จอมใจจอมทัพ 39 ความจริงปรากฏ

ตอนที่ 39 ความจริงปรากฏ

องค์ชายจิ้งฝูทนไม่ไหวอีกแล้ว เจ้าคนผู้นี้มันอ่านเขาออกจนหมดสิ้น หากยังปล่อยให้พร่ำต่อเพลิงโทสะคงลุกไหม้จนเขาอกแตก

“ สามหาว บังอาจนัก ข้าจะตัดหัวเจ้าเสียตรงนี้ ! ” เขาเงื้อดาบกำลังจะบั่นลงบนคอแม่ทัพเหิง พลันนั้นกระบี่เล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนเขาต้องเบี่ยงหลบ

แม่ทัพเหิงคว้ากระบี่นั้นเอาไว้ได้ทันทีและใช้มันตัดโซ่ให้ตัวเอง เหล่าทหารที่เขาเตรียมการเอาไว้และซ่อนตัวอยู่กรูกันออกมาแสดงตัวเข้าปิดล้อมท้องพระโรงและคุ้มกันแม่ทัพของพวกเขา

ทุกคนในที่นั้นตกใจเป็นอย่างมาก สถานการณ์พลิกผัน กระบี่เล่มหนึ่งจ่อคอองค์ชายจิ้งฝูบังคับให้เขาอยู่นิ่ง ๆ

“ เจ้าคิดจะทำอะไร คิดว่าทหารของเจ้าหยุดข้าได้หรือ ” แม้กระบี่จะจ่อคอ ทว่าองค์ชายจิ้งฝูยังปากดี กำกระบี่ในมือแน่น

“ ทหารของข้าอาจจะหยุดเจ้าไม่ได้ แต่หากเป็นข้าคงไม่แน่ ลองดูไหมล่ะ ” แม้ทัพเหิงว่าพลางจ้องคนตรงหน้าด้วยดวงตาดุดันไม่ลดละ

องค์ชายจิ้งฝูเห็นสถานการณ์รอบด้านตนเองเสียเปรียบทุกประตู เขาจึงยอมสงบนิ่ง

“ ท่านเจ้าเมืองอย่าตกใจ โปรดฟังข้าพูดต่อ ท่านคงไม่รู้ หรืออาจจะรู้แต่ถูกความกลัวครอบงำ บุตรสาวคนเดียวของท่าน เกือบถูกชายชั่วผู้นี้ขืนใจ หากข้าเข้าช่วยไม่ทันนางคงถูกย่ำยียับเยินไปเสียแล้วตั้งแต่คราวแรกที่พบกันข้างบึงบัวในอุทยาน ”

“ เจ้าโกหก ! ” องค์ชายฝูตะโกนขัด

ท่านเจ้าเมืองตกตะลึงจากสิ่งที่พึ่งได้ยิน แม่ทัพเหิงผายมือไปด้านข้าง ร่างอรชรงดงามขององค์หญิงซูเม่ยก้าวออกมาจากที่ซ่อนออกมายืนเคียงข้างร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพเหิง

“ ลำพังคำพูดข้าคงยากจะทำให้ท่านเชื่อ เชิญท่านรับฟังความจริงทั้งหมดจากองค์หญิงเถิด ”

“ คารวะเสด็จพ่อ ลูกหลบอยู่ในนี้ตั้งแต่ต้น ได้ยินได้ฟังทุกอย่าง ” องค์หญิงซูเม่ยจ้องมองบิดาด้วยแววตาน้อยเนื้อต่ำใจ

“ เรียนเสด็จพ่อ ทุกสิ่งที่แม่ทัพเหิงกล่าวเป็นความจริงเพคะ ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นท่านเจ้าเมืองก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขารู้จักบุตรสาวตนเองดี แต่เล็กมานางไม่เคยพูดปดแม้สักคำ

“ วันนั้นลูกนั่งวาดรูปอยู่ องค์ชายจิ้งฝูเข้ามาทำทีชวนคุยเรื่องภาพเขียนและสั่งให้นางกำนัลไปเอาน้ำชามาถวาย เมื่อสบโอกาสอยู่กันสองต่อสองเขาพยายามรังแกลูก ลูกถอยหนีแล้วแต่เขาไม่ละเว้นเลย โชคดีที่ท่านแม่ทัพเข้ามาช่วยลูกไว้ทันมิเช่นนั้นลูกคงถูกข่มเหงไม่เหลือชิ้นดี ”

“ พวกเจ้าเป็นชู้กัน รวมหัวกันโกหก ใส่ร้ายข้า ! ” องค์ชายจิ้งฝูสอดขึ้น

“ หุบปาก ! ” คราวนี้เป็นท่านเจ้าเมืองที่ส่งเสียงตวาดออกมา เขาไม่เคยโกรธมากเช่นนี้มาก่อนในชีวิต โกรธตนเองที่ปล่อยปละละเลย ปล่อยให้บุตรสาวอันเป็นที่รักถูกรังแกเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์จากเมืองใหญ่ ช่างโง่งมสิ้นดี

“ ลูกไม่อยากแต่งกับองค์ชายจิ้งฝู เขาเห็นสตรีเป็นเพียงของเล่น ย่ำยีรังแกเพื่อสนองตัณหาตนเท่านั้น เหตุที่ลูกเงียบมาตลอดเพราะเป็นห่วงเสด็จพ่อกับชาวเมืองหงโจว กลัวทำให้ทุกคนเดือดร้อน ” พูดจบนางก็ปล่อยโฮออกมา ความอัดอั้นตันใจต่าง ๆ ที่นางฝืนข่มไว้วันนี้ได้ระบายแล้ว

ท่านเจ้าเมืองเมื่อได้เห็นน้ำตามากมายของนางรินไหลออกมา หัวใจของเขาคล้ายถูกมีดนับร้อยกรีดเฉือน เขาถลาลงจากบัลลังก์เข้ากอดบุตรสาวไว้แน่น

“ พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ ” พระองค์กอดและลูบหน้าลูบหลังบุตรสาวเพื่อปลอบโยน ก่อนหันหน้าไปทางองค์ชายจิ้งฝูด้วยสายตาโกรธแค้นเกลียดชัง

“ จิ้งฝู วันนี้ข้าไม่กลัวสิ่งใดอีกแล้ว มีสงครามแล้วอย่างไร ข้ายอมตายดีกว่าหดหัวเกรงกลัวคนเช่นเจ้า ! ”

เหิงซื่อหลุนยิ้มออกมาทันที ขุนนางทั้งหลายในที่นั้นหันไปซุบซิบกันอีกครา

“ ไอ้แม่ทัพเหิงมันยิ้มเป็นด้วยเหรอ ข้าไม่เคยเห็นมันยิ้ม สักที ”

“ นั่นน่ะสิ หรือมันเป็นบ้าไปแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ตึงเครียดจะตายไป ปากดีกับองค์ชายจิ้งฝูเพียงนี้หมายถึงประกาศศึกกับเมืองใหญ่เช่นเจี้ยนจิงเลยนะ เป็นเรื่องดีเสียที่ไหนกันเล่า ”

“ คนบ้าเช่นซื่อหลุนอาจจะถือเป็นเรื่องดีก็เป็นได้ ว่ากันว่ามันกระหายเลือดเนื้อมิใช่หรือ จิตใจของมันหาได้ปกติไม่ ”

Options

not work with dark mode
Reset