้​น่าจะ​หัก​แล้ว​กระมัง​?

ทั่ว​ทั้ง​ชิงซาน​ต่าง​ทราบ​ดี​ กระบี่​ที่​จิ๋งจิ่ว​สืบทอด​มาคือ​กระบี่​ของ​อาจารย์​อา​ม่อ​แห่ง​ยอดเขา​ซื่อ​เยวี่ย​

กระบี่​เหล็ก​เล่ม​นี้​มิได้​มีอะไร​พิเศษ​ ยกเว้น​แค่​ตัว​กระบี่​ค่อนข้าง​กว้าง​

เมื่อ​สภาวะ​ของ​จิ๋งจิ่ว​ยิ่ง​เพิ่ม​สูงขึ้น​ ก็​ยิ่ง​มีหลาย​คน​ที่​รู้สึก​เสียดาย​แทน​เขา​ คิด​ว่า​กระบี่​เหล็ก​เล่ม​นี้​ไม่คู่ควร​กับ​เขา​ จัว​หรู​ซุ่ย​เอง​ก็​คิด​เช่นนี้​เหมือนกัน​

เสียง​แคร่​ก​เบา​ๆ ดัง​ขึ้น​ ผิวนอก​ของ​กระบี่​เหล็ก​มีรอยแตก​ปรากฏ​ขึ้น​มา จากนั้น​ค่อยๆ​ ลาม​ออก​ไป​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ จัว​หรู​ซุ่ย​รู้สึก​จนปัญญา​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ตนเอง​เคย​บอก​เอาไว้​แล้ว​ว่า​กระบี่​เล่ม​นี้​ของ​ท่าน​มัน​ไม่ไหว​ นอกจาก​มีพิษ​นิดหน่อย​แล้ว​ยัง​มีประโยชน์​อะไร​?

“เหล็ก​ผุ​ๆ แบบนี้​ยัง​กล้า​เอา​มาชี้ข้า​อย่างนั้น​หรือ​?” ฉีหลิน​จ้อง​ดวงตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​พลาง​กล่าว​

จิ๋งจิ่ว​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ยก​กระบี่​เหล็ก​ที่อยู่​ใน​มือขึ้น​มาอีกครั้ง​

เสียง​ตุบ​ดัง​ขึ้น​ มีของ​หนัก​ๆ ตก​ลงพื้น​

มิใช่กระบี่​เหล็ก​หัก​ หาก​แต่​เป็น​คราบ​สนิม​ก้อน​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​ผิว​กระบี่​หลุด​ลอก​ออกมา​ จากนั้น​ร่วง​ตก​ลงพื้น​เหมือน​ก้อนหิน​ ก่อน​จะแตก​กลายเป็น​ก้อน​เล็ก​ๆ

อีก​ประเดี๋ยว​ กระบี่​เหล็ก​จะแตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ เหมือน​อย่าง​คราบ​สนิม​นี้​หรือเปล่า​?

จิ๋งจิ่ว​ได้รับบาดเจ็บ​ไม่เบา​ แต่กลับ​ไม่มีความหวาดกลัว​ใดๆ​ เขา​ยังคง​ชี้กระบี่​ไป​ยัง​ฉีหลิน​ ข้อมือ​ขยับ​เล็กน้อย​ ปล่อย​กระบี่​ยกขึ้น​

ไป๋​เชีย​นจ​วิน​มองเห็น​เป็น​ความหมาย​อื่น​ รู้สึก​โกรธ​เป็นอย่างมาก​ ใน​ใจคิด​ว่า​เจ้าจะตกปลา​อย่างนั้น​หรือ​? กล้า​ดี​ยังไง​มาแสดง​กิริยา​เช่นนี้​ต่อหน้า​สัตว์​เทพ​ของ​สำนัก​ข้า​ สามหาว​ยิ่งนัก​!

เมื่อ​กระบี่​เหล็ก​ยกขึ้น​ เศษสนิม​สีดำ​และ​เกาะ​ตัว​หนา​เป็นเวลา​นาน​หลาย​ปี​ก็​ร่วง​ตก​ลงมา​อีก​ เผย​ให้​เห็น​ส่วน​ของ​กระบี่​ที่​แวววาว​

ลม​พลัน​พัด​ขึ้น​มา ร่าง​ของ​จิ๋งจิ่วหา​ย​ไป​อยู่​บน​ท้องฟ้า​เหนือ​สวน​จิ้งหยวน​ จากนั้น​ก็​วูบ​ไหว​เหมือน​เปลว​เทียน​ ก่อน​จะไป​อยู่​เหนือ​ภูเขา​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​ลี้​ลูก​นั้น​

การเคลื่อนไหว​นี้​แปลกประหลาด​ยาก​คาดคะเน​ อีก​ทั้ง​ยัง​รวดเร็ว​เป็นอย่างมาก​ แม้แต่​หลบหนี​ฟ้าดิน​ของ​สำนัก​จงโจว​ก็​ยัง​มิอาจ​เทียบ​ได้​

คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ย่อม​ไม่รู้​ถึงการ​มีอยู่​ของ​วิชา​กระบี่​เซียน​แห่ง​ยมโลก​ ใน​ใจต่าง​ครุ่นคิด​ว่า​หรือ​ร่าง​กระบี่​ไร้​ลักษณ์​แต่กำเนิด​จะมีพลัง​ถึงเพียงนี้​?

สีหน้า​ของ​ซีอี้​อวิ๋น​ตกตะลึง​ คิดถึง​การเคลื่อนไหว​ที่​ดู​มหัศจรรย์​ที่​จิ๋งจิ่ว​เคย​แสดง​ออกมา​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​

สีหน้า​ของ​ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ยิ่ง​ดู​แย่​ บน​ภูเขา​ปู้​โจว​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ เขา​กับ​ยอด​ฝีมือ​อีก​หลาย​สิบ​คน​ของ​แคว้น​ฉิน​ถูก​จิ๋งจิ่ว​ที่อยู่​ใน​สภาพ​แบบนี้​สังหาร​จน​เลือด​เจิ่งนอง​ แล้ว​เขา​จะลืม​ได้​อย่างไร​? เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​แม้น​จะอยู่​ใน​โลก​แห่ง​ความเป็นจริง​ จิ๋งจิ่ว​ก็​ยัง​แสดง​เพลง​กระบี่​ที่​ยาก​คาดคะเน​ได้​เช่นนี้​ออกมา​ อีก​ทั้ง​ยัง​ดูเหมือน​จะแข็งแกร่ง​ขึ้น​กว่า​เดิม​ด้วย​

สายตา​ของ​ฉีหลิน​ยิ่ง​เย็นยะเยือก​ นั่น​แสดงถึง​ความ​โกรธเกรี้ยว​และ​จิต​สังหาร​

ในเวลานี้​เขา​ยิ่ง​มั่นใจ​ว่า​คน​ที่​หนี​ออก​มาจาก​คุก​สะกด​มาร​ใน​ตอนนั้น​ก็​คือ​คน​ผู้​นี้​ คน​ผู้​นี้​นี่แหละ​ที่​ทำให้​ชางลง​ต้อง​ตาย​!

ลมกระโชก​ขึ้น​มา เขา​หาย​ไป​จาก​ที่​ที่​ยืน​อยู่​เดิม​ พริบตา​ก็​มาอยู่​บน​ท้องฟ้า​เหนือ​ภูเขา​ลูก​นั้น​ พร้อม​ฟาด​ฝ่ามือ​เข้าใส่​จิ๋งจิ่ว​

ถึงแม้จะเป็น​ดวงไฟ​ที่​มืด​สลัว​ แต่​ก็​ยาก​จะดับ​มอด​ใน​ลมพายุ​อัน​คลุ้มคลั่ง​

จิ๋งจิ่ว​วูบ​ไหว​ไปมา​ ประเดี๋ยว​ตะวันออก​ ประเดี๋ยว​ตะวันตก​ ไม่รู้​ว่า​หลุด​ออกมา​ขอบเขต​ของ​พลัง​ฝ่ามือ​มาอยู่​บน​ท้องฟ้า​ที่สูง​ขึ้นไป​ได้​อย่างไร​

อิทธิฤทธิ์​ของ​ฉีหลิน​น่าหวาดกลัว​ หลัง​โจมตี​ถูก​อากาศ​ คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​ยัง​สามารถ​ดึง​พลัง​ฝ่ามือ​กลับมา​ได้​ เขา​บีบ​พลัง​ฝ่ามือ​ที่​ดึง​กลับมา​จน​แตก​กลายเป็น​ลูกศร​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ จากนั้น​สาด​มัน​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​!

ในเวลานี้​ ใน​หมู่บ้าน​ที่อยู่​ด้านนอก​วัด​กั่วเฉิง​มีชาวบ้าน​กำลัง​จุด​ประทัด​

ปัง​ๆๆๆ เสียง​ประทัด​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ดัง​ขึ้น​ กลบ​เสียง​ระเบิด​ของ​ลูกศร​เหล่านั้น​เอาไว้​

คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​เงยหน้า​ขึ้น​ มองเห็น​แค่​เพียง​ฝนดาวตก​และ​ลำแสง​กระบี่​สาย​หนึ่ง​ที่​ฉวัดเฉวียน​ไปมา​อยู่​ใน​นั้น​ มีเพียง​สมณะตู้​ไห่​ที่​พอ​จะมองเห็น​ร่าง​ของ​จิ๋งจิ่ว​ เพียงเท่านี้​ก็​พอ​จะรู้​แล้ว​ว่า​เขา​รวดเร็ว​แค่​ไหน​

จัว​หรู​ซุ่ย​ยังคง​ไม่เงยหน้า​ เขา​จ้อง​มองดู​ต้น​หญ้า​ที่​กำลัง​สั่น​ระริก​อยู่​บน​พื้น​หิน​ สีหน้า​ขาวซีด​ ใน​ใจครุ่นคิด​อย่าง​เงียบๆ​ ว่า​ในเวลานี้​ได้​หรือยัง​? จะให้​ดู​เมื่อไร​กัน​แน่​? ดู​มัน​ใช่หรือเปล่า​?

ลม​หยุด​พัด​ เมฆมิไหวติง​ ดาวตก​ทั่ว​ท้องฟ้า​หาย​ไป​ ร่าง​ของ​จิ๋งจิ่ว​ปราก​ฎขึ้น​อีกครั้ง​ ลงมา​ยืน​บน​พื้น​ ชุด​สีขาว​เหมือน​ก้อน​เมฆ ไม่มีเสียง​ใดๆ​

ฉีหลิน​เอง​ก็​กลับ​มายัง​สวน​จิ้งหยวน​

บอก​เอาไว้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​จะโจมตีสาม​ครั้ง​ ดังนั้น​เขา​จึงโจมตี​ออก​ไป​เพียง​ฝ่ามือ​เดียว​ มิได้​ไล่ตาม​โจมตี​

ก่อนหน้านี้​ฉีหลิน​ฟาด​ออก​ไป​หนึ่ง​ฝ่ามือ​ ก่อน​จะกลายเป็น​ฝนดาวตก​กระจาย​เต็ม​ท้องฟ้า​ ความจริง​สามารถ​ถือ​เป็นการ​โจมตีหนึ่ง​ครั้ง​ได้​ แต่​เมื่อ​คิดถึง​สถานะ​และ​ความ​อาวุโส​ของ​มัน​ เช่นนั้น​ก็​ถือว่า​ทำเกินไป​หน่อย​

จัว​หรู​ซุ่ย​ยังคง​ไม่วางใจ​ เขา​มอง​พื้น​พลาง​ตะโกน​ว่า​ “สอง​…เอ่อ​?”

จู่ๆ เขา​พลัน​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ตาลาย​

เท้า​ของ​จิ๋งจิ่ว​เหมือน​จะหาย​ไป​จาก​ตรงหน้า​เขา​ใน​พริบตา​

จากนั้น​ภายใน​สวน​ก็​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​

……

……

ใน​ตอนที่​จัว​หรู​ซุ่ย​ก้มหน้า​ ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​มีลำแสง​กระบี่​สว่าง​วาบ​ จากนั้น​ก็​มีเสียง​ฉึบ​เบา​ๆ ดัง​ขึ้น​

จิ๋งจิ่ว​กลับมา​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ใบหน้า​ขาวซีด​ เห็นได้ชัด​ว่า​ได้รับบาดเจ็บ​ไม่น้อย​

แต่​ไม่มีใคร​มอง​เขา​

ทุกคน​ต่าง​มอง​ไป​ยัง​ฉีหลิน​

หาง​คิ้ว​ของ​ฉีหลิน​มีบาดแผล​ตื้นๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​มารอย​หนึ่ง​ หยด​เลือด​หยด​เล็ก​ๆ ค่อยๆ​ ไหล​ซึมออกมา​อย่าง​ช้าๆ

เขา​จ้องมอง​ดวงตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​ ก่อน​กล่าว​ออกมา​ช้าๆ ที่​ละ​คำ​ว่า​ “เจ้ากล้า​ทำร้าย​ข้า​…”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “รับ​เจ้าสามกระบวนท่า​ แต่​ไม่ได้​บอ​กว่า​ห้าม​โจมตีกลับ​”

ฉีหลิน​คิดไม่ถึง​จริงๆ​ ว่า​จิ๋งจิ่ว​ยัง​จะกล้า​โจมตีกลับ​ใน​สถานการณ์​แบบนี้​ มัน​ไม่ได้​เตรียมตัว​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​คิดไม่ถึง​ด้วยว่า​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​จะเร็ว​ขึ้น​ได้​อีก​ ถึงได้​ถูก​กระบี่​ของ​เขา​ฟัน​เข้า​

นี่​ล้วนแต่​ไม่ใช่สิ่งสำคัญ​ สิ่งสำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​เขา​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​กระบี่​ของ​จิ๋งจิ่วจะ​ทำร้าย​ตนเอง​ได้​

ทุกคน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ล้วน​ไม่มีใคร​คิดถึง​ พวกเขา​มองดู​หยด​เลือด​ที่​ไหล​ซึมออก​มาจาก​หาง​คิ้ว​ของ​ฉีหลิน​ ตกตะลึง​จน​พูดไม่ออก​

ชายหนุ่ม​ผู้​หนึ่ง​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​มาไม่ถึงสามสิบ​ปี​ อยู่​แค่​ใน​สภาวะ​คเนจร​ระดับ​กลาง​ แต่กลับ​สามารถ​ทำให้​ฉีหลิน​บาดเจ็บ​ได้​?

นี่​มัน​เป็นไปได้​อย่างไร​!

จัว​หรู​ซุ่ย​ฟังบทสนทนา​ภายใน​สวน​ รู้สึก​ตกตะลึง​อย่าง​มาก​เช่นเดียวกัน​

ต่อให้​ฉีหลิน​สะกด​พลัง​ตัวเอง​เอาไว้​แค่​ใน​ระ​ดับจิต​ก่อ​รูป​ แต่​ร่าง​ศักดิ์สิทธิ์​แต่กำเนิด​จะถูก​ทำลาย​ได้​อย่างไร​ ท่าน​ใช้กระบี่​อะไร​กัน​แน่​?

—–กระบี่​ของ​ตัวเอง​ไม่ไหว​อย่าง​แน่นอน​ เกรง​ว่า​กระบี่​ของ​เจ้าแห่ง​ยอดเขา​ทั้ง​เก้า​ของ​ชิงซาน​ก็​มิแน่​ว่า​จะสามารถ​ทำ​เช่นนี้​ได้​ทุก​เล่ม​ หรือว่า​ท่าน​ใช้กระบี่​มิคำนึง​?

เจ้าล่า​เยวี่ย​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​จิ๋งจิ่ว​ มือซ้าย​ร่าย​เคล็ด​กระบี่​ สะกด​กระบี่​มิคำนึง​ที่​กำลัง​สั่น​ระริก​อยู่​ใน​โอสถ​กระบี่​

สมณะตู้​ไห่​รู้เรื่อง​มากกว่า​นั้น​ เขา​มอง​จิ๋งจิ่ว​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​หรือ​เจ้าจะใช้กระบี่​ไร้​อัตตา​ที่​เล่าลือ​กัน​ว่า​คม​ที่สุด​?

หลิ่ว​สือซุ่ย​ที่อยู่​ใน​สวนผัก​มองดู​สร้อยข้อมือ​ที่​กำลัง​ส่งเสียง​หวึ่งๆ​ ดู​ตื่นเต้น​เป็นอย่างมาก​อยู่​บน​ข้อมือ​ของ​ตน​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ภายใน​วัด​กั่วเฉิง​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

จิ๋งจิ่ว​มิได้​พูด​อะไร​อีก​ เขา​ยก​กระบี่​เหล็ก​สีดำ​ชี้ไป​ทาง​ฉีหลิน​อีกครั้ง​

คราบ​สนิม​ที่อยู่​บน​กระบี่​เหล็ก​สีดำ​ร่วง​ตก​ลงมา​ตาม​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ ค่อยๆ​ เผย​ให้​เห็น​ตัว​กระบี่​ที่​เป็น​มันวาว​

สมณะตู้​ไห่​มองดู​กระบี่​นั้น​ รับรู้​ได้​ถึงพลัง​อัน​ซับซ้อน​ที่​แหลมคม​ ว่างเปล่า​แต่กลับ​รุนแรง​เป็นอย่างมาก​จาก​ใน​ตัว​กระบี่​ เขา​ถามอย่าง​ตกตะลึง​ว่า​ “นี่​มัน​กระบี่​อะไร​?”

สายตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​เปลี่ยนเป็น​ว่างเปล่า​ เสียง​ยิ่ง​ฟังดู​เยือกเย็น​ เหมือนกับ​กระบี่​เล่ม​นี้​

“คม​จักรวาล​”

มรรคาสู่สวรรค์

มรรคาสู่สวรรค์

Score 10
Status: Completed

ข้าคือกระบี่

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าวไม่ยอมเดิน

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าวไม่อยากเดิน

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าว? ไม่เดิน!!!

——————-

ผู้เป็นนายคือบุรุษหนุ่มลึกลับผู้มาพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลาและใบหูที่กางดูน่ารัก

ผู้เป็นบ่าวคือเด็กชายใสซื่อผู้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าแต่กำเนิด

หนึ่งนายหนึ่งบ่าวเดินทางมายังสำนักชิงซานซึ่งเป็นสำนักบำเพ็ญพรตอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน เพื่อเข้าสู่เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียร

ทว่าในระหว่างที่อยู่ในสำนัก ผู้เป็นนายกลับเอาแต่นอน ในสายตาคนอื่นเขาคือคนที่เกียจคร้านอย่างไม่มีใครเทียบได้

ส่วนผู้เป็นบ่าวกลับขยันฝึกฝนจนบรรลุสภาวะขั้นต้นในเวลาอันสั้น

แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือ

สาเหตุที่ผู้เป็นบ่าวสามารถบรรลุสภาวะได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะเคล็ดการหายใจที่ผู้เป็นนายเคยสั่งสอนให้…

บุรุษหนุ่มรูปงามผู้นี้คือใครกันแน่ ไฉนจึงเอาแต่นอนเกียจคร้านทั้งวันเช่นนี้?!

Options

not work with dark mode
Reset