กระบี่จงมา 891.1 สำนักเบื้องล่าง

ตอนที่ 891.1 สำนักเบื้องล่าง

ท่าเรือ​หนิ​วเจี่ยว​ สายน้ำ​ใสไหล​ไป​ทาง​ทิศตะวันออก​ ห่าน​โบยบิน​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​

เรือข้ามฟาก​ขนาด​มหึมา​ลำ​หนึ่ง​จอด​เทียบท่า​ช้าๆ พลัง​อำนาจ​น่า​ครั่นคร้าม​ ปราณ​วิญญาณ​มหาศาล​แผ่​กระเพื่อม​พร้อมกับ​นำพา​ลม​ภูเขา​โชย​มาเป็น​ระลอก​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ทั่วไป​แล้ว​ เห็นได้ชัด​ว่า​มีขนาดใหญ่​มาก​เป็นพิเศษ​ ประหนึ่ง​เจียว​หลง​ที่​บางครั้ง​ผลุบ​จาก​น้ำขึ้น​มาเกย​หาด​น้ำ​ตื้น​ ก็​คือ​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ที่​เรื่อง​ของ​การซ่อมแซม​ ทาง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ไม่ต้อง​ออก​เงิน​แม้แต่​ครึ่ง​เหรียญทองแดง​นั่นเอง​

มีเพียง​จ้งชิว​กับ​ชุย​เหวย​ที่​ติดตาม​เรือ​ลำ​นี้​กลับมา​ที่​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​ การเดินเรือ​ข้าม​ทวีป​ครั้งแรก​ของ​เฟิงยวน​ลำ​นี้​สำเร็จ​ลง​ด้วยดี​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​ยิ้ม​เอ่ย​ “ลำบาก​แล้ว​”

พอ​เจ้าขุนเขา​เปิดฉาก​เช่นนี้​ ผู้คน​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​พา​กัน​กุม​หมัด​ขอบคุณ​พร้อม​เอ่ย​ว่า​ลำบาก​แล้ว​ ลำบาก​แล้ว​

จ้งชิวอด​ไม่ไหว​หลุด​ขำ​ ประสานมือ​คารวะ​กลับคืน​ทุกคน​ แต่​ชุย​เหวย​กลับ​ปรับตัว​ไม่ได้​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ ได้​แต่​กุม​หมัด​คารวะ​กลับคืน​

เฉิน​ผิง​อัน​อ่อนใจ​เป็น​ที่สุด​ เดิมที​รู้สึก​เกรงใจ​คนอื่น​จาก​ใจจริง​ ผล​กลับ​ดี​นัก​ ถูก​เจ้าพวก​คน​ที่​เหลือ​พา​ออกนอกเรื่อง​จน​กลายเป็น​เหมือน​คำ​สัพยอก​เสีย​อย่างนั้น​

ออกจาก​บ้าน​มาครั้งนี้​ จำนวน​คน​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ที่จะ​ติดตาม​เฉิน​ผิง​อัน​เดินทางไกล​มีอยู่​ไม่น้อย​

เจ้าขุนเขา​นำพา​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​มาด้วย​กลุ่ม​หนึ่ง​ เผย​เฉียน​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ ผู้ฝึก​กระบี่​กวอ​จู๋จิ่ว​ จ้าว​ซู่เซี่ย​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ห้า​ จ้าว​หลวน​ผู้ฝึก​ลมปราณ​

ผู้​ถวายงาน​เสี่ยว​โม่ สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​ สะพาย​หีบ​หนังสือ​ถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​ เหมือนกับ​บัณฑิต​อ่อนแอ​ที่​ออก​ไป​ทัศนศึกษา​มากกว่า​

และ​ยังมี​หมี่​อวี้​ที่​กำลังจะ​ไป​รับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ อวี๋​เสีย​หุย​ที่​ออกจาก​หอ​บูชา​กระบี่​แล้ว​ต้อง​ออก​เดินทางไกล​อีกครั้ง​

เด็กชาย​เห็น​ชุย​เหวย​แล้วก็​ฝืน​นิสัย​เอ่ย​เรียก​ว่า​อาจารย์​อย่าง​อึดอัด​ คง​เป็น​เพราะ​รู้สึก​ว่า​น่าขายหน้า​เกินไป​ เด็กชาย​จึงยัง​ไม่ลืม​แค่น​เสียง​หึ​ใน​ลำคอ​อีกที​

แม้ชุย​เหวย​จะประหลาดใจ​ แต่​ก็​ยัง​พยักหน้า​รับ​เงียบๆ​ ใน​ดวงตา​มีรอยยิ้ม​ ทุก​เรื่อง​ล้วน​ยาก​ที่​การ​เริ่มต้น​ ขอ​แค่​อวี๋​เสีย​หุย​ยินดี​เรียก​เขา​ว่า​อาจารย์​ ชุย​เหวย​ก็​มีความมั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ที่จะ​ทำให้​เด็กชาย​ไม่ต้อง​รู้สึก​ว่า​รับ​ตน​เป็น​อาจารย์​อย่าง​เสียเปล่า​

ฉางมิ่งผู้คุม​กฎ​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​พา​น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ลูกศิษย์​ที่​นาง​เพิ่ง​รับ​มาใหม่​มาด้วย​

ตน​มิอาจ​สอน​เวท​กระบี่​เลิศ​ล้ำ​อะไร​ได้​ แต่​ยัง​จะมอบ​เงิน​ให้​นาง​ไม่ได้​อีก​หรือ​?

ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีผู้ฝึก​กระบี่​อยู่​มาก​ขนาด​นั้น​ ทั้ง​เจียง​ซ่างเจิน​ หมี่​อวี้​ ชุย​เหวย​ สุ่ยโย่ว​เปีย​น.​..แค่​ซื้อ​ตำรา​ลับ​เวท​กระบี่​เล่ม​สอง​เล่ม​มาจาก​พวกเขา​ก็ได้​แล้ว​

ทุกวันนี้​ผู้คุม​กฎ​ฉางมิ่งควบ​ตำแหน่ง​ผู้ดูแล​ใหญ่​ของ​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ด้วย​ หลังจากที่​ชุยตง​ซาน​รับหน้าที่​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ ใน​จดหมาย​ลับ​ที่​ส่งมายัง​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ก็​เขียน​ระบุ​ไว้​ชัดเจน​ว่า​อาจารย์​ต้อง​ตอบ​ตกลง​กับ​เรื่อง​นี้​ ต่อให้​ผู้คุม​กฎ​ฉางมิ่งจะไม่ใคร่​ยินดี​ก็​ต้อง​รบกวน​ให้​อาจารย์​ช่วย​โน้มน้าว​นาง​ให้ได้​

ส่วน​สาเหตุ​ก็​เห็นได้ชัด​เจน​แล้ว​ เพราะ​ผู้คุม​กฎ​ของ​สำนัก​ท่าน​นี้​ก็​คือ​อ่าง​รวม​สมบัติ​นั่นเอง​

เนื่องจาก​การแบ่งส่วน​แบ่ง​ของ​เรือ​เฟิงยวน​ลำ​นี้​ สำนัก​เบื้องบน​และ​สำนัก​เบื้องล่าง​แบ่ง​เป็น​เจ็ด​ต่อ​สาม

ดังนั้น​เรื่อง​อย่าง​การ​ขุด​มุมกำแพง​ เจ้าสำนัก​เบื้องล่าง​อย่าง​ชุยตง​ซาน​ก็​เรียก​ได้​ว่า​ไม่เก็บ​ออม​แรง​เอาไว้​เลย​จริงๆ​

ชุยตง​ซาน​อยาก​จะแบ่ง​หก​ต่อ​สี่ แน่นอน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ตอบ​ตกลง​ ลูกศิษย์​คน​นี้​คิด​ถึงเงิน​จน​เป็นบ้า​ไป​แล้ว​หรือ​ไร​

นอกจากนี้​ยังมี​เจี่ยเฉิง​เถ้าแก่​ร้าน​ฉ่าว​โถวต​รอก​ฉีหลง​และ​เฉินห​ลิง​จวิน​ที่​แค่​มาร่วมวง​ความ​ครึกครื้น​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​

ผู้ดูแล​อันดับ​รอง​ของ​เรือข้ามฟาก​ลำ​นี้​ก็​คือ​นักพรต​เฒ่าตาบอด​เจี่ยเฉิง​ เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ขอบเขต​ประตู​มังกร​ท่าน​นี้​ ในอนาคต​จะต้อง​รับผิดชอบ​เรื่อง​การสาน​สัมพันธ์​กับ​ท่าเรือ​แต่ละ​แห่ง​ที่​เรือข้ามฟาก​ผ่าน​ทาง​ รวมไปถึง​พรรค​ตระกูล​เซียน​ทั้งหลาย​ การไปมาหาสู่​ระหว่าง​ผู้คน​คือ​ความรู้​ใหญ่​วิชา​หนึ่ง​

บน​ภูเขา​มีสี่ผี​ใหญ่​ตอแย​ยาก​ซึ่งรวม​ผู้ฝึก​กระบี่​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ แต่​ตาม​ความเห็น​ของ​เจี่ยเฉิง​แล้ว​ยังมี​คน​อีก​สอง​ประเภท​ที่​คบค้าสมาคม​ด้วย​ได้​ยาก​ที่สุด​ เพราะ​ยาก​มาก​ที่จะ​อยู่​ร่วมกับ​พวกเขา​ได้​นาน​โดย​ไร้​ความเบื่อหน่าย​ หนึ่ง​คือ​ปัญญาชน​ของ​สถานที่​เล็ก​ๆ นอกจากนี้​ก็​คือ​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​ที่อยู่​กึ่งกลาง​ภูเขา​

โชคดี​ที่​เจี่ยเฉิง​คิด​ว่า​ตัวเอง​พอ​จะมีประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​อยู่​บ้าง​

ตอนนั้น​เจ้าขุนเขา​มาเยือน​ตรอก​ฉีหลง​ด้วยตัวเอง​ แล้ว​เป็น​ฝ่าย​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​เขา​ที่​เป็นตัวแทน​เถ้าแก่​มานาน​หลาย​ปี​

เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ตื่นเต้น​จน​แทบ​มิอาจ​ควบคุม​ตัวเอง​ได้​ ได้​แต่​พึมพำ​ซ้ำๆ ด้วย​ประโยค​ว่า​ ‘ข้า​มีความสามารถ​ใด​ถึงได้​คู่ควร​กับ​ตำแหน่ง​นี้​’

แม้จะพูด​เช่นนี้​ แต่​ใน​เมื่อ​เป็น​ความต้องการ​ของ​เจ้าขุนเขา​ เห็นดี​ใน​กระดูก​แก่ๆ​ อย่าง​ตน​ ยัง​จะทำ​อย่างไร​ได้​อีก​เล่า​ ม้าแก่​แต่​กาย​ใจหมาย​พัน​ลี้​ ภาระ​หนักหน่วง​ใหญ่​เทียมฟ้า​หล่น​ลงมา​บน​บ่า​ มิอาจ​ผลัก​ภาระหน้าที่​ได้​ ก็ได้​แต่​ทุ่ม​สุด​ชีวิต​เท่านั้น​

ก่อนหน้านี้​ชุยตง​ซาน​เคย​พูด​กระทบกระเทียบ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ เขา​จึงถอด​ชุด​คลุม​เต๋า​ที่​สะดุดตา​ออก​ไป​ ใน​เมื่อ​ทุกวันนี้​สถานะ​มีการเปลี่ยนแปลง​ ได้​เลื่อนตำแหน่ง​แล้ว​ จะปล่อย​ให้​เซียน​ซือ​ของ​แต่ละ​ฝ่าย​ดูแคลน​ภูเขา​บ้าน​ตน​ก็​คง​ไม่ได้​ เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​จึงเอา​ชุด​คลุม​เต๋า​ที่เก็บ​ไว้​ก้น​กรุ​ซึ่งไม่ได้​เอา​มาสวม​บน​ร่าง​นาน​มาก​แล้ว​ตัว​นั้น​ออกมา​ อาบน้ำ​ผลัดเปลี่ยน​เสื้อผ้า​ สีหน้าท่าทาง​สดชื่น​ปลอดโปร่ง​ ยิ่ง​มีกลิ่นอาย​ของ​เซียน​มากกว่า​เดิม​

เซียน​เว่ย​ไม่ยอม​ย้าย​ไป​ไหน​ บอ​กว่า​ให้​ข้า​ได้​พัก​หาย​ใจหาย​คอ​ก่อน​

เดิน​ขึ้นไป​บน​ดาดฟ้า​เรือ​ เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​ตรง​หัว​เรือ​ โบกมือ​ให้​กับ​กลุ่มคน​ที่มา​ส่งตรง​ท่าเรือ​

ก่อนหน้านี้​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ถามป๋า​ย​เสวียน​แล้ว​ว่า​ยินดี​จะติดตาม​เสี่ยว​โม่ฝึก​กระบี่​หรือไม่​ รากฐาน​มหา​มรรคา​ ตบะ​ขอบเขต​ของ​เสี่ยว​โม่ เขา​ล้วน​บอก​ให้​เด็กชาย​ฟังตามตรง​

ป๋า​ย​เสวียน​ส่ายหน้า​ปฏิเสธ​ บอก​ว่าไม่ได้​เกี่ยวกับ​ที่​เสี่ยว​โม่มีชาติกำเนิด​จาก​เผ่า​ปีศาจ​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ตลอด​หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​ก็​นอนหลับ​อยู่​ตลอด​ ไม่มีความแค้น​ใดๆ​ กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เขา​ก็​แค่​ยัง​ไม่อยาก​มีอาจารย์​

มีประโยค​หนึ่ง​ที่​เด็กชาย​ไม่ได้​พูด​ออกจาก​ปาก​

เขา​มีอาจารย์​อยู่แล้ว​

ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เด็กชาย​ บอ​กว่า​ถ้าอย่างนั้น​ก็​ไม่ฝืนใจ​เจ้าแล้ว​ วันหน้า​ก็​ตั้งใจ​ฝึก​กระบี่​ให้​มาก​หน่อย​ อย่า​เอาแต่​พูด​อย่าง​เดียว​ มิอาจ​ย่ำยี​พรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​กระบี่​ให้​สิ้นเปลือง​ไป​ได้​ อย่า​ให้​อาจารย์​ของ​เจ้าต้อง​ผิดหวัง​

และ​ยังมี​อาจารย์​และ​ศิษย์​อีก​คู่​หนึ่ง​ที่​ถูก​บันทึก​ลง​บน​ทำเนียบ​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​ ซึ่งเป็น​คู่​ที่​ค่อนข้าง​รื่นเริง​ยินดี​

เหยา​เสี่ยว​เหยียน​ ฮ่าๆๆ เด็กชาย​ผม​ขาว​ หึหึ​หึ​

อาจารย์​และ​ศิษย์​รับ​กันและกัน​ ไม่มีเหตุการณ์​พลิกผัน​หักมุม​อะไร​ ตอนนั้น​ภาพ​เหตุการณ์​ก็​ประมาณ​นี้​

จางเจีย​เจิน​ที่​ติดตาม​เหวย​เห​วิน​หลง​ดีดลูกคิด​อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มานาน​หลาย​ปี​ หลังจาก​วันนี้​จะมาฝึก​ประสบการณ์​อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​ เฟิงยวน​ได้​จัดเตรียม​ห้อง​บัญชี​ไว้​ให้​เขา​โดยเฉพาะ​ห้อง​หนึ่ง​แล้ว​

และ​นี่​ยัง​เป็น​ความต้องการ​ของ​ชุยตง​ซาน​ด้วย​

ส่วน​เจี่ยงชวี่​ที่​เป็น​ทั้ง​คนบ้านเดียวกัน​และ​เป็น​ทั้งคน​วัย​เดียวกัน​ กำลัง​เริ่ม​ฝึก​ตน​อยู่​ที่​ภูเขา​ฮุย​เห​มิงอย่าง​เป็นทางการ​ ตอนนี้​เจี่ยงชวี่​ยัง​ไม่มีอาจารย์​ผู้​ถ่ายทอดวิชา​ที่​ชัดเจน​ เขา​ถือว่า​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​สาย​ยันต์​จริง​แท้​แน่นอน​เพียง​หนึ่งเดียว​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เจี่ยงชวี่​มักจะ​ส่งกระบี่​บิน​ไป​สอบถาม​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​นคร​เหนือ​เมฆอย่าง​หวน​อวิ๋นเจิน​เห​ริน​ ขอ​ความ​รู้เรื่อง​ยันต์​เป็นประจำ​ นอกจากนี้​ตอนที่​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​หวนคืน​สู่บ้านเกิด​ยัง​ได้​มอบ​ตำรา​ลับ​วิชา​ยันต์​ที่​คัดลอก​เอง​กับ​มือ​ให้​เขา​อีก​หนึ่ง​เล่ม​ บน​ปก​ใน​เขียน​ด้วย​ตัวอักษร​แบบ​บรรจง​เป็น​คำ​ว่า​ ‘มหัศจรรย์​ที่​แท้จริง​ตำรา​สีชาด​’ ตรง​ช่วง​ท้าย​ยังมี​ตัวอักษร​ที่​เล็ก​ยิ่งกว่า​เขียน​คำ​ว่า​ ‘บน’​ ระบุ​ไว้​

จางซาน​เฟิงไม่ได้​ติดตาม​เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​เรือ​ไป​ที่​ใบ​ถงทวีป​ เขา​คิด​ว่า​จะอยู่​เที่ยว​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​เพียงลำพัง​ก่อน​ จะกำจัด​ปีศาจ​ปราบ​มาร​ไป​ตลอดทาง​ สรุป​ก็​คือ​จะไม่ให้​ถ่วง​การ​ไป​เข้าร่วม​งานพิธี​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อย่าง​แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​ไม่ขัดขวาง​ ถึงอย่างไร​ศิษย์​พี่​ของ​จางซาน​เฟิงก็​เป็นหนึ่ง​ใน​เค่อ​ชิงของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อยู่แล้ว​ อันที่จริง​หยวน​ห​ลิง​เตี้ย​น​แห่ง​ยอดเขา​จื่อ​เสวียน​คอย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​ศิษย์​น้อง​อยู่​ลับ​ๆ ตลอดทาง​ ก่อนหน้านี้​ตอน​ที่อยู่​ใน​เขตการปกครอง​ชิงหยวน​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​รู้เรื่อง​นี้​แล้ว​ แล้ว​ยัง​ได้​ไป​ดื่มเหล้า​กับ​หยวน​ห​ลิง​เตี้ย​น​มาแล้วด้วย​ พูดคุย​กัน​แล้ว​ถึงได้​รู้​ว่า​เจินจ​วิน​ท่าน​นี้​มีโอกาส​ใน​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ แค่​พา​จางซาน​เฟิงกลับ​บ้านเกิด​ด้วยกัน​ หยวน​ห​ลิง​เตี้ย​น​ก็​จะปิด​ด่าน​เตรียม​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​เลื่อน​เป็น​เซียน​เห​ริน​แล้ว​

ระหว่าง​ที่​พูดคุย​ สำหรับ​เรื่อง​ที่​ครั้งนี้​ตัวเอง​แย่ง​หน้าที่​ผู้คุ้มกัน​มาจาก​มือ​ของ​ศิษย์​พี่​หลาย​คน​ได้​ สีหน้า​ของ​หยวน​เจินจ​วิน​เผย​ความภาคภูมิใจ​อย่าง​มาก​

เหนือ​ดาดฟ้า​เรือข้ามฟาก​มีเรือน​แค่​สองชั้น​ มีห้อง​ทั้งหมด​สี่สิบ​กว่า​ห้อง​

ด้าน​ใต้​ดาดฟ้า​กลับ​มีห้อง​อีก​สามชั้น​ เอาไว้​เก็บ​สินค้า​

สมาชิก​บน​เรือข้ามฟาก​ไม่ซับซ้อน​ มีหุ่นเชิด​ยันต์​และ​มัลละ​เกราะ​ทอง​หกสิบ​กว่า​ตน​ที่​ชุยตง​ซาน​สร้าง​ขึ้น​มาอย่าง​พิถีพิถัน​ ถูก​ตั้งชื่อ​โดย​แบ่ง​ออก​เป็น​อวี่กง​ จิน​ซือ​ เทียว​ซาน​กง​ โมอวี๋เอ๋อร์​ ฯลฯ​ เป็น​ชื่อ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​เพิ่ง​เคย​ได้ยิน​เป็นครั้งแรก​ พวกเขา​รับผิดชอบ​การ​ซ่อมบำรุง​ทั่วไป​ รวมไปถึง​การ​ตรวจสอบ​สภาพ​ภูมิศาสตร์​บน​เส้นทาง​การเดินเรือ​อย่าง​ลับ​ๆ ฟังจ้งชิว​เล่า​ว่า​ยันต์​หุ่นเชิด​พวก​นี้​รวมกัน​แล้ว​มีเกือบ​ร้อย​ตน​ ก็​เหมือน​อย่าง​ยันต์​จิน​ซือ​ที่​คล้ายคลึง​กับ​ตี้ซือ​ของ​สำนัก​หยิน​หยาง​ที่​ถูก​ชุยตง​ซาน​โยน​ไป​ไว้​ตาม​ภูเขา​สายน้ำ​บน​แผ่นดิน​ของ​ใบ​ถงทวีป​อย่าง​ง่ายๆ​ เพื่อให้​พวก​มัน​ค้นหา​สมบัติ​จาก​ทั่ว​สารทิศ​

นอกจากนี้​ยังมี​ผี​เซียน​ดิน​อีก​สอง​คน​ที่​เชี่ยวชาญ​เรื่อง​ค่าย​กล​ ล้วน​เป็น​คนแปลกหน้า​ คาด​ว่า​วันหน้า​คงจะ​ถูก​สำนัก​เบื้องล่าง​รับ​เข้าไป​อยู่​ใน​ทำเนียบ​ศาล​บรรพ​จารย์​

เนื่องจาก​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​เป็น​เส้นทาง​การเดินเรือ​ที่​ใช้ทำการค้า​โดยเฉพาะ​ ไม่หาเงิน​เทพ​เซียน​จาก​พวก​ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​ที่​ออก​เที่ยว​ตาม​ขุนเขา​สายน้ำ​ คนนอก​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​ขึ้น​มาบน​เรือ​ ดังนั้น​ห้อง​ว่าง​บน​หอ​เรือน​สองชั้น​ที่​ขอ​แค่​ไม่มีคน​พัก​ ก็​สามารถ​เอา​มาใช้เก็บ​ของ​ได้​เช่นเดียวกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​ตรง​ดิ่งไป​ที่​ห้อง​คุม​เรือ​ อยาก​จะทำความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​การ​โคจร​ของ​เรือ​เฟิงยวน​ให้ได้​โดยเร็ว​ที่สุด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​อยาก​ตรวจสอบ​แกนกลาง​ค่าย​กล​ทั้งหลาย​เหล่านั้น​

จ้งชิว​เดิน​นำทาง​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ ยิ้ม​เอ่ย​อธิบาย​ว่า​ “เรือ​ข้าม​ทวีป​ลำ​หนึ่ง​มีสามเรื่อง​ที่​สำคัญ​ใน​สำคัญ​ ความเร็ว​ใน​การ​ทะยาน​ลม​ ระดับ​ความมั่นคง​ สุดท้าย​ก็​คือ​ทุกครั้งที่​เดินเรือ​กิน​เงิน​ไป​กี่มากน้อย​ หรือ​ก็​คือ​เผาผลาญ​ปราณ​วิญญาณ​ไป​มาก​หรือไม่​มาก​ ทั้ง​สามอย่างนี้​ร้อย​เรียง​ติดต่อกัน​ ไม่ว่า​ขั้นตอน​ใด​ที่​เปราะบาง​ก็​อาจจะ​นำพา​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​และ​การขาดทุน​มาให้ได้​”

ชุย​เหวย​อดทน​แล้ว​อดทน​อีก​ สุดท้าย​ก็​ทนไม่ไหว​ เปิดปาก​เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​จ้ง วิธี​ดำเนินการ​เรือ​ข้าม​ทวีป​ อันที่จริง​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​คุ้นเคย​มาก​มานาน​แล้ว​”

ปี​นั้น​อยู่​ใน​เรือน​ชุน​ฟาน​ภูเขา​ห้อย​หัว​ที่​ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​ ‘โถงสาขา​แยก​’ ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ อิ่น​กวาน​คน​ใหม่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เคย​คบค้าสมาคม​กับ​ผู้ดูแล​เรือ​ข้าม​ทวีป​ไม่น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “นี่​ไม่ค่อย​เหมือนกัน​ ตอนนั้น​ส่วนใหญ่​แล้ว​สัมผัส​กับ​สมุดบัญชี​มากกว่า​ แต่​ความรู้​ที่​เกี่ยวพัน​กับ​ตัว​เรือ​อย่าง​แท้จริง​ ข้า​กลับ​เข้า​ใจน้อย​มาก​ วันนี้​อาจารย์​จ้งยิ่ง​พูด​ละเอียด​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดีมาก​เท่านั้น​”

ความเร็ว​ใน​การเดินเรือ​ จวน​เซียน​และ​สำนัก​ใหญ่​แห่ง​ต่างๆ​ ที่​ได้​ครอบครอง​เรือข้ามฟาก​จะมีวิธีการ​ช่วยเหลือ​แบบ​ต่างๆ​ เป็น​ของ​ตัวเอง​ ก็​เหมือน​อย่าง​เรือข้ามฟาก​ของ​สำนัก​พี​หมา​ที่​มียันต์​มัลละ​กลุ่ม​ใหญ่​ลาก​ดึง​เรือ​อยู่​ท่ามกลาง​ก้อน​เมฆ ประหนึ่ง​คน​ลาก​เรือ​ให้​พุ่ง​ทะยาน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ราว​สาย​ฟ้าแลบ​

จากนั้น​เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เรือ​ข้าม​ทวีป​ที่​ตัว​เรือ​จำเป็นต้อง​แข็งแกร่ง​ทนทาน​ ต้านทาน​ลม​พัด​ฝน​กระหน่ำ​ ฟ้าร้อง​ฟ้าแลบ​ได้​ไหว​ สามารถ​แบกรับ​หายนะ​จาก​ธรรมชาติ​และ​ภัยพิบัติ​จาก​คน​ไว้​ได้​ นี่​จำเป็นต้อง​ใช้การ​สร้าง​และ​แกะสลัก​ตรา​ผนึก​ขุนเขา​สายน้ำ​กับ​ยันต์​ค่าย​กล​จำนวนมาก​ ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​พา​เด็ก​ทั้ง​เก้า​ออก​มาจาก​ถ้ำแห่ง​โชควาสนา​บน​เกาะ​หลูฮ​วา​ ก่อน​จะเจอ​กับ​เซียน​หญิง​ชงเชี่ยน​ ก็ได้​เจอ​เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ที่​มุ่งตรง​ไป​ยัง​ใบ​ถงทวีป​บน​มหาสมุทร​ไกลๆ​ รอบ​เรือ​ลำ​นั้น​มีชุด​สีสัน​สดใส​พลิ้ว​ไสว​ ชายกระโปรง​ปลิว​สะบัด​ ประหนึ่ง​กลุ่ม​นางฟ้า​เริงระบำ​ นั่น​ก็​เพราะ​มียอด​ฝีมือ​สาย​ยันต์​วาดรูป​ธิดา​มังกร​ เซียน​วารี​ไว้​บน​ผนัง​ของ​เรือข้ามฟาก​

ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ เรือข้ามฟาก​ตระกูล​เซียน​จะสามารถ​ต้าน​รับ​การ​โจมตี​อย่าง​เต็มกำลัง​ของ​เซียน​กระบี่​เซียน​ดิน​หรือ​หยก​ดิบ​คน​หนึ่ง​ได้​หรือไม่​ ก็​คือ​ธรณีประตู​สองชั้น​ คือ​หินฝนทอง​

นอกจากนี้​เรื่อง​ที่​เรือข้ามฟาก​กิน​เงิน​เผาผลาญ​ปราณ​วิญญาณ​ก็​มีข้อ​พิถีพิถัน​อย่าง​มาก​ ก็​เหมือน​อย่าง​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ของ​นคร​มังกร​เฒ่าที่​แม้ความเร็ว​จะช้า แต่​ก็​ได้รับ​เงื่อนไข​ที่​พิเศษ​ใน​ด้าน​นี้​ เพราะ​มีกุ้ยฮู​หยิน​นั่ง​บัญชา​การณ์​ ตรง​ใจกลาง​ของ​เกาะ​มีต้น​กุ้ย​เผ่า​พันธ์​ตำหนัก​ดวงจันทร์​ที่แท้​จริงอยู่​ต้น​หนึ่ง​ สามารถ​มอง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ที่​บรรลุ​มรรคา​คน​หนึ่ง​ได้​ สามารถ​ดูดดึง​เอา​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​มาได้​ด้วยตัวเอง​ นี่​จึงเป็น​เหตุ​ว่า​แม้เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ที่อยู่​บน​มหาสมุทร​จะมีความเร็ว​ไม่มาก​นัก​ แต่​ก็​เผาผลาญ​ปราณ​วิญญาณ​ไป​น้อย​มาก​

ย้อน​กลับมา​มอง​เรือ​ข้าม​ทวีป​ที่​งมออก​มาจาก​คลังสมบัติ​ลับ​ของ​ราชวงศ์​เสวียน​มี่ลำ​นี้​ ความเร็ว​ใน​การเดินเรือ​เร็ว​มาก​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ผิด​ต่อ​ชื่อ​ ‘เฟิงยวน​’ (ว่าว​) แล้ว​ แต่​แกนกลาง​ค่าย​กล​ที่​ใช้ใน​การป้องกัน​สอง​แห่ง​ถูก​ทำลาย​ไป​นาน​แล้ว​ ดังนั้น​ชุยตง​ซาน​จึงได้​แต่​ลงมือ​ด้วยตัวเอง​ ฝังเลื่อม​ยันต์​ม่วง​ทอง​ลง​ไป​ไม่น้อย​ รากฐาน​เวท​คาถา​นี้​ของ​เขา​เลียนแบบ​มาจาก​ยันต์​ชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​บน​ประตู​ใหญ่​ของ​จวน​เทียน​ซือ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ที่​ถูก​ปลุกเสก​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ค่าย​กล​ป้องกัน​ของ​เฟิงยวน​ ทุกวันนี้​ยังมี​เพียง​เค้าโครง​เท่านั้น​ เพียงแต่ว่า​การกระทำ​เช่นนี้​ ข้อได้เปรียบ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ก็​คล้ายคลึง​กับ​การ​ทับซ้อน​ของ​ค่าย​กล​ที่​ ‘ขอบเขต​ไร้​ที่​สิ้นสุด​’

เมื่อ​ครู่​ฟังจ้งชิว​เล่า​ว่า​ ชุยตง​ซาน​ได้​ลงมือ​วาดภาพ​ค่าย​กล​ต่อเนื่อง​เอาไว้​แล้ว​ และ​ยัง​จะเปลี่ยนแปลง​เรือ​เฟิงยวน​ให้​เป็น​เรือ​กระบี่​ที่​คล้ายคลึง​กับ​ของ​กองทัพ​ต้า​หลี​ด้วย​

นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ภายใน​เวลา​ร้อย​ปี​ ชุยตง​ซาน​ต้องการ​สร้าง​เรือข้ามฟาก​ล้ำ​นี้​ให้​คล้าย​สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​บน​ภูเขา​ที่​เคลื่อนย้าย​ไป​ได้​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​

และ​การทุ่มเท​ยันต์​ล้ำค่า​และ​สมบัติ​วิเศษ​แห่ง​ฟ้าดิน​เหล่านี้​ ชุยตง​ซาน​กลับ​ไม่เคย​ขอ​จาก​คลังสมบัติ​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แม้แต่​เหรียญ​เกล็ด​หิมะ​เดียว​

มีเพียง​ใน​เรื่อง​ของ​การเผาผลาญ​ปราณ​วิญญาณ​นี้​เท่านั้น​ที่​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​เหนือกว่า​มาตรฐาน​ทั่วไป​ของ​เรือ​ข้าม​ทวีป​ ตอนนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​สงสัย​ว่า​อวี้​พ่าน​สุ่ย​จงใจรอ​ดู​เรื่องตลก​ของ​ตน​หรือไม่​

เฉิน​ผิง​อัน​ติดตาม​จ้งชิว​ดู​ห้อง​สามชั้น​และ​แกนกลาง​ค่าย​กล​สอง​แห่ง​ใน​นั้น​จน​ครบถ้วน​ไม่มีที่ใด​ตกหล่น​

มายัง​ห้อง​แห่ง​หนึ่ง​ที่​กว้างขวาง​ ด้านใน​มีภาพ​แผนที่​บน​ภูเขา​ที่​ครอบคลุม​ถึงเส้นทาง​การเดินเรือ​ของ​สามทวีป​ ภูเขา​สูงต่ำ​ที่​เรือข้ามฟาก​ต้อง​แล่น​ผ่าน​ไป​ สายน้ำ​คดเคี้ยว​ ภูเขา​จวน​เซียน​น้อย​ใหญ่​ล้วน​เห็น​ชัดเจน​เพียงแค่​มอง​

เส้นทาง​การเดินเรือ​ข้าม​ทวีป​ของ​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​หลัก​ๆ แล้ว​ถือว่า​อยู่​ใน​แนว​เส้น​ใต้​เหนือ​ พื้นดิน​ของ​สามทวีป​ ท่าเรือ​ทาง​ทิศเหนือ​สุด​คือ​ของ​ราชวงศ์​ต้า​หยวน​ที่​ตั้งอยู่​ภาค​กลาง​ลำน้ำ​จี๋ตู๋​ของ​อุตรกุรุทวีป​ นอกจากนี้​ยังมี​นคร​เหนือ​เมฆ ชายหาด​โครงกระดูก​ หลังจาก​ข้าม​มหาสมุทร​แล้วก็​คือ​ท่าเรือ​เหิงเหลียง​ที่อยู่​ทางเหนือ​สุด​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ตำหนัก​ฉางชุน​ที่​ตั้งอยู่​ชาน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ภูเขา​หนิ​วเจี่ยว​บ้าน​ตน​ ขุนเขา​กลาง​ ขุนเขา​ใต้​ นคร​มังกร​เฒ่า ทาง​ฝั่งของ​ใบ​ถงทวีป​ก็​มีตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​ ราชวงศ์​ต้า​เฉวียน​ใน​ภาค​กลาง​ ขยับ​ไป​ทางใต้​อีก​ก็​เป็น​สำนัก​กุย​หยก​ รวมไปถึง​ท่าเรือ​ชวี​ซาน​ทางทิศใต้​สุด​ของ​ทวีป​…สิ่งเหล่านี้​ล้วน​ยัง​เป็น​แค่​ท่าเรือ​บน​ภูเขา​ที่​ค่อนข้างจะ​สำคัญ​ ตาม​พิกัด​ที่​ระบุ​ไว้​บน​แผนที่​แผ่น​นี้​ ในอนาคต​หา​กรวม​ท่าเรือ​บน​ภูเขา​เข้าด้วยกัน​จะมีมาก​ถึงสิบ​เจ็ด​แห่ง​ แต่​ทุกวันนี้​ท่าเรือ​เกือบ​ครึ่งหนึ่ง​หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ขนาดเล็ก​เกินไป​ก็​เพราะ​เสื่อมโทรม​ไม่เหลือ​สภาพ​ดี​ ยัง​ไม่เหมาะ​ที่จะ​ให้​เรือ​เฟิงยวน​จอด​เทียบท่า​ทำการค้า​ชั่วคราว​

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​นิ้ว​ออกมา​สอง​นิ้ว​ ประคอง​ภูเขา​จิ๋ว​มายา​ที่​มีชื่อว่า​ภูเขา​ไฉ่จือบน​แผนที่​ขึ้น​มาเบา​ๆ เดิมที​มัน​มีขนาดเล็ก​เท่า​เมล็ด​งา แต่​ทันใดนั้น​พื้นฐาน​ของ​ภูเขา​ทายาท​มหา​บรรพต​ทักษิณ​ลูก​นี้​กลับ​ใหญ่​เท่า​โต๊ะ​ตัว​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​เพ่ง​สายตา​มอง​อยู่​ชั่วขณะ​ ทั้ง​เส้นทาง​เทพ​ ศาล​ หอ​เก๋ง​ ศาลา​ที่อยู่​บน​ภูเขา​ล้วน​ปรากฏ​ชัดเจน​ เอา​มือ​กด​ลง​กลางอากาศ​เบา​ๆ หนึ่ง​ครั้ง​ ภูเขา​ไฉ่จือ​ก็​พลัน​กลับคืน​มามีสภาพเดิม​ โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​เบา​ๆ ภูเขา​ไฉ่จือ​ก็​เหมือน​ลูก​แสงที่​ถูก​ปัด​ออก​ไปนอก​แผนที่​ ไป​ลอย​อยู่​ติด​ผนัง​ เฉิน​ผิง​อัน​กวักมือ​อีกครั้ง​ ภูเขา​ไฉ่จือ​กลับคืน​สู่ตำแหน่ง​เดิม​ กำหมัด​แล้ว​พลัน​กาง​ออก​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เหมือน​เข้าไป​อยู่​ใน​ศาลา​ลม​ริม​หน้าผา​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ภูเขา​ไฉ่จือ​ ด้าน​ข้าง​มีต้นสน​ที่​หยั่งราก​อยู่​ระหว่าง​ร่อง​หิน​หน้าผาก​ กิ่ง​ตะปุ่มตะป่ำ​ทอด​ขวาง​ไป​ถึงกึ่งกลาง​หลังคา​ของ​ศาลา​ ประหนึ่ง​ปัญญาชน​ที่​วาด​ขนคิ้ว​เข้ม​ให้​กับ​สาวงาม​ เมื่อ​มีแสงอาทิตย์​สาดส่อง​ลงมา​ก็​จะลอด​ทะลุ​กิ่ง​ใบ​ต้นสน​โบราณ​ ใน​ศาลา​ก็​เหมือน​ปู​แผ่​เต็มไปด้วย​เกล็ดปลา​สีทอง​ระยิบระยับ​

กระบี่จงมา

กระบี่จงมา

Score 10
Status: Completed

อ่านนิยาย กระบี่จงมา 1 – 400 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์  ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์  หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า  แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก
เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “

เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา

เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม

และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง

ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้

–ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Options

not work with dark mode
Reset