ชายาเคียงหทัย 336-1 เผด็จการอย่างสมเหตุสมผล

ตอนที่ 336-1 เผด็จการอย่างสมเหตุสมผล

“​พี่​รอง​ ​ไม่ได้​พบกัน​เสียหลาย​ปี​ ​ท่าน​จะ​ไป​แล้ว​หรือ​”

แผ่น​หลัง​ของ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ที่​เดิน​ไป​ถึง​ปาก​ประตู​แล้ว​ชะงักงัน​ไป​ทันที​ ​นาง​เหลือบมอง​องครักษ์​ใน​ชุด​ดำ​ที่​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​แล้ว​ในที่สุด​นาง​ก็​หันกลับ​มา​พร้อม​ใบหน้า​ขาวซีด​ ​มอง​เยี​่ย​หลี​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ประธาน​พร้อม​รอยยิ้ม​อย่าง​พอเหมาะ​พอดี​แล้ว​พูด​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​น้อง​สาม​ ​ไม่ได้​พบกัน​หลาย​ปี​ทีเดียว​”​ ​ไม่ใช่​หลาย​ปี​แล้ว​หรือ​ ​จาก​ครั้งสุดท้าย​ที่​พวก​นาง​พบ​หน้า​กัน​อีกไม่นาน​ก็​เกือบจะ​ครบ​สิบ​ปี​แล้ว​ ​เด็กสาว​ที่​เดิมที​ใน​สายตา​ของ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ยัง​เจือ​แวว​อ่อน​ใส​ ​ได้​เติบโต​จน​กลายเป็น​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ผู้​โด่งดัง​ไป​ทั่วหล้า​ที่​ไม่ว่า​ใน​เวลา​ได้​ก็​สามารถ​เป็นการเป็นงาน​ได้​ไป​แล้ว

ถึงแม้​จะ​ว่า​กัน​เพียง​รูปโฉม​ ​ความงดงาม​ที่​เยี​่ย​เย​่ว​์​เคย​นึก​ภูมิใจ​ ​เมื่อมา​อยู่​ต่อหน้า​เยี​่ย​หลีก​ลับ​ดูจะ​ตื้นเขิน​และ​น่าขัน​อย่างเห็นได้ชัด​ ​บางที​เยี​่ย​หลี​อาจ​ไม่ใช่​สตรีที​่​งดงาม​ที่สุด​ ​แต่​อย่างไร​นาง​ก็​มีสง่าราศี​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​โดดเด่น​ไม่​เหมือน​ใคร​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​สตรีที​่​มี​แรงดึงดูด​มาก​ที่สุด​ด้วย​ ​ต่าง​กับ​ความสุภาพ​อ่อนหวาน​อย่าง​หญิง​งาม​คนใด​ก็ตาม​ใน​โลก​หล้า​นี้​ ​นาง​สงบนิ่ง​สง่างาม​ ​องอาจ​ ​ผ่อนคลาย​ ​ทั้ง​ยัง​มี​ความ​เด็ดขาด​และ​เฉียบคม​อย่างที่​บุรุษ​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​ทัดเทียม​ได้​ ​บุคลิก​ที่​แตกต่าง​กัน​อย่างมาก​เช่นนี้​ ​เดิมที​ไม่มีทาง​ปรากฏ​อยู่​ใน​ตัว​คน​คนเดียว​ ​แต่​ด้วย​เพราะเหตุนี้​จึง​ทำให้​เยี​่ย​หลี​ดู​แตกต่าง​จาก​สตรี​คนอื่นๆ​ ​อย่างเห็นได้ชัด​ ​จึง​ไม่​แปลกที่​จนถึง​ตอนนี้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ยังคง​ฝักใฝ่​หาไม่​ยอม​ลืมเลือน​ ​และ​ถึงขั้น​นึก​เกลียด​ม่อ​ซิว​เหยา​ต่างๆ​ ​นานา​อีกด้วย

ติ้ง​อ๋อง​ช่าง​วาสนา​ดี​และ​สายตา​ดี​เสีย​จริง​ ​ประโยค​นี้​เคย​มี​คนพูด​กัน​มา​หลาย​คน​ ​แม้แต่​คนที​่​เย่อหยิ่ง​อย่าง​เยี​่ย​เย​่ว​์​ก็​ยัง​ต้อง​ยอมรับ​ว่าน​้​อง​สาว​ต่างมารดา​ของ​ตน​ผู้​นี้​ ​เพียงพอ​ที่จะ​ให้​ติ้ง​อ๋อง​ผู้​เย่อหยิ่ง​เหนือ​ผู้ใด​ต้อง​ยอม​โค้ง​ตัว​ให้

เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​สบาย​ๆ​ ​ไม่​ตื่นกลัว​ของ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ ​นัยน์ตา​ของ​เยี​่ย​หลีก​็​เป็นประกาย​ชื่นชม​ ​“​หลาย​ปีนี​้​ ​พี่​รอง​สบายดี​หรือไม่​”

เยี​่ย​เย​่ว​์​หลุบ​ตาลง​ ​เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​จะ​มีเรื่อง​อะไร​ดี​หรือไม่​ดีกัน​ ​ใช้ชีวิต​เหมือน​ผี​ตายซาก​ไป​วัน​ๆ​ ​ก็​เท่านั้น​”

ในขณะที่​เยี​่ย​เย​่ว​์​มอง​ประเมิน​เยี​่ย​หลี​นั้น​ ​เยี​่ย​หลีก​็​กำลัง​มอง​ประเมิน​เยี​่ย​เย​่ว​์​ด้วย​เช่นกัน​ ​ไม่​แปลกที่​คน​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ที่​จัด​ให้​อยู่​ใน​จวน​เยี​่ย​จะ​จำ​นาง​ไม่ได้​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​เยี​่ย​เย​่ว​์​หมก​ตัว​อยู่​แต่​ใน​ห้อง​ไม่​ออก​ไป​ไหน​ให้​ใคร​พบเห็น​ ​แค่​ด้วย​รูปลักษณ์​ของ​นางใน​ยาม​นี้​ก็​ไม่​ง่าย​ที่จะ​ทำให้​คน​นึก​ไป​ถึง​เยี​่ย​เจา​อี๋​ที่​เคย​งดงาม​โดดเด่น​อย่าง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ผ่าน​มา​หลาย​ปี​เช่นนี้​ ​รูปลักษณ์ภายนอก​ของ​เยี​่ย​เย​่ว​์​เปลี่ยนไป​มาก​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​คน​ก่อน​งดงาม​หยาดเยิ้ม​ ​แต่​เยี​่ย​เย​่ว​์​ใน​ยาม​นี้​ ​แม้​จะ​ยังคง​งดงาม​ดัง​เก่า​ ​แต่กลับ​มี​ความอ่อนน้อม​และ​บอบบาง​มากขึ้น​ ​หาก​เยี​่ย​เย​่ว​์​ใน​อดีต​คือ​ดอก​ไห่​ถัง​ ​เช่นนั้น​เยี​่ย​เย​่ว​์​ใน​ยาม​นี้​ก็​คง​ดู​คล้าย​ดอก​กุ้ยฮ​วา​เสียมา​กก​ว่า​ ​ที่​มองดู​แล้ว​ไม่ได้​โดดเด่น​ดึงดูดสายตา​ดังเช่น​แต่ก่อน​ ​แต่​หาก​ลอง​พินิจ​มอง​ให้​ดี​แล้ว​กลับ​ทำให้​คน​เฝ้า​คนึง​หา​ ​หาก​ไม่ได้​รู้เรื่อง​มาก​่อน​ ​คนที​่​ต่อให้​รู้จัก​กับ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไป​พบเห็น​นาง​ที่อื่น​เข้า​ ​ก็​น่ากลัว​ว่า​คง​คิด​ว่า​เป็น​คนที​่​มีส่วน​คล้าย​นาง​หลาย​ส่วน​เท่านั้น

“​ในเมื่อ​อยู่​เหมือน​ผี​ตายซาก​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​ตาย​ไป​เสีย​เลย​เล่า​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เยี​่ย​หลี​เอ่ย​ขึ้น​มา​ลอยๆ​ ​คำพูด​ที่​หลุด​ออกมา​ถึงแม้​จะ​ราบเรียบ​ไม่​เจือ​ความรู้สึก​ใดๆ​ ​แต่​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ได้​ถึง​ไอ​สังหาร​อัน​เหลือล้น

เยี​่ย​เย​่ว​์​พลัน​หน้า​ถอดสี​ ​ทั้งเมือง​หลี​นี้​คนที​่​นาง​หวาดกลัว​ที่สุด​ก็​คือ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​หาก​เป็น​เยี​่ย​หลี​นาง​ยัง​พอ​พูดคุย​หว่านล้อม​ได้​ ​แต่​เทิ​้อ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​นาง​กลับ​ทำ​อัน​ใด​ไม่ได้​เลย​ ​หาก​เป็นไปได้​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไม่​อยาก​ต้อง​มา​เผชิญหน้า​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​เลย​จริงๆ​ ​นาง​ถึงขั้น​ไม่​อยาก​มี​ความเกี่ยวข้อง​ใดๆ​ ​กับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​อีก​ ​เพียงแต่​ตั้งแต่​วินาที​ที่นา​งมา​ถึง​เมือง​หลี​ ​บางที​อาจ​กำหนด​ไว้​แล้ว​ว่า​ ​นาง​จะ​ต้อง​มี​ชั่วขณะหนึ่ง​ที่​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​เช่น​ใน​ยาม​นี้​ก็​เป็นได้

ไม่เพียงแต่​เยี​่ย​เย​่ว​์​ ​แต่​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​หวัง​ซื่อ​เอง​ก็​พลอย​หน้า​ถอดสี​ไป​ด้วย​ ​หวัง​ซื่อ​ฝืน​กลั้น​ความหวาดกลัว​ใน​ใจ​ ​เข้าไป​ขวางหน้า​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไว้​ ​“​ท่าน​อ๋อง​หมายความ​เช่นไร​กัน​เพ​คะ​…​เยี​่ย​เย​่ว​์​เป็น​บุตรสาว​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​จะ​มา​อยู่​ที่นี่​ไม่ได้​หรือ​”

ม่อ​ซิว​เหยา​คว้า​มือ​เยี​่ย​หลี​มา​จับ​ไว้​ ​ส่วน​อีก​มือหนึ่ง​วาง​อยู่​บน​ที่​เท้าแขน​ ​เคาะ​ไม้แดง​เบา​ๆ​ ​อย่าง​ไม่​เร่งร้อน​และ​ไม่​เนิบ​ช้า​ ​แต่กลับ​ทำให้​ทุกคน​ที่อยู่​ ณ​ ​ที่​นั้น​พากัน​ใจเต้น​ระส่ำ​ ​ครู่ใหญ่​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ถึง​ได้​ยิ้ม​จางๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ดูท่า​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​คงจะ​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ใน​ครั้งนั้น​บุตรสาว​ของ​ท่าน​ได้​ทำ​เรื่อง​อะไร​ไว้​กับ​อา​หลี​”​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ตัวสั่น​เล็กน้อย​ ​“​นั่น​มัน​เรื่อง​ตั้ง​นานมาแล้ว​ ​อีก​อย่าง​…​เยี​่ย​หลีก​็​ไม่ได้​ไม่เป็นอะไร​หรอก​หรือ​”

ม่อ​ซิว​เหยา​หรี่​ตาลง​ ​โกรธจัด​จน​ยิ้ม​ออกมา​ ​“​พูด​ได้​มีเหตุผล​…​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ​ก็​ให้​ข้า​ลอง​ฟัน​เยี​่ย​เย​่ว​์​ดู​สักที​ดี​หรือไม่​ ​หาก​นาง​ไม่​ตาย​ ​เรื่อง​ที่นาง​ทำร้าย​อา​หลี​ใน​ครั้งนั้น​ก็​ถือว่า​แล้วกัน​ไป​”

ได้ยิน​อย่างนั้น​ ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​ก็​ตกใจ​จน​เกือบ​ร้อง​ออกมา​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ได้​แต่​กัดฟัน​แน่น​พูด​อะไร​ไม่​ออก​เช่นกัน​ ​หาก​ติ้ง​อ๋อง​ต้องการ​จะ​ฆ่า​ใคร​สัก​คน​ ​เขา​จะ​ฟัน​ไม่​ตาย​ใน​ทีเดียว​ได้​อย่างไร​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไม่ใช่​คน​มี​วรยุทธ​สูงส่ง​ ​แท้จริง​แล้ว​นาง​ก็​เป็น​เพียง​สตรี​บอบบาง​ที่​ไม่มี​เรี่ยวแรง​แม้แต่​จะ​จับไก่​ด้วยซ้ำ​ ​หาก​เรื่อง​พละกำลัง​วรย​ทุธ​แล้ว​ ​นาง​ถึงขั้น​สู้​มู่​หรง​ถิ​งกับฮ​ว่า​เทียน​เซียง​ที่เกิด​ใน​ตระกูล​นักรบ​ ​หรือ​แม้แต่​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ที่​ได้ชื่อ​ว่า​พรักพร้อม​ทั้ง​บุ๋น​และ​บู๊​ด้วยซ้ำ

“​หลี​เอ๋อร​์​”​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ขมวดคิ้ว​พลาง​เอ่ยปาก​ขึ้น​ ​“​เรื่อง​ใน​ตอนนั้น​เป็น​เย​่ว​์​เอ๋อร​์​ที่​ผิด​ต่อ​เจ้า​จริงๆ​ ​แต่​เย​่ว​์​เอ๋อร​์​ก็​ทำ​ไป​เพราะ​ถูก​บังคับ​ ​หลาย​ปีนี​้​นาง​ก็​ลำบาก​มา​ไม่น้อย​ ​เห็นแก่​ความ​เป็น​พี่​เป็น​น้อง​ของ​พวก​เจ้า​ ​อย่า​ได้คิด​เล็ก​คิด​น้อย​ไป​เลย​”​ ​เยี​่ย​หลี​ผิน​หน้า​ไป​มอง​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​สีหน้า​กึ่ง​ยิ้ม​กึ่ง​บึ้ง​ ​ที่​พูด​นั้น​ที่​เป็นการ​เกลี้ยกล่อม​ขอร้อง​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลับ​ฟัง​ดู​ไม่​เป็น​เช่นนั้น​เลย​ ​น้ำเสียง​นาง​เจือ​แวว​คำสั่ง​อย่าง​ผู้ใหญ่​พูด​กับ​ผู้น้อย​เสียมา​กก​ว่า​ ​ถึงแม้​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จะ​อาวุโส​กว่า​เยี​่ย​หลีก​็​จริง​ ​แต่​นาง​กลับ​ลืม​ไป​เสีย​แล้ว​ว่า​ ​เยี​่ย​หลี​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​ให้​นาง​สั่ง​ได้​อีกต่อไป​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ตอนนั้น​พี่​รอง​เกือบจะ​ฆ่า​ข้า​อยู่​แล้ว​ ​ถึงแม้​ตั้งแต่​เล็ก​มา​ ​ท่าน​ย่า​จะ​เอ็นดู​พี่​รอง​มากกว่า​อยู่เล็ก​น้อย​ ​แต่กระนั้น​นาง​ก็​เป็น​หลาน​สาย​รอง​ ​ใจ​ท่าน​ย่า​ออกจะ​ลำเอียง​เกินไป​สักหน่อย​กระมัง​”

เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อึ้ง​ไป​ ​นาง​ย่อม​รู้​ว่า​ตน​นั้น​ลำเอียง​ ​แต่​นาง​คิด​มาต​ลอด​ว่าที่​นาง​ลำเอียง​นั้น​เป็นเรื่อง​สมเหตุสมผล​ ​หาก​เทียบ​กับ​เยี​่ย​หลี​ที่ตั้ง​แต่​เล็ก​ก็​เติบ​อยู่​ใน​บ้าน​ตระกูล​สวี​ครึ่งหนึ่ง​ ​อยู่​ข้าง​กาย​สวี​ซื่อ​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ต่างหาก​ถึง​เป็น​หลาน​ที่​เติบโต​มา​ข้าง​กาย​นาง​จริงๆ​ ​เยี​่ย​เย​่ว​์​เป็น​เด็กดี​ ​ฉลาด​ทั้ง​ยัง​รู้จัก​พูด​เอาใจ​ให้​นาง​ใจอ่อน​ ​แล้ว​เหตุใด​นาง​ถึง​จะ​ไม่​ลำเอียง​ ​เพียงแต่​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​ได้ยิน​เยี​่ย​หลี​พูด​ออกมา​อย่างโจ่งแจ้ง​เช่นนี้​ ​คิ้ว​สี​ดอกเลา​ขมวด​มุ่น​แล้ว​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​พูดว่า​ ​“​ย่า​รู้​ว่า​เจ้า​น้อยใจ​ ​แต่​ยาม​นี้​ตระกูล​เยี​่​ยก​็​เหลือ​เพียง​พวก​เจ้า​พี่น้อง​ไม่​กี่​คน​แล้ว​ ​เจ้า​จะ​ใจกว้าง​สักหน่อย​ได้​ไม่​เชียว​หรือ​”

เยี​่ย​หลีกะ​พริบตา​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คง​ไม่​คิด​จริงๆ​ ​ว่านาง​น้อยใจ​ที่​ไม่ได้​รับ​ความ​เอ็นดู​กระมัง​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​หมายความ​เช่นนั้น​จริงๆ

เยี​่ย​หลี​คลี่​ยิ้ม​ ​เอ่ย​ถาม​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​หาก​ข้า​ปล่อย​พี่​รอง​ไป​ ​พวก​ท่าน​คิด​จะ​จัดการ​เช่นไร​”

เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เอ่ยปาก​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ ​“​พ่อ​จะ​สร้าง​อาราม​ขึ้น​ใน​จวน​ ​ต่อไป​นาง​จะ​อยู่​แต่​ใน​จวน​ ​ถือศีลกินเจ​ ​ไม่​ออก​ไป​ไหน​อีก​เลย​ตลอดชีวิต​”

“​เหลวไหล​!​”​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​พลัน​น่า​บึ้งตึง​ลง​ทันที​ ​ถลึงตา​ใส่​เยี​่ย​เหวิน​หวาด​้วย​ความไม่พอใจ​ ​ที่นาง​พูด​เกลี้ยกล่อม​เยี​่ย​หลี​ขนาด​นี้​ ​ไม่ใช่​เพราะ​ต้องการ​จะ​เพิ่ม​อาราม​ขึ้น​ใน​จวน​หรือ​เลี้ยงดู​คน​ว่าง​เพิ่ม​อีก​คน​หนึ่ง​เสียหน่อย​ ​เยี​่ย​หลี​เลิก​คิ้ว​ ​อมยิ้ม​มอง​เยี​่ย​เหวิน​หวา​แล้ว​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​ย่า​คิดเห็น​เช่นไร​”​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เหลือบตา​ขึ้น​พูดว่า​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​กับ​ติ้ง​อ๋อง​ไม่​ต้อนรับ​พวกเรา​ ​ข้า​กับ​พ่อ​เจ้า​ก็​คิด​จะ​ตาม​อิ​๋ง​เอ๋อร​์​ไป​อยู่​ที่​เจียง​หนาน​ ​เจ้า​เห็นแก่​ที่​เป็น​พี่น้อง​กับ​เย​่ว​์​เอ๋อร​์​ ​ก็​ให้​นาง​ไป​กับ​พวกเรา​ก็แล้วกัน​”

“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​ก็​ตั้งใจ​เช่นนี้​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​หัน​มอง​เยี​่ย​เหวิน​หวา​พลอาง​เอ่ย​ถาม​เรียบๆ​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​กับ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​เยี​่ย​เหวิน​หวา​จะ​ไม่รู้​ ​หาก​เขา​ก็​เลือก​ที่จะ​ไป​ด้วยกัน​แล้ว​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​เขา​ตั้งใจ​ที่จะ​เป็น​อริ​กับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ตั้งแต่​บัดนี้​เป็นต้นไป​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงใจ​แล้ว

“​ไม่​”​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ส่ายหน้า​ ​“​พ่อ​จะ​ไม่​ไป​จาก​เมือง​หลี​ ​เยี​่ย​หร​งก​็​จะ​ไม่​ไป​เช่นกัน​ ​พ่อ​ไม่มี​สิ่งใด​จะ​ขอร้อง​อีก​ ​หวัง​เพียง​ได้​เห็น​หรง​เอ๋อร​์​แต่งงาน​มีบุ​ตร​อย่างสงบ​เรียบร้อย​เท่านั้น​”​ ​เยี​่ย​หลี​พอใจ​กับ​ตัวเลือก​ของ​เยี​่ย​เหวิน​หวามาก​ ​ต่อให้​นาง​ไม่​ชอบใจ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​เพียงใด​ ​แต่​ก็​เปลี่ยน​ความจริง​ที่ว่า​เขา​เป็น​บิดา​ของ​นาง​ไป​ไม่ได้​ ​เยี​่ย​หลี​ยัง​ไม่​ใจไม้ไส้ระกำ​ถึงขั้น​สามารถ​สังหาร​บิดา​และ​ญาติมิตร​โดย​ไม่​ถือเป็น​เรื่องใหญ่​ได้​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ชาติ​นี้​ ​ถึงอย่างไร​การ​ใช้ชีวิต​เป็น​ทหาร​มายี​่​สิบ​กว่า​ปี​ใน​ชาติที่แล้ว​ ​ก็​ทำให้​มุมมอง​ต่อ​โลก​ ​ต่อม​นุษย​์​และ​ต่อ​คุณค่า​ของ​นาง​ถูกต้อง​อย่างมาก​มาต​ลอด​ ​ขอ​เพียง​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ไม่​ทำ​เรื่อง​ที่​ส่งผล​ร้าย​ต่อ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​การ​จะ​เลี้ยงดู​เขา​ใน​วัยชรา​ให้​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ไม่ได้​รู้สึก​ลำบาก​อะไร​ ​แต่​แน่นอน​ว่า​เพียงแค่​นี้​เท่านั้น

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset