จอมใจจอมทัพ 15 ฝากไว้ก่อนเถอะ

ตอนที่ 15 ฝากไว้ก่อนเถอะ

องค์ชายจิ้งฝูค่อยลุกขึ้นยืนด้วยความจุกเจ็บ มือข้างหนึ่งจับที่หน้าอก อีกข้างเอื้อมไปกุมต้นคอที่มีโลหิตสีแดงไหลซึมออกมาจากแผลที่เกิดจากปลายกระบี่

แม้จะเป็นฝ่ายผิดและเสียท่าจนหมดรูป แต่องค์ชายจิ้งฝูก็คือองค์ชายจิ้งฝูผู้มิเคยรู้สำนึกใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังโกรธมากที่ได้ยินจากบทสนทนาเมื่อครู่ว่าชายผู้ที่กล้าทำร้ายเขานั้นมีฐานะต่ำศักดิ์กว่าเป็นเพียงแม่ทัพเท่านั้น

“ เจ้าช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไอ้ขี้ข้า ! ”

“ สูงต่ำแค่ไหนข้าไม่สน ค่าของคนวัดกันที่สันดาน หากชั่วช้าก็สมควรแล้วที่ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าข้า ”

“ สามหาว ! องค์หญิงซูเม่ยคือคู่หมั้นข้า ขี้ข้าเช่นเจ้าไม่เกี่ยว ”

“ ขี้ข้าเช่นข้านั้นสมควรเกี่ยวยิ่ง เพราะข้ามีหน้าที่ปกป้ององค์หญิง ข้าว่าท่านเจ้าเมืองก็คงไม่พอใจนักหากรู้ว่าธิดาของพระองค์ถูกท่านรังแกเช่นนี้ อาจจะส่งผลไปถึงการยกเลิกหมั้นหมายเลยทีเดียว ว่าไหมล่ะ องค์ชายจิ้งฝู ”

องค์ชายจิ้งฝูชะงักนิ่ง แม้โทสะจะพลุ่งพล่านเพียงใดแต่คำพูดของมันมีเหตุผล หากท่านเจ้าเมืองทราบเรื่อง เขาเองก็อาจไม่ได้ซูเม่ยเป็นชายา ความงามของนางนั้นทำให้ชายผู้มากตัณหาเช่นเขาคลั่งไคล้ อยากเชยชมเป็นยิ่งนัก และนิสัยอยากเอาชนะทำให้คิดได้ว่ายอมเสียนางไปง่าย ๆ ไม่ได้

ไม่เป็นไร โอกาสหน้ายังมี…

แม้ว่าจะทั้งเสียหน้าและคั่งแค้นเดือดดาลเหลือหลายแต่ยามนี้เขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถอยไปตั้งหลักก่อนจะดีกว่า

องค์ชายจิ้งฝูตวัดสายตาอาฆาตแค้นมายังแม่ทัพเหิง

“ หากมีใครรู้เรื่องนี้ เจ้าเตรียมตัวตายได้เลย ”

“ มองหน้าข้าและจำชื่อข้าเอาไว้ดี ๆ ข้าเหิงซื่อหลุนและคนอย่างข้าไม่เคยกลัวตาย ความตายเป็นแค่ของหวานสำหรับข้าเท่านั้น ” อีกฝ่ายตอกกลับอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าองค์หญิงซูเม่ยรีบห้ามทัพ

“ ให้มันจบเท่านี้เถอะท่านแม่ทัพ ข้าอยากพักแล้ว ส่วนท่านรีบกลับไปเสียเถอะองค์ชายจิ้งฝู ”

“ อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องตกเป็นเมียข้าซูเม่ย หนีไม่พ้นหรอก ส่วนเจ้าไอ้ขี้ข้า วันนี้เจ้าเล่นทีเผลอทำให้ข้าเพลี่ยงพล้ำ ข้าสาบานว่าวันข้างหน้าข้าจะมาเอาคืนอย่างสาสม เจ้าจะต้องเจ็บกว่าข้าเจ็บร้อยพันเท่า วันนี้ข้าฝากไว้ก่อนเถอะ ! ”

“ รีบมาเอาคืนล่ะ ข้าจะนับวันรอเลยทีเดียว ” แม่ทัพหนุ่มตอกกลับด้วยน้ำเสียงยียวน ยิ่งมองเห็นว่ามันโอบกอดองค์หญิงไว้ในอ้อมแขนด้วย นั่นยิ่งทำให้องค์ชายจิ้งฝูคั่งแค้นแทบกระอักเลือด เขารีบเดินหนีไปอย่างเร็วที่สุดและสบถสาบานกับตนเองไปด้วย

“ เหิงซื่อหลุน ไอ้ขี้ข้าชาติหมา ข้าสาบานว่าจะบั่นคอเจ้าเอาเลือดมาล้างเท้าให้เร็วที่สุด ! ”

เมื่อองค์ชายบ้ากามผู้นั้นลับตา แม่ทัพเหิงก็รีบประคององค์หญิงซูเม่ยให้ออกเดินกลับไปพักผ่อน ทว่าทุกก้าวย่าง ของนางคล้ายคนจะหมดแรง เขาจึงตัดสินใจก้มลงช้อนอุ้มนางเอาไว้ในอ้อมแขน

“ อุ๊ย นี่ท่านทำอะไร ! ” นางเอ่ยถามด้วยความตกใจ

“ ก็อุ้มเจ้าน่ะสิ เดินอย่างกับคนไร้เรี่ยวแรงเช่นนั้น อีกสองชั่วยามจะถึงจวนไหม ” เขาตอบประชดประชัน

“ ก็… ข้ากลัวนี่นา ” นางสารภาพเสียงสั่น ยอมรับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้นางตื่นกลัวเหลือเกิน

“ อยู่ในอ้อมแขนข้า เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาทำอันตรายเจ้าได้ ”

แม่ทัพหนุ่มว่าพร้อมจ้องนางด้วยแววตาประหลาด ความดำมืดดุดันดูอ่อนแสงลงราวกับคนละคนจนนางรู้สึกวูบวาบไปทั่วกาย จนต้องหลบสายตาของเขาไปซุกที่แผงอกกว้างพลางอ้อมแอ้มตอบ

“ ขอบคุณท่านมาก ” ริมฝีปากที่เหยียดตรงอยู่เสมอของแม่ทัพเหิงถูกยกยิ้มก่อนสาวเท้าไปยังปลายทางอันเป็นห้องบรรทมขององค์หญิง

เหล่าองครักษ์ที่ยืนรักษาการณ์อยู่ต้องงุนงงเป็นอันมากเมื่อเห็นท่านแม่ทัพอุ้มองค์หญิงอยู่ แต่เสียงห้าวที่เอ่ยบอกนั้นก็ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะทักท้วง

Options

not work with dark mode
Reset