บ่วงมาร 52

ตอนที่ 52

“ฉันก็แทบไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน… แต่พอถึงวันนั้น วันที่ฉันได้ความสาวของเธอ ฉันจึงรู้ว่าตัวเองไม่สามารถวิ่งหนีหายนะที่กำลังไล่ตามมาได้อีกแล้ว…”

เขาหยุดพูดไปนาน เอาแต่จ้องหล่อนนิ่ง ดูเหมือนว่าเดนนิสกำลังต่อสู้อยู่กับอะไรสักอย่างอย่างดุเดือด เวลาผ่านไปเนิ่นนานหล่อนถึงได้ยินคำพูดของเขาอีกครั้ง

“ฉันพยายามห้ามใจตัวเอง พยายามผลักไสเธอให้ออกไปจากชีวิต… แต่ฉันก็ทำได้แค่ไล่ให้เธอไปห่างกายเท่านั้น แต่หัวใจของฉัน… มันไม่ยอมปล่อยมือจากเธอเลย นาริกา ฉันรักเธอ ได้ยินไหม ฉันรักเธอ…”

ความเงียบงันกลืนกินบรรยากาศรอบตัวไปจนหมดสิ้น ในระหว่างที่นาริกากำลังซึมซับถ้อยคำของสามีเข้าไปในสมอง ร่างบางแข็งเกร็ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างขณะจ้องหน้าเขา

“คุณรัก… รักริก้าหรือคะ”

สาวน้อยร้องถามเสียงสูงลิบอย่างเหลือเชื่อ ก็แม้แต่ในความฝันหล่อนยังไม่เคยคิดว่าผู้ชายเหย่อหยิ่งแสนอวดดีอย่างเดนนิส โอซิลจะรักหล่อนเลยนี่น่า แต่ตอนนี้หล่อนได้ยินกับหู ได้ยินเต็มๆ สองหูเลยทีเดียว เขาบอกว่ารักหล่อน นี่หล่อนคงไม่ได้ฝันไปหรอกนะ

โหนกแก้มของเดนนิสมีจุดแดงๆ ขึ้นมากมาย เมื่อเขาย้ำคำพูดที่พึ่งจะหลุดออกมาครั้งแรกในชีวิตอีกครั้ง “ใช่ ฉันรักเธอ… รักตั้งแต่เห็นหน้า รักตั้งแต่ตอนที่คิดว่าเธอคือแองเจลล่า โรเจอริโอแล้ว…”

“เดนนิส… ริก้าไม่อยากเชื่อ…”

หญิงสาวอุทานออกมาทั้งน้ำตา กลีบปากอิ่มเผยอแย้มออกจากกันเพื่อรับจุมพิตดูดดื่มของคนตัวโตด้วยความเต็มอกเต็มใจ หัวใจที่เคยเหี่ยวเฉาพองโตราวกับดอกไม้ได้รับหยาดฝนเย็นฉ่ำ

“ได้โปรดเชื่อฉันเถอะริก้า เพราะฉันไม่อยากพูดมันบ่อยนัก… ฉันไม่คุ้นเคยกับมัน…” เขากระซิบชิดปากอิ่มอย่างอ้อนวอน ขณะผลักร่างอรชรให้ล้มลงนอนหงายกับเตียงคล้ายกับอดใจไม่ไหว

“ริก้าขอบคุณค่ะที่รักริก้า… ริก้ารักคุณ… รักคุณมากเหลือเกิน ได้โปรดเชื่อริก้าด้วย” เขาก้มจูบหล่อนอีกครั้งจนหญิงสาวแทบจะหายใจไม่ออกนั้นแหละถึงยอมถอนปากออก

“ให้อภัยฉันด้วย… ที่ฉันโง่เง่าเกินกว่าที่จะเข้าใจความรู้สึกของเธอ ฉันมองโลกในแง่ร้ายเกินไป และเธอก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์เกินไป ฉันเสียใจที่เคยทำให้เธอเจ็บช้ำ เสียใจจริงๆ”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิดของเดนนิสทำให้นาริกาที่ยอมให้อภัยสามีหมดแล้วตั้งแต่แรกเห็นหน้าต้องรีบกอดตอบเขาอย่างเอาใจ

“ริก้าไม่โกรธคุณ ไม่เคยเกลียดคุณ และก็ไม่เคยหยุดรักคุณได้สักวินาทีเดียว…”

“ยิ่งเธอใจดีมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด…”

“ไม่ค่ะ เดนนิสอย่ารู้สึกผิดกับริก้าอีกเลย แค่คุณรัก… รักริก้าอย่างจริงใจ แค่นี้ริก้าก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ”

น้ำตาแห่งความปลื้มปิติแห่งทะลักออกมาอาบแก้ม เดนนิสจูบซับให้อย่างอ่อนโยนด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เขาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่าการสารภาพรักจะให้สิ่งตอบแทนที่ล้ำค่าแบบนี้

“ฉันขอโทษที่เข้าใจเธอผิดมาตลอด แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำลงไปนั้น มันเกิดขึ้นเพราะความหึงหวง รู้ไหมฉันแทบคลั่งเมื่อได้ยินเธอพูดโทรศัพท์กับแฟนเก่า…”

“คุณแอบฟังหรือคะ” หญิงสาวถามเขาตาโต

“ถ้าฉันไม่แอบฟัง แล้วจะรู้หรือว่าเธอนัดกับมันที่ไหน” น้ำเสียงของเดนนิสกระด้างขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต นาริกายิ้มหวานฉ่ำ

“ริก้าไม่เคยรักเดวิดหรอกค่ะ และที่ออกไปพบเขาก็เพียงเพราะว่าความสงสารเท่านั้น”

“ฉันรู้… แต่ฉันอดระแวงไม่ได้ หากเป็นไปได้ฉันอยากจะขังเธอเอาไว้ในห้องนอนตลอดเวลา ไม่ให้ออกมาพบมาเจอใคร ฉันหึงผู้ชายทุกคนที่เธอเข้าใกล้ แม้แต่เจ้ามาร์คอส…”

เขาพูดเสียงติดกระด้างอีกครั้งขณะเริ่มต้นปลดเปลื้องอาภรณ์จากกายสาวของหล่อนจนเกลี้ยงเกลา จากนั้นก็เริ่มโจมผิวสาวด้วยความหิวกระหาย

“เพราะอย่างนี้ใช่ไหมคุณถึงไล่ริก้ากลับเซาเปาโล…”

“ฉันคิดว่าเธออยากไปกลับมัน คิดว่าพอพวกเธอร่วมมือกันปั่นหัวฉันจนสำเร็จแล้วก็จะกลับไป ฉันก็เลยโมโหขับไล่เธอแบบนั้น…”

“ตอนนั้นคุณใจร้ายกับริก้ามาก ทั้งๆ ที่ริก้าอยากอยู่กับคุณ… แต่คุณก็ไล่ริก้ายังกับหมูกับหมา…”

“ฉันขอโทษริก้า… ฉันจะไม่มีวันยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก…”

สาวน้อยยิ้มให้กับคำขอโทษของเดนนิสทั้งน้ำตา “ริก้าเชื่อคุณค่ะ และริก้าก็มีอะไรอีกอย่างอยากจะบอกคุณ”

“เรื่องเอเดนใช่ไหม” เดนนิสเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน นาริกาเบิกตากว้างพร้อมๆ กับอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

“คุณรู้ได้ยังไงคะเดนนิส ในเมื่อ…”

“มาร์คอสบอกฉันทุกอย่าง… และก็อย่างที่ฉันบอกเธอนั้นแหละริก้า พเยียกับมาร์คอสอยากให้เราคืนดีกัน เพราะรู้ว่าเราต่างรักกัน ดังนั้นเราจึงมาเจอกันที่นี่ และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

“คุณเลิกโกรธเลิกเกลียดริก้าได้จริงๆ หรือคะ”

“ฉันไม่เคยเกลียดเธอ แต่ฉันรักเธอต่างหาก แม้จะรู้สึกตัวช้าไปหน่อยก็ตาม…” ชายหนุ่มครางออกมาด้วยความเสียใจ “แต่ต่อจากนี้ไป… ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอ จะรักเธอให้มากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้” ดวงตาสีฟ้าจัดที่เคยมีแต่ความมืดลึกเย็นชาเปลี่ยนแปลงเป็นคำว่ารักมากมาย นาริกาน้ำตาไหลอาบแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก ตื้นตันใจกับคำสัญญาที่เดนนิสมอบให้ยิ่งนัก เขารักหล่อน… และนี่แหละคือสิ่งเดียวในโลกที่หล่อนต้องการ

“ขอบคุณที่รักริก้าค่ะ… ขอบคุณเหลือเกิน…”

“เราจะแต่งงานกันอีกครั้งนะยอดรัก… และคราวนี้มันจะเกิดขึ้นด้วยความรักของเราทั้งคู่ ไม่ใช่การหลอกลวงเหมือนครั้งที่แล้ว”

นาริการีบพยักหน้าตอบรับทั้งน้ำตา “ค่ะ ริก้าจะแต่งงานกับคุณเดนนิส ริก้าจะแต่งงานกับคุณ”

เดนนิสยิ้มกว้างให้กับสาวน้อยใต้ร่าง จากนั้นจึงเริ่มต้นร่ายมนต์สวาทใส่ผิวสาวด้วยความหิวกระหายร้อนแรง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วทุกอณูเนื้อของผิวสาวอย่างต้องการประกาศความเป็นเจ้าของ ขณะที่ริมฝีปากร้อนผ่าวพรมจูบเพื่อตีตราว่ากายสาวของนาริกาเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

“ฉันรักเธอ ริก้า… รักมากเหลือเกิน”

ชายหนุ่มบดเคล้าความเป็นชายกับความแน่นหนั่นของภรรยาสาวด้วยความหนักหน่วง โยกคลึงด้วยความช่ำชอง และมันก็เรียกเสียงกรีดร้องด้วยความสุขซ่านจากกลีบปากอิ่มช้ำของนาริกาได้ดังลั่นห้อง สาวน้อยบิดเร่าๆ ใต้ร่างใหญ่ หยัดสะโพกขึ้นรับจังหวะรักของสามีด้วยความกระตือรือร้น มือบางจิกเล็บลงบนกล้ามเหนือหัวไหล่ทรงพละกำลังเต็มแรงอย่างลืมตัวเมื่อเขาพาหล่อนกระโดดขึ้นไปบันไดไปสู่สรวงสรรค์อย่างงดงาม

Options

not work with dark mode
Reset