บ่วงมาร 51

ตอนที่ 51

นาริกาหยีตาสู้แสงไฟที่สว่างไสวไปทั่วทั้งห้องนอน ร่างเล็กสมส่วนผุนผันลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามเต็มไปด้วยความละอายใจมากมายนัก เมื่อสายตามองไปเห็นเวลาบนนาฬิกาแขวนเรือนใหญ่ที่ผนังห้อง 22:00 นาทีพอดิบพอดี นี่หล่อนเผลอตัวหลับไปได้ยังไงกันนะ แถมยังบนเตียงนอนของคนอื่นเสียอีก

เท้าบอบบางที่กำลังจะก้าวลงจากเตียงเพื่อแตะกับพื้นพรหมหนาด้านล่างชะงักกึกเมื่อประตูห้องที่ปิดสนิทอยู่ถูกเปิดเข้ามา และในโลกนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้หล่อนตกใจจนแทบช็อคได้มากเท่ากับการเห็นคนที่กำลังก้าวเข้ามาในห้องที่หล่อนนั่งอยู่คือเดนนิส โอซิล…

เขาจริงๆ ด้วย เดนนิส โอซิล ผู้ชายใจร้าย ใจดำ แต่หล่อนก็ปฏิเสธไม่ได้เขาคือผู้ชายที่หล่อนคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก เป็นผู้ชายที่หล่อนรักจนสุดหัวใจ

แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะหล่อนกับเขาได้หย่าขาดอย่างกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกันอีก และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือไม่ควรจะพบเจอกันอีกตลอดชีวิต

“คุณ… มาได้ยังไง?” ถามออกไปเสียงสั่นเทา ความตื่นตระหนกครอบงำหัวใจอย่างรุนแรง

เดนนิสไม่ยิ้มแม้แต่น้อย ขณะใช้ส้นเท้าดันประตูให้ปิดสนิทลง เสียงบานประตูไม้กระทบกับวงกบเบาๆ แต่กระนั้นก็สามารถทำให้ร่างอรชรที่นั่งหมิ่นเหม่อยู่บนเตียงนอนสะดุ้งโหยงได้

“ฉันถาม… ว่าคุณมาได้ยังไง”

“ถ้าอยากรู้มากนัก… ก็ไปถามเจ้ามาร์คอส หรือไม่ก็พเยียดูสิ…”

เขาตอบเสียงกระด้างขณะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหล่อน หญิงสาวถดถอยหนีด้วยความหวาดกลัว ใช่… หล่อนหวาดกลัวเดนนิส แต่สิ่งที่หล่อนปฏิเสธไม่ได้เลยนั่นก็คือหวาดกลัวหัวใจตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนให้เขาได้ย่ำยีเล่นได้อีกครั้ง

“คุณกำลังจะบอกริก้าว่า…”

“ใช่… มันคือแผนการของพวกนั้นทั้งหมด และฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกหลอกให้บินมาถึงเซาเปาโลทั้งๆ ที่ยังไม่สร่างเมาด้วยซ้ำ”

ในที่สุดเขาก็มาหยุดที่ขอบเตียง ดวงตาสีฟ้าจัดจ้องมองหล่อนนิ่ง หญิงสาวตัวสั่นถดถอยหนีไปจนแผ่นหลังชนเข้ากับหัวเตียง ไม่มีทางที่จะหนีรอดจากกรงเล็บมัจจุราชอย่างเดนนิสได้เลย

“คุณหมายความว่ายังไง…”

คราวนี้เดนนิสหัวเราะออกมา แต่เป็นเสียงหัวเราะเหยียดหยันจนคนฟังอดปวดใจไม่ได้ “ก็หมายความว่าฉันจะไม่ยอมรับอะไรที่น้อยไปกว่าการลากเธอกลับไปเมืองไทยด้วยอย่างแน่นอน”

คำตอบของเขาทำให้นาริกาเหมือนถูกดูดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่มีแต่เครื่องหมายคำถาม ความมึนงงซัดเข้าใส่หัวใจอย่างบ้าคลั่ง หล่อนเบิกตากว้างมองเจ้าของคำพูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง

“คุณ… คงไม่…”

“ฉันจะทำอย่างที่พูดทุกคำ… และเธอก็จะไม่มีทางหนีพ้นจากอ้อมแขนของฉันได้อีกแล้ว”

และพ่อคนตัวโตก็กระโดดขึ้นมาบนเตียง พร้อมกับแสดงอภินิหารจนสามารถทำให้หล่อนเข้าไปอยู่ในวงแขนกำยำได้อย่างง่ายดาย ความน้อยใจที่อัดแน่นอยู่ภายในอกทำให้หล่อนไม่คิดที่จะยอมให้เขากอดรัดง่ายๆ หล่อนดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่ผลก็ออกมาเช่นเดิมนั่นก็คือหล่อนไม่สามารถเอาชนะจอมมารร้ายกาจอย่างเดนนิส โอซิลได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“ปล่อยนะ…!”

“เธอก็รู้ไม่ใช่หรือว่าฉันไม่เคยสนใจความรู้สึกของใคร ไม่สนว่าใครจะรู้สึกยังไง และแน่นอนว่าฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปเพียงเพราะคำอ้อนวอนของเธอหรอก”

“คุณยังต้องการอะไรอีกคะเดนนิส… ยังต้องการอะไรจากริก้าอีก… ในเมื่อคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมดแล้ว ริก้าไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่ศักดิ์ศรี” น้ำตาแห่งความเสียใจ เจ็บปวดใจ และน้อยใจไหลทะลักออกมาอาบแก้ม กลีบปากอิ่มสั่นระริกปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมา

“หรือว่าคุณต้องการลมหายใจของริก้าคะ… เอาเลย ริก้ายินดีมอบมันให้กับคุณ หากมันจะทำให้ความแค้นของคุณยุติลงสักที…”

ใบหน้าหล่อเหลาของเดนนิสซีดเซียวลง กายหนุ่มที่กอดรัดหล่อนอยู่นั้นเครียดเขม็ง และก็เป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่หล่อนได้เห็นผู้ชายแสนทระนงคนนี้จวนเจียนจะเสียการควบคุมตัวเองที่เคยมีอยู่ล้นปรี่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ และมันก็ยืนยันสิ่งที่หล่อนเห็นได้เป็นอย่างดีเมื่อเขาพูดออกมา

“ฉันไม่เคยแค้นเธอ…”

“ไม่จริงหรอกค่ะ คุณแค้นริก้า คุณเกลียดที่ริก้าร่วมมือกับคุณมาร์คอสเพื่อแบล็คเมล์คุณ และคุณก็ชิงชังริก้าที่ริก้าทำให้อิสรภาพที่คุณหวงแหนจบสิ้นลงด้วยการแต่งงาน…”

“หุบปาก…!”

“คุณเกลียดริก้ายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน…”

“ฉันบอกให้หุบปากยังไงล่ะ หูแตกหรือไง!” เขาตวาดใส่หน้าหล่อนเสียงดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้งด้วยความตกใจ นิ้วแกร่งกดลงบนเนื้อนุ่มที่ต้นแขนอวบแรงๆ อย่างลืมตัว ดวงตาสีฟ้าจัดวาววับน่ากลัว

“แต่ริก้าพูดความจริง…”

“มันก็แค่ความจริงที่ฉันต้องการให้เธอเห็นเท่านั้นแหละ แต่เธอเคยอ่านหัวใจฉันออกหรือเปล่าล่ะ เคยอ่านความคิดของฉันออกสักครั้งหนึ่งไหม” เขาถามเสียงกระด้างจัด ใกล้จะหมดการควบคุมตัวเองอยู่ร่อมร่อ ชีพจรในกายหนุ่มเต้นรุนแรงจนแทบแตกระเบิด

“เธอไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำ…”

ก็แน่ล่ะ สายตาของเขาไม่เคยบอกอะไรกับหล่อนเลยนอกจากความชิงชัง เขาแสดงความลุ่มหลงร่างกายของหล่อนก็จริง แต่พอก้าวลงจากเตียงเดนนิส โอซิลก็กลายเป็นมัจจุราชตัวร้ายเช่นเดิม เขาทำร้ายจิตใจของหล่อนครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเกลียดหล่อนถึงขนาดไม่ยอมเชื่อว่าหล่อนรักเขาจริงๆ

“คุณเป็นความลับสำหรับริก้าเสมอค่ะ”

“เพราะฉันต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นต่างหาก”

เขายิ้มอย่างอนาถใจตัวเอง ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องมานั่งสาธยายความรู้สึกนึกคิดให้กับใครฟัง แต่ตอนนี้เขาจะต้องทำอย่างนั้นเพื่อรั้งผู้หญิงที่ตัวเองรักสุดหัวใจเอาไว้ข้างกาย มันน่าละอาย มันน่าขายหน้า แต่เขาก็ต้องเริ่มที่จะทำมัน หากเขาอยากมีนาริกาเคียงข้าง ผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขในทุกๆ วินาทีที่อยู่ใกล้

“ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันสร้างกำแพงสูงขึ้นมาป้องกันตัวเองจากคนอื่น กำแพงนี้มันเคยแข็งแรงมากจวบจนได้พบเธอนั่นแหละนาริกา… มันถึงได้สั่นคลอน”

หัวใจสาวเต้นแรงปะทะอยู่ในทรวงอก นี่เดนนิสกำลังจะบอกอะไรกับหล่อนกันนะ น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยน อ้อมแขนแสนอบอุ่น และสายตาสีฟ้าจัดที่ทอดมองมานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย เส้นประสาทในกายแทบจะร้องเพลงได้ทันทีเมื่อเริ่มเข้าใจความหมายที่พ่อคนตัวโตพยายามจะสื่อทีละนิด

“คุณกำลังหมายความว่า…”

“เธอทำให้ฉันหลงใหลได้ในขณะที่ฉันคิดว่าเธอคือน้องสาวของเจ้ามาร์คอส…”

หญิงสาวทำหน้าสำนึกผิดเมื่อได้ยินประโยคนี้ของเขา “ริก้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ ริก้าเสียใจมากที่ทำให้คุณต้องลำบาก”

เดนนิสยิ้มหยันตัวเอง “ฉันลำบากเพราะการกระทำของตัวเองต่างหาก ใช่… ฉันยอมรับว่าเกลียด โกรธเธอมากเมื่อรู้ว่าฉันต้องกลายเป็นผู้แพ้ซ้ำอีกครั้ง ขณะที่เจ้ามาร์คอสมันชนะอีกแล้ว แต่ฉันก็เกลียดเธอได้ไม่นาน ไม่… แค่พยายามเกลียดเท่านั้น”

“พยายามเกลียดหรือคะ…?”

“ใช่… แค่พยายามเกลียด”

เดนนิสยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก จากนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นอีก ราวกับว่าถ้าไม่รีบพูดเขาจะหมดความกล้าหาญที่จะเอ่ยถึงมันอีกอย่างไงอย่างงั้น

“และฉันก็ทำได้ดีมากในตอนแรก ฉันทำร้ายเธอ ทำให้เธอเสียใจได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่เธอรู้ไหมริก้า รู้หรือเปล่าว่าแทนที่ฉันจะรู้สึกดีตอนที่เห็นน้ำตาของเธอ ตรงกันข้ามฉันกลับรู้สึกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่เธอเจ็บ…”

“มันไม่น่าเชื่อ…”

นาริกาอุทานออกมา ขณะที่หัวใจพองโตคับอก ซบหน้ากับแผงอกกว้างกำยำของสามีด้วยความสุขใจ ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เดนนิสกำลังพร่ำพูดเลย แต่หล่อนก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ เมื่อมันยินดีและเต็มใจจะเชื่อคำพูดของเขาอย่างง่ายดายจนน่าอัศจรรย์ใจแบบนี้

Options

not work with dark mode
Reset