จอมใจจอมทัพ 16 จุมพิตอันวาบหวาม

ตอนที่ 16 จุมพิตอันวาบหวาม

“ องค์หญิงเป็นลม ข้าอุ้มมาส่ง ” นั่นทำให้องค์หญิงซูเม่ยต้องแปลกใจเป็นยิ่งนักที่องครักษ์เปิดทาง ปล่อยให้เขาพานางสู่ห้องบรรทมได้ง่าย ๆ

“ ท่านนี้ช่างมีอิทธิพลต่อทุกผู้ทุกคนเหลือเกินนะ ขนาดทหารองครักษ์ยังไม่กล้าขวาง ”

“ ข้าอยากได้อะไร อยากทำอะไรก็ต้องได้ ไม่เคยมีผู้ใดขวางข้าสำเร็จสักคนหรือเจ้าอยากจะลองดูไหมล่ะ ” เขาก้มลงมาเอ่ยเย้า นางส่ายศีรษะดิก

“ วันนี้ข้ายังไม่พร้อม เอาไว้วันหน้าก็แล้วกัน ข้าจะจัดการท่านเสียให้อยู่หมัดเลย ” นั่นทำให้เขาอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“ ทำเป็นอวดเก่ง ถ้าเมื่อครู่ข้าไม่ผ่านไปเห็นพอดี ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ” นั่นทำให้ใบหน้าสดชื่นของนางสลดลงทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ถึงเตียงนอน ซื่อหลุนวางร่างอรชรลงอย่างทะนุถนอมแผ่วเบาและเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าหวานสลดลงเขาก็รู้สึกผิดทันที

“ ข้าขอโทษที่พูดไม่ทันคิด ”

“ ไม่เป็นไรหรอก มันก็เป็นความจริงนั่นล่ะ หากท่านไม่ผ่านไปช่วย ข้าคงถูกองค์ชายหื่นกามผู้นั้นย่ำยีเป็นแน่ ”

“ คิดดีแล้วหรือที่จะแต่งงานกับบุรุษเช่นนั้น ”

“ ข้าไม่มีสิทธิ์เลือก ท่านก็รู้ว่าสถานการณ์ของหงโจวเป็นเช่นไร เสด็จพ่ออยากให้มีใครสักคนที่มีเข้มแข็งและมีอิทธิพลมาเสริมอำนาจบารมี ”

“ หงโจวยังมีข้าอยู่ทั้งคน ”

“ แล้วท่านจะอยู่เคียงข้างหงโจวไปนานแค่ไหน ท่านแม่ทัพ ท่านจะตอบข้าได้หรือไม่ ”

นั่นทำให้เหิงซื่อหลุนนิ่งเงียบ เป็นครั้งแรกที่ดวงตาคมกล้านั้นหลบสายตาของคู่สนทนา

“ ท่านเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลย ข้ารู้ดีว่าสักวันเมื่อท่านเบื่อ ท่านก็จะไปจากที่นี่ ” นางพูดจาคล้ายตัดพ้อ เขาก็ยิ่งนิ่งเงียบ บรรยากาศการสนทนาครั้งนี้ช่างตึงเครียดนัก

องค์หญิงพลันคิดได้เลยชวนคุยในเรื่องอื่น

“ ข้าก็ชวนคุยเรื่องอะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อจริงเชียว ว่าแต่ว่าท่านไปทำอะไรแถวบึงบัวของข้าหรือ ท่านแม่ทัพ ”

“ ก็… แค่อยากเดินเล่นชมบึงบัว ไม่ได้หรืออย่างไร ”

นั่นทำให้นางหัวเราะคิกคัก

“ ท่านเนี่ยนะ จะไปเดินชมบึงบัวของข้า อยู่ที่นี่มาก็เนิ่นนาน ข้ามิเคยเห็นสักคราที่ท่านจะเดินมาในเขตนั้น ”

“ แล้วอย่างไรเล่า ก็เมื่อก่อนข้าไม่อยากแต่เดี๋ยวนี้ข้าอยากแล้ว อยากชมดอกบัวตูม ” เขาว่าพลางหลุบตามองทรวงอกที่ ผลิพุ่งอยู่ใต้อาภรณ์เนื้อดีสีแดงสดของนาง ภาพความงดงามและหอมหวานในวันนั้นกลับมากระตุ้นเร้าเขาอีกครั้ง

ซูเม่ยยกผ้าห่มแพรเนื้อดีขึ้นมาปกปิดส่วนนั้นที่ถูกสายตาซุกซนโลมเลียทันที สองแก้มสุกปลั่งแดงระเรื่อ มั่นใจเหลือเกินว่าดอกบัวตูมที่เขาว่านั้นมันไม่ได้หมายถึงบัวตูมในบึงแน่ ๆ

“ ท่านกลับไปเถอะ ข้าอยากพักผ่อน ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้าในวันนี้ ”

“ ข้ายังไม่อยากกลับ ” เสียงทุ้มตอบกลับแผ่วเบา นางตวัดสายตาขึ้นมามองด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่นัก

“ เมื่อครู่ท่านพูดอะไรนะ ”

“ เอ่อ ข้าบอกว่ายังไม่ควรกลับ ใครจะรู้ว่าองค์ชายหื่นกามนั่นจะย้อนกลับมาอีกหรือไม่ ”

“ ขอบคุณในความเป็นห่วงของท่าน แต่ข้าคิดว่าองค์ชายจิ้งฝูคงจะไม่กล้าทำอีกแล้วล่ะ ”

“ กระนั้นข้าก็ยังมิอยากทิ้งเจ้าให้อยู่คนเดียวอยู่ดี ซูเม่ย ความตื่นกลัวของเจ้าคงยังมิคลาย ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนเถอะนะ ”

ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนเถอะนะ

เสียงทุ้มต่ำ พร้อมกับดวงตาคมกริบที่จ้องมองมานั้นพาให้หัวใจขององค์หญิงซูเม่ยวาบหวามหวั่นไหว

เป็นเช่นดังที่เขาว่า นางยังรู้สึกไม่ดีขึ้น ยังคงตื่นกลัวแต่หากอยู่กับเขาสองต่อสองจะปลอดภัยไหม ลืมไปแล้วหรือไรว่าครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยจาบจ้วงนางอย่างหยาบคายมาแล้ว

ควรจะกลัวเขาสิ ไล่เขาออกไป ซูเม่ย !

นางบอกตัวเองขณะที่เขากำลังขยับลงมานั่งบนเตียง ใบหน้าคมสันนั้นก้มต่ำเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนกระทั่งจมูกโด่งนั้นชนกับปลายจมูกของนาง ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดทั่วอณูผิวหน้า

ใกล้เหลือเกิน ใกล้เกินไปแล้ว…

ทว่าริมฝีปากอวบอิ่มกลับเผยออ้ารับการบดเบียดของริมฝีปากของเขาที่บดเคล้ามาเบา ๆ ในคราวแรก ก่อนจะเร่งเร้าให้เร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

นางมิได้ผลักไสอันใด ดวงตาหวานหลับพริ้ม กำซาบความรู้สึกร้อนเร่าที่เขาได้ตราตรึงเมื่อวันก่อน แม้ฟากหนึ่งจะโกรธที่เขาจาบจ้วง ทว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ คือนางถวิลหาความวาบหวามนั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

Options

not work with dark mode
Reset