ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ 50 บท2ตอนที่21 ศึกตัดสินรอบชิงชนะเลิศ รอบแรก

ตอนที่ 50 บท2ตอนที่21 ศึกตัดสินรอบชิงชนะเลิศ รอบแรก

 

ผ่านเข้ารอบสุดท้ายและรับฟังรายระเอียดเกี่ยวกับกฎจากฝ่ายจัดงาน

เพื่อริบเงินรางวัลกรณีที่แพ้เพราะทำผิดกฎ การแข่งขันรอบจริงจึงได้เพิ่มกฎว่าจะได้รับเงินรางวัลทั้งหมดทีเดียวก็ต่อเมื่อกำหนดผู้แพ้ชนะทั้งหมดในการประลองแล้วเท่านั้น

ตรงนี้ ไม่ว่าผู้สละสิทธิ์จะอยู่นอกหรือในที่จัดงานประลอง ตามธรรมเนียมปกติก็สามารถถอนเงินรางวัลตามส่วนที่ชนะได้ทุกเมื่อ

แต่ทัวร์นาเมนต์นี้ อาจเรียกได้ว่าความรุ่งโรจน์ของการประลอง ถ้ามีผู้สละสิทธิ์โผล่มาเรื่อยๆการแข่งขันรอบสุดท้ายก็จะหมดสนุกเอา ดังนั้นผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้แล้วนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ถอนตัวก่อนการแข่งขัน

ก็สมควรแล้ว สิ่งที่ถูกห้ามอย่างเคร่งครัดมีแค่การถอนตัวก่อนการประลองเท่านั้น การกระทำที่ตั้งใจให้ตัวเองออกนอกสนามหรือการประกาศยอมแพ้โดยสมัครใจไม่ได้ถูกห้ามอย่างเคร่งครัด ดังนั้นในความเป็นจริงจึงได้เตรียมมาตรการเยียวยาที่คล้ายคลึงกันไว้แล้ว

เอาล่ะ มีเวลาว่างพอก่อนจะถึงการประลองรอบต่อไป ฉันเลยมาดูการประลองของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นแต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่เด็กน้อยไร้ประสบการณ์

ที่น่าสนใจก็มีอยู่ไม่กี่คนรวมถึงฟรายกับแซคด้วย  ที่เกินความคาดหมายก็คือ ศึกระหว่างแซคกับริคุ แน่นอนระหว่างแซคกับริคุมีความต่างชั้นกันราวฟ้ากับเหวในฐานะนักสู้ เป็นการต่อสู้ที่ราวกับเด็กเจอกับผู้ใหญ่อย่างแท้จริง ทีแรกก็นึกว่าริคุจะยอมแพ้ทันทีซะอีก แต่ถึงแม้ทั่วทั้งร่างจะเต็มไปด้วยบาดแผล หมอนั่นก็ยังต่อต้านเรื่อยๆจนกระทั่งหมดสติล้มพับไป

บางทีริคุ อาจจะยังหลงเหลือศักดิ์ศรีในฐานะนักสู้อยู่ก็ได้ เอาเถอะ ริคุยังเด็ก ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือเติบโตในฐานะนักสู้ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับตัวหมอนั่น

เอาเป็นว่า อีกสองรอบฉันก็จะเจอกับแซค ต่อสู่ตัดสินกันทาบทามให้มาเป็นองครักษ์ของโรส จากนั้นก็ถอนตัวจากการประลอง

 

ปัจจุบัน ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปสนามประลองเพื่อแข่งทัวร์นาเมนต์รอบชิงชนะเลิศ รอบแรก

แม้แต่ตอนนี้ก็ยังได้ยินเสียงซุบซิบนินทาจากคนรอบข้าง เอาแต่ประเมินค่าคนอื่นแบบนี้ไม่เบื่อรึไง

ทันทีหลังจากจบการประลองรอบคัดเลือกกับรอบรอง พวกริคุนำโดยครูผู้ช่วยชิกะกล่าวหาว่าฉันโกง แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ คงเพราะอยากจะระบายความโกรธนั่นละมั้ง เลยไปป่าวประกาศว่าฉันที่ไร้ความสามารถชนะผ่านรอบคัดเลือกโดยใช้ไอเทมต้องห้าม

ด้วยเหตุนี้ข่าวลือเสียๆหายๆจึงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองฉันจึงกลายเป็นไอ้หน้าส้นตีน เรียบร้อย

และในที่สุดฝ่ายจัดงานประลองก็ไม่สามารถมองข้ามมันได้อีกต่อไป จึงมีการเปลี่ยนแปลงกฎบางอย่าง แหวนหรือเครื่องประดับต่างๆรวมไปถึงชุดนอกเหนือจากที่เตรียมไว้ให้ถูกห้าม

การเคลื่อนไหวของสังคมโลกมนุษย์พรรค์นั้นสำหรับฉันจะยังไงก็ได้แต่เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้โรสเดือดปุดๆ สำหรับฉันไอ้นั่นต่างหากที่น่ารำคาญมากกว่า

พอมาถึงที่จัดงานก็เปลี่ยนชุดที่ฝ่ายจัดงานเตรียมไว้ให้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะนั้นฉันก็โยนสิ่งสวมใส่ทั้งหมดลงไอเทมบ็อก

“โฮ่ ชุดนี้ ไอเทมจำกัดความสามารถงั้นรึ”

ชุดที่เตรียมไว้ให้สวม ดูเหมือนจะมีผลสุ่มลดค่าสถานะ【พลังกาย】、【ต้านทาน】、【ความคล่องแคล่ว】ลงประมาณ5-10หน่วย ยังไงก็เถอะ ชั่งน่าเสียดายที่มันไม่มีผลกับฉันในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย

อุมุ ออกสู่ที่สาธารณะโดยไม่จำกัดความสามารถจะเป็นอะไรรึเปล่านะ?โดยพื้นฐานแล้ว โลกใบนี้มีความต่างชั้นอย่างมากระหว่างผู้แข็งแกร่งกับผู้อ่อนแอ อีกด้านหนึ่ง ระหว่างเดินทางมาลูซาฮัลแห่งนี้ก็พอได้ฝึกออมมือให้พอดีกับระดับของคู่ต่อสู้อยู่ เพราะงั้นถึงคู่ต่อสู้จะอ่อนแอ บางทีคิดว่าคงไม่ถึงขั้นพลั้งมือฆ่าหรอกมั้ง

แต่เดิม การคาดคะเนความสามารถที่แท้จริงของฉันว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก บางทีคงจะยุ่งยากกว่าการใช้ประเมินของแอสต้าอีกละมั้ง ความคิดที่จะถอนตัวกลางคันได้เปลี่ยนไปแล้ว จะดีหรือร้ายก็จะคว้าแชมป์ให้ดู

เพราะฉันมันเป็นพวกขวางโลกน่ะนะ

 

พอก้าวเท้าเข้าสู่สนามประลองที่รายล้อมไปด้วยผู้ชมทั่วทิศทางตรงที่นั่งคนดู เสียงโห่ก็ดังขึ้นถึงขั้นทำให้บรรยากาศสั่นไหว 

กลับกัน พอชายนัยน์ตาดูชั่วร้ายผมแหลมเดินเข้าสนามประลอง ทั่วที่จัดงานก็เงียบลงอย่างน่าประหลาด

อุมุ เจ้าหัวตั้งนี่ดูเหมือนจะโดนเกลียดคนละแบบกับฉัน ไม่เคยเห็นเจ้าหัวตั้งนี่ต่อสู้มาก่อนแต่ดูจากที่มีฮิลเลอร์มาสแตนบายรอข้างลานประลองแบบนี้ คงจะมีสไตล์การต่อสู้ที่บ้าระห่ำพอตัวเลยละมั้ง

หืม?พิธีกรเปลี่ยนจากสาวผมทองเป็นชายชุดดำ ดูเหมือนฝ่ายจัดงานจะเตรียมพร้อมเต็มที่เลยนะ

 

『ถ้าเช่นนั้นสำหรับการประลองรอบสุดท้ายกลุ่มห้า เริ่มจากชายคนนี้ผู้ถือครองกิฟท์【ไร้ความสามารถที่สุดในโลก】ไค ไฮเนมัน!ไม่ใช่แค่ไร้ความสามารถที่สุด、แต่เป็นชายที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก! ถึงแม้จะอยู่ระหว่างการตั้งข้อสงสัยว่าใช้ไอเทมโกง、ได้เข้าสู่สนามประลองรอบสุดท้ายแล้วครับ!!』

 

เสียงโห่ร้องลูกใหญ่หล่นทับหัวฉันอย่างจัง

การดูหมิ่นผู้เข้าแข่งขันอยู่ฝ่ายเดียวในจังหวะเวลาแบบนี้ คงไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ โดยเฉพาะพิธีกรที่น่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง

 

「โปรดอย่าได้กังวลไป ผู้จัดงานประลองไม่ใช่คนโง่ เนื่องจากข้อสงสัยในครั้งนี้ ทางผู้จัดงานประลองจึงได้เตรียมชุดสำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกคนไว้แล้ว ไม่สามารถโกงได้อีกต่อไป!」

 

เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังขึ้น

พอชายชุดดำพยักอย่างหน้าพอใจ ก็ใช้มือขวาชี้ไปทางเจ้าผมตั้งริมฝีปากหนา

 

「ผู้ที่จะมาพิพากษาเจ้าไร้ความสามารถ ด้วยอัตราการทำลายล้างคู่ต่อสู้สูงถึง70%。ผู้ถือครองกิฟท์แห่งเปลวเพลิง ผู้บดขยี้ขนานแท้ ดิ๊ก・บาม ความแข็งแกร่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นของจริง! เอาล่ะ ในครั้งนี้ เขาจะบดขยี้เจ้าไร้ความสามารถอันน่ารังเกียจด้วยวิธีไหนกันนะ!」

 

การอธิบายที่ราวกับชื่นชมของชายชุดดำ ทำให้ทั่วทั้งที่จัดงานโห่ร้องด้วยความยินดีดังขึ้นกว่าเดิม

การที่พิธีกรพูดเรื่องทำลายคู่ต่อสู้แบบนี้ได้รับการอนุมัติด้วยเหรอ ดูเหมือนหมอนั่นจะไม่มีศักดิ์ศรีในฐานะพิธีกรเลยสินะ แถมพวกคนดูก็ยอมรับเรื่องนั้นเหมือนกัน ดูเหมือนเจ้าพวกนี้จะเกลียดฉันเข้าใส้เลยสินะ

พอเดินไปยังใจกลางสนามประลอง

 

“ว่างั้นแน่ะ พึ่งเคยเจอคนที่ถูกคนอื่นเกลียดมากกว่าตัวเองเป็นครั้งแรกเลยล่ะ”

 

เจ้าหัวแหลมผมดำ—ดิ๊ก・บาม แสยะยิ้มพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าใกล้ฉันและแสดงความประทับใจพรรค์นั้นออกมา

 

“งั้นเหรอ?เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยนะ นั่นน่ะ”

“นี่นาย ไม่กลัวฉันงั้นเหรอ?”

 

ดิ๊ก เลิกคิ้วขึ้นแล้วจ้องมาที่ฉันและถามออกมา

 

“เพื่ออะไร?”

“เพื่อฉันคนนี้ไง?ฉันแข็งแกร่งกว่านายอย่างท้วมท้นเลยนะเฮ้ย?”

“หืม จะใช้รึเปล่า ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ความมั่นใจนั้นของนาย ครั้งนี้คงพอจะคาดหวังได้นิดหน่อยล่ะนะ”

 

ความแข็งแกร่งของดิ๊กสำหรับฉันระดับอยู่ต่ำกว่าแมลงมีปีกจนแยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำแต่ ยังหลงเหลือข้อสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำถ้าคู่ต่อสู้เป็นมนุษย์อยู่ เหนือสิ่งอื่นใด คุณค่าของนักสู้ไม่ได้ตัดสินจากสเตตัสเพียงอย่างเดียว ขอแค่มีทักษะบางครั้งก็สามารถทำให้ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอย่างท้วมท้นคุกเข้าลงได้เหมือนกัน นี่คือสิ่งที่ฉันตระหนักได้จากจิตวิญญาณ ตอนที่อยู่ในดันเจี้ยนสำหรับผู้อ่อนแอนั่น

 

“พูดได้ดี!เจ้าขยะ ฉันจะละเลงเลือดแกเอง โอ่ย กรรมการ ให้สัญญาณเริ่มเร็วๆดิ!”

 

ชายชุดดำพยักหน้า ลงจากลานประลอง จากนั้นชายสกินเฮดในชุดทางการที่น่าจะเป็นกรรมการก็เดินขึ้นลานประลองและเอามือสองข้างไขว้กัน จากนั้น

 

「ไฟท์!」

 

ตะโกนพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้น

 

“ไหม้ไปซะ เจ้าขยะเปียก!!”

 

มือทั้งสองข้างของดิ๊กปกคลุมด้วยเปลวเพลิงพร้อมกับตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็พุ่งตัวเข้ามา

ฉันหลีกเลี่ยงหมัดขวาที่พุ่งตรงมาอย่างง่ายดาย หลบการเตะต่ำโดยเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด หลบหลีกหมัดซ้ายที่ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงที่ตามหลังมาอย่างไม่ยากเย็น

นี่มันช่างโหดร้าย  หมอนี่อ่อนแอกว่าเจ้าไร้ประสบการณ์ริคุอีก ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีแม้กระทั่งความทนทาน(สตามิน่า)ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักสู้ เห็นได้ชัดว่ายังฝึกมาไม่ดีพอ ไอ้แบบนี้ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ด้วยซ้ำ เป็นได้แค่การแสดงข้างทาง

ถึงไม่อยากจะเชื่อก็เถอะ แต่ถ้าสิ่งที่พิธีกรนั่นอธิบายเป็นความจริงละก็ ดูเหมือนไอ้หุ่นกระบอกนี่จะใช้การแสดงข้างทางเล่นงานผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจนฟื้นตัวไม่ขึ้นได้สินะ

 

“เวรเอ้ย ทำไมถึงไม่โดน!?”

 

ดิ๊กหายใจหอบจ้องมาที่ฉัน

 

“เพราะนายไม่ใช่นักสู้ยังไงล่ะ”

 

เป็นความจริงที่ไม่ต้องถามหาคำตอบด้วยซ้ำ

ไม่ได้หมายความว่าฉันดูถูกกิฟท์กับสกิลสายเปลวเพลิงหรอกนะแต่ ต้องเป็นในกรณีที่ถูกนับเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้แล้วเท่านั้น เจ้าคนที่ใช้ประโยชน์จากแค่กิฟท์ที่ตัวเองได้รับเอาลูกเดียวอย่างหมอนี่ ฉันไม่ยอมรับเป็นนักสู้หรอก

 

“ฉันคือ—ลูกศิษย์ของสำนักเปลวเพลิงอันชั่วร้าย!!”

“เปลวเพิงจั่ว…… ?ชื่อสำนักชวนให้ลิ้นพันพรรค์นั้นฉันไม่รู้จักหรอก แต่สิ่งที่ฉันอยากจะสื่อคือทั้งหมดที่นายใช้น่ะมันไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ต่างหาก”

 

ฉันค่อยๆเดินเข้าหาหมอนั่น

 

“อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันน่ะ—”

 

ฉันใช้เทคนิคการเดินอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อเข้าใกล้หมอนั่นและใช้มือซ้ายจับหน้ามันยกขึ้นอย่างง่ายดาย

 

“ห้ะ!?”

 

พอฉันใส่แรงลงไปในมือซ้าย

 

“อ๊าก! จะ-เจ็บ! ปะ-ปล่อยนะ!!”

 

ดิ๊กสบัดตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ปล่อยเสาเพลิงใส่ฉัน ไฟพรรค์นั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันที่มีดูดซับธาตุเดียวกันแล้วก็ไร้ความหมาย ฉันเมินและเพิ่มแรงมือซ้ายที่ใช้บีบเข้าไปอีก

เข้าใจพลังของหมอนี่แล้วล่ะ ไม่ต่างกับพวกอันธพาลที่เคยมาตอแยฉันก่อนหน้านี้สักนิด ถึงจะไม่ได้ใส่【ถุงมือผนึกเทพ】ถ้าปรับแรงให้พอเหมาะกับผู้อ่อนแอก็คงไม่ตายหรอก

 

“อย่าได้กังวลไป แรงระดับนี้ไม่พอทำให้กะโหลกแตกหรอก เพราะไม่ว่ายังไง ก่อนหน้านี้ฉันก็ฝึกบีบกะโหลกสัตว์กับผลไม้ทุกวัน ถ้าเป็นเรื่องออมมือละก็ค่อนข้างมั่นใจ”

 

พอฉันยกมุมปากและเงยหน้าขึ้นมอง

 

“ฮะ-ฮี้!”

 

ดิ๊กกรีดร้องออกมาเล็กน้อย ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยความกลัว

 

“ฟังนะ?สิ่งที่ฉันทำกับนายอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่แม้กระทั่งศิลปะการต่อสู้ เป็นแค่การใช้กำลังล้วนๆ ที่แม้แต่คนอย่างนายก็ทำได้ เป็นเพียงแค่การใช้ความรุนแรงอย่างไร้ค่า แต่ว่านะ—พลังแค่นี้ก็เพียงพอที่จะบดขยี้คนอย่างนายได้แล้ว”

 

ฉันดึงข้อศอกลง กำหมัดแน่น

 

“ยะ-ยอม—”

“จะให้โอกาสอีกครั้ง ไปเริ่มใหม่ตั้งแต่หนึ่งซะ!”

 

พอพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ฉันก็ต่อยเข้าทั่วทั้งร่างนั่น

ฉันโยนร่างที่บวมไปทั้งตัวของดิ๊ก ออกนอกลานประลอง

 

“กรรมการ”

 

พอฉันชายตามอง กรรมการที่ยืนงงอ้าปากค้างอยู่ครู่นึงก็

 

「ผะ-ผู้ชนะไค ไฮเนมัน!!」

 

ชี้มือขวามาทางฉันและประกาสก้อง

เสร็จธุระแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่แบบนี้อีกต่อไป 

ฉันกระโดดลงจากลานประลอง ที่จัดงานเงียบสงัดจนหูอื้อจนฉันออกจากที่จัดงานไป

 

ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~

ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~

Score 10
Status: Completed
ไค ไฮเนมันท์ หลังจากเขาได้รับพร ผู้ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ทำให้ชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ จนถูกไล่ออกจากบ้านเกิด เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปหาแม่ของเขาที่เมืองหลวง ระหว่างทางก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป

Options

not work with dark mode
Reset