ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 424: ด่านซานไห่

บทที่ 424: ด่านซานไห่

บท​ที่​ 424: ด่าน​ซาน​ไห่​

หนึ่ง​เดือน​ครึ่ง​ผ่าน​ไป​

กลับมา​ที่​โลก​ใต้พิภพ​ กองกำลัง​ทหาร​แสน​นาย​กำลัง​พัก​อยู่​ภายใน​ถ้ำขนาดใหญ่​ที่​ตั้งอยู่​ใน​เทือกเขา​ ศพ​ของ​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ขนาดใหญ่​นอน​แน่นิ่ง​อยู่​ถัด​ออก​ไป​ไม่ไกล​นัก​ มัน​เป็น​อสูร​วิญญาณ​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ระดับ​ต้น​ที่​ไม่ได้​มีความสามารถ​เฉพาะ​ใดๆ​เป็นพิเศษ​ มีความเป็นไปได้​สูงว่า​มัน​เพิ่งจะ​กลายเป็น​ราชา​อสูร​วิญญาณ​เมื่อไม่นานมานี้​ นั่น​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​ทำไม​มัน​ถึงเลือก​เทือกเขา​ที่​แห้งแล้ง​แห่ง​นี้​เป็น​อาณาเขต​ของ​ตนเอง​ ห่าง​จาก​ที่อยู่อาศัย​ของ​ราชา​อสูร​วิญญาณ​อื่น​ ๆ ที่อยู่​บริเวณ​ใกล้เคียง​

แต่​น่าเสียดาย​…

มัน​อาจจะ​ไม่มีราชา​อสูร​วิ​ญยา​ณตน​อื่น​ ๆ อยู่​รอบ​ ๆ แต่​มัน​กลับ​ปะทะ​เข้ากับ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​แห่ง​ใหม่​ที่​กำลัง​หา​ที่​หลบ​ฝน​อยู่​ด้านนอก​เข้า​อย่าง​จัง

ฉิน​เย่​ยืน​อยู่​ที่​ปากทาง​เข้าถ้ำ​ จ้องมอง​ไป​ยัง​สายฝน​ด้านนอก​ สายฝน​ของ​โลก​ใต้พิภพ​นั้น​น่าสะพรึงกลัว​อย่าง​แท้จริง​ มัน​ตก​ลงมา​โดยที่​ตั้งฉาก​กับ​พื้น​อย่าง​พอดิบพอดี​ ไม่ว่า​มัน​จะตกไป​ที่ใด​ มัน​ก็​จะแทง​ทะลุ​ผิว​ดิน​ ทิ้ง​ไว้​เป็น​รู​ที่​มีขนาด​เท่า​เข็ม​ไว้​บน​พื้น​ ฉิน​เย่​ที่​กำลัง​คิด​ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​หาก​สายฝน​เหล่านั้น​ตก​ลงมา​บน​ร่าง​ของ​เขา​พลัน​ตัว​สั่นเทา​

ทั้ง​ถ้ำถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ความ​เงียบ​ขณะที่​ทหาร​วิญญาณ​ทั้งหมด​นั่ง​พัก​อยู่​บริเวณ​ผนัง​ถ้ำ มัน​ผ่าน​มาเป็นเวลา​กว่า​สอง​เดือน​แล้ว​นับตั้งแต่​ที่​การ​เดินทาง​สู่ดินแดน​ทาง​ตะวันออก​เริ่มต้น​ขึ้น​ มัน​อาจจะ​ไม่ใช่ระยะเวลา​ที่​ยาวนาน​นัก​ แต่​พวกเขา​ก็​เติบโต​ขึ้น​เป็น​อย่าง​ก้าว​กระโดด​จาก​ประสบการณ์​ที่ผ่านมา​ทั้งหมด​

การ​เข้ามา​เสริม​ของ​กองกำลัง​ทหาร​วิญญาณ​อีก​ 3 หมื่น​นาย​เอง​ก็​เป็นไป​อย่าง​ราบรื่น​ นับตั้งแต่​นั้น​ พวกเขา​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​การ​เผชิญหน้า​กับ​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ถึงสอง​ครั้ง​ และ​พวกเขา​ก็​สามารถ​เคลื่อนที่​ใน​รูปแบบ​และ​ต่อสู้​ได้​อย่าง​ราบรื่น​เหมือนกับ​ทหาร​วิญญาณ​ของ​ยมโลก​คนอื่น​ ๆ ด้วย​ความสำเร็จ​จาก​การ​เผชิญหน้า​เหล่านี้​ กำลังใจ​ของ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ได้​เพิ่มขึ้น​มาก​ พวกเขา​อาจจะ​ยัง​ไม่ได้​หลอม​รวม​เข้าด้วยกัน​อย่าง​สมบูรณ์​ แต่​อย่าง​น้อยที่สุด​ มัน​ก็​ไม่มีปัญหา​เกี่ยวกับ​การ​ไม่เชื่อฟัง​เกิดขึ้น​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

แต่​พวกเขา​ก็​รู้ดี​ว่า​ยัง​ไม่ควร​ประมาท​หรือ​วางใจ​ใด​ ๆ

เพราะ​อย่างไร​แล้ว​ พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​ยัง​สัมผัส​ได้​ว่า​มัน​ยังมี​ฟางเส้น​สุดท้าย​หลง​เหลืออยู่​ พวกเขา​อยู่​ห่าง​จาก​นคร​ชฺวี​ฟู่อีก​เพียงแค่​สิบ​วัน​เท่านั้น​ คน​ทั้งหมด​เริ่ม​ได้กลิ่น​เลือด​ลอย​มาตาม​อากาศ​ และ​หัวใจ​ของ​พวกเขา​ก็​เต้น​แรง​ขึ้น​

ด่าน​ซาน​ไห่​หรือ​ด่าน​แรก​ของ​กำแพงเมืองจีน​ มีทหาร​วิญญาณ​ประจำ​การณ์​อยู่​ที่นั่น​ 820,000 นาย​ และ​ประชากร​กว่า​ 8 ล้าน​คน​ ฉิน​เย่​ถอนหายใจ​ออกมา​ “ไม่สบายใจ​เลย​จริง ๆ​ ”

นี่​คือ​สงคราม​ขยายอาณาเขต​ครั้งแรก​ของ​ยมโลก​ มัน​มีความสำคัญ​เป็นอย่างมาก​ มัน​เป็นการ​ประกาศ​ให้​กับ​ประชาชน​ได้​รู้​ว่า​มัน​จะเกิด​สงคราม​ขึ้น​ในอนาคต​ นคร​ชฺวี​ฟู่คือ​จุดยุทธศาสตร์​ที่จะ​ทำให้​ยมโลก​สามารถ​เชื่อมโยง​และ​ควบคุม​ทั้ง​สามมณฑล​เอาไว้​ได้​ ไม่เพียงแต่​พวกเขา​จะสามารถ​เริ่ม​การ​เจรจา​การค้า​กับ​แดน​มนุษย์​ได้​เท่านั้น​ แต่​มัน​ยัง​เกี่ยวข้อง​กับ​อะไร​อีก​หลาย​ ๆ อย่าง​! มัน​ยัง​เป็น​จุดเริ่มต้น​สำหรับ​การ​เปิด​เมืองท่า​และ​เส้นทางการค้า​ของ​ยมโลก​อีกด้วย​ ฉิน​เย่​แทบ​ไม่สามารถ​จินตนาการ​ได้​เลย​ว่า​ยมโลก​จะทำ​อย่างไร​หาก​การ​เดินทาง​สำรวจ​ใน​ครั้งนี้​จบ​ลง​ด้วย​ความล้มเหลว​

นี่​เป็น​การต่อสู้​ที่จะ​ตัดสิน​ชะตา​ของ​ยมโลก​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

ทันใดนั้น​เอง​ เสียง​ของ​หยาง​เหยียน​เจาก็​ดัง​ขึ้น​เรียก​สติ​ของ​เขา​ “ฝ่าบาท​ ท่า​นอ​รากษส​ตื่น​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​” ฉิน​เย่​คลาย​คิ้ว​ที่​ขมวด​เข้าหา​กัน​ของ​ตนเอง​และ​เดินตาม​หยาง​เหยียน​เจาเข้าไป​ใน​ถ้ำทันที​

ทหาร​ของ​ตระกูล​หยาง​หลาย​นาย​ตั้งแถว​ยืน​อารักขา​อาร์​ทิส​ผู้​ที่​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​หิน​เรียบ​เอาไว้​ นาง​นั่ง​อยู่​ที่​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เตียง​ในขณะที่​แผ่น​หิน​ขณะ​ใหญ่​ตั้งอยู่​ด้านหน้า​ โบกมือ​อย่าง​สง่างามด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​ ควบคุม​กอง​ทราย​เพื่อ​สร้าง​ค่าย​ขึ้น​ใน​ป่า​ที่​ล้อมรอบ​กำแพง​ขนาดใหญ่​เอาไว้​ ศาลา​หลาย​หลัง​ปรากฏ​ให้​เห็น​ภายใน​กำแพง​ดังกล่าว​

เหล่า​แม่ทัพ​ตระกูล​ต่าง​จ้องมอง​แผ่น​หิน​ตรงหน้า​ด้วย​สีหน้าที่​เคร่งเครียด​ไม่แพ้​กัน​ โน​บู​ทา​ดะ​เอง​ก็​ยืน​อยู่​ด้วย​ เมื่อ​เห็น​ว่า​ฉิน​เย่​เดิน​เข้ามา​ คน​ทั้งหมด​ก็​รีบ​แหวก​ทาง​ให้​อย่าง​รวดเร็ว​ เด็กหนุ่ม​เดิน​ตรง​ไปหา​อาร์​ทิส​และ​ถามเสียง​เบา​ “ได้การ​อะไร​บ้าง​หรือไม่​?”

ตอนนี้​อาร์​ทิส​กำลัง​ตั้งสมาธิ​กับ​งาน​ของ​ตน​อย่าง​ที่​ไม่ได้​มีให้​เห็น​บ่อย​นัก​ นาง​พยักหน้า​เบา​ ๆ และ​เอ่ย​ตอบ​หลังจาก​เรียบเรียง​คำพูด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ “ตำนาน​กล่าวว่า​ด่าน​ซาน​ไห่​ได้​คือ​เส้นทาง​ด่าน​สุดท้าย​ที่​ถูก​ใช้โดย​ท่าน​จ้าว​นรก​องค์​แรก​ ใน​ตอนนั้น​ ดินแดน​เหล่านี้​ รวมถึง​ฮันยาง​ ล้วน​เคย​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​เทพ​แห่ง​ความตาย​ไร้​นาม​ และ​ด่าน​ซาน​ไห่​เอง​ก็​เคย​เป็น​สถานที่​ซึ่งขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทุก​ตน​จะต้อง​เดิน​ทางผ่าน​”

“ทำไม​กัน​?” ฉิน​เย่​ถามอย่าง​สงสัย​

อาร์​ทิ​สวาด​มือ​อีกครั้ง​ ก่อน​จะหันไป​มอง​ฉิน​เย่​ “พิธีกรรม​ เหมือนกับ​การ​ธุดงค์​ เข้าใจ​หรือไม่​?”

เสียงดัง​ฟังชัด​เชียว​ล่ะ​ แต่​ไม่คิด​เลย​ว่า​สถาน​ที่ทาง​ประวัติศาสตร์​จะถูก​ใช้ใน​จุดประสงค์​ของ​การศึกษา​เชิงอุดมการณ์​และ​การเมือง​เช่นนี้​…

อาร์​ทิส​กลับ​ไป​สนใจ​กับ​การ​สร้าง​กระบะ​ทราย​ทดสอบ​ของ​ตน​อีกครั้ง​และ​อธิบาย​ต่อ​โดย​ไม่ละสายตา​ “ข้า​เคย​เดินทาง​ไป​ที่นั่น​เพียงแค่​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ และ​เหตุผล​ก็เพราะว่า​การ​ธุดงค์​นี้​ เพื่อที่จะ​ดึง​ความทรงจำ​เหล่านั้น​กลับมา​ ข้า​กำ​เป็น​จะต้อง​ใช้เคล็ด​วิชา​คลื่น​สะท้อน​จันทร์​ น่าเสียดาย​ ด้วย​ระยะเวลา​ที่​ยาวนาน​ของ​ความทรงจำ​ มัน​ทำให้​ข้า​ต้อง​ใช้เวลา​กว่า​หนึ่ง​เดือนเต็ม​ใน​การ​ค้นหา​มัน​ก่อนที่จะ​สามารถ​ระบุ​และ​กลับมา​ได้สติ​อีกครั้ง​ ข่าวดี​ก็​คือ​ข้า​จำสิ่งที่​ข้า​ได้​เห็น​ใน​อดีต​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ และ​ข้า​ก็​สร้าง​แบบจำลอง​ของ​มัน​ขึ้น​มาจาก​ความทรงจำ​นี้​ เชิญดู​”

สายตา​ทั้งหมด​ต่าง​จับจ้อง​ไป​ยัง​โต๊ะ​หิน​ตรงหน้า​ของ​นาง​ทันที​

ตอนนี้​กระบะ​ทราย​ที่​มีความสูง​ประมาณ​หนึ่ง​ฟุต​ตั้งอยู่​เหนือ​โต๊ะ​ทั้งหมด​ มัน​เป็น​เมือง​รูปร่าง​คล้าย​กับ​สี่เหลี่ยมจัตุรัส​ที่​ถูก​ล้อมรอบ​โดย​กำแพงเมือง​ขนาดใหญ่​ เมือง​ที่อยู่​ด้านใน​เต็มไปด้วย​กิจกรรม​และ​ดู​เจริญรุ่งเรือง​เป็นอย่างมาก​ แต่​ตอนนี้​กลับ​ไม่มีใคร​ให้ความสนใจ​การ​ตกแต่งภายใน​เมือง​เลย​แม้แต่น้อย​ ดวงตา​ของ​แม่ทัพ​ทุกคน​ต่าง​จับจ้อง​ไป​ที่​ด้าน​บนสุด​ของ​กำแพงเมือง​ ทันใดนั้น​ดวงตา​ของ​พวกเขา​ก็​หดตัว​ลง​ และ​เปลวไฟ​นรก​ภายใน​ดวงตา​ของ​พวกเขา​ก็​วูบ​ไหว​อย่าง​รุนแรง​

การจำลอง​ด่าน​ซาน​ไห่​ของ​อาร์​ทิส​นั้น​ประณีต​เป็นอย่างมาก​ ความ​ละเอียด​ของ​นาง​ยัง​ครอบคลุม​ไป​ถึงเครื่อง​ยิง​หน้าไม้​ขนาดใหญ่​ทั้งหมด​ที่​ตั้งอยู่​เหนือ​ของ​เชิงเทิน​และ​กำแพงเมือง​ด้วย​ เครื่อง​ยิง​หน้าไม้​เหล่านี้​ตั้งอยู่​ห่าง​กัน​ใน​ทุก ๆ​ 30 เมตร​ และ​แต่ละ​เครื่อง​ก็​ถูก​ติดตั้ง​ด้วย​กลไก​ลการ​ยิง​สอง​ชุด​เพื่อ​นิ่ง​ลูกดอก​หน้าไม้​ออก​ไป​สิบ​นัด​ใน​คราว​เดียว​ และ​ลูกดอก​แต่ละ​ลูก​ก็​มีขนาดใหญ่​พอ​ ๆ กับ​คน​หนึ่ง​คน​!

“เครื่อง​ยิง​หน้าไม้​ระยะไกล​” หยาง​เหยียน​เจาจำได้​ตั้งแต่​แวบ​แรก​ที่​เห็น​ “มัน​คือ​อาวุธ​สังหาร​ระยะไกล​ที่​สามารถ​โจมตี​ศัตรู​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​สามกิโลเมตร​ได้​ อานุภาพ​ของ​มัน​ ไม่ต่าง​อะไร​กับ​รถถัง​หนัก​ใน​ยุค​สมัยปัจจุบัน​เลย​แม้แต่น้อย​”

ฉิน​เย่​อ้าปากค้าง​และ​หันไป​มอง​กำแพงเมือง​อีกครั้ง​ มัน​มีเครื่อง​ยิง​หน้าไม้​แบบ​นั้น​กว่า​พัน​เครื่อง​อยู่​รอบ​ ๆ กำแพงเมือง​ ไม่ใช่ว่า​นี่​หมายความว่า​ภายใน​รัศมี​สามกิโลเมตร​ของ​เมือง​คือ​อาณาเขต​ป้อง​กันที่​แน่นหนา​หรอก​หรือ​?

นี่​เรา​กำลัง​พูดถึง​เครื่อง​ยิง​หน้าไม้​แบบ​นั้น​กว่า​พัน​เครื่อง​อยู่​น่ะ​! เรา​จะสามารถ​ต้านทาน​มัน​ได้​อย่างไร​กัน​?

ไม่ใช่ว่า​ทหาร​วิญญาณ​ทั้ง​แสน​นาย​ของ​เขา​จะกลายเป็น​ผุยผง​ไป​ก่อนที่จะ​เข้าถึง​กำแพงเมือง​หรอก​หรือ​?

และ​มัน​ยัง​ไม่หมด​เพียง​เท่านั้น​

เชิงเทิน​ใน​แต่ละ​ส่วน​ของ​กำแพงเมือง​ยังมี​ลักษณะ​ที่​แตกต่าง​ไป​จาก​เชิงเทิน​ทั่วไป​อีกด้วย​ ที่​เป็น​เช่นนี้​ก็เพราะว่า​พวก​มัน​ดู​ราวกับ​อสูร​กลไก​ที่​สามารถ​ขับเคลื่อน​และ​ควบคุม​ได้​จาก​ภายใน​

12 นักษัตร​…เขา​นับ​พวก​มัน​ทั้งหมด​ มัน​มีเชิงเทิน​อยู่​ทั้งหมด​ 12 จุด​ สัญชาตญาณ​ของ​เขา​บอก​เขา​ทันที​ว่า​นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​แน่​

“อสูร​กลไก​ของ​ม่อจื๊อ”​ อาร์​ทิส​เงยหน้า​ขึ้น​มามอง​ฉิน​เย่​และ​สูด​หายใจเข้า​ช้า ๆ “พวก​มัน​สามารถ​ขับเคลื่อน​และ​ควบคุม​ได้​จาก​ภายใน​ ข้า​จำได้​ว่า​เกล็ด​ของ​พวก​มัน​สามารถ​ยก​เปิด​ขึ้น​ได้​ มัน​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​มีระบบ​บังเกอร์​อยู่​ภายใน​ตัว​ ท่าน​รู้​ใช่หรือไม่​ว่า​รังผึ้ง​นั้น​มีหน้าตา​เป็น​อย่างไร​? การ​ออกแบบ​อสูร​กลไก​พวก​นี้​ได้​แรงบันดาลใจ​มาจาก​สิ่งนั้น​ พวก​มัน​จะปกป้อง​พล​ธนู​ที่อยู่​ด้านใน​ไม่ให้​ได้รับ​ความเสียหาย​ ในขณะที่​ปล่อย​ให้​พวกเขา​โจมตี​คู่ต่อสู้​ได้​โดย​ปลอดภัย​”

เชี่ย…​ ฉิน​เย่​อ้าปากค้าง​ แต่​อาร์​ทิส​ก็​ไม่แม้แต่​จะปล่อย​เวลา​ให้​อีก​ฝ่าย​ได้​หายใจ​ “และ​มัน​ยัง​ไม่หมด​เพียง​เท่านั้น​ ท่าน​เห็น​ปาก​ของ​มัน​หรือไม่​?”

นาง​เคาะ​โต๊ะ​เบา​ ๆ และ​ปาก​ของ​หนึ่ง​ใน​อสูร​กลไก​ก็​เปิด​ออก​

ลางสังหรณ์​ที่​ไม่ดี​ผุด​ขึ้น​ภายในใจ​ของ​ฉิน​เย่​ทันที​ เขา​ลอบ​กลืนน้ำลาย​อย่าง​เป็นกังวล​ “มัน​คือ​…?”

“ปืนใหญ่​เปลวไฟ​แห่ง​กรรม​” หยาง​เหยียน​เจาถอนหายใจ​ออกมา​ “หาก​ถึงคราว​คับขัน​ มัน​สามารถ​สร้าง​ทะเลเพลิง​ขึ้น​ด้านล่าง​เพื่อ​หยุดยั้ง​การ​เข้าใกล้​ของ​วิญญาณ​ตน​อื่น​ ๆ ”

แม้แต่​โน​บู​ทา​ดะ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตัว​สั่นเทา​ด้วย​ความกลัว​

มัน​อาจจะ​เป็นการ​ดูถูก​เกินไป​หาก​จะอธิบาย​นคร​ชฺวี​ฟู่ว่า​เป็น​ป้อมปราการ​

เงียบ​ ฉิน​เย่​เลื่อน​สายตา​ของ​ตน​ไป​ยัง​สิ่งที่อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​กำแพงเมือง​ พยายาม​มองหา​สิ่งที่​เมือง​นี้​ยัง​ขาด​ไป​ แต่​แล้ว​เขา​ก็​พบ​ว่า​ด่าน​ซาน​ไห่​นั้น​ตั้งอยู่​บน​พื้นที่​ลาดเอียง​ และ​มัน​ก็​เป็น​ตอนนั้น​เอง​ก็​เขา​เห็น​สิ่งที่​ดู​คล้าย​กับ​โลงศพ​กว่า​ร้อย​โลง​ที่​ตั้งอยู่​บน​เนินเขา​นั้น​

โลงศพ​ส่งวิญญาณ​!

ในที่สุด​เขา​ก็ได้​เห็น​สิ่งที่​ตัวเอง​รู้จัก​ แต่​มัน​กลับ​ไม่ได้​ทำให้​เขา​รู้สึก​ดีขึ้น​เลย​แม้แต่น้อย​ หลังจากที่​ได้​เห็น​ทั้งหมด​นี้​ เขา​ก็​สูด​หายใจเข้า​ช้า ๆ และ​เอ่ย​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​ “ข้า​อยาก​ให้​พวก​เจ้าทั้งหมด​พูด​สิ่งที่​ตัวเอง​คิด​ออกมา​ ไม่จำเป็น​จะต้อง​กักเก็บ​อะไร​ไว้​อีกต่อไป​”

คน​ทั้งหมด​มองหน้า​กัน​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ก่อนที่​หยาง​เหยียน​เจาจะเป็น​คน​เอ่ย​ขึ้น​มาคน​แรก​ “สิ่งหนึ่ง​ที่​เรา​สามารถ​แน่ใจ​ได้​ก็​คือ​ – การ​บุกรุก​จาก​ด้าน​นอกนั้น​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การฆ่าตัวตาย​ ตอนนี้​ไม่มีใช่เรื่อง​ของ​จำนวน​อีกต่อไป​แล้ว​”

“แต่​!”

ดวงตา​ของ​ฉิน​เย่​วูบ​ไหว​ การ​ใช้คำเชื่อม​เช่นนี้​หลังจาก​ข้อเท็จจริง​ที่​น่าสะพรึงกลัว​นั้น​ย่อม​ตามมา​ด้วย​คำพูด​รื่นหู​ของ​พวกเขา​อย่าง​แน่นอน​

“แต่​สิ่งที่​รอ​เรา​อยู่​ด้านใน​เอง​ก็​เลวร้าย​ไม่แพ้​กัน​”

เงียบ​

ฉิน​เย่​จ้อง​อีก​ฝ่าย​เขม็ง​ – นี่​ สหาย​ เจ้ากล้า​ดี​อย่างไร​มาทำให้​จิตใจ​ของ​ข้า​วุ่นวาย​เช่นนี้​? นี่​เจ้ารู้จัก​กฎ​การ​พูด​เบื้องต้น​บ้าง​หรือไม่​?

“เอ่อ​ แค่​ก​ แค่​ก.​..” หลังจาก​เห็น​สายตา​พิฆาต​ของ​ฉิน​เย่​ หยาง​เหยียน​เจาก็​กระแอม​ออกมา​และ​เอ่ย​ว่า​ “ฝ่าบาท​ ไม่ทราบ​ว่า​กระหม่อม​พูด​อะไร​ผิด​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​?”

ฉิน​เย่​แอบ​กลอกตา​ใส่อีก​ฝ่ายใน​ใจ “เปล่า​ ไม่มี เอ่ย​ต่อ​เถิด​!”

อย่างไรก็ตาม​ หยาง​เหยียน​เจายัง​ไม่สามารถ​สลัด​ความรู้สึก​ที่ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​เกี่ยวกับ​ฉิน​เย่​ในเวลานี้​ไป​ได้​ แต่​ถึงกระนั้น​ เขา​ก็​ไม่ได้​พยายาม​คิด​อะไร​ไป​มากกว่า​นี้​ หลังจาก​รวบรวม​ความคิด​ เขา​ก็​เอ่ย​ต่อ​ “ประการ​แรก​ เรา​มาดู​กันที่​ถนน​ภายใน​เมือง​กัน​ก่อน​พ่ะย่ะค่ะ​ หา​กลอง​สังเกต​ดู​เรา​จะพบ​ว่า​ทุกอย่าง​ล้วน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​อย่าง​เป็น​สัดส่วน​ ถนน​พวก​นี้​จะต้อง​กว้าง​อย่าง​น้อย​หนึ่งร้อย​เมตร​ แต่​ทำไม​กัน​?”

ฉิน​เย่​ลูบ​คาง​และ​เอ่ย​ขึ้น​ลอย ๆ​ “เพื่อ​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​เคลื่อน​ทัพ​?”

หยาง​เหยียน​เจาพยักหน้า​ “ไม่ใช่แค่​กองทัพ​ธรรมดา​ แต่​เรา​กำลัง​พูดถึง​เหล่า​ทหารม้า​! ถนน​พวก​นี้​ถูก​ออกแบบ​มาเพื่อให้​ทหารม้า​ทั้งหมด​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ประตูเมือง​ได้​โดยตรง​ พวกเรา​ทั้งหมด​ต่าง​รู้ดี​ว่า​กองกำลัง​ทหารม้า​ที่​พุ่ง​เข้ามา​ด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​นั้น​น่าสะพรึงกลัว​เพียงใด​ ทีนี้​เรา​จะมาดู​กัน​ประตูเมือง​กัน​ พวก​มัน​เอง​ก็​มีความ​กว้าง​เท่ากัน​กับ​ถนน​ที่อยู่​ด้านใน​ สิ่งนี้​บอก​เรา​ว่า​ทันทีที่​สงคราม​เกิดขึ้น​ ทหารม้า​ทั้งหมด​จะมุ่งหน้า​ออก​นอกเมือง​ทันที​”

“และ​นั่น​ก็​คือ​ปัญหา​” เขา​ลาก​นิ้ว​ไป​ตาม​ถนน​สาย​ยาว​ “พวก​ทหารม้า​จะถูก​ส่งไป​ยัง​ค่ายทหาร​ แต่​ถนน​ทุก​สาย​ใน​นี้​กลับ​ล้วน​ชี้ไป​ที่​จุด​ๆเดียว​”

เหล่า​แม่ทัพ​ที่อยู่​โดยรอบ​ทั้งหมด​มองตาม​นิ้วมือ​ที่​ค่อย ๆ​ หยุด​อยู่​ที่​ตำแหน่ง​หนึ่ง​

มัน​คือ​ใจกลางเมือง​!

นั่น​แปลกประหลาด​เป็นอย่างมาก​

โดยทั่วไปแล้ว​ใจกลางเมือง​มักจะ​เป็น​จุด​ที่ตั้ง​ของ​หลัก​ปักเขต​ แต่​ไม่ใช่ที่นี่​

สิ่งที่อยู่​กลางเมือง​คือ​สิ่งก่อสร้าง​ที่​กิน​พื้นที่​มากมาย​ มัน​มีแม้กระทั่ง​กำแพง​ที่สูง​เป็น​สัดส่วน​ 2 ใน​ 3 ของ​กำแพงเมือง​ที่​ตั้งอยู่​ล้อมรอบ​อาคาร​เหล่านี้​อีกที​ แต่​สิ่งที่​น่า​ตกตะลึง​ที่สุด​ก็​น่าจะเป็น​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​พื้นที่​ซึ่งอยู่​ภายใน​กำแพง​ชั้นใน​นั้น​กิน​พื้ที่​ประมาณ​ 1 ใน​ 10 ของ​ดินแดน​ทั้งหมด​!

มัน​คือ​เมือง​ภายใน​เมือง​อีกที​!

“นี่​คือ​…ค่ายทหาร​อย่างนั้น​หรือ​?” มู่กุ้ย​อิง​จ้องมอง​กระบะ​ทราย​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่​ดวงตา​ของ​นาง​จะวาว​วาบ​ขึ้น​ “พวกเขา​สร้าง​ค่ายทหาร​อยู่​ที่​ใจกลางเมือง​เลย​อย่างนั้น​หรือ​?”

“พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงาจะต้อง​ตั้งอยู่​ที่นั่น​อย่าง​แน่นอน​” อาร์​ทิส​เอ่ย​แทรก​ขึ้น​ “เมือง​แห่ง​นี้​น่าจะ​เริ่มต้น​จาก​ตำแหน่งที่ตั้ง​ของ​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงา จากนั้น​จึงค่อย ๆ​ ขยาย​ออก​ไป​รอบ​ ๆ นอกจากนี้​ ยิ่ง​เป็น​วัตถุ​หยิน​ที่​มีพลัง​มาก​เท่าไหร่​ จำนวน​หิน​วิญญาณ​ที่​ต้อง​ใช้สำหรับ​การ​สนับสนุน​การทำงาน​ของ​มัน​ก็​จะยิ่ง​มากขึ้น​เท่านั้น​ มัน​ไม่แปลกใจ​เลย​ที่​พวกเขา​จะคุ้ม​กันที่นั่น​แน่หนา​ขนาด​นี้​”

นาง​ยืดตัว​ขึ้น​และ​หันไป​มอง​คน​ทั้งหมด​ “หาก​เรา​สามารถ​เข้าไป​ใน​กำแพง​ชั้นใน​และ​ปิด​แหล่งพลังงาน​หยิน​ที่​ใช้ใน​การ​ขับเคลื่อน​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงาได้​ การป้องกัน​รอบ​เมือง​ทั้งหมด​ก็​จะพังทลาย​! นั่น​เป็น​ทางเดียว​ที่​เรา​จะสามารถ​เข้า​ยึด​เมือง​ได้​ ไม่เช่นนั้น​… หาก​อีก​ฝ่าย​สามารถ​ยื้อ​เวลา​จนกระทั่ง​กองกำลัง​ของ​ขง​โม่กลับ​มาถึงได้​ พวกเรา​จะต้อง​แพ้​อย่าง​แน่นอน​!”

เหยี่ย​ลู่​จิน​เอ๋อร์​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​นาง​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงา…ข้า​เพียง​เคย​ได้ยิน​ถึงตำนาน​ของ​มัน​เท่านั้น​ ไม่คิด​เลย​ว่า​จะมีอยู่​จริง ๆ​ … แต่​เมื่อ​เรา​ได้​มัน​มา มัน​ก็​จะไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​ได้​ด่าน​ซาน​ไห่​มาไว้​ใน​ครอบครอง​! ด้วย​การป้องกัน​ของ​มัน​ ทหาร​วิญญาณ​สิบ​ล้าย​ตน​ก็​ไม่สามารถ​สร้าง​ความ​หวาด​หลั่ว​ให้​กับ​เรา​ได้​!”

นาง​ถอนหายใจ​ออกมา​และ​จ้อง​ไป​ที่​กระบะ​ทราย​ “ไม่รู้​จริง ๆ​ ว่า​ข้า​ควรจะ​ขอบคุณ​ขง​โม่หรือ​โกรธแค้น​เขา​กัน​แน่​”

ก๊อก​ ก๊อก​ ก๊อก​… ทันใดนั้น​หยาง​เหยียน​เจาก็​เคาะ​โต๊ะ​เสียงดัง​ เขา​คือ​แม่ทัพ​ผู้​เกิด​มาพร้อมกับ​ความสามารถ​ใน​การควบคุม​ขวัญ​กำลังใจ​ของ​เหล่า​ทหาร​ใน​สนามรบ​ และ​เขา​ก็​กล้า​พอที่จะ​จัดการ​สิ่งที่​ไม่เหมาะสม​แม้ว่า​ฉิน​เย่​จะยืน​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ก็ตาม​

บางที​มัน​อาจ​เป็น​เพราะ​ท่าที​ไม่ใส่ใจและ​ไม่ทุกข์ร้อน​ของ​เขา​ที่​นำไปสู่​การ​ก่อกวน​ใน​ครั้งนี้​ แต่​เมื่อ​มองดู​อีกที​ เขา​เอง​ก็ช่าง​เป็น​ผู้นำ​ที่​ฉลาด​และ​ใจกว้าง​จริง ๆ​ … ฉิน​เย่อ​ด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ให้​กับ​ตนเอง​

ความ​หนา​บน​ใบหน้า​ของ​คนเรา​คือ​ตัวกำหนด​ที่​บอก​ให้​รู้​ว่า​คน​ ๆ นั้น​จะสามารถ​ใช้มัน​เพื่อ​เฉิดฉาย​ได้​หรือไม่​…

“สิ่งที่​ทุกคน​ได้​พูด​ออกมา​เมื่อครู่นี้​เป็นประโยชน์​อย่าง​มาก​ แต่​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​พวกเรา​จะสามารถ​” เขา​เท้า​มือ​ทั้ง​ลอง​ข้าง​ลง​กับ​โต๊ะ​และ​โน้มตัว​ไป​ด้านหน้า​ด้วย​ดวงตา​ที่​เป็นประกาย​ “แต่​พวก​เจ้ายัง​ไม่สังเกตเห็น​ถึงประเด็นสำคัญ​ที่​เรา​เพิ่ง​พูด​กัน​ไป​ก่อนหน้านี้​หรอก​หรือ​?”

เขา​วาด​วงกลม​ขึ้น​รอบ​ใจกลางเมือง​ “ไม่ว่า​เรา​จะปิด​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงาหรือ​แย่งชิง​การควบคุม​มัน​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ล้วน​จะเกิดขึ้น​ได้​ก็ต่อเมื่อ​เรา​สามารถ​เคลื่อน​ไป​อยู่​ภายใน​แนว​กำแพง​ชั้นใน​ได้​แล้ว​เท่านั้น​ และ​หาก​มัน​เป็น​กรณี​เช่นนั้น​ มัน​ก็​ยิ่ง​มีความเป็นไปได้​ที่ว่า​จุดศูนย์กลาง​ของ​ค่าย​หาร​และ​เศรษฐกิจ​เอง​ก็​ตั้งอยู่​ที่นั่น​เช่นกัน​ อีก​ความหมาย​หนึ่ง​ก็​คือ​…นี่​จะต้อง​เป็น​ค่าย​ของ​ทหาร​กว่า​ 820,000 นาย​อย่าง​แน่นอน​!”

“ข้อได้เปรียบ​เพียง​อย่าง​เดียว​ของ​เรา​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​เรา​สามารถ​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจกลางเมือง​ได้​ แต่​หาก​เรา​ทำ​เช่นนั้น​ ทั้ง​ดินแดน​ก็​จะสามารถ​ระดม​กองกำลัง​ของ​พวกเขา​ต่อสู้​กับ​เรา​ได้​ในทันที​ แน่นอน​ พวกเรา​อาจจะ​มีโอกาศ​ที่จะ​ทำ​การต่อสู้​ได้​ แต่​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ก็​ยัง​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​เรา​สามารถ​เอาชนะ​กองกำลัง​ของ​ศัตรู​ได้​หรือไม่​อยู่ดี​! เรา​กำลัง​พิจารณา​มัน​ใน​ฐานะ​ของ​สงคราม​ท่ามกลาง​ดินแดน​แห้งแล้ง​ ไม่ใช่การต่อสู้​ใน​เมือง​”

“จะเกิด​สิ่งใด​ขึ้น​หาก​เรา​ถูก​ล้อม​อยู่​ภายใน​ ไม่สามารถ​แย่งชิง​หรือ​หยุด​การทำงาน​ของ​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงาได้​? หาก​เกิด​เหตุฉุกเฉิน​ขึ้น​จะทำ​อย่างไร​? ด้วย​จำนวน​ของ​อสูร​วิญญาณ​ที่​เรา​นำมา​ด้วย​น้อย​ขนาด​นี้​?”

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

Score 10
Status: Completed

ฉินเย่เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ไม่มีวันแก่ เพราะกิน “เห็ดเทียนสุ่ย” เข้าไปทำให้มีชีวิตอยู่ระหว่างสองโลก เป้าหมายในชีวิตของเขาเพียงต้องการมีชีวิตเล่นเกมอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น

แต่ดูเหมือนนรกจะไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องของเขา เมื่อนรกถึงกาลอวสาน ผีร้ายออกอาละวาดบนโลกมนุษย์ ทำให้ฉินเย่ที่เป็นยมทูตคนสุดท้ายต้องรับหน้าที่จ้าวนรกเพื่อพิทักษ์โลกใบนี้!

Options

not work with dark mode
Reset