ดั่งรักบันดาล 72

ตอนที่ 72

สิบนาทีหลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก ตู้เยี่ยผลักประตูเข้ามา “ประธานอวี้ คนมาแล้ว”

อวี้อี่มั่วพยักหน้า “นายออกไปเถอะ”

“ครับ”

ตู้เยี่ยหันหลังเดินออกจากห้องไป

เฉิงลู่ยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยความหวาดผวาอย่างบอกไม่ถูก “ประธานอวี้ คุณเรียกฉันมามีเรื่องอะไรคะ?”

“มานี่สิ” อวี้อี่มั่วไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขาพลิกดูนิตยสารอยู่บนโซฟา

เมื่อเห็นท่าทางอย่างนี้ เฉิงลู่ก็เหงื่อออกที่หลัง เธอประสานมือเข้าด้วยกันและเดินเข้าไปช้าๆ

หลังจากบทเรียนครั้งที่แล้ว เธอก็เข้าใจความน่ากลัวของชายคนนี้อย่างแท้จริง ท่าทางที่สงบเยือกเย็น แต่สามารถฆ่าคนได้

อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้นมองการเคลื่อนไหวเชื่องช้าของเธอ และสีหน้าท่าทางที่ดูแข็งทื่อ เขาเม้มริมฝีปากแล้วถามว่า “ครั้งที่แล้วมะม่วงอร่อยไหม?”

เมื่อพูดถึงมะม่วง เฉิงลู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดท้อง เธออดทนอดกลั้นแล้วหายใจเข้าลึกๆ “ค่ะ…อร่อยค่ะ……”

อร่อยจนชีวิตนี้เธอไม่อยากจะกินมะม่วงอีกแล้ว!

“อืม อร่อยก็ดี” อวี้อี่มั่วหยุดไปชั่วขณะ และพูดเบาๆว่า “เมื่อคืนประมาณสองทุ่มครึ่ง เธออยู่ที่ไหน?”

“ฉัน…ฉันกินข้าวกับทุกคนอยู่ในห้องรับรองพิเศษ”

“ได้ออกไปไหนมาไหม?”

“ไปห้องน้ำสองครั้ง……”

อวี้อี่มั่วมองไปที่การแสดงออกของเธอและถามต่อ

เมื่อฟังเธออธิบายสิ่งต่างๆมากมาย อวี้อี่มั่วก็ไม่ได้ตื่นตระหนก และถามต่อว่า “โอเค งั้นเมื่อวานตอนกลางวันที่ห้องน้ำของห้องอาหาร คุณได้ทำอะไรหร่วนซือซือรึเปล่า?”

เฉิงลู่ตาโตและพูดไม่ออก “ฉัน……”

ในตอนนั้นเธอเห็นหร่วนซือซือ ในใจของเธอก็โกรธ เธอระบานอารมณ์โดยการสาดน้ำใส่หร่วนซือซือ

อวี้อี่มั่วสีหน้าเคร่งขรึม “พูดมา”

เฉิงลู่รีบพูด “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ทันได้ระวังจนทำน้ำหกใส่เธอ!”

“งั้นเมื่อวานตอนเช้า?ถังน้ำแข็งที่ใช้ในการลงโทษคุณเป็นคนทำ?”

ในการเล่นเกมของเมื่องเมื่อวานตอนเช้า เขากับหร่วนซือซือแพ้ ในตอนนั้นเขาเห็นเฉิงลู่เดินวนเวียนอยู่ข้างถังน้ำแข็ง ต่อมาเขาต้องโดนลงโทษโดยการเทถังน้ำทั้งสองลงบนตัวเขา เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าน้ำแข็งถังหนึ่งเย็นกว่าน้ำแข็งอีกถัง เห็นได้ชัดว่ามีคนทำการเติมน้ำแข็งเพิ่ม

เมื่อเฉิงลู่ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเธอก็ซีดเซียว “ประ…ประธานอวี้ ฉันก็แค่อยากจะให้บทเรียนเล็กๆน้อยๆกับเธอ ครั้งก่อนเป็นเพราะเธอฉันถึงถูกลงโทษ ให้อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน ฉันไม่สบายใจ……และครั้งนี้ฉันเห็นว่าเธอทำให้คุณติดร่างแหไปด้วย ก็เลย……”

เมื่อได้ยินที่เธอพูด อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้ว แล้วถอนหายใจในใจ

เรื่องถังน้ำแข็งเขาเห็นเธอเดินวนอยู่รอบๆก็เลยเดาได้ เรื่องที่ห้องน้ำของห้องอาหารก็เป็นเพราะเขาเห็นหร่วนซือซือมีน้ำอยู่บนใบหน้า และเห็นเธอเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ทั้งสองเรื่องนี้เฉิงลู่เป็นคนทำ เขาก็เลยเชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่หร่วนซือซือตกลงไปในสระว่ายน้ำเมื่อวานตอนกลางคืน

เขากำหมัดแน่นและถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เรื่องที่สระว่ายน้ำคุณทำใช่ไหม?”

เฉิงลู่ตัวสั่นและพูดว่า “เรื่องที่สระว่ายน้ำฉันไม่ได้ทำ!ฉันแค่อยากให้บทเรียนเล็กๆน้อยๆกับหร่วนซือซือ เรื่องที่โหดเหี้ยมแบบนั้นฉันจะไม่กล้าทำได้ยังไง!”

เมื่อเห็นเธอตัวสั่นและอธิบายให้กับตัวเอง ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้โกหก

อวี้อี่มั่วสูดหายใจเข้าและพูดว่า “เฉิงลู่ ที่ผมปล่อยคุณตามใจมานานก็เพราะเห็นแก่หน้าลุงของคุณ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป ไม่ต้องให้ผมบอกคุณก็รู้ว่าต้องทำยังไง”

เฉิงลู่รีบพูด “ค่ะ!ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว!”

หลังจากที่เธอออกไป ตู้เยี่ยก็เข้ามา อวี้อี่มั่วถามว่า “เมื่อคืนเธออยู่ที่นั่นตลอดหรอ?”

ตู้เยี่ยพยักหน้า “ครับ ถามหลายๆคนแล้ว พวกเขาล้วนบอกว่าเฉิงลู่อยู่ที่นั่น ไปห้องน้ำก็ไปด้วยกันกับคนอื่นๆ”

อวี้อี่มั่วโยนนิตยสารไปข้างๆ “โอเค ฉันรู้แล้ว”

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะซับซ้อนกว่าที่เขาคิด

ในเวลาเดียวกัน ในห้องสุพีเรียร์สวีทของวิลล่าริมทะเลสาบมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่

ทันใดนั้นชายที่อยู่บนรถเข็นก็พูดอย่างสบายๆว่า “หายไปทั้งคืนแล้วไม่ออกมาเลยหรอ?”

เซ่าโจวพยักหน้า “ครับ กลับมาเมื่อเช้านี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีพิรุธบางอย่าง”

อวี้กู้เป่ยเขย่าแก้วในมือของเขา “นายจัดการปิดปากพนักงานเสิร์ฟคนนั้นรึยัง?เขาจะพูดออกมาไหม?”

เซ่าโจวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ปิดแน่นสนิท ถึงยังไงเขาก็ไม่กล้าพูดว่าเขาเป็นคนผลัก แล้วก็เป็นคนช่วย ถ้าเขาพูดออกมา อวี้อี่มั่วก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่”

อวี้กู้เป่ยเม้มริมฝีปาก และพูดเบาๆว่า “งั้นจากมุมมองของนาย นายคิดว่าเขามีความรักให้หร่วนซือซือไหม?”

อวี้กู้เป่ยงียบไปครู่หนึ่งและตอบอย่างไม่แน่ใจ “คุณชาย เรื่องความรู้สึกผมก็ไม่แน่ใจ”

อวี้กู้เป่ยหัวเราะและพูดว่า “รักหรือไม่รัก ถ้าไม่แน่ใจก็ลองไปถามดูสิ”

หลังจากที่เขาพูดจบก็หันไปมองที่นอกหน้าต่าง

เขาพูดพึมพำว่า “ได้ยินว่าวันนี้แผนกบริหารจะมาที่ทะเลสาบ?”

“ใช่ครับ”

เมื่อได้ยินคำตอบ อวี้กู้เป่ยก็ยิ้มไม่หุบ……

…..

“ก๊อกก๊อก!”

“ซือซือ เธอยังไม่ตื่นหรอ?”

หร่วนซือซือที่กำลังฝันอยู่ก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงเคาะประตูทันที

เธอสะดุ้งตกใจ แล้วรีบลุกขึ้นดูเวลา เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นตบหัว

เธอหลับมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!

ด้านข้างของเตียงว่างเปล่า หร่วนซือซือกวาดสายตามองไปรอบๆ และในที่สุดสายตาของเธอก็มาหยุดที่กระดาษบนโต๊ะหัวเตียง

“พักผ่อนให้เต็มที่ ตอนเช้าไปพายเรือที่ทะเลสาบกัน ถ้าไม่อยากไปก็อยู่ที่โรงแรม”

หร่วนซือซือเม้มริมฝีปาก และได้ยินเสียงเสี่ยวหานเคาะประตูอีกครั้ง จากนั้นเธอก็รีบลุกไปเปิดประตู

ทันทีที่เปิดประตู เธอก็เห็นเสี่ยวหานยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วนสีหน้าเป็นกังวล เธอรีบพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันเหนื่อยเกินไปหน่อย”

เสี่ยวหานไม่ได้ตำหนิและถามว่า “ได้ยินว่าเมื่อวานเธอตกน้ำ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

หร่วนซือซือยิ้ม “ไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว วันนี้ช่วงเช้าทุกคนจะไปที่ทะเลสาบ เธอไปไหม?”

หร่วนซือซือตอบอย่างไม่ต้องคิด “ไปสิ”

เมื่อวานตอนที่มาถึงวิลล่าริมทะเลสาบ เธอก็ตื่นเต้นกับทิวทัศน์ของที่นี่ ในที่สุดวันนี้เธอก็มีโอกาสได้ออกไปข้างนอก เธอไม่อยากพลาดโอกาสนี้แน่

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เธอก็เดินตามเสี่ยวหานไปที่จุดรวมตัวริมทะเลสาบ

คราวนี้ทะเลสาบอยู่ในแผนการเดินทางของแผนกบริหาร คนที่เป็นเลขาก็มากับแผนกบริหารด้วย หลังจากที่หร่วนซือซือมาถึงได้ไม่นาน เธอก็เห็นอวี้อี่มั่วกับตู้เยี่ยเดินมาทางด้านนี้

ทุกคนทักทายอวี้อี่มั่ว อวี้อี่มั่วก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ และในสุดก้ไปหยุดที่หร่วนซือซือ

เขาบอกแล้วว่าให้เธอพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ไม่คิดว่าเธอก็ยังจะมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ทะเลสาบเห็นทุกคนอยู่ที่นั่นก็ถามว่า “ทุกคนอยากเล่นอะไรกัน?ทัวร์ทะเลสาบหรืออยากแข่งขัน?”

ทันทีที่ต้าตงได้ยินว่ามีการแข่งขัน เขาก็ถามเกี่ยวกับกฎกติกาทันทีด้วยความสนใจ

เจ้าหน้าที่อธิบายว่า “การแข่งขันนี้คือการออกเรือเป็นกลุ่ม หนึ่งกลุ่มมีคนสองถึงสี่คน เราปักธงสีแดงไว้ที่ต้นอ้อในทะเลสาบ และให้พายเรือกลับกลับมาภายในเวลาที่กำหนด กลุ่มที่มีธงสีแดงมากที่สุดจะชนะ”

เมื่อได้ฟังกฎกติกาแล้ว ทุกคนก็ตกลงที่จะแข่งขัน และเริ่มจับกลุ่มกันอย่างคึกคักดีใจ

อวี้อี่มั่วหยุดแล้วกวาดสายตามองไปที่หร่วนซือซือ เขากระแอมในลำคอและพูดว่า “งั้นเราก็จัดกลุ่มตามอย่างเมื่อวาน”

Options

not work with dark mode
Reset