บ่วงมาร 13

ตอนที่ 13

“น้องคิดแล้วเชียวว่าทำไมจู่ๆ ริก้าหายตัวไป ที่แท้ก็เป็นฝีมือของพี่นี่เองพี่มาร์คอส”

แองเจลล่าโวยวายลั่นหลังจากวาเลนหลุดปากออกมาว่านาริกาสาวใช้คนสนิทที่หายตัวไปนานร่วมสองอาทิตย์แท้จริงแล้วไม่ได้ไปหาญาติพี่น้องที่ไหน แต่ถูกมาร์คอสพี่ชายของหล่อนสั่งให้ไปรับหน้าที่อันน่าสะอิดสะเอียนต่างหาก

มาร์คอสจ้องน้องสาวนิ่ง “ที่พี่ทำลงไปก็เพราะเป็นห่วงเธอนะแองจี้ ไอ้เดนนิสมันร้ายกาจจะตายไป นี่พี่ยังงงอยู่เลยว่ามันหลงเชื่อว่าริก้าเป็นน้องของพี่ได้ยังไง”

ผู้เป็นน้องสาวเบ้ปาก ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพี่ชายเลยสักนิด “แต่พี่ก็ทำไม่ถูกนะคะ ริก้าอาจจะถูกผู้ชายคนนั้นฆ่าเอาได้…”

“ไม่มีทางหรอกน่า ไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่คนป่าเถื่อนกับผู้หญิง อย่างดีก็แค่ลากขึ้นเตียงเท่านั้นเอง”

“ก็นั่นแหละค่ะที่น้องกลัว พี่มาร์คอสคะ ริก้ายังบริสุทธิ์อยู่นะคะ น้องรู้สึกผิดหากจะต้องให้ริก้ามาแปดเปื้อนเพราะความปลอดภัยของตัวเอง น้องไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว…” แองเจลล่าเดินเข้ามาเกาะแขนพี่ชายอย่างอ้อนวอน

“นะคะพี่มาร์คอส ไปพาตัวของริก้ากลับมาเถอะ น้องเป็นห่วงริก้า”

มาร์คอสถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ คำพูดของน้องสาวทำให้เขารู้สึกผิดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ทุกอย่างมันต้องเดินหน้า และตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วซะด้วย

“ไม่ทันแล้วล่ะแองจี้ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเดนนิสพึ่งแฟกซ์ทะเบียนสมรสระหว่างตัวเองกับริก้ามาให้พี่ดู”

“อะไรนะคะ จดทะเบียน! อย่างนี้ก็…”

ดวงตาหวานฉ่ำของแองเจลล่าเบิกกว้างขึ้นเกือบเท่ากับไข่ห่าน ความตกใจปรากฏบนใบหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนมหาศาล

“ใช่… ริก้ากลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องทางนิตินัยของเดนนิส โอซิลแล้ว”

“ไม่ได้นะคะ น้องคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะต้องไม่อ่อนโยนกับริก้าแน่ เขาจะต้องโหดร้าย…”

มันแน่นอนอยู่แล้ว เห็นได้จากสายตาและคำพูดที่เดนนิสพูดใส่หน้าเขาเมื่อวันก่อน นาริกากำลังถูกขยี้ด้วยมือของมัจจุราชโดยที่เขาไม่มีสิทธิ์ยื่นมือเข้าไปช่วยได้เลย

ให้ตายเถอะ ทำไมถึงรู้สึกผิดแบบนี้นะ! มาร์คอสร้องถามตัวเอง พลางถอนใจออกมาเฮือกแล้วเฮือกเล่า ตอนที่วาดแผนการเขาไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้เลย ตอนนั้นขอแค่ความปลอดภัยของแองเจลล่ากับความสะใจเท่านั้นเอง

“พี่ก็อยากจะช่วยนะแองจี้… แต่มันไม่มีทาง…”

“น้องจะจัดการเอง น้องจะเดินทางไปหาเดนนิส โอซิล ไปขอตัวนาริกาคืน” คำพูดของแองเจลล่าทำให้มาร์คอสถึงกับตกใจ เขาตวัดตาจ้องน้องสาวเขม็ง

“พี่อุตส่าห์กันน้องออกจากอุ้งมือของจอมมารอย่างไอ้เดนนิส แล้วนี่น้องยังอุตส่าห์จะเดินเข้าไปหามันอีกหรือ”

แองเจลล่าช้อนตาขึ้นสบตากับพี่ชายนิ่ง “น้องรู้ว่าพี่มาร์คอสเป็นห่วง…”

“ไม่ใช่แค่ห่วง แต่พี่รักเธอนะแองจี้ รักมาก เรามีกันแค่นี้แล้วพ่อกับแม่ก็สั่งเสียให้พี่ดูแลเธอให้ดี ดังนั้นพี่ถึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้น้องของพี่ปลอดภัย…” ชายหนุ่มตาสีทองเค้นเสียงกระด้างออกมา แองเจลล่ายิ้มบางๆ จูบแผ่วเบาที่ต้นแขนของพี่ชายผ่านผ้าเนื้อดี

“น้องรู้ว่าพี่มาร์คอสรักน้องมาก น้องเองก็รักพี่มาร์คอสมากเช่นกัน… แต่สิ่งที่ริก้ากำลังได้รับมันหนักหนาเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะรับไหว น้องสงสารริก้า”

เขาก็สงสาร และรู้สึกผิดนัก มาร์คอสคิดในใจ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ทุกอย่างมันเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องให้มันเดินหน้าต่อไป

“ริก้าได้รับเงินค่าจ้างจำนวนมาก น้องไม่ต้องคิดมาก และพี่ก็ไม่ได้บังคับริก้า”

“แต่ว่าพี่มาร์คอสคะ พี่ก็รู้นี่คะว่าริก้าเป็นคนใจดี เป็นคนใจอ่อน ริก้าไม่มีทางปฏิเสธใครได้แม้ว่าจะถูกสั่งให้ไปตายก็ตาม” แองเจลล่าแย้ง และไม่คิดจะล้มเลิกความคิดของตัวเอง

“น้องจะไปตามริก้ากลับมาให้ได้…”

“ไม่มีทาง แองจี้… น้องต้องเดินทางไปการ์ซานเพื่อแต่งงานกับองค์ชายรัชทายาท”

“ไม่นะพี่มาร์คอส น้องไม่ไป น้องเคยบอกกับพี่กี่ครั้งแล้วว่าน้องไม่มีทางไปในดินแดนป่าเถื่อนแบบนั้น ไม่ว่าพี่จะบังคับยังไงก็ตาม”

แองเจลล่ายืนกรานเสียงแข็งกร้าว หล่อนไม่มีทางยอมแต่งงานกับผู้ชายเพียงเพื่อความเหมาะสมทางด้านสังคมหรือฐานะอย่างแน่นอน หล่อนต้องการความรักจากใครสักคน

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่พบก็ตาม…

“แต่น้องต้องไปแองจี้ นี่คือคำสั่ง!”

“พี่สั่งน้องไม่ได้หรอก…”

สาวน้อยสะบัดหน้าเดินหนี มาร์คอสผู้เป็นพี่ชายไหวไหล่กว้างน้อยๆ เขารู้ดีว่าน้องสาวของตัวเองก็แสบไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน แต่เขาเชื่อมั่นว่าตัวเองตามเกมของหล่อนทัน

“น้องจะทำให้องค์ชายบ้าบอคนนั้นยกเลิกการแต่งงานนี้ให้ได้”

“โดยการปล่อยภาพ ปล่อยข่าวว่าน้องมั่วกับเหล่าบอดี้การ์ดทุกคนใช่ไหม?”

แองเจลล่าหันมาเบิกตากว้าง แล้วก็หน้าแดงก่ำ “ใช่… แล้วทำไมล่ะ น้องจะทำทุกอย่างนั่นแหละให้องค์ชายป่าเถื่อนคนนั้นไม่ต้องการน้อง”

“เขาไม่ได้ต้องการน้องสักหน่อยแองจี้ แต่เขาเป็นเพื่อนกับพี่ และพี่ขอร้องให้เขาดูแลคุ้มครองน้องต่างหาก อย่าหลงตัวเองขนาดนั้นสิ ถ้าไม่ได้พี่ น้องก็ไม่มีทางได้อยู่ในสายตาของบาร์ซาร์หรอก ผู้ชายคนนี้หยิ่งมาก และถือตัวสุดๆ แต่พี่มีบุญคุณกับเขา เขาถึงได้ยอมรับน้องไง”

น่าภูมิใจมั่กมาก….

แองเจลล่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ภายในอก นี่พี่ชายของหล่อนกำลังจะบอกให้รู้ว่าที่องค์ชายบ้าบออะไรนั่นยอมแต่งงานกับหล่อนก็เพราะบุญคุณอย่างนั้นหรือ ทุเรศสิ้นดี! หล่อนยอมรับความคิดทุเรศนี้ไม่ได้หรอก หล่อนจะไม่มีวันเฉียดเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด

หล่อนเกลียดเขา เกลียดประเทศของเขา!

แต่ถึงแม้จะเกลียดแค่ไหน หล่อนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าขององค์ชายรัชทายาทแห่งทะเลทรายเถื่อนคนนั้นเลยไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว เขาต้องเถื่อน ต้องถ่อย และก็น่าเกลียดสุดๆ แน่นอน

“นี่พี่มาร์คอสกำลังจะบอกว่าพี่ยัดเหยียดน้องให้กับองค์ชายบ้านั่นเหรอ”

“ไม่ใช่องค์ชายบ้า ระวังปากหน่อยแองจี้ บาร์ซาร์คือองค์รัชทายาทลำดับต่อไปของมหานครการ์ซาน เขาจะขึ้นครองราชย์ต่อจากท่านสุลต่านองค์ปัจจุบัน และน้องจะได้เป็นสุลตาน่า”

“ไม่อยากเป็นอะไรทั้งนั้น น้องเกลียดพี่มาร์คอส… น้องจะหนีให้ได้”

มาร์คอสหัวเราะร่วน “น้องไม่มีทางทำได้สำเร็จหรอก…”

“อย่ามั่นใจนักเลยพี่มาร์คอส พี่อย่าลืมสิว่าบอดี้การ์ดทุกคนเชื่อฟังน้องพอๆ กับเชื่อฟังคำสั่งจากพี่นั่นแหละ” แองเจลล่าโต้กลับเสียงขึ้นจมูก

“พี่ต้องมั่นใจสิ เพราะพี่เตรียมบอดี้การ์ดคนใหม่ คนที่จะพาน้องไปส่งให้ถึงมือขององค์ชายบาร์ซาร์อย่างปลอดภัยเอาไว้แล้ว…”

มาร์คอสยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ แต่แองเจลล่าตกใจเบิกตากว้าง “อย่าบอกนะว่า… พี่มาร์คอสจะให้น้องไปการ์ซานในเร็วๆ นี้”

หวังว่าพี่ชายจะส่ายหน้า แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะมาร์คอสทั้งพยักหน้ารับทั้งยอมรับเป็นคำพูดออกมาโดยพร้อมเพรียงกันซะงั้น

“ถูกต้อง น้องจะต้องเดินทางไปการ์ซานในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่อย่าคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนหาทางหนีไปได้ล่ะ เพราะบอดี้การ์ดคนใหม่ของพี่โหดกว่าที่น้องคิดเอาไว้เยอะ และที่สำคัญเขาเชื่อฟังคำสั่งจากองค์ชายบาร์ซาร์เพียงพระองค์เดียว…”

“พี่มาร์คอส พี่ทำอย่างนี้กับน้องไม่ได้นะ น้องไม่ยอม!” แองเจลล่ากระทืบเท้าอย่างขัดใจ มองพี่ชายรูปหล่อด้วยความขุ่นเคือง

ไม่จริงหรอก มาร์คอสจะทำอย่างนี้ไม่ได้ หล่อนไม่ยอม สู้อุตส่าห์สร้างภาพลักษณ์ของตัวเองจนเละเทะก็เพื่อทำให้ไอ้องค์ชายบ้านั่นล่าถอย แต่นี่…

โอ๊ย… หล่อนต้องตายแน่ หากต้องทนอยู่กับผู้ชายป่าเถื่อนกลางทะเลทรายแบบนั้น แค่คิดก็ฝันร้ายติดต่อกันหลายคืนแล้ว

ไม่เอา ไม่ยอม หล่อนไม่มีวันยอม!

“กับพี่ น้องไม่ยอมก็ได้ แต่พี่มั่นใจว่ากับบาร์ซาร์น้องไม่มีทางขัดคำสั่งของเขาได้แน่”

“ทำไมจะไม่ได้ น้องเกลียดผู้ชายคนนี้…!”

มาร์คอสหัวเราะร่วน มองน้องสาวคนสวยที่พึ่งจะอายุพ้นยี่สิบปีมาแค่สองเดือนเศษด้วยความเอ็นดู “แล้วน้องจะไม่พูดอย่างนี้ เวลาที่ได้สบตากับบาร์ซาร์”

“ทำไมคะ เพื่อนผู้สูงศักดิ์ของพี่คนนี้หล่อปานเทพบุตรหรือไง น้องเห็นถึงต้องระทวย”

แองเจลล่าประชดประชัน ความขุ่นเคือง ความเอาแต่ใจที่ถอดแบบมาจากพี่ชายอัดแน่นอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของหล่อนมหาศาล

“ยิ่งกว่าเทพบุตร…” มาร์คอสยิ้มกว้างขณะมองน้องสาวที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่ ก่อนจะพูดขึ้นอีก

“เทพบุตรแดนทะเลทรายที่ทั้งหล่อทั้งเถื่อน แต่น่าสิเน่หานัก… น้องจะเป็นยิ่งกว่าระทวยซะอีกแองเจลล่า”

ใครจะหล่อได้ขนาดนั้นนะ ไม่มีเสียหรอก แต่ถึงให้เขาหล่อขนาดนั้นจริงๆ หล่อนก็ไม่คิดจะสนใจ ผู้ชายเถื่อนถ่อยไม่ใช่สเป็คของหล่อน และไม่มีทางใช่ไปตลอดชีวิตด้วย

“ไม่มีทาง น้องเกลียดผู้ชายป่าเถื่อน…”

เมื่อเห็นน้องสาวยังยืนกรานเสียงแข็งไม่เลิก มาร์คอสจึงเลิกที่จะใส่ใจอีก ชายหนุ่มถอนใจออกมาแรงๆ อีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยลา

“พี่ต้องไปก่อนนะ เมียพี่รออยู่… แล้วน้องห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ถ้าไม่ได้รับคำอนุญาตจากพี่”

“น้องจะไม่ยอมให้พี่มาร์คอสกักขังอีกแล้ว”

แองเจลล่าตะโกนตามหลังพี่ชายไป แต่เขาไม่สะทกสะท้านสักนิด แถมยังเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดีเสียอีก หล่อนถลาจะวิ่งตามออกไป แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดชุดดำสองคนที่เฝ้าหน้าประตูห้องโถงอยู่ขวางเอาไว้

“เข้าไปข้างในเถอะครับ นายท่านสั่งเอาไว้”

“แต่ฉันจะตามพี่ชายของฉันออกไป หลีกไปนะ!”

“ไม่ได้ครับ หากไม่มีคำสั่งของนายท่าน คุณแองจี้ก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวออกไปจากบ้านหลังนี้ครับ”

ชายร่างยักษ์เตือนเสียงราบเรียบ และแองเจลล่าก็ไม่อยากจะต่อกรด้วยนัก เพราะรู้ดีว่าพวกบอดี้การ์ดเหล่านี้เป็นทหารรับจ้างที่ผ่านการฝึกฝนกับหน่วยซีลมาแล้วทั้งนั้น พวกนี้อึดยิ่งกว่าวัวกระทิงซะอีก รอโอกาส แล้วค่อยออกหาทางไปดีกว่า

แองเจลล่าหมุนตัวเดินกลับเข้ามาภายในห้องโถงอีกครั้ง ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นทั้งคันแรงๆ สมองกำลังหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยหินสักพันก้อน ทั้งปัญหาของนาริกา และปัญหาของตัวเองล้วนแต่เป็นเรื่องใหญ่ทั้งนั้น

แล้วนี่หล่อนจะต้องทำยังไง ถึงจะสามารถคลายปมปัญหาพวกนี้ลงได้ ต้องทำยังไงกัน? สาวน้อยถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ก็หาคำตอบไม่ได้เช่นเดิม

Options

not work with dark mode
Reset