ซ่างเย่ 38 กลางคืนที่มืด ซ่อนได้ง่าย

ตอนที่ 38 กลางคืนที่มืด ซ่อนได้ง่าย

เฉิงหนานให้คนตามมาด้วยไปตักคนในทะเลสาบขึ้นมา

คนนี้ไม่ใช่พ่อบ้าน ดูเสื้อที่ใส่น่าจะเป็นคนงาน

จิ้นเยว่ดูอย่างชัดเจน พูดอย่างแน่ใจ”ท้องมีนำ้ ปากปิด ตาไม่ปิด ตบท้องแล้วมีเสียง น่าจะคือตกน้ำตาย

ซ่งเยี่ยนถาม”เจ้าดูเป็นเมื่อไหร่

“พ่อของข้าเป็นหมอ หมอกับคนตรวจศพไม่ต่างไปไหน แค่คนหนึ่งรักษาให้คนมีชีวิต อีกคนทำให้คนตายพูดได้ ต่างกันแค่นี้เจ้าค่ะ”

คนนี้ไม่ใช่พ่อบ้าน แต่ทำไมตายในบ้านพ่อบ้าน แปลกจริงๆ

“ฮื่อ!”ซ่งเยี่ยนจะเดินออกไปแล้ว เดินสองก้าวก็มองไปข้างหลังเห็นจิ้นเยว่ยังยืนอยู่ หน้าดำอีกแล้ว”ยังไม่ไปหรือ ยืนอยู่ทำไม?”

จิ้นเยว่ไม่เข้าใจ นางทำไมต้องเดินไปด้วย แต่พอคำนึงถึงฐานะที่สูงศักดิ์ของเขา นางก็ได้ทำความเคารพ”ข้าอยากจะดูอีก ที่นี่อาจจะมีเบาะแสบางอย่างอยู่ ที่นี่มีคนตาย ไม่เป็นมงคล ท่านรีบกลับก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

จะได้ไม่ทำให้รองเท้าท่านสกปรก!

ซ่งเยี่ยนอ้าปากจะพูด เฉิงหนานพูดก่อน”องค์ชายเล็กเรากลับก่อนดีกว่า ที่นี่มีคนของที่ว่าการอำเภอเฝ้าอยู่ ไม่เกิดอะไรหรอกขอรับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ”

“ข้าจะห่วงอะไร ?”ซ่งเยี่ยนพูด

ห่วงนาง?

นางยอมดูคนตายยังไม่ยอมดูเขาตาเดียวเลย ใจดีต่อนางถูกมองเป็นอะไรก็ไม่รู้ ซ่งเยี่ยนเดินไปไหนก็มีแต่คนมาประจบสอพลอ แต่ผู้หญิงคนนี้สิไม่มีน้ำใจจริงๆ!

“คุณหญิง!”เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอรีบมาถึง หัวหน้าสายตรวจยกมือคารวะ

“ศพเจอที่ทะเลสาบ ตอนนั้นยังอยู่ที่นั้น”จิ้นเยว่นั่งยองๆในข้างทะเลสาบ ชี้ไปข้างหน้า”ดูท่าแล้วตายไม่นาน อย่างมากก็เมื่อวันคืน”

สอดคล้องกับการลอบสังหารเมื่อคืนนี้ น่าจะไปรู้อะไร แล้วจึงถูกฆ่า

หัวหน้าสายตรวจพยักหัว และให้พวกลูกน้องไปตรวจตามริมทะเลสาบว่ามีเบาะแสอะไรหรือเปล่า

ข้างพื้นหญ้ามีรอยเท้า และรอยขีดข่วนน่าจะถูกผลักลงไป แต่ถ้าอยากรู้ว่าถูกใครผลักลงไป เดายากจริงๆ ไม่มีเบาะแสอะไรเลย

แน่นอน ถ้าหาไม่เจอฆาตกร บ้านนี้เป็นของพ่อบ้าน พ่อบ้านก็จะเป็นผู้ต้องสงสัย

จิ้นเยว่ปิดหน้าเอาไว้ ทำไมกลับมายังที่เดิมอีกแล้ว

ซวงจือมาถึง หน้าซีดมาก”คุณหญิง เจ้าเป็นไรหรือไม่”

“ข้าไม่เป็นอะไร แต่หาไรไม่เจอเลย”จิ้นเยว่นั่งอยู่ มองคนเขาหา”พ่อบ้านก็ไม่เจอ เจอแต่ศพ ซวงจือเจ้าว่าข้าเป็นร่างที่เรียกวิญญาณหรือเปล่า……”

“ถุยๆๆ คุณหญิงอย่าพูดอย่างนี้” ซวงจือโล่งใจได้ คุณหญิงไม่มีอะไรก็พอ และกระซิบพูดข้างหูของจิ้นเยว่”จวินซานบอกว่า เมื่อวานก็ไม่เห็นพ่อบ้านเดินออกศาลาชิวสุ่ย ตัวเขาน่าจะยังอยู่ในตระกูลฟู่  แล้วตรวจสอบทั้งเรือน พร้อมจับคนในตระกูลฟู่เข้าคุกหมด

จิ้นเยว่ลุกขึ้น “จริงหรือ?”

“จริงเจ้าค่ะ” ซวงจือพยักหน้าและพูด

“ไปกัน!”จิ่นเยว่สะกิดนางให้ไปกัน

แล้วสองคนก็เดินออกจากบ้านนี้

ในชั้นสองของร้านชาข้างถนน หน้าต่างปิดอยู่เล็กน้อย เฉิงหนานถาม”องค์ชายเล็กขอรับ ยังจะตามไหมขอรับ”

ซ่งเยี่ยนดื่มชา”ตามนางไป”

เฉิงหนานก็รีบตามไป

จริงๆแล้วเขาก็ไม่รู้ว่า คนคนนี้เป็นใต้เท้าจิ้นที่องค์ชายเล็กจะหาหรือเปล่า

ในจวนเยี่ยนอ๋อง ทุกคนรู้จักใต้เท้าจิ้นหมด คนเดียวสู้ผู้ร้ายทั้งกองทัพยังได้ ช่วยพระชายาเยี่ยนกับหญิงคนอื่นออกมาได้จากมือของผู้ร้าย แม้ว่าสุดท้ายถูกยกกลับมา แต่ก็ได้รับการชื่นชมจากราชสำนัก รอนางมีผลสำเร็จอีกก็จะให้เป็นขุนนางเลย

ท่านอ๋องเคยพูดว่า ถ้าจิ้นเยว่เป็นผู้ชาย จะต้องสู้รบได้ดี และกลายเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในราชสำนัก

เฉิงหนานขมวดคิ้ว แต่จิ้นเยว่คนนี้ ปีนกำแพงยังได้ใช้ทั้งมือและขา แถมยังตกลงไปเลน ไม่เหมือนคนเมื่อก่อนจริงๆ

จิ้นเยว่กลับไปในตระกูลฟู่ ออกไปทั้งวันแล้ว หิวมากๆ

ดีที่ซวงจือให้จวินซานไปครัว สามคนซ่อนอยู่หลังที่ทำกับข้าว กินไปคุยไป

ซวงจือจับตะเกียบ แต่ไม่ได้เอาเนื้อไก่เข้าปาก มองดูคุณหญิงด้วยความมึนงง นางจับไก่ที่ปรุงสุกมากินอย่างกับ…..พูดไม่น่าฟังหน่อย คือเหมือนไม่ได้กินข้าวมาหลายชาติ เหลือแต่กระดูกอย่างเดียวที่ไม่ได้กิน

ไก่ตัวนี้เหลือจากเมื่อวาน เพื่อความสะดวก จิ้นเยว่จึงนำไก่ใส่เข้าไปในหม้ออุ่นหน้อย คนทำกับข้าวฝีมือดี แม้ว่าเป็นไก่ค้างคืนแล้วก็ยังอร่อยอยู่

“คุณหญิงกินช้าๆขอรับ!”จวินซานรีบเทน้ำให้”อย่าสำลักนะขอรับ”

ไม่งั้นเดี๋ยวคุณชายต้องทำเขาตายแน่

“หิวมาก!”จิ้นเยว่เอาผ้าเช็ดปาก “เจ้าพูดต่อ”

จวินซานพยักหน้า จับหมั่นโถวในมือไว้อย่างแน่น ตระกูลฟู่ตอนนั้นถูกหาทั่วบ้าน ยกเว้นทางแอบที่บ่าวซ่อนตัวิยู่ และมีอีกที่หนึ่งซ่อนคนได้ อยู่ในศาลาชิวสุ่ย ตอนนั้นที่นั้นนายท่านเป็นคนให้พ่อบ้านทำโดยไม่มีใครรู้

“อยู่ในศาลาชิวสุ่ย?”จิ้นเยว่ขมวดคิ้ว”ทำไมเจ้าไม่พูดก่อน?”

“ที่นั้นเมื่อก่อนเคยเกิดเรื่อง ต่อไปก็โดนล็อก ไม่มีกุญแจของนายท่านไม่มีใครเข้าได้ แล้วก็เวลานั้นบ่าวคิดว่าพ่อบ้านถูกจับแล้ว ไม่ได้คิดอะไรมากขอรับ”จวินซานพูด

ศาลาชิวสุ่ยจะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตลอด ดังนั้นจวินซานจึงพานางเดินทางแอบ

กลางคืนที่มืด ซ่อนตัวได้ง่าย

จิ้นเยว่ถาม”เมื่อก่อนเกิดไรขึ้น?”

ซวงจือทำหน้ามึนงง น่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย

จวินซานเหมือนมีอะไรไม่กล้าพูด หรือยากต่อการบรรยาย

“ช่างเถอะ หาคนให้เจอก่อน”จิ้นเยว่ไม่ใช่เป็นคนอย่างนั้นที่จะไปบังคับคนอื่น”พ่อบ้านทำไมหักหลังตระกูลฟู่

“บ่าวคิดว่าผู้จัดการไม่น่าจะหักหลัง ในนี้ต้องมีอะไรที่ปิดบังอยู่แน่นอนขอรับ”น้ำเสียงของจวินซานเบามาก จับหมั่นโถวในมือไว้อย่างแน่น

ซวงจือพยักหน้า มองจิ้นเยว่

“เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ?”จิ้นเยว่ไม่ค่อยคุยกับพ่อบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นคนอย่างไง แค่ดูฟู่เจิ้นไป่กับจวินซาน แม้กระทั่งซวงจือก็ว่าพ่อบ้านไม่น่าหักหลัง ดูอย่างนี้แล้วผู้จัดการน่าจะดีกับทุกคน

หรือว่ามีเงื่อนงำอะไรจริงหรือ?

“พ่อบ้าน ปกติเป็นคนเข้มงวดหน่อย แต่เป็นคนที่ดี ใครมีอะไร เขาช่วยหมด”ซวงจือพูด”และเพราะเขาแก่แล้วข้างกายก็ไม่มีลูกหลานอยู่ด้วย บางที ทุกคนก็มองเขาเหมือนคนแก่บ้านตัวเอง เคารพเขามาก”

จิ้นเยว่เม้มปากไว้ ไม่พูดอไรเลย

ซ่างเย่

ซ่างเย่

Score 10
Status: Completed
ในใจของฟู่จิ่วชิงมีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ เมียของตัวเอง ถูกเขาแอบขโมยมา...... ใครๆล้วนรู้ว่า ตระกูลฟู่ในเมืองเหิงโจว ร่ำรวยเท่ากับประเทศชาติเลยทีเดียว แต่เสียที่ทายาทล้วนไม่เอาไหนทั้งนั้น ลูกคนโตตายตั้งแต่ยังเด็ก ลูกคนที่สองใช้เงินทองสุรุ่ยสุร่าย ลูกคนที่สามชอบหาโสเภณี ลูกคนที่สี่เป็นคนโง่ ฟู่จิ่วชิงเป็นลูกหลงซึ่งออกโดยเมียน้อย และก็เป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เกิดด้วย จิ้นเยว่ไม่ยอมแต่งเข้าไปในตระกูลฟู่ แต่พ่อเข้าคุก นางในฐานะที่เป็นแค่หญิงอ่อนแอเท่านั้น จะทำอะไรได้ล่ะ? แต่ว่าหลังจากแต่งเข้าไปแล้ว คนขี้โรคที่ได้ยินมานั้น เหมือนไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น โดยเฉพาะวิธีการทรมานคน ทำไมถึง......โหดร้ายขนาดนั้น? อยู่มาวันหนึ่ง จิ้นเยว่ตื่นตัวขึ้นมาทันที สามีของตัวเองเป็นหมาป่าหางโตที่ใส่หนังแกะนี่เอง! หัวใจของข้าแบ่งเป็นสามส่วน ตะวัน นิศาบดีและเจ้า ตะวันและนิศาบดีมอบให้กับเจ้า ยอมล่มสิ้นใต้หล้าเพื่อเจ้าเพียงผู้เดียว!——ฟู่จิ่วชิง

Options

not work with dark mode
Reset