บ่วงมาร 41

ตอนที่ 41

หญิงสาวหน้าร้อนผ่าวพยายามจะหาทางลงจากรถสปอร์ตคันงามอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่คนตัวโตคงรู้ทันเพราะเขาเร่งความเร็วจนหล่อนไม่กล้าคิดแม้แต่จะกระโดดหนีลงไป

“ถ้ากล้า… ก็กระโดดลงไปสิ ฉันไม่ห้ามอยู่แล้ว”

ใครจะกล้ากระโดดลงไปกันล่ะ เขาขับรถเร็วราวกับเหาะได้แบบนี้ หญิงสาวคิดด้วยความหวาดกลัว และในที่สุดก็ต้องนั่งเฉย ปล่อยให้เขานำพาทั้งกายทั้งจิตวิญญาณของหล่อนไปในที่ที่หล่อนคิดถึงอยู่ในทุกลมหายใจอีกครั้ง เพ้นเฮ้าส์ของเขานั่นเอง…

เดนนิสลอบมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของสาวน้อยที่นั่งข้างๆด้วยความโหยหา ความรู้สึกหิวกระหายอัดแน่นอยู่ในกายหนุ่มจนเจ็บร้าว สิบวัน… ไม่แค่เกือบจะสิบวันเท่านั้น เขาก็แทบเป็นบ้ากับความคิดถึงที่มีต่อหล่อน เขาคิดถึงความหวานฉ่ำของกลีบปากอิ่ม คิดถึงความเนียนนุ่มของผิวสาว และคิดถึงความแน่นหนั่นที่บีบรัดรอบกายหนุ่มของเขาตลอดเวลาที่มีความสุขด้วยกัน

นาริกาทำให้เขาคลุ้มคลั่งเพราะเซ็กซ์ร้อนๆ เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนมากเท่ากับหล่อนมาก่อน หล่อนทำให้เขาหลงลืมเรื่องทุกอย่างในชีวิตไปจนหมดสิ้น เฝ้าพะวงหาแต่หล่อนแต่เพียงผู้เดียว ชายหนุ่มกัดละสายตาจากเสี้ยวหน้างดงามของสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับมาจ้องมองท้องถนนเบื้องหน้าตามเดิม

เขาไม่มีวันยอมให้หล่อนต้องตกไปเป็นของชายอื่นอย่างเด็ดขาด แม้ว่าหล่อนจะยินยอมพร้อมใจก็ตาม หากต้องกักขัง หากต้องพันธนาการหล่อนเอาไว้ เขาก็จะทำ…

ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเดนนิสก็พาหล่อนเหาะกลับมาถึงเพ้นเฮ้าส์ราคาแพงระยับได้อย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวนั่งเฉยจนถูกคนตัวโตมาลากลงนั่นแหละถึงยอมก้าวลงจากรถ

“ฉันเกลียดคุณ…”

น้ำเสียงและถ้อยคำห่างเหินของนาริกาทำให้เดนนิสอึ้งไปชั่วขณะ แต่ผู้ชายที่ไม่เคยผิดหวังอะไรเลยในชีวิตอย่างเขาไม่มีทางสนใจหรอกว่าใครจะคิดยังไง แค่ให้เขาถูกใจ พอใจเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

“ถึงเกลียด… เราก็เอากันมันหยดได้ไม่ใช่หรือ”

นาริกาหน้าแดงก่ำกับคำพูดหยาบคายของผู้ชายหล่อระเบิดตรงหน้า พยายามสะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็ไม่สำเร็จ จนในที่สุดก็ถูกเขาลากเข้ามาในลิฟต์ได้สำเร็จ

“หยาบคาย…”

“ไม่หรอกนาริกา… มันเป็นเรื่องจริงต่างหาก เธอร้องให้ฉันเอาเธอกี่ครั้งในหนึ่งคืน จำได้หรือเปล่า ทั้งร้องขอทั้งอ้อนวอน และก็เป็นเธอไม่ใช่หรือที่โยกขย่มอยู่บนตัวของฉันในทุกๆ คืน…”

ความร้อนผ่าววิ่งพล่านจากปลายเท้าขึ้นมาแสดงฤทธิ์เดชบนแก้มนวลจนมันแดงก่ำ ภาพความหลังแสนหวานที่ไม่เคยลบเลือนกำลังเล่นงานหล่อนอย่างหนัก

ใช่… หล่อนดิ้น หล่อนส่าย และหล่อนก็ร้องขอให้เขาเข้ามาในตัว หล่อนทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ หญิงสาวคิดอย่างอดสูกับความร่านร้อนของตัวเองที่ผ่านมา แต่หล่อนมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ถูกเดนนิสกลืนกินแล้วจะไม่ทำแบบหล่อนหรอก ก็พ่อคุณเก่งฉกาจในเชิงรักจนไร้ใครเทียมเยี่ยงนี้

แค่คิดว่าลิ้นชุ่มชื่นของเขาลากเลียไปตามผิวกายจนครบทุกอณูเนื้อ แค่นั้นกายสาวในส่วนเร้นลับก็ร้อนวูบวาบอย่างรุนแรง ความหยาดเยิ้มทะลักออกมาอย่างไร้ยางอาย หล่อนไม่มีทางต่อสู้กับมัจจุราชตัวร้ายอย่างเดนนิส โอซิลได้เลยแม้แต่นิดเดียว

เขาเก่ง เขาฉกาจ และเขาก็สุดแสนจะอำมหิต เขาทำให้หล่อนร้องด้วยความเสียดเสียว เขาทำให้หล่อนกลายเป็นจ๊อกกี้สาวได้ทั้งๆ ที่หล่อนขี่ม้าไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียว หล่อนยังคงจำครั้งแรกที่ตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมบนกายใหญ่โตของเขา ครอบครองเขาได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกในตอนนั้นมันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้… เพราะมันทั้งวิเศษและยอดเยี่ยมยิ่งนัก หล่อนโยกขย่ม ส่ายเอวพลิ้วไหวราวกับเชี่ยวชาญเหลือเกิน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นครั้งแรกต่างหากที่หล่อนได้ขี่ม้าหนุ่มอย่างเดนนิส โอซิล

“คุณมันคนเถื่อน…”

“และคุณก็ชอบคนเถื่อน” เขาต่อให้หล่อนอย่างโอหัง

“ผิดแล้วล่ะ ฉันเกลียดคนเถื่อนต่างหาก…”

หญิงสาวกัดปากแน่น พยายามขืนตัว ต่อต้านเขาทุกทางแต่ก็ทำไม่สำเร็จอีกเช่นเคย จนในที่สุดร่างของหล่อนก็ถูกลากเข้ามาภายในเพ้นเฮ้าส์ของเดนนิสสำเร็จจนได้ เขาผลักหล่อนให้ล้มลงบนโซฟาในห้องรับแขก จากนั้นก็ยืนจ้องหน้าหล่อนด้วยสายตาเลือดเย็น

“ถึงเธอจะไม่ชอบ แต่เธอก็จะต้องอยู่กับคนเถื่อน… ชั่วชีวิต…”

สุดปัญญาที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีก ในที่สุดหญิงสาวก็ปล่อยให้มันไหลทะลักออกมาอาบแก้ม ความเจ็บปวดบีบคั้นดวงใจจนสุดแสนทรมาน

เขายังต้องการอะไรอีก เดนนิส โอซิลยังต้องการอะไรจากหล่อนอีก ในเมื่อเขาเป็นคนขับไสไล่ลงหล่อนไปเองไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้… เขายังจะมาวุ่นวายกับหล่อนอีกทำไม ยังทำร้ายหล่อนไม่พออย่างนั้นใช่ไหม

“เสียใจด้วยค่ะ ฉันกำลังจะแต่งงาน…”

“กับไอ้หมอนั่นน่ะเหรอ…?”

เดนนิสเค้นเสียงเยาะ เดินเข้ามาดึงร่างอรชรให้ลุกขึ้นเผชิญหน้า ความสูงที่แตกต่างกันมากทำให้นาริกาดูตัวจิ๋วไปเลยทีเดียว

นาริกาเชิดหน้าสูงอวดดี พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่แสดงท่าทางหวาดหวั่นออกไป แต่ก็ทำได้ไม่ดีเลย เมื่อน้ำเสียงของหล่อนที่โต้ตอบออกไปนั้นมันสั่นสะท้านจนน่าสมเพช และหล่อนก็มั่นใจว่าเดนนิสจะต้องจับกระแสความหวาดกลัวของหล่อนได้อย่างชัดเจนทีเดียว แต่เขาไม่พูดมันออกมาเท่านั้นเอง

“ใช่ค่ะ เอเดนเป็นคนดี…” หญิงสาวจ้องหน้าคู่สนทนาเขม็ง

“และที่สำคัญเขามีหัวใจ…”

เดนนิสหรี่ตามองภรรยาสาวด้วยความเดือดดาล “ต่อให้เธอบูชามันแค่ไหน… แต่เธอก็จะไม่มีวันได้แต่งงานกับมันแน่นอน…”

“คุณห้ามฉันไม่ได้หรอกค่ะ…”

คนตัวโตหัวเราะเลือดเย็น และนั่นก็ทำให้สาวน้อยที่กำลังร่ำไห้อยู่หน้าซีดเผือด พยายามถดถอยหนี แต่ก็ไม่พ้นในที่สุดแผ่นหลังบอบบางก็ชนเข้ากับกำแพงห้องจนได้ ความเย็นเฉียบที่ส่งผ่านเสื้อตัวสวยมายังผิวบางด้านหลังไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้หล่อนได้เท่ากับความเย็นชาในสายตาสีฟ้าจัดของเดนนิสเลย

“ฉันทำได้มากกว่าห้ามเธอเสียอีก นาริกา…”

“ออกไปนะ อย่าเข้ามา…”

ยิ่งเขาขยับเข้ามาใกล้ ความตื่นกลัวก็ยิ่งวิ่งพล่านในสายเลือด หล่อนกลัวเขา กลัวเดนนิส โอซิล และที่สำคัญหล่อนกลัวหัวใจตัวเองเหลือเกิน เพราะมันอ่อนยวบยาบตั้งแต่สบตากับเขาในร้านอาหารนั่นเสียแล้ว

“ฉันจะทำให้เธอ… ไม่สามารถทนห่างจากฉันได้อีก… แม้แต่วินาทีเดียว” ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหน้าทันทีเมื่อคนตัวโตเข้ามาแนบชิด กายทุกส่วนแนบสนิทจนไร้ช่องว่าง ความกำยำและแข็งชันของเขาบดเคล้าอยู่กับความนุ่มละมุนของหล่อนอย่างจงใจ สาวน้อยพยายามจะช่วยตัวเอง แต่ยิ่งดิ้นการเสียดสีก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น และนั่นก็ทำให้ความร้อนผ่าวในท้องน้อยแสดงความรุนแรงขึ้นมาอย่างน่ากลัว

หล่อนต้องการเดนนิส โอซิล อยากให้เขา… หญิงสาวสะบัดศีรษะแรงๆ เมื่อสมองคิดในสิ่งที่น่าละอายออกมา หล่อนจะต้องต้านทานเขา จะต้องพยายามทำ… เขาไม่ได้รักหล่อน ท่องเอาไว้ เขาเกลียดหล่อนเข้าไส้ และแน่นอนว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อจะเอาชนะหล่อนเท่านั้นเอง

เขาไม่ต้องการให้หล่อนแต่งงานกับเอเดนก็เพียงเพราะว่าเสียหน้าเท่านั้น… ความคิดนี้ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะดิ้นรนยิ่งขึ้น

“ปล่อยฉันนะ ฉันเกลียดคุณ… ปล่อยสิ…”

“ต่อให้เธอบอกว่าเกลียดฉันสักพันครั้ง ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธออีก ฉันจะทำให้เธอร้องครางอยู่ใต้ร่าง หรืออาจจะบนร่างของฉันตั้งแต่วินาทีนี้ไปจนถึงรุ่งเช้า… และแน่นอนว่าฉันอาจจะให้เธอได้หายใจหายคอบ้างด้วยการให้เธอได้ดื่มน้ำ หรือเข้าห้องน้ำ…”

Options

not work with dark mode
Reset