บ่วงมาร 12

ตอนที่ 12

สาวน้อยเบิกตากว้าง สมองทำงานไม่ได้อีกครั้ง นึกไม่ออกว่าคนตัวโตหมายถึงอะไรแต่รู้ชัดเจนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะเดนนิสไม่มีทางหยุดหากหล่อนไม่เจ็บจนขาดใจตาย

ชายหนุ่มระบายยิ้มหยัน มองอย่างดูแคลน “อย่าทำเป็นไม่เข้าใจน่า อมให้หน่อย… เอาแค่ฉันเสร็จก็พอ…”

เขาคว้ามือบางไปวางทาบลงบนท่อนกายของเขาที่ตื่นตัวแข็งชันที่เป้ากางเกงทันที สาวน้อยตกใจมากกับความใหญ่โตที่ได้สัมผัส พยายามจะชักมือออกแต่คนตัวโตไม่ยอม เขากดมือนุ่มของหล่อนกับแก่นกายของตัวเองเป็นจังหวะ เคล้าคลึงด้วยลีลาดุจปรมาจารย์ แล้วก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่ครางออกมา

นาริกาหน้าแดงแล้วแดงอีก เป็นครั้งแรกในชีวิตกับการได้สัมผัสกับสัญลักษณ์ของเพศตรงข้าม ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะใหญ่โตขนาดนี้ แม้มันจะมีกางเกงผ้าเนื้อดีกางกั้นอยู่ แต่… หล่อนรับรู้ถึงความอำมหิตร้อนผ่าวของมันได้อย่างชัดเจน และมันใจว่ามันจะต้องดุร้ายไม่แพ้เจ้าของของมันอย่างแน่นอน

แล้วนี่เขาจะให้หล่อนทำอะไรนะ? อม…? อมไอ้นี่เนี่ยนะ ไม่…! หล่อนไม่ยอม ไม่ทำ เขาไม่ควรจะใช้วิธีนี้ในการแก้แค้นหล่อน

“ไม่ค่ะ… ฉันไม่ทำ ถ้าอยากฆ่าก็ฆ่าเลย”

เดนนิสหัวเราะ ดวงตาสีฟ้าจัดเต็มไปด้วยความหิวกระหาย แค่คิดว่าปากนุ่มๆ ของหล่อนสัมผัสกับเจ้าน้องชายตัวยุ่งของตัวเองแทนนิ้ว แค่นี้เขาก็แทบจะระเบิดออกมาแล้ว

“ขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์น่ะนาริกาที่รัก…”

เขาพูดนุ่มนวลแต่แฝงความเหี้ยมโหดไปในทุกพยางค์ มือใหญ่ผลักร่างอรชรให้คุกเข่าลงตรงหน้าขาของตัวเอง และถึงแม้ว่าเจ้าหล่อนจะขัดขืนแต่เขาก็สามารถทำได้จนสำเร็จ

“ไม่นะ… กรุณาเถอะ ให้ฉันทำอย่างอื่นเถอะ… ได้โปรด”

“อย่ามาคร่ำครวญเลยน่าคนสวย… เธอได้ทำทุกอย่างแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ในเมื่ออยากได้ผัวรวยนัก ฉันก็จะสนองให้ แต่รับรองว่าเธอจะไม่ได้ลิ้มรสความสุขเลยแม้แต่นิดเดียวยามที่อยู่กับฉัน ฉันจะใช้เธอให้เหมือนกับใช้อีตัว จะใช้ให้ยับเยิน แล้วจากนั้นก็จะเขี่ยทิ้ง…”

เขาโหดร้าย คนใจร้าย

“แม้ฉันจะเสียดายสินสมรสที่ต้องมอบให้เธอหลังจากการหย่าร้าง แต่มั่นใจเถอะว่าฉันจะใช้เธอจนคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียว เธอจะนอนกับผู้ชายไม่ได้ไปเป็นเดือนๆ เชียวแหละ…”

เดนนิสหัวเราะดังลั่นเสียงไม่ผิดเพี้ยนจากมัจจุราชเลยแม้แต่นิดเดียว มือใหญ่ปลดเข็มขัดออก รูดซิปกางเกงลงจนสุด จากนั้นก็ปลดปล่อยความใหญ่โตที่มันใหญ่เกือบเท่าท่อนแขนของเขาเองออกมาจากกางเกงชั้นในชายแบบบ็อกเซอร์

โอ้ พระเจ้า… ทำไมมันใหญ่แบบนี้

นาริกาอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น ใบหน้างามแดงจัด แดงไปทั้งตัว จ้องมองเจ้าสิ่งมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยความดุร้ายตรงหน้าด้วยความขลาดกลัว อยากจะถอยหลังหนีแต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อแผ่นหลังของหล่อนถูกดันชิดกับผนังห้อง แล้วด้านหน้าก็คือคนใจร้ายที่ยืนตระหง่านบังคับให้หล่อนดูดกลืนความเป็นชายของเขาอย่างโหดเหี้ยม

“ขนาดถูกใจไหมล่ะ เธอได้ใช้มันแน่…”

“เดนนิส… ได้โปรด อย่าทำแบบนี้… ฉันไม่เคย…”

“อมซะ ดูดมัน เลียมัน ให้เหมือนกับตอนที่เธอทำกับนิ้วของฉันยังไงล่ะ ทำสิ เร็วเข้า… ฉันแทบทนรอไม่ไหวแล้ว”

ใช่… เขาแทบระเบิดแล้ว แค่คิดว่านาริกาใช้ปาก ใช้ลิ้นกับท่อนกายใหญ่มหึมาของตัวเอง แค่นั้นเลือดหนุ่มในกายก็เดือดพล่าน ไอ้เจ้าความต้องการทางเพศก็พุ่งขึ้นมาจ่อที่คอหอย ความจริงเขาอยากจะจับหล่อนนอนหงายแล้วจากนั้นก็พุ่งทะยานเข้าไปด้วยตัวเอง

แต่ยังก่อน… นาริกายังไม่ควรจะได้รับรางวัลน่าตื่นเต้นแบบนั้น หล่อนจะต้องดื่มด่ำกับความอับอายเหมือนกับที่เจ้าหล่อนหยิบยื่นมันใส่มือเขา

“เดนนิส… ไม่นะคะ ไม่…”

เมื่อเห็นเจ้าหล่อนแข็งขืน และไม่ยอมทำตามง่ายๆ เดนนิสจึงต้องจัดการด้วยตัวเอง ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งบีบคางมนเพื่อบังคับให้ปากอิ่มแยกเผยอออกจากกัน แล้วก็จัดการผลักดันตัวเองผ่านกำแพงฟันขาวสะอาดของเจ้าหล่อนเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“ถ้าเธอกัดฉันล่ะก็… เธอถูกโทรมแน่…”

เขาขู่เสียงเหี้ยม ขณะดันสะโพกเข้าหาช่องปากของเจ้าหล่อนเบาๆ แต่หนักหน่วงในทุกจังหวะ นาริกาหลั่งน้ำตาออกมากับความอดสูที่ถูกยัดเหยียดให้แบมือรับ หล่อนขยับปากรับแท่งเนื้อที่ใหญ่กว่าปากของหล่อนหลายเท่าด้วยความไร้ประสบการณ์ วาดลิ้นไปรอบๆ ความอวบใหญ่แข็งชันของมัน และมันก็ทำให้คนตัวโตครางลั่น

“แบบนั้นแหละ เยี่ยมจริงๆ เคยอมบ่อยสินะ…”

เดนนิสหลับตาพริ้ม เสียงครางด้วยความพึงพอใจเล็ดลอดออกจากริมฝีปากเร้าใจเป็นระยะ ดื่มด่ำกับความอ่อนนุ่มของกลีบปากและลิ้นนุ่มนิ่มที่ดื่มกินท่อนกายด้วยลีลาที่เขาต้องร้องลั่นยามที่มันตวัดลงมา ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนใช้ปากได้เก่งแบบนี้

ที่ผ่านมาผู้หญิงหลายสิบคนก็ทำกับเขาแบบนี้ ดูด อม เลีย ทำให้เขาตื่นตัว แล้วจากนั้นก็กระโดดขึ้นไปมันหยดกันบนเตียงกันทั้งคืน พอเช้าก็แยกย้ายกันไป เขาไม่เคยจำพวกหล่อนได้ และไม่เคยคิดถึงลีลาของพวกหล่อนเลย ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกเหมือนอยากจะเก็บไว้ชั่วชีวิตเหมือนนาริกาเลย

แค่ปาก… แค่ปากเท่านั้น หล่อนก็ทำให้โลกของเขาสั่นพร่าไปด้วยความปรารถนารุนแรง แค่ปาก… เดนนิสย้ำกับตัวเอง ขณะพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้หลั่งรินออกมาในตอนนี้ แต่… ไม่ทันการเสียแล้ว เขาห้ามตัวเองไม่อยู่อีกแล้ว  และในปากของนาริกาเสียด้วย…!

ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสุขสมเร็วแบบนี้ แค่เจ้าหล่อนขยับปาก ขยับลิ้นไม่กี่ครั้ง บ้าชะมัด ทำไมวันนี้เขาถึงได้ถูกผีหนุ่มวัยกระทงเข้าสิงหรือไงกันนะ ทำไมถึงได้รู้สึกติดอกติดใจจนอยากให้เจ้าหล่อนทำซ้ำอีกรอบแบบนี้

ชายหนุ่มผละออกห่างทันทีเมื่อตัวเองสามารถทำได้ เขาเดินดุ่มๆ ไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดให้กับแก่นกายของตัวเองจนหมดจด จากนั้นก็เดินกลับมาหานาริกาที่กำลังนั่งตื่นอยู่กับพื้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย วูบหนึ่งก็อยากจะดึงเจ้าหล่อนขึ้นมากอด อยากจะขออภัยกับความหยาบช้าของตัวเอง แต่… เขาไม่ทำ เขาไม่ผิด หล่อนนั่นแหละที่เป็นจอมหลอกลวง และสมควรโดนแล้ว

เมื่อความสงสารถูกกลืนหายไปในทะเลแห่งความเคียดแค้น สายตาสีฟ้าจัดจึงกลับมามืดลึกและน่ากลัวเฉกเช่นเดิม

“เอ้า เช็ดปากซะ เปื้อนน่ะ”

กระดาบทิชชู่หนานุ่มสีขาวสะอาดถูกโยนมาตรงหน้า นาริการ้องไห้สะอึกสะอื้น เงยหน้าขึ้นสบตากับคนใจดำด้วยความเจ็บช้ำ เขาทำให้หล่อนไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี เขาทำให้หล่อนต่ำยิ่งกว่าอีตัวเสียอีก เดนนิสใจร้าย ใจร้ายเหลือเกิน

“แล้วอย่าคิดล่ะว่าโทษทัณฑ์ของผู้หญิงแพศยาอย่างเธอมันจะหมดแค่นี้…”

ร่างอรชรที่สั่นระริกถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืน เขาดันหล่อนจนแผ่นหลังชนกับผนังห้องอีกครั้ง แนบชิดลงมาด้วยท่าทางคุกคามน่ากลัว

“เพราะนี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าเจ้าชายน่ะมีแต่ในนิยายเท่านั้น เพราะในชีวิตจริงมีแต่จอมมาร จอมมารที่จะขย้ำเธอให้ตายคามือ…”

เดนนิสมองสาวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยสายตาชิงชัง มองสำรวจไปทั่วทั้งใบหน้างาม แล้วก็มาสะดุดที่มุมปากอิ่ม คราบน้ำรักของเขายังเปอะเปื้อนอยู่ แล้วเจ้าหล่อนก็ไม่ยอมเช็ดมันออก ทั้งๆ ที่เขาโยนกระดาษทิชชู่ให้แล้ว ให้ตายเถอะ นี่หล่อนไม่รู้เลยหรือไงว่าปล่อยไว้แบบนี้มันยิ่งทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้

“ขอบคุณน่ะที่กินจนหมด… อร่อยไหมล่ะ ถ้าชอบเดี๋ยวจะให้กินบ่อยๆ”

“คนใจร้าย… ฉันเกลียดคุณ”

ไหล่กว้างทรงพลังไหวน้อยๆ อย่างไม่แยแส “คงไม่มากเท่าที่ฉันเกลียดเธอหรอกมั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของฉัน หากจะโทษก็ไปโทษไอ้มาร์คอสนู้น เพราะมัน เธอถึงต้องมาถูกฉันขยี้แบบนี้…”

นาริกาไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีก นอกจากก้มหน้านิ่ง แต่ก็ถูกคนตัวโตช้อนคางให้เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “จะ… ทำอะไรอีก…”

“จะล้างคราบของฉันที่ปากของเธอไง…”

แล้วเขาก็จูบลงมาบนกลีบปากของหล่อน ขยี้บดเคล้าลงมาอย่างหนักหน่วง ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความเร่าร้อน รุนแรง และป่าเถื่อน หญิงสาวพยายามต่อต้าน พยายามขัดขืน แต่ก็สู้แรงเสน่หาที่เดนนิสโจมตีเข้าใส่ไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปด้วยความเต็มอกเต็มใจ มือบางที่ผลักไสตวัดขึ้นรัดรอบลำคอแกร่ง ดึงรั้งให้หนุ่มหล่อผู้จูบได้แสนวิเศษนักแนบชิดลงมามากที่สุด

“อืมม์… ยอดเยี่ยม…”

เดนนิสครางออกมาด้วยความพึงพอใจ ซึบซับรสชาติของตัวเองภายในอุ้งปากของสาวน้อยอย่างชัดเจน ดวงตาสีฟ้าจัดอัดแน่นไปด้วยความหิวกระหาย หากไม่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะทรมานผู้หญิงในอ้อมแขนให้มากกว่านี้ล่ะก็ เขาคงจัดการกินหล่อนเสียตรงนี้แล้วล่ะ

ให้ตายเถอะ… ผู้หญิงอะไรร้อนแรงได้อย่างเหลือเชื่อ

“อยากได้ฉันหรือ…”

ไม่รู้! นาริกาบอกกับตัวเองในใจแบบนั้น หล่อนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรไป แต่… ช่องท้องอึดอัดเหลือเกิน และตรงต้นขาก็เริ่มเปียกชื้น มันเจ็บปวดเหลือเกินกับสิ่งที่กำลังทิ่มแทงอยู่ภายในกายสาว จนไม่สามารถยืนนิ่งได้ ต้องส่ายสะบัดไปมา

“แต่ขอโทษนะ ฉันไม่ให้ตอนนี้…”

เดนนิสผละออกห่างอย่างโหดร้าย มีผลทำให้โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนแตกผลั๊วะลงในทันที ความซาบซ่านจากรสจูบและฝ่ามือใหญ่หายไปอย่างรวดเร็ว โดยมีความอับอาย อดสู และอัปยศวิ่งเข้ามาแทนที่

“เอ่อ…”

“ฉันรู้ว่าเธออยากมาก… แต่เธอจะได้มันก็ต่อเมื่อฉันเต็มใจจะให้ เธอจะต้องทรมานด้วยโรคหิวผู้ชายอยู่ในเพ้นเฮ้าส์ของฉัน ที่ที่เธอคิดว่าเป็นราชวังยังไงล่ะ อยู่ที่นี่โดยไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ไปเฟิร์สกับผู้ชายคนอื่น เธอจะมีสภาพไม่ต่างจากนักโทษของฉัน นาริกา ธรรมพัฒนากุล” เขาหัวเราะ แต่หล่อนอยากร้องไห้

ทำไมเดนนิสโหดร้ายแบบนี้ หล่อนเกลียดเขา แต่หล่อนก็เกลียดตัวเองไม่แพ้กัน หล่อนร่านอย่างน่าเกลียดที่สุด หล่อนไม่ใช่หรือที่ร้องครางเมื่อยามที่เขาจูบ และหากเขาไม่หยุดหล่อนก็คงไม่พ้นลงไปนอนให้เขาดื่มกินที่พื้น หรืออาจจะที่ผนังกำแพงห้องนี้ด้วยซ้ำ

แพศยา… เหมาะสมแล้วล่ะกับฉายานี้

นาริกาคิดด้วยความเจ็บปวด หยาดน้ำตาทะลักแล้วทะลักอีก หล่อนเคยคิดว่าอยากให้เดนนิสเข้าใจ ไม่อยากให้เขาเกลียดชัง แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ ในเมื่อเดนนิส โอซิล บอกว่าเกลียดหล่อนเข้าไส้ เกลียดยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน

“ฉันขอโทษ… ขอโทษสำหรับทุกอย่าง”

“ฉันไม่ให้อภัยผู้หญิงแพศยาแบบเธอหรอก ไม่มีทาง!”

หนุ่มหล่ออารมณ์เดือดขึ้นอีกเมื่อได้ฟังคำขอโทษ จากปากของผู้หญิงที่เขาแทบจะทุ่มทั้งตัวเพื่อให้ได้เจ้าหล่อนมาครอง แต่… เป็นไงล่ะ หล่อนตอบแทนมาอย่างสะใจเลยทีเดียว ทำให้เขากลายเป็นควาย กลายเป็นกระบือ และสุดท้ายก็ไม่มีทางหนีได้ ต้องถูกเจ้าหล่อนสนตะพายกลายเป็นทาสรับใช้ ทุเรศสิ้นดี!

“เธอจะต้องตายทั้งเป็นเพราะฉัน…!”

จบคำพูดโหดร้าย คนตัวโตก็ลากร่างอ่อนแรงของหล่อนให้เดินตามไป ประตูไม้เบื้องหน้าถูกเดนนิสกระชากให้เปิดออก จากนั้นร่างของหล่อนก็แทบจะเรียกได้ว่าถูกเหวี่ยงเข้าไปในนั้น พื้นแม้จะถูกปูด้วยพรมหนาแต่ก็ยังสร้างความระบมที่สะโพกกลมกลึงได้อยู่ดี

“ห้องของเธอ… อยู่แต่ในนี้ห้ามออกมาเพ่นพ่านให้ฉันเห็นหน้าเด็ดขาด และหากไม่เชื่อ…” เขาแสยะยิ้มหน้ากลัว

“ฉันจะจับเธอโยนลงไปข้างล่าง เธอจะตายโดยที่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่อุทธรณ์…”

และเสียงประตูก็ดังสนั่นขึ้น นาริกาสะดุ้ง น้ำตาไหลพรากเต็มหน้า ถึงแม้เดนนิสจะหายไปจากตรงหน้าแล้ว แต่ความเหี้ยมโหด ความร้ายกาจของเขายังคงอยู่ และมันก็ทำให้หล่อนหายใจไม่ออก หล่อนอาจจะตายในตอนนี้ก็เป็นได้ ใช่… หล่อนกำลังจะตาย

ร่างบอบบางที่เสื้อผ้าที่สวมใส่ยังเปียกชื้นค่อยๆ ล้มลงกับพื้นพรม ความเจ็บปวดเกาะกินไปทั่วทั้งพื้นที่ของหัวใจ ความชอกช้ำครอบงำไปทั่วทุกรูขุมขน น้ำตาไหลแล้วไหลอีกจนมันท่วมท้น ดวงตาหวานฉ่ำเปียกปอนไปด้วยร่องรอยแห่งความร้าวราน

เดนนิส โอซิล หล่อเหลาปานเทพบุตร แต่เขาก็ร้ายกาจยิ่งกว่ามัจจุราชหากถูกทำร้าย ใช่… หล่อนทำร้ายเขาก่อนนี่ โทษเขาไม่ได้ ในเมื่อหล่อนเป็นฝ่ายผิด ก็ต้องก้มหน้าก้มตาปล่อยให้เขาเอาคืนอย่างสาสม เอาคืนจนกว่าตัวหล่อนเองจะสิ้นลมหายใจ

นาริกาหลับตาพยายามผลักดันความเจ็บปวดให้ออกไปจากใจ แต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อมันฝังแน่นอยู่ในทุกอณูเนื้อของหัวใจ ไม่มีทางที่ความเจ็บปวดจะคลายลงได้เลย ตราบใดที่เดนนิส โอซิลยังไม่ยอมยกโทษให้กับหล่อน

Options

not work with dark mode
Reset