กระบี่จงมา 890.8 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์

ตอนที่ 890.8 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์

แม้จะบอ​กว่า​ทุกวันนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​มีชีวิต​ที่​ไม่เลว​แน่นอน​ สามารถ​ร่วมมือ​ทำการค้า​กับ​ซาน​จวิน​ขุนเขา​เหนือ​ได้​แล้ว​ ท่าเรือ​หนิ​วเจี่ยว​ที่​เงินทอง​ไหล​มาเท​มาแห่ง​นั้น​ ได้ยิน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ได้รับ​ส่วนแบ่ง​ด้วย​

แต่​ใน​วงการ​ขุนเขา​สายน้ำ​มีข้อห้าม​มากมาย​ ข้อ​พิถีพิถัน​เยอะ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ท่าน​นั้น​ หาก​อิง​ตาม​ทำเนียบ​หยก​ทอง​ที่​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ใน​อดีต​ป่าวประกาศ​แก่​ทั้ง​ทวีป​ก็​เป็น​ถึงขั้น​สี่ชั้น​โท​ ถือว่า​สูงมาก​แล้ว​

แล้ว​ก็เพราะว่า​อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​ถึงไม่สะดุดตา​มาก​นัก​ ไม่อย่างนั้น​หาก​เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​วงการ​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​ นั่น​ก็​เท่ากับ​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​พื้นที่​ศักดินา​คน​หนึ่ง​ได้​เลย​

บุรุษ​ยังคง​ยืนกราน​ใน​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ “แค่​ส่งข่าว​ไป​แจ้งจวน​วารี​ก็​พอ​ ข้า​จะรอ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​อยู่​ที่นี่​”

สตรี​ออกเรือน​แล้ว​รู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

ดูเหมือนว่า​เมื่อก่อน​เด็กหนุ่ม​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​จะไม่ได้​เป็น​เช่นนี้​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่สะดวก​จะอธิบาย​อะไร​มาก​ หาก​ตน​ตรง​ไป​ที่​จวน​วารี​ นาง​ที่​เป็น​คน​เฝ้าศาล​ก็​เท่ากับ​เสียเปล่า​แล้ว​

แต่​หาก​ให้​นาง​ส่งกระบี่​บิน​ไป​แจ้งข่าว​ เย่​ชิงจู๋ก็​ต้อง​เห็นแก่หน้า​นาง​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ผู้​นี้​จึงจะรู้สึก​ว่าการ​ที่​ให้​เจ้ามาเป็น​คน​เฝ้าศาล​ไม่ได้​เสียเปล่า​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่งลง​บน​ขั้นบันได​นอก​ประตู​ของ​ศาล​เทพ​วารี​

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ ไหล่ลู่​คอตก​ ซึมกะทือ​ไร้​ชีวิตชีวา​

รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​สร้าง​ปัญหา​ให้​เจ้าขุนเขา​คนดี​อีกแล้ว​

อันที่จริง​แรกเริ่ม​นาง​ก็​แค่​อยาก​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​เมือง​หง​จู๋เท่านั้น​ จากนั้น​ก็​กลับบ้าน​กัน​ได้​แล้ว​

แต่​เจ้าขุนเขา​คนดี​กลับ​เอาแต่​ส่ายหน้า​ไม่ยอม​ตอบ​ตกลง​ จะให้​นาง​กอด​ขา​ไม่ยอมให้​เขา​เดิน​เหมือน​อย่าง​ปี​นั้น​ก็​คง​ไม่ได้​กระมัง​ อาจารย์​เสี่ยว​โม่ก็​อยู่​ข้างๆ​ ด้วย​นะ​

เสี่ยว​โม่ไม่ได้​นั่งลง​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​ แต่​นั่ง​อยู่​ด้าน​ขวา​สุด​

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​หมี่​ลี่​น้อย​จึงนั่ง​อยู่​ตรงกลาง​

บน​ผิวน้ำ​มีไอ​น้ำ​ลอย​กรุ่น​ขึ้น​มา เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​เย่​ชิงจู๋มาที่​ศาล​บ้าน​ตัวเอง​เพียงลำพัง​ นาง​หน้าซีด​ขาว​เล็กน้อย​ มิอาจ​ปกปิด​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ได้​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​นาง​เห็น​ว่าที่​หน้า​ประตู​ศาล​บ้าน​ตัวเอง​มีบุรุษ​ชุด​เขียว​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ ก็​ยิ่ง​เสียวสันหลัง​วาบ​

เย่​ชิงจู๋ยิ้ม​อย่าง​ฝืด​ฝืน​ เอ่ย​กับ​สตรี​คน​เฝ้าศาล​ว่า​ “เจ้ากลับ​ไป​ก่อน​เถอะ​ ข้า​จะคุย​ธุระ​กับ​อาจารย์​เฉิน”​

สตรี​คน​เฝ้าศาล​มึนงง​ จะพูดคุย​กัน​ ทำไม​ถึงเข้าไป​คุย​กัน​ใน​ศาล​ไม่ได้​? ไม่ต้อง​พิถีพิถัน​เรื่อง​วิถี​ของ​การ​รับรอง​แขก​บ้าง​เลย​หรือ​? ตน​จะได้​เตรียม​ผลไม้​และ​สุรามา​ให้​

เพียงแต่​นาง​หรือ​จะกล้า​ทักท้วง​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ จึงเดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​ศาล​ หลังจาก​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​ไป​แล้ว​นาง​ก็​แอบ​หันไป​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​คน​ชุด​เขียว​ผู้​นั้น​

สตรี​พลัน​รู้สึก​ผิดหวัง​อีก​เล็กน้อย​

หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ บางครั้ง​นาง​ก็​คิด​ว่า​หาก​วันใด​ได้​กลับมา​พบ​เจอ​กับ​เด็กหนุ่ม​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​อดีต​อีกครั้ง​ อีก​ฝ่าย​จะรู้สึก​…เสียดาย​บ้าง​หรือไม่​นะ​?

เพียงแต่​ความคิด​เล็กๆ น้อยๆ​ นี้​ของ​นาง​แค่​บัง​เกิดขึ้น​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​ก็​หล่น​ร่วง​กลับ​ลง​ไป​ดังเดิม​ ถึงท้ายที่สุด​ก็​ยังมี​ความกังวล​อยู่​เล็กน้อย​ แต่​ขณะเดียวกัน​ก็​วางใจ​ได้​ด้วย​

คน​วัย​เดียวกัน​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​ปี​นั้น​ คงจะ​เป็น​ดั่ง​คำ​ว่า​คนดี​ต้อง​ได้ดี​ตอบแทน​จริงๆ​ ในที่สุด​ก็​ไม่ต้อง​มีชีวิต​ที่​ยากลำบาก​เช่นนั้น​อีกแล้ว​

เพราะ​ตอนที่​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ยัง​เป็น​เด็กสาว​ที่​ยัง​ไม่แต่งงาน​ ในขณะที่​มารดา​และ​บุตรสาว​สอง​คน​ปะชุน​เสื้อผ้า​ภายใต้​แสงตะเกียง​ก็​เคย​พูดคุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​กัน​ไป​ด้วย​

ล้วน​เป็นเรื่อง​ขี้หมูราขี้หมาแห้ง​ พูด​ไป​พูด​มา ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึงพูด​ไป​ถึงเด็กหนุ่ม​ที่​ไป​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เตาเผา​เสียได้​ เขา​มักจะ​มาช่วย​บ้าน​พวก​นาง​ทำงาน​ใน​นา​บ่อยๆ​ ทุกครั้ง​จะต้อง​เป็น​ฝ่าย​เปิดปาก​พูด​เอง​เสมอ​ หรือไม่​ช่วง​ที่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ทำนา​ เขา​ก็​จะมัก​ ‘บังเอิญ​’ เดินผ่าน​ที่นา​ของ​พวก​นาง​พอดี​ อีก​ทั้ง​พอ​ถึงช่วง​ที่​ต้อง​แย่ง​น้ำ​เข้า​นา​ ไร่นา​ของ​ครอบครัว​นาง​กลับ​ไม่ต้อง​กลัดกลุ้ม​เรื่อง​น้ำ​ ครอบครัว​ทั่วไป​ ตอนกลางคืน​ไป​ที่​ข้าง​คันนา​รอบ​สอง​รอบ​ก็ดี​ว่า​ดีมาก​แล้ว​ แต่กลับ​มีคน​อยู่​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่ได้​เป็น​เช่นนั้น​ เขา​มักจะ​เฝ้าอยู่​ข้าง​คันนา​ตลอด​ทั้งคืน​

การ​ที่​เป็น​เช่นนี้​ ดูเหมือนว่า​ก็​เพียงแค่​เพราะ​มารดา​ของ​เด็กสาว​เคย​ไป​ช่วย​งาน​ขาว​ดำ​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​มาสอง​ครั้ง​เท่านั้น​ อันที่จริง​ใน​เมือง​เล็ก​ เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ที่​ขอ​แค่​ไม่ได้​เป็น​ศัตรู​กัน​ ส่วนใหญ่​อะไร​ที่​ช่วย​ได้​ก็​มักจะ​ช่วยเหลือ​กัน​เสมอ​

มารดา​ของ​นาง​บอ​กว่า​คน​ตระกูล​เฉิน​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ล้วน​เป็น​คนดี​ แล้ว​ยัง​บอก​อี​กว่า​เด็ก​ที่​ดี​ขนาด​นั้น​ไม่ควร​มีชีวิต​ที่​ยากลำบาก​ปาน​นั้น​

การคุย​เล่น​ใน​คืน​นั้น​ ประโยค​สุดท้าย​ที่​ท่าน​แม่เอ่ย​ทำให้​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​จด​จำได้​ขึ้นใจ​ เด็ก​คน​นั้น​ยากลำบาก​เสีย​จน​ไม่เหลือ​ความทุกข์​ใด​ให้​กล้ำกลืน​ได้​อีกแล้ว​ ดังนั้น​เวลา​อยู่​กับ​คนนอก​อย่าง​พวกเรา​ถึงได้​มีรอยยิ้ม​ตลอดเวลา​

เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​มีสุภาษิต​ประโยค​หนึ่ง​บอ​กว่า​ ‘ไม่ฆ่าคน​มีคุณธรรม​’ เป็น​การเอ่ยถึง​คน​คน​หนึ่ง​ที่​มีมารยาท​อย่างยิ่ง​ ไม่เคย​พูด​เรื่อง​ผิด​ถูก​ของ​ใคร​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ มอง​เย่​ชิงจู๋

เย่​ชิงจู๋นึก​อยาก​จะขุด​ดิน​แล้ว​มุด​หนี​ลง​ไป​ยิ่งนัก​ ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​นั่ง​อยู่​ แต่​ตน​กลับ​ยืน​ แบบนี้​จะไม่ดูเหมือน​นาง​เหยียด​ตา​ลง​ต่ำ​มอง​เขา​หรอก​หรือ​? แต่​จะให้​ตน​นั่งลง​บน​พื้น​เลย​ก็​คง​ไม่เข้าท่า​กระมัง​

เงยหน้า​ขึ้น​แทบจะ​เวลา​เดียว​กับ​เสี่ยว​โม่ มอง​ไป​ยัง​ม่าน​ฟ้าเหนือ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ มีแสงกระบี่​เล็ก​บาง​เส้น​หนึ่ง​ร่วง​ลงมา​

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ ไม่รอ​ให้​เขา​พูด​อะไร​ เย่​ชิงจู๋ก็​ก้าว​ถอยหลัง​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ตาม​จิตใต้สำนึก​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่มีอะไร​ คืนนี้​แค่​มาพบ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​เท่านั้น​ เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ก็​ยัง​ไม่เคย​มาเยี่ยม​หา​ นับว่า​ไม่ถูก​หลัก​มารยาท​ วันหน้า​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​พวกเรา​ ข้า​ก็​จะพยายาม​แสดงน้ำใจ​ของ​เจ้าบ้าน​อย่าง​เต็มที่​ เลี้ยง​เหล้า​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​”

เย่​ชิงจู๋อยาก​พูดมาก​ๆ ว่า​ข้า​ไม่ไป​

แต่​นาง​ก็​ยัง​พยักหน้า​รับ​เงียบๆ​

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ได้คิด​จะทำ​อะไร​กับ​นาง​และ​จวน​เทพ​วารี​จริงๆ​

สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​ยัง​ต้อง​ดู​ที่​ความต้องการ​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ และ​ระหว่าง​ที่​เดิน​มายัง​ศาล​เทพ​วารี​แห่ง​นี้​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​ขมวดคิ้ว​อยู่​ตลอด​ อยาก​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​ นี่​ก็​คือ​คำตอบ​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​บอกลา​

เย่​ชิงจู๋รีบ​ยอบ​กาย​คารวะ​ ไม่เพียงแต่​ไม่ตาย​ ยัง​ไม่ถูก​ซ้อม​ด้วย​

ดูท่า​การ​ที่​ตน​แอบ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​ศาล​แห่ง​อื่น​ยัง​พอ​จะมีประโยชน์​อยู่​บ้าง​

ส่วน​เรื่อง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ก็​ง่าย​ยิ่งนัก​ ใช้คาถา​ถ่วงเวลา​!

เสี่ยว​โม่กลั้น​ขำ​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​คน​หนึ่ง​กลาย​มามีสภาพ​เช่นนี้​ได้​ คงจะ​รู้​แล้ว​จริงๆ​ ว่า​รสชาติ​ของ​ความยากลำบาก​นั้น​เป็น​เช่นไร​

ย้อนกลับ​ไป​ทาง​เดิม​ ไป​ยัง​เมือง​หง​จู๋ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พลัน​หัวเราะ​

เป็น​หนิง​เหยา​ที่​พอ​กลับ​ไป​นคร​บิน​ทะยาน​แล้วก็​ถึงกับ​ให้​กวอ​จู๋จิ่ว​มาที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​

เฉิน​ผิง​อัน​ลูบ​ศีรษะ​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ ถามว่า​ “คราว​หน้าที่​เจ้าเฝ้าประตู​แล้ว​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​มาเป็น​แขก​ จะทำ​อย่างไร​?”

หมี่​ลี่​น้อย​สะบัด​แขน​เล็ก​ๆ สอง​ข้าง​ หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ใจกล้า​นัก​ล่ะ​ ต่อให้​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​คนเดียว​ก็​ไม่เป็นไร​ แล้ว​ยัง​จะเชิญให้​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ดื่ม​ชาด้วย​นะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “มีเมล็ด​แตง​รับรอง​แขก​หรือไม่​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ แต่​ก็​หัวเราะ​ร่า​อย่าง​ว่องไว​ “คิด​อะไร​น่ะ​ ข้า​โกรธ​นาน​นะ​ เมล็ด​แตง​สัก​เมล็ด​ก็​ไม่มีให้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “จดจำ​ความแค้น​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?”

หมี่​ลี่​น้อย​กระโดดโลดเต้น​ โคลง​ศีรษะ​ไปมา​ ร้อง​คำราม​หนึ่ง​ที​ ภูต​น้ำ​ใหญ่​แห่ง​ทะเลสาบ​คน​ใบ้​ ข้า​ดุร้าย​มาก​นัก​

ทาง​ฝั่งของ​เรือน​ไม้ไผ่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ มีคน​กลุ่ม​ใหญ่​มาร่วม​ชมความ​ครึกครื้น​ มีเพียง​เผย​เฉียน​ที่​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​ที่สุด​

กวอ​จู๋จิ่ว​เอง​ก็​กะพริบตา​ปริบๆ​ แย่​แล้ว​ ทุกวันนี้​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ตัว​ไม่เตี้ย​แล้ว​

ป๋า​ย​เสวียน​รีบ​ใช้เสียง​ใน​ใจคุย​กับ​เจ้าคน​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​ลูกศิษย์​ของ​อิ่น​กวาน​ทันที​ บอ​กว่า​ขอให้​เจ้ากวอ​จู๋จิ่ว​โปรด​ช่วยเหลือ​ ช่วย​เป็น​คนกลาง​ไกล่เกลี่ย​ระหว่าง​ตน​กับ​เผย​เฉียน​ให้​ที​ ขอ​แค่​ทำสำเร็จ​จะต้อง​มีค่าตอบแทน​ให้​อย่าง​งาม

กวอ​จู๋จิ่ว​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ทันใด​ เรื่อง​เล็กน้อย​

นาง​เขย่ง​ปลายเท้า​ทะยาน​ร่าง​ไป​เบื้องหน้า​ ยื่น​ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​ไป​กลางอากาศ​ เผย​เฉียน​มีสีหน้า​กระอักกระอ่วน​ ยก​ฝ่ามือขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​แข็งทื่อ​ ดังนั้น​ตอนที่​ทั้งสองฝ่าย​สวน​ไหล่​กัน​ไป​จึงตี​ฝ่ามือ​กัน​เบา​ๆ หนึ่ง​ครั้ง​

หลังจาก​เด็กสาว​พลิ้ว​กาย​ลง​ด้านหลัง​ของ​เผย​เฉียน​ก็​หยุด​ยืน​นิ่ง​อยู่กับที่​ หันหลัง​ให้​เผย​เฉียน​ เอ่ย​เสียง​หนัก​จริงจัง​ว่า​ “ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ เห็นแก่หน้า​ข้า​สักครั้ง​ บุญคุณ​ความแค้น​ระหว่าง​ท่าน​กับ​ป๋า​ย​เสวียน​ถือว่า​ให้​แล้วกันไป​ ได้​หรือไม่​?”

เผย​เฉียน​หุบ​ฝ่ามือ​กลับมา​ นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ “ก็ได้​ๆ”

กวอ​จู๋จิ่ว​เดิน​มาหยุด​อยู่​ข้าง​กาย​เผย​เฉียน​แล้ว​เริ่ม​เดิน​วน​รอบกาย​นาง​ สุดท้าย​ยกมือ​ป้อง​ปาก​กระซิบกระซาบ​อยู่​ข้าง​หู​เผย​เฉียน​ “ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ไม่เล็ก​เลย​นะ​”

เผย​เฉียน​กลอกตา​มอง​บน​

ป๋า​ย​เสวียน​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​แล้ว​ว่า​วันหน้า​ตน​จะติดตา​มก​วอ​จู๋จิ่ว​แล้ว​

เผย​เฉียน​อะไร​กัน​…

เห็น​ว่า​เผย​เฉียน​เหล่​ตา​มอง​ตน​ซึ่งเป็น​ท่า​ประจำตัว​ของ​อีก​ฝ่าย​ ป๋า​ย​เสวียน​ก็​รีบ​ทำ​คอ​ย่น​ เงยหน้า​มอง​พระจันทร์​

แม้จะรู้​ว่า​กวอ​จู๋จิ่ว​มาถึงภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ไม่ได้​กลับ​ไป​ทันที​ แต่​ให้​เสี่ยว​โม่พา​หมี่​ลี่​น้อย​กลับ​ไป​ก่อน​ ส่วน​ตัวเอง​เดิน​ไป​ที่​เมือง​เล็ก​เพียงลำพัง​

เดิน​อยู่​ใน​ตรอก​หนี​ผิง​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ไป​หยุด​อยู่​ที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​ แต่​เดิน​ตรง​ไป​ถึงบ้าน​บรรพบุรุษ​ของ​กู้​ช่าน​

เคย​มีหญิงสาว​คน​หนึ่ง​ที่​ยัง​ไม่ใช่สตรี​วัยกลางคน​ ครอบครัว​สามคน​พัก​อยู่​ที่นี่​ หลังจาก​บิดา​มารดา​ของ​นาง​จากไป​ นาง​ก็​แต่งงาน​กับ​คนต่างถิ่น​แซ่กู้​

ดังนั้น​ภายหลัง​บุรุษ​ของ​นาง​ตาย​ไป​ ตัวนาง​กลายเป็น​หญิง​หม้าย​ คน​หลาย​คน​ของ​เมือง​เล็ก​จึงพา​กัน​พูดว่า​ต้องโทษ​ที่​ตัวนาง​เอง​นั่นแหละ​ เพราะ​ถูก​เด็กกำพร้า​ของ​บ้าน​สอง​หลัง​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ทำให้​เดือดร้อน​

ใน​อดีต​เด็ก​คน​นั้น​ทำให้​พ่อ​แม่ตาย​ไป​ติดๆ​ กัน​ นาง​ก็​ควรจะ​รู้​หนัก​เบา​ได้​แล้ว​ แต่กลับ​ยัง​กล้า​ช่วย​อีก​ฝ่าย​จัด​งานศพ​ ถึงขั้น​ที่​ยังอยู่​เฝ้าวิญญาณ​

ภายหลัง​นาง​กับ​บุตรชาย​ใช้ชีวิต​ด้วย​ความยากลำบาก​ก็​มีคน​เริ่ม​พูดจา​ประหลาด​ขึ้น​มาอีก​ บอ​กว่า​คอย​ดูเถอะ​ ไม่ช้าก็เร็ว​แม้แต่​บุตร​โทน​ตระกูล​กู้​ของ​พวก​เจ้าก็​จะต้อง​ถูก​เจ้าคน​แซ่เฉิน​พิฆาต​ให้​ตาย​ไป​ด้วย​ วันหนึ่ง​ต้อง​เกิดเรื่อง​แบบนี้​ขึ้น​แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ถอย​ไป​ข้างหลัง​หนึ่ง​ก้าว​ เอนหลัง​พิง​กำแพง​ มอง​ไป​ยัง​บ้านเก่า​ที่​ทุกวันนี้​ไม่มีคน​อยู่แล้ว​

กลางดึก​ของ​คืนหนึ่ง​ ตอนนั้น​ยัง​ไม่ได้​ไป​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​เตาเผา​มังกร​ เด็กหนุ่ม​ผอมแห้ง​ที่​นอนไม่หลับ​จึงได้ยิน​เสียง​ที่​ดัง​มาจาก​ใน​ตรอก​ทันที​

ภายนอก​คล้าย​จะมีคน​เดิน​ด้วย​ฝีเท้า​เร่งร้อน​ ทั้ง​ยัง​สะดุด​ล้ม​ ต่อมา​ก็​เป็น​เสียง​ร้องไห้​ปาน​จะขาดใจ​ เด็กหนุ่ม​ไม่ทัน​มีเวลา​ได้​สวม​รองเท้าแตะ​ก็​วิ่ง​เท้าเปล่า​ออก​ไป​ทันที​

พอ​ลูบ​ไป​โดน​หน้าผาก​ที่​ร้อน​ลวก​ของ​เด็กชาย​ จากนั้น​จับชีพจร​ ต่อให้​เด็กหนุ่ม​จะรู้​วิชาแพทย์​อย่าง​ตื้นเขิน​ แต่​ก็​ยัง​รู้ดี​ว่า​ท่า​ไม่ดีแล้ว​

เขา​หันไป​บอก​สตรี​วัยกลางคน​ที่​เอาแต่​ร้องไห้​ว่า​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ก่อน​ จากนั้น​รับ​เด็กชาย​มาจาก​มือ​ของ​สตรี​ อุ้ม​เด็กชาย​วิ่ง​ตะบึง​ไป​ตลอดทาง​จน​ไป​ถึงร้าน​ตระกูล​หยาง​

เด็กหนุ่ม​ที่สอง​มือ​กอด​เด็กชาย​ใช้หน้าผาก​เคาะ​ประตู​ของ​ร้าน​ตระกูล​หยาง​เต็มแรง​ กลางดึก​ผู้คน​ย่อม​หลับสนิท​ จึงไม่มีเสียง​ตอบรับ​ เด็กหนุ่ม​ที่​ศีรษะ​เต็มไปด้วย​เม็ด​เหงื่อ​จึงเริ่ม​ใช้เท้า​เตะ​

ในที่สุด​ก็​ทำให้​ผู้เฒ่า​ที่พัก​อยู่​ใน​เรือน​หลัง​สวม​เสื้อคลุม​ออกมา​เปิด​ประตู​ ด่า​แสกหน้า​เด็กหนุ่ม​ที่​เตะ​ประตู​เสียง​ดังสนั่น​ฟ้าว่า​เจ้าเด็ก​พ่อแม่​ไม่สั่งสอน​ รีบ​ไป​เกิด​ใหม่​หรือ​ไร​?

แต่​สุดท้าย​ท่าน​ปู่​หยาง​ก็​ช่วย​เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​เอาไว้​ได้​

ภายหลัง​ได้​รู้จัก​กับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​

กู้​ช่าน​เป็น​เด็ก​ที่​เลือดเย็น​มาตั้งแต่​เด็ก​ เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​ผู้​นี้​เลี้ยงไม่เชื่อง​

ประโยค​นี้​ไม่ใช่คนนอก​ที่​เป็น​คนพูด​ แต่​หลิว​เสี้ยน​หยาง​เป็น​คนพูด​เอง​

ทว่า​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​เอ่ย​ด้วยว่า​ ไม่ว่า​จะอย่างไร​ก็​มีเพียง​เจ้าที่​กู้​ช่าน​ผูกพัน​สำนึก​ใน​บุญคุณ​ด้วย​มาก​ที่สุด​

เฉิน​ผิง​อัน​หลับตา​ลง​

ตอน​เป็น​เด็ก​ ตน​ต้อง​สวม​ชุด​ไว้ทุกข์​สอง​ครั้ง​ ส่งท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่ออกเดินทาง​ ใน​ขบวน​กลุ่มคน​ล้วน​มีเงาร่าง​ของ​หญิงสาว​คน​นั้น​อยู่​เสมอ​

ภายหลัง​ยังมี​การ​เปิด​ประตู​ครั้งนั้น​ของ​นาง​

ไม่ว่า​ภายหลัง​นาง​จะเปลี่ยนไป​เป็น​คน​แบบ​ใด​

ดังนั้น​ต่อให้​ฟ้าถล่ม​ลงมา​

อย่า​คิด​ว่า​จะให้​กู้​ช่าน​มาตาย​อยู่​ตรงหน้า​ข้า​เด็ดขาด​

ข้า​ตาย​ได้​ แต่​กู้​ช่าน​มิอาจ​ตาย​ได้​

ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​สั่นสะเทือน​ กลายร่าง​เป็น​รุ้ง​ยาว​ตรง​ไป​พลิ้ว​กาย​ลง​ใน​เรือน​หลัง​ของ​ร้าน​ตระกูล​หยาง​

เข้าไป​ใน​ห้อง​ที่​ห​ลี่​ไหว​บอก​ บน​โต๊ะ​มีจดหมาย​อยู่​แค่​ฉบับ​เดียว​

เนื้อ​ความใน​จดหมาย​ มีแค่​ประโยค​เดียว​

ชาวบ้าน​ยึด​เรื่อง​กิน​สำคัญ​ที่สุด​ เจ้ากิน​อิ่ม​แล้ว​หรือยัง​?

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบงัน​ เพียงแค่​สอด​จดหมาย​ฉบับ​นี้​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​

บน​โต๊ะ​ยัง​ทิ้ง​กระบอก​ยาสูบ​ใหม่เอี่ยม​อัน​หนึ่ง​และ​ถุงยาสูบ​ไว้​ใบ​หนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะอาศัย​ความทรงจำ​จุด​ยาสูบ​ ผล​คือ​พูด​สูบ​เข้าไป​ก็​สำลัก​หน้าดำหน้าแดง​ ไอ​ไม่หยุด​

ใน​ห้อง​มีควัน​ลอย​ข​โมง

แต่​ไม่มีอะไร​ผิดปกติ​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงแข็งใจ​สูบ​อีกครั้ง​ อารมณ์​พลัน​ขึ้น​ลง​แปรปรวน​ ความทรงจำ​มากมาย​พุ่ง​ผ่าน​ไป​ราวกับ​ขี่ม้า​ชมบุปผา​

ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ พริบตา​นั้น​เสียง​ของ​หยาง​เหล่า​โถว​ถึงกับ​ดัง​ขึ้น​มาใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​

เฉิน​ผิง​อัน​ คน​ทุกคน​ของ​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ที่​ตาย​ไป​อย่าง​อยุติธรรม​ใน​สายตา​เจ้า อันที่จริง​จุดจบ​ล้วน​ดีกัน​ทุกคน​ ไม่เพียงแต่​มีชาติ​นี้​หรือ​ชาติหน้า​ ยัง​ได้รับ​วาสนา​และ​ความโชคดี​เพิ่มเติม​มาด้วย​

เรื่อง​นี้​ชุย​ฉาน​จัดการ​ไว้​ล่วงหน้า​ก่อน​แล้ว​ ทุกคน​เป็น​เหมือนกัน​หมด​โดย​ไม่มีข้อยกเว้น​

คน​เหล่านั้น​ก่อน​ตาย​และ​หลัง​ตาย​ไป​ต่าง​ก็​เคย​พบ​เจอ​และ​เคย​พูดคุย​กับ​ชุย​ฉาน​มาก่อน​ ต่าง​คน​ต่าง​มีสิ่งที่​ต้องการ​ เป็นเหตุให้​สภาพ​การตาย​อย่าง​อนาถ​ของ​บางคน​ก็​คือ​เวท​อำ​พรางตา​ แท้จริง​แล้ว​พวกเขา​ได้รับ​เงินทอง​หรือไม่​ก็​วาสนา​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ไป​ล่วงหน้า​ก่อน​แล้ว​ บางคน​ยินยอม​พร้อม​ตาย​ คิด​เพียง​อยาก​หลุด​พ้นไป​จาก​มหาสมุทร​แห่ง​ความทุกข์ทรมาน​อย่าง​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ให้ได้​ เพื่อ​จะได้​มีชาติ​หน้าที่​สงบสุข​

ชุย​ฉาน​เคย​มาที่นี่​ มาอธิบาย​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​ บอ​กว่า​เขา​ต้องการ​ให้​คน​คน​หนึ่ง​ที่​เดิมที​คิด​ว่า​ถามใจตัวเอง​แล้ว​ไม่ละอาย​ รู้สึก​ผิด​ละอายใจ​อย่าง​ใหญ่หลวง​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ต้องการ​ให้​คน​ผู้​นั้น​มีห่วง​ผูก​คอ​ เพื่อ​ที่ว่าการ​ฝึก​ตน​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​ในอนาคต​จะไม่ถึงขั้น​ยิ่ง​นาน​ก็​ยิ่ง​ไม่เหมือน​มนุษย์​ เพียงแค่​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ไม่เคย​ทำผิด​ต่อ​ฟ้าดิน​ ดังนั้น​เขา​จึงต้อง​การกระแทก​ให้​ใจของ​เจ้าเกิด​เป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​ ให้​เจ้าใช้เวลา​ชั่วชีวิต​เพื่อ​ชดเชย​แก้ไข​อย่าง​ยากลำบาก​ ให้​คน​ฉลาด​ที่​ฉลาดเฉลียว​เกิน​วัย​มาตั้งแต่​เด็ก​อย่าง​เจ้าจำเป็นต้อง​วุ่นวายใจ​กับ​เรื่องไม่เป็นเรื่อง​ ต่อให้​ตอนนี้​เจ้าจะรู้​ความจริง​แล้ว​ แล้ว​อย่างไร​? เจ้าก็​ยัง​ต้อง​พกพา​ความละอายใจ​ที่​ลบเลือน​ไป​ไม่ได้ส่วน​นั้น​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​ชีวิต​อยู่ดี​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​ ใน​มือถือ​กระบอก​ยาสูบ​ นั่งลง​บน​ม้านั่งยาว​ใต้​ชายคา​ ยก​ขา​ไขว่ห้าง​ หรี่ตา​สอง​ข้าง​ลง​ พ่น​ควัน​ข​โมง

ประโยค​สุดท้าย​ของ​หยาง​เหล่า​โถว​คือ​ ความยิ่งใหญ่​แห่ง​มรรคา​มาจาก​ฟ้า ฟ้าไม่เปลี่ยน​ มรรคา​ก็​ไม่เปลี่ยน​ ห่ม​ดาว​สวม​จันทร์​ โลก​มนุษย์​งดงาม​ เดินทาง​ครั้งนี้​ขอให้​ไป​ดี​ สงบสุข​ปลอดภัย​

กระบี่จงมา

กระบี่จงมา

Score 10
Status: Completed

อ่านนิยาย กระบี่จงมา 1 – 400 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์  ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์  หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า  แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก
เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “

เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา

เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม

และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง

ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้

–ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Options

not work with dark mode
Reset