นางบำเรอเติมใจ 65

ตอนที่ 65

กรวิทย์หุบยิ้มทันที

“แต่ฉันอยากเจอเธอ” ที่เขาขอร้องเธอเพราะเขาอยากเจอเธอ ไม่ใช่ต้องห่างกันแบบนี้

“คุณไม่มีสิทธิ์สั่งหวานแล้วนะคะอย่างลืม”

“ร้ายนักนะ โอเค เราจะไม่เจอกัน แต่ถ้ามันเป็นเรื่องบังเอิญเธอก็ว่าไม่ได้นะ” ใครกันแน่ที่ร้ายกว่ากัน ที่เขาพูดแบบนี้คือเขาจะทำให้มันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นเหรอ

“ตามใจคุณเถอะค่ะ ปล่อยหวานได้แล้วอึดอัด” เธอรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องมาคุยกันในช่วงที่อารมณ์วาบหวามแบบนี้ การที่ได้คุยกับเขาแบบจริงจังอารมณ์ก่อนหน้านี้ก็หายไปเกือบครึ่ง ถึงจะไม่ได้เปิดเปลือกทุกความรู้สึกของตัวเองเธอก็ถือว่าได้รู้ความคิด ความรู้สึกของเขาในระดับหนึ่ง ต้องรอดูต่อไปว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง เธอยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ว่าเขาจะไม่แต่งงาน และทิ้งผู้หญิงคนนั้นมาหาเธอ

“ไม่ค้างรึไง” หทัยรัตน์ส่งค้อนให้เขา

“และเธอบอกว่าเราจะไม่เจอกันอีก เธอก็จำสัมผัสฉันเอาไว้” กรวิทย์ไม่พูดเปล่า มือก็เริ่มรุกรานเธออีกครั้ง ปลดตะขอบราตัวสวยแล้วดึงมันออกจากร่างบาง อ้าปากครอบครองยอดประทุมสีสวยกลืนกินมันเข้าปากตวัดลิ้นไล้เลียไปทั่ว

คนโดนกระทำโดยไม่ได้ตั้งตัวเผยออ้าปากค้างและกลายเป็นเสียงครางในเวลาต่อมา แอ่นหน้าอกเข้าหาริมฝีปากของเขา

“อ๊ะ คุณกร” ร่างบางตัวงอจิกผมเขาแน่นเมื่อเขาเคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง พรมจูบไปตามหน้าท้องแบนราบ ขาเรียวสวยหนีบเข้าหากันทันทีที่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ก็โดนมือใหญ่จับให้มันอ้าออกจากกัน

ลิ้นสากของกรวิทย์ปาดเลียไปตามรอยแยกขึ้นลง ขบเม้มดูดดึงเบาๆ สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปหาน้ำหวานจากข้างใน ร่างบางดิ้นพล่านร้องครางโหยหวน

“อ๊า อ๊า คุณกร” หทัยรัตน์ตัวง้อจิกผมเขาแรงขึ้น ผงกหัวขึ้นมองเขาที่ละเลงลิ้นอยู่บนส่วนนั้นของเธอ ขาทั้งสองข้างของเธอสั่นระริกด้วยความเสียว วันนี้เขาร้อนแรงมาก ร้อนแรงกว่าทุกครั้ง ร่างบางทิ้งตัวลงบนที่นอนครางไม่เป็นภาษา และกระตุกเกร็งในเวลาต่อมา

กรวิทย์สะบัดผ้าเช็ดตัวออกเคลื่อนตัวขึ้นมาหาเธอ จูบปากบางที่เผยอขึ้นอย่างร้อนแรง

“ฉันคิดถึงเธอรู้ไหม” หัวใจของหทัยรัตน์เต้นแรงแทบระเบิดออกมาด้านนอก กรวิทย์พูดในสิ่งที่เขาคิด เขาคิดถึงเธอ คิดถึงจริงๆ ความรู้สึกนี้ของเขามันชัดเจนทุกครั้งที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้เธอ แต่ความรู้สึกอื่นเขายังไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนั้น

กระซิบบอกเสียงพร่าพร้อมกับจับแก่นกายสอดแทรกเข้าไปในร่องสวย จับขาข้างหนึ่งของเธอพาดบ่า จ้องมองหน้าหวานที่หลับตาพริ้มเผยอปากคราง

สะโพกสอบกดเข้าหาความเบาะบางหนักบ้างเบาบ้างตามแรงอารมณ์ ท่านี้ทำให้ก้นของหญิงสาวยกขึ้นตัวตนของเขาจึงฝังเข้าไปในตัวเธอได้ลึกขึ้น แก่นกายเหยียดขยายเต็มที่บดขยี้ลงไปที่กลางกายทำให้รู้สึกจุกปนเสียวไปทั่วช่องท้อง

“อ๊า อ๊า คุณกร” กรวิทย์ก้มลงไปจูบปากบางที่ร้องเรียกชื่อตัวเอง เอวสอบขยับโยกไม่หยุด มือบีบเคล้นอกอวบที่เด้งขึ้นลงตามแรงกระแทก

กล้ามหน้าท้องสวยหดเกร็งเสียวซ่านทุกครั้งของการโยกตัว สายตาของทั้งคู่สบประสานกันอยากมีความหมาย กรวิทย์ดึงตัวออกทั้งที่สบตากับเธออยู่ หทัยรัตน์พลิกตัวหันหลังให้เขาทันที ยกตัวขึ้นในท่าคลานเข่า แก่นกายใหญ่โตก็สอดแทรกเข้าหาร่องสวยจากด้านหลัง

กรวิทย์ยิ้มอย่าพอใจ เขาบอกแล้วไงว่าไม่มีใครรู้ใจเขาเท่าหทัยรัตน์อีกแล้ว กับเธอเขาไม่ต้องพูดอะไรเลยเวลาอยู่บนเตียง เธอรู้ทุกอย่างว่าต้องทำยังไงเพียงแค่สบตากัน

มือใหญ่จับเอวบางไว้แล้วกระแทกจากด้านหลังเสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นพร้อมกับเสียงครางของทั้งคู่

“หวาน อ๊า” กรวิทย์เรียกชื่อหญิงสาวเมื่อเธอบีบรัดเขาแรงขึ้น

“คุณกร” เสียงหวานเรียกชื่อเขาครางกระเส่า ทิ้งตัวนอนราบบนที่นอนอย่างหมดแรง มือใหญ่บีบเคล้นก้นแน่นๆ ของเธอแรงๆ ให้แยกออกจากกันจ้วงแทงเข้าออกไม่หยุดและแรงขึ้น กรวิทย์โหมแรงทั้งหมดที่มีใส่เธอไม่ยั้งจนร่างบางไถลไปด้านหน้า กรีดร้องออกมาสุดเสียงกับความร้อนแรงของเขา

“อ๊า หวาน อ๊า” เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ที่กระตุกเกร็ง สองร่างหายใจหอบแรง กรวิทย์ทิ้งตัวลงบนหลังร่างบางจูบซับไปทั่วแผ่นหลัง

เมื่อเห็นว่าลมหายใจเธอเริ่มเข้าที่เขาก็จับเธอให้ขึ้นมานั่งบนตักโดยพาตัวเองไปนั่งพิงหัวเตียง

“กินฉันหวาน” กรวิทย์ร้องขอเธอด้วยแววตาหวานเชื่อม บีบเคล้นก้นงอนให้ขยับถูไถกับตัวตนของเขา

“หวานไม่ใช่นางบำเรอ” ร่างบางเม้มปากเข้าหากัน มือเกาะอยู่ที่ไหล่คนตัวโต

“ฉันรู้ ฉันไม่ได้สั่งเธอในฐานะนั้น ฐานะแบบนั้นของเราจบไปแล้ว”

“…”

“ฉันขอร้องเธอในฐานะผู้ชายที่คิดถึงเธอตั้งแต่แยกจากกัน” กรวิทย์ดึงตัวเองขึ้นจูบเธออย่างดูดดื่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวลิ้นเล็กๆ ของเธออย่างกระหาย เขารู้ว่าเธอไม่อยากอยู่ในฐานะนั้น

“คุณกร” หทัยรัตน์เรียกชื่อเขาเบาหวิว หลังจากที่ปากหลุดออกจากกันจ้องตาเขาไม่กะพริบ

“หวาน”

“คุณรักหวานไหม” หทัยรัตน์ถามออกไปอย่างคนละเมอ เธอหลงไปกับคำหวานของเขาจนอดใจไม่ได้ที่จะถาม เขาบอกคิดถึงเธอ แต่ก็ไม่เคยเอ่ยคำว่ารัก

กรวิทย์สะดุดกับคำถามของเธอ

หทัยรัตน์เม้มปากรอฟังคำตอบจากเขา

“ฉัน ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าไม่อยากปล่อยเธอไป อยากที่บอกฉันขอเวลา” หทัยรัตน์ยิ้มให้เขาบางๆ คำว่าไม่อยากปล่อยเธอไปก็ยังดีกว่าที่เขาบอกว่าไม่รักเธอ

“แล้วเธอล่ะ เธอรักฉันไหม” อีกครั้งที่หทัยรัตน์ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามแบบนี้จากเขา แต่จะแปลกอะไรในเมื่อเธอยังกล้าถามเขา เขาก็ต้องกล้าถามเธอ หทัยรัตน์หลบสายตาของเขา

“หวานจะบอกถ้าคุณเคลียร์ทุกอย่างได้ แต่ถ้าไม่มีวันนั้น หวานขออะไรคุณอย่างได้ไหมคะ”

“อะไร”

“คุณอย่ากลับเข้ามาในชีวิตหวานอีก ปล่อยหวานไป แล้วไปใช้ชีวิตของคุณกับคนที่เหมาะสม”

ถ้าเขาบอกว่ารักเธอในวันนั้น เธอก็พร้อมจะบอกว่ารักเขาเหมือนกันและเธอก็พร้อมจะสู้ไปกับเขาไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม แต่ถ้าคำตอบของเขาคือไม่ เธอก็จะไม่บอกความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาเช่นกัน

“หวาน” กรวิทย์รู้สึกใจหล่นวูบเมื่อได้ยินคำขอร้องของเธอ

“ได้ไหมคะ”

“ได้”

หทัยรัตน์ก้มลงไปจูบเขา เมื่อได้ยินคำตอบ เธออยากกลืนกินเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสอยู่กับเขาแบบนี้อีกไหม คำว่าขอเวลาของเขามันจะนานแค่ไหน และจะเป็นจริงไหม เธอเองก็ไม่อยากคาดหวัง

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset