จอมใจจอมทัพ 17 ร้อนเร่า

ตอนที่ 17 ร้อนเร่า

“ องค์หญิงอยู่ด้านในหรือไม่ ! ” ทว่าเสียงเอะอะจากนางกำนัลที่สอบถามกับทหารองครักษ์ด้านนอกทำให้ทั้งคู่ต้องผละจากกันในทันที

เป็นเจียหลันนางกำนัลของซูเม่ยนั่นเอง เมื่อนางกลับมาจากชงชาก็สวนทางกับองค์ชายจิ้งฝูที่ทำหน้าถมึงทึง และปัด ถาดชาอย่างแรงจนชุดน้ำชาร่วงกราวตกแตกบนพื้นทำให้นางกำนัลทุกคนตกใจมาก และยิ่งตกใจมากไปกว่านั้นที่เมื่อไปถึงศาลาริมบึงกลับพบแต่ความว่างเปล่า องค์หญิงซูเม่ยของพวกนางหายไป เจียหลันและนางกำนัลคนอื่นจึงได้มาตามหาที่ห้องบรรทม

“ พี่เจียหลันมา ” นางกระซิบบอกเขาที่แม้จะละริมฝีปากจากการจูบทว่ายังคงอ้อยอิ่งอยู่ใกล้ไม่ออกห่าง สองมือเรียวขาวออกแรงดันไหล่กว้างกำยำทว่ามันกลับไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิด

“ ท่านแม่ทัพ ท่านได้ยินที่ข้าบอกหรือไม่ นางกำนัลของข้ากำลังจะเข้ามา ”

“ เรียกข้าว่าท่านพี่ซื่อหลุนก่อนสิ แล้วข้าจะไป ”

“ อะ… อะไรของท่านเนี่ย ”

“ จะเรียกหรือไม่เรียก หรือจะอยากให้นางกำนัลเห็นข้ากับเจ้าในสภาพนี้ ”

“ ทะ… ท่านพี่ซื่อหลุน ออกไปก่อนเถอะ ได้โปรด ”

ริมฝีปากหยักนั้นยกยิ้มขึ้นอย่างพึงอกพึงใจก่อนจะกดริมฝีปากลงบนหน้าผากนางแล้วจูบหนัก ๆ

“ น่ารักมาก เม่ยเอ๋อร์ของข้า ” ก่อนเขาจะผลุนผลันลุกขึ้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปที่หน้าต่างแล้วกระโดดออกทางนั้นลับหายไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่เจียหลันเปิดประตูเข้ามา

“ องค์หญิง เกิดอะไรขึ้นเพคะ ! ” คำถามอีกมากมายเกิดขึ้นด้วยความกังวลและห่วงใย

“ ข้าขอนอนพักสักครู่นะพี่เจียหลัน ไว้ข้าตื่นแล้วค่อยคุยกัน ”

“ แต่ว่า… ”

“ ข้าอยากพักผ่อน ไม่อยากคุยอะไรทั้งสิ้น ”

“ เช่นนั้นก็ได้เพคะ ” นางกำนัลตอบทว่ายังคงเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูด้วยความห่วงใย คาดเดาเอาเองว่าองค์ชายจิ้งฝูผู้ร้ายกาจนั่นต้องกระทำการให้องค์หญิงไม่พอพระทัยเป็นแน่แท้

หากเป็นจริงแค่เพียงเสี้ยว ที่เหลือเกิดจากหัวใจดวงน้อย ๆ ที่เต้นระส่ำ ความอุ่นร้อนวิ่งพล่านไปทั่วกายสาวจนซูเม่ยเกรงว่านางกำนัลจะสังเกตเห็น

ทั้งหมดทั้งมวลนั่นเกิดขึ้นเพราะจุมพิตอันร้อนเร่าของเขาแต่เพียงผู้เดียว…

 

*********************************************

ดึกสงัด

ดวงเดือนเคลื่อนคล้อยลอยเด่นกลมโตอยู่เกือบกลางนภา ทว่าองค์หญิงซูเม่ยยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่ริมหน้าต่างทอดสายตาเลื่อนลอยออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย

“ เหตุใดองค์หญิงยังไม่บรรทมเล่าเพคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ” เจียหลันถามอย่างห่วงใยเมื่อองค์หญิงของนางขอชาดอกเหมย ในยามที่ควรบรรทมเช่นนี้ นางที่คืนนี้นอนอยู่ข้างห้องสำหรับ นางกำนัลรับใช้กับเพื่อนอีกหนึ่งคนจึงรีบกุลีกุจอจัดการมาถวาย

“ ข้านอนไม่หลับ ” องค์หญิงว่าพลางยกชาขึ้นดื่ม

“ ยังไม่สบายพระทัยเรื่ององค์ชายจิ้งฝูใช่ไหมเพคะ หม่อมฉันสมควรตายจริง ๆ ที่ปล่อยองค์หญิงให้อยู่ตามลำพังกับองค์ชายร้ายกาจผู้นั้น คนเรานี้ช่างรู้หน้ามิรู้ใจจริง ๆ ” เจียหลันสำนึกผิดเมื่อทราบในภายหลังว่าเกิดอะไรกับองค์หญิงซูเม่ย หลังจากที่พวกนางกำนัลไปจัดการเรื่องชาตามที่จิ้งฝูออกคำสั่ง

“ ช่างมันเถอะ ใครเลยจะไปคิดว่าองค์ชายผู้สูงศักดิ์จะมีพฤติกรรมต่ำช้าเยี่ยงนั้น พี่เจียหลันอย่าได้โทษตัวเองเลย ”

“ โชคดีเหลือเกินนะเพคะที่ท่านแม่ทัพเหิงมาพบเข้าพอดี รู้เช่นนี้แล้วว่าองค์ชายจิ้งฝูเป็นคนเช่นไร แล้วองค์หญิงจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ” ซูเม่ยส่ายศีรษะช้า ๆ ใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก

“ ก็ไม่ทำเช่นไร แล้วก็คงไม่บอกเสด็จพ่อให้ต้องวิตกกังวลพระทัยด้วย หน้าที่ขององค์หญิงเช่นข้าคือช่วยท่านรักษาบ้านเมืองไว้มิใช่หรือ พี่เจียหลัน ” เจียหลันคลานเข่าเข้าไปจับมือเรียวขาวนุ่มนิ่มนั้นมากอดไว้แนบอกอย่างรักใคร่ห่วงใย

“ มันก็ใช่เพคะ แต่หม่อมฉันเป็นห่วงว่าหากองค์หญิงอภิเษกไปกับคนเช่นนี้แล้ว จะมีความสุขจริงหรือ ”

“ ความสุขของประชาชนและส่วนรวมย่อมต้องมาเป็นหนึ่ง หากหงโจวของเรามีเมืองเจี้ยนจิงมาเสริมทัพ พวกเราก็มิต้องคอยวิตกกังวลว่าเมื่อไรจะโดนเมืองไหนมาโจมตีอีก ”

“ แต่ยามนี้เราก็มีท่านแม่ทัพเหิงที่ช่วยให้กองทัพหงโจวแข็งแกร่งขึ้นมามากแล้วนี่เพคะ ”

“ แล้วพี่คิดว่าบุรุษผู้มิยอมก้มหัวให้แก่ผู้ใดเช่นแม่ทัพเหิงนั้นเขาจะอยู่กับเรานานได้แค่ไหนกันเชียว สักวันหนึ่งเขาก็ต้องไปจากที่นี่ ไม่ช้าก็เร็ว ” น้ำเสียงและแววตาขององค์หญิงนั้นช่างดูเศร้าสร้อยเป็นยิ่งนัก

“ พี่เจียหลันไปนอนก่อนเถอะ ข้าขอนั่งคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียวสักพัก แล้วก็จะนอนเหมือนกัน ”

“ เช่นนั้นก็ได้เพคะ แต่อย่าให้นานเนิ่นนัก รีบเข้าบรรทมนะเพคะ หม่อมฉันเป็นห่วง ”

Options

not work with dark mode
Reset