จอมใจจอมทัพ 41 อย่าได้ไปจากที่นี่ได้หรือไม่

ตอนที่ 41 อย่าได้ไปจากที่นี่ได้หรือไม่

สี่ราตรีผันผ่าน

จันทราคล้อยเคลื่อนสู่กึ่งกลางแผ่นฟ้า เหล่าทหารกล้าหงโจวถูกสั่งให้เข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเก็บเรี่ยวแรงไว้สู่สนามรบเมื่อได้รับข้อความจากสายข่าวว่า ทัพใหญ่เจี้ยนจิงพร้อมแล้วและเดินทางมาใกล้หงโจวเข้าทุกขณะ

ทว่ามุมหนึ่งของลานฝึก ปรากฏร่างหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วยกจอกสุราขึ้นจิบเรื่อย ๆ นิ่ง ๆ อยู่เช่นนั้นเนิ่นนานจนกระทั่งทหารยามเดินเข้ามาใกล้

“ ท่านแม่ทัพ เหตุใดจึงยังไม่เข้านอนขอรับ ” ทหารเอ่ยทักทายแม่ทัพเอกที่แม้จะเป็นทหารรับจ้าง แต่เขาได้ใจทหารหงโจวทุกนายด้วยความที่ไม่เคยถือเนื้อถือตัว แม้ยามทหารใดเพลี่ยงพล้ำ ท่านแม่ทัพก็เข้าช่วยเหลืออย่างไม่กลัวตาย นับได้ว่าบุรุษผู้นี้มีน้ำใจประเสริฐนัก

อีกฝ่ายยกสุราขึ้นหมดจอกก่อนรินแล้วยื่นให้ผู้มาทักทาย ทหารก้มลงคารวะก่อนรับมาแล้วดื่มจนหมดรวดเดียวเช่นกัน แล้วจึงส่งจอกเปล่ากลับไป

“ ขอบคุณท่านแม่ทัพสำหรับสุรารสดี ”

“ ขอบคุณอะไรข้าเล่า สุรานี่หาใช่ของข้าไม่ มันเป็นของท่านเจ้าเมืองต่างหาก นั่งลงก่อนสิ ” เขาผายมืออีกฝ่ายนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“ แต่ท่านเจ้าเมืองก็ยกให้ท่านแล้ว ”

“ ดื่มไปเถอะ อย่าได้คิดมากเลย เอาอีกไหม ” อีกฝ่ายส่ายศีรษะ

“ ข้าต้องอยู่ยาม ” นั่นทำให้แม่ทัพเหิงหัวเราะร่วน

“ นั่นสินะ ข้านี่มันเป็นแม่ทัพประเภทไหนกันที่ชักชวนให้ทหารดื่มสุราในเวลาเฝ้ายามกัน ”

“ ท่านเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินสำหรับพวกเรา ” เสียงตอบหนักแน่น เมื่อเหิงซื่อหลุนได้สบตาอีกฝ่ายก็พบว่ามันเข้มข้นจริงจังเหลือเกิน

“ ท่านแม่ทัพ อย่าได้ไปจากที่นี่ได้หรือไม่ ” คำพูดนั้นทำให้เหิงซื่อหลุนเลิกคิ้ว

“ นี่เจ้าจะมาไม้ไหน อย่าบอกนะว่าสุราจอกเดียวมันทำให้เจ้ามึนเมาเสียแล้ว ”

“ ข้าไม่ได้เมา ข้าพูดจริงจัง ท่านแม่ทัพเป็นคนฉลาด คงทราบดีว่ายามนี้บ้านเมืองหงโจวกำลังตกต่ำ เหล่าขุนนางเก่าก็ไว้ใจไม่ได้ ข้าได้ยินมาว่าบางคนคิดแข็งข้ออยากมีอำนาจ ทหารปลายแถวเช่นข้าก็ยังหวั่นใจว่าสักวันคงเกิดเรื่องไม่ดีเป็นแน่ หากขาดท่านไปสักคนบ้านเมืองคงระส่ำระสาย ”

“ เจ้าก็พูดเกินไป อาเซิน ข้ามันก็แค่ทหารรับจ้าง ข้าทำงานแลกเงิน ”

“ หัวใจของท่านมันตรงข้ามกับคำพูด ท่านแม่ทัพ พวกเรามีตาและรู้ดีว่าท่านกล้าหาญและน่านับถือเพียงใด ข้ากล้าพูดได้เต็มปากว่าไม่เคยมีแม่ทัพคนใดที่จะทำให้ทหารหงโจวเข้มแข็งกล้าหาญและรวมเป็นหนึ่งได้ถึงเพียงนี้ ข้าในนามของหงโจว ขอร้องให้ท่านอย่าทิ้งพวกเราไปจะได้หรือไม่ ”

ริมฝีปากที่เหยียดเป็นเส้นตรงอยู่เสมอของแม่ทัพเหิงคลี่แย้มออกเพียงนิด

“ ไม่คิดว่าชายผู้เย่อหยิ่งเช่นข้าจะเป็นที่ต้องการของผู้ใด ช่างน่าแปลกนักที่เมื่อเวลาผันผ่านมีคนวอนขอให้ข้าอย่าไปสองคนแล้ว ”

“ เช่นนั้นรึท่านแม่ทัพ ผู้ใดกันที่วอนขอก่อนข้า คงจะเป็นท่านรองแม่ทัพหรือทหารผู้ใดผู้หนึ่งกระมัง ” ทหารยามหยั่งถาม อีกฝ่ายหัวเราะร่วน ไม่ตอบอะไร

“ แล้วคำตอบของท่านคืออะไรหรือ ท่านแม่ทัพ ” อีกฝ่ายเทสุราลงจอกแล้วกระดกดื่มอีกครั้งก่อนตอบด้วยเสียงฉะฉาน

“ คำตอบของข้าคือจะอยู่ที่นี่ ”

“ นานแค่ไหนหรือท่าน ”

“ ตลอดไป ”

เพียงเท่านั้นก็ทำให้ทหารยามลิงโลดแทบจะกระโดดโลดเต้นโห่ร้องออกมาอย่างดีใจ เขาทรุดลงไปนั่งบนพื้นแล้วคำนับแม่ทัพเหิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอีกฝ่ายต้องจับไหล่เขาเอาไว้

“ นี่เจ้าเป็นบ้าแล้วหรือไรอาเซิน หยุดคำนับข้าเสียที ”

“ ก็ข้าดีใจนี่นา นับแต่นี้ต่อให้มีสิบทัพมาโจมตี หรือมีขุนนางใดคิดคด พวกเราก็ไม่ต้องกลัวแล้วเพราะมีท่าน ”

“ ข้ามิใช่หนึ่งในเหล่าเทพที่จะแก้ปัญหาให้หงโจวได้ทุกอย่าง แล้วข้าเองก็มีเลือดมีเนื้อ แม้ว่าข้าจะให้คำมั่นไปแล้ว ทว่าก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่พรากข้าไปจากคำมั่นได้ ”

“ ท่านหมายถึงความตายเช่นนั้นหรือ ”

“ ชายชาติทหารมิเกรงกลัวความตาย แต่ก็มิได้หมายความว่าเจ้าจะรอดพ้นจากมันได้ คนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคน ไม่ช้าก็เร็ว ”

“ ท่านแม่ทัพอย่าพูดเป็นลางเช่นนั้นเลย ”

“ ข้าแค่พูดถึงหลักความจริง หากข้าเป็นอะไรไปในสงคราม เจ้าจะได้มิครหาบนหลุมศพว่าข้าผิดคำพูด ”

“ ข้ามั่นใจว่าท่านจะเอาชีวิตรอดกลับมาพร้อมชัยชนะดังเช่นทุกครา ท่านแม่ทัพ ” ทหารยามเอ่ยด้วยวาจาแน่นหนัก อีกฝ่ายได้แต่ยิ้ม เขาจึงชวนคุยต่อ

“ พรุ่งนี้ท่านต้องบัญชาการรบแล้วแต่เหตุใดยังไม่เข้านอน มีเรื่องกลัดกลุ้มเช่นนั้นหรือ ”

“ ข้าก็แค่อยากจะนั่งชมจันทร์เงียบ ๆ คนเดียว ”

“ อ้าว เช่นนี้ข้าก็เข้ามารบกวนท่านน่ะสิ ”

“ นั่นน่ะสิ ” อีกฝ่ายพูดตรง ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ ข้าขออภัยที่มารบกวน เช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อน ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับความเงียบงัน แสงจันทร์ และสุรารสดีให้เต็มที่ ”

“ ไปเถอะ ” แม่ทัพหนุ่มตอบกลับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะรินสุราใส่จอกกระดกเข้าปากอีกครา

Options

not work with dark mode
Reset