(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 31

ตอนที่ 31

บทส่งท้าย

 

ไกด์ได้เปิดเผยความจริงกับผม  

 

ความจริงเกี่ยวกับตัวผม

 

“คุณ…ผมคิดว่าคุณบอกว่าบริการหลังการขายเสร็จสมบูรณ์แล้วนี่?”

 

“อา..เระ?”

 

ไกด์พูดด้วยน้ำเสียงสับสน

 

ผู้ชายคนนี้ถึงแม้จะดูเหมือนคนไม่ดี แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนขี้อาย

 

ผมไม่คิดว่าเขาจะเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง คอยช่วยเหลือผมด้วยวิธีต่างๆ

 

“เป็นคุณที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด… เป็นคุณที่จัดการสิ่งต่างๆในที่ที่ผมไม่เคยสังเกตใช่ไหม”

 

“ไม่ อืม…อ่อ ก็ใช่ ฉันทำ”

 

ถ้าผมได้รับการดูแลแบบเดียวกับปีเตอร์ ตอนนี้ผมคงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปแล้ว

 

เขาทำเรื่องดีๆเพื่อผมจริงๆ

 

เพราะแบบนั้น เรื่องที่ผมได้พบกับเคิร์ทก็เป็นเพราะเขาด้วย? มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ก็น่าจะเป็นเขาที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนั้น

 

สิ่งดีๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมตอนที่อยู่ในบ้านราเซลคือฝีมือของเขา?

 

“คุณเป็นคนดีจริงๆ”

 

“อะเหื้อ!”

 

ไกด์กำลังกุมหน้าอกของเขา

 

ดูเหมือนเขาต้องการจะพูดอะไร แต่ผมต้องกล่าวขอบคุณเขา

 

“คุณไม่จำเป็นต้องอายเรื่องนี้ คุณเป็นคนที่ทำให้บ้านราเซลกับผมไม่ต้องเชื่อมสัมพันธ์กันใช่ไหม? บ้านหลังนั้นดูเหมือนจะเจอเรื่องเลวร้ายแล้วตอนนี้ยังถูกลดขั้นอีก ด้วยเหตุนั้นถ้าผมเป็นพันธมิตรกับพวกเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากแน่ สำหรับเรื่องนั้น ผมขอขอบคุณสำหรับทุกอย่าง จริงๆ”

 

“…หยุดนะ.”

 

ผมขอบคุณไกด์ที่ดูเหมือนจะตายจากความอับอาย

 

เขาเป็นคนดีจริงๆ

 

“เรื่องบ้านพีตัคที่มีคุณธรรมนั่น คุณก็ต้อนพวกนั้นเข้ามุมเลยใช่ไหม? ผมไม่ชอบบ้านหลังนั้นเลย เรื่องนั้นผมต้องขอบคุณคุณ”

 

เขาเป็นคนที่ทำให้บ้านพีตัคนั้นวุ่นวายเพื่อผมด้วยใช่ไหมล่ะ? ผมรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ ที่กำจัดบ้านที่ยุ่งยากนี่ออกไป

 

“คะ…คุณเข้าใจ ผะ…ผิด”

 

ผมถูจมูกของผมเมื่อเห็นไกด์ที่กำลังสั่นขณะซ่อนใบหน้าของเขาใต้หมวก

 

“สำหรับความเมตตาทั้งหมดที่คุณทำเพื่อผม ผมขอบคุณมาก”

 

ไกด์เริ่มตะโกนด้วยความเขินอายจากการขอบคุณของผม

 

“อ๊าาาาาาาาาาาาาา~~!!!!!”

 

ไกด์หายตัวไปในควันสีดำ

 

ขณะที่ผมประหลาดใจกับภาพนั้น ไบรอันเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

“ท่านเลียม เป็นอะไรไปรึขอรับ”

 

ไกด์คงรู้สึกอายมากจนเขาเริ่มกรีดร้อง ผมอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวให้กับความคิดนั้น… เขาช่างไร้เดียงสาอย่างน่าประหลาดใจ

 

“ไม่เป็นไร…แค่… จู่ๆ ผมก็รู้สึกดีขึ้น…ไม่ต้องบังคับเรื่องทรงผมแล้วล่ะ”

 

ไบรอันรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

 

ผมคิดว่าคงทำเกินไปหน่อยที่จะจริงจังกับทรงผมให้เป็นไปตามที่ผมชอบ

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมยอมยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ ทรงผมก็ลดความนิยมและหายไปในที่สุด

 

พวกเขาแค่ล้อผมเล่นเรอะ?

 

◇ ◇ ◇  

 

ก่อนที่ผมจะเข้าโรงเรียนประถม

 

มีคนจำนวนมากมา มาที่ดินแดนนี้เพื่อที่จะมาพบผมในขณะที่ผมยังอยู่ที่นี่

 

ไนอัสเป็นหนึ่งในนั้น

 

“ท่านเลียม~ ช่วยซื้อยานประจัญบานจากฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

 

เมื่อมองดูไนอัสที่ครั้งนี้สวมชุดเดรส ผมก็ยิ้มเยาะเธอเบาๆ

 

“กลับบ้านไปซะเถอะ สาวน้อยผู้น่าสงสาร”

 

“เย็นชา! ทัศนคติของลอร์ดเลียมที่มีต่อฉันช่างเย็นชาจริงๆ!”

 

ดูเหมือนไนอัสจะดีขึ้นหลังจากขายยานคลาสป้อมปราการให้ผม แต่ตอนนี้เธอกรีดร้องขณะที่คนใช้ของผมดึงเธอออกไป

 

“ท่านเลียม ซื้อยานซักสองร้อยลำก็ยังดี~~~!”

 

มันเป็นเสียงร้องที่ค่อยๆหายไปตามทางเดิน

 

มันเป็นความผิดของเธอเอง ที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของผม

 

ความจริงผมบอกเธอเรื่องรสนิยมของผมก็ได้ แต่มันน่ารำคาญ และผมจะรู้สึกพ่ายแพ้ถ้าทำอย่างนั้น

 

เพราะว่า ตำแหน่งของผมนั้นเหนือกว่า

 

หวังว่าเธอจะเดาถูกในครั้งต่อไป

 

“อามากิ พาแขกคนต่อไปเข้ามา”

 

“ได้ค่ะ นายท่าน”

 

อามากิพาแขกคนต่อไปเข้ามาในห้อง

 

หญิงสาวที่เข้ามาคือตัวแทนโรงงานอาวุธที่สาม ยูลิเซีย

 

คราวนี้เธอสวมชุดที่ค่อนข้างยั่วยวน

 

“ไม่ได้พบกันนานแล้วนะคะท่านลอร์ด”

 

หลังจากที่ผมทักทายกับยูลิเซียเสร็จแล้ว เธอนั่งลงในลักษณะที่เผยให้เห็นด้านในกระโปรงของเธอ ก่อนที่จะทำท่าทางที่เน้นที่หน้าอกของเธอ

 

“วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อแนะนำอาวุธแนวใหม่ที่โรงงานอาวุธที่สามขาย-”

 

เธอเริ่มอธิบายผลิตภัณฑ์ แต่ผมไม่ได้สนใจเลย

 

ประสิทธิภาพการทำงานถ้าเทียบจากรุ่นก่อนไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

 

การออกแบบนั้นยอดเยี่ยม แต่ประสิทธิภาพแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย

 

แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้น ราคาก็สูงขึ้น

 

อัตราส่วนต้นทุนต่อประสิทธิภาพนั้นไม่ผ่าน

 

เมื่อมองดูยูลิเซียที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดใจผม ผมก็ อดคิดไม่ได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าผิดหวังเช่นกัน

 

“ผมไม่อยากซื้ออะไรทั้งนั้น”

 

ขณะที่ผมพูดไป ยูลิเซียก็เริ่มถอดเสื้อคลุมของเธอ

 

ชุดที่ยั่วยวนของเธอตอนนี้ได้เผยผิวมากขึ้นจนเกือบจะเป็นชุดชั้นใน

 

เธอนั่งลงข้างๆผมและเริ่มแนบตัวเข้ามาใกล้ๆ

 

ไม่เหมือนกับไนอัส เธอมีแรงดึงดูดทางเพศมากจริงๆ

 

ไนอัสก็สวยเหมือนกัน แต่เธอไม่ได้เข้าใกล้ระดับทักษะของยูลิเซียเลย

 

“ท่านลอร์ดขา– ถ้าท่านซื้อของบางอย่าง ฉัน..ลูลิเซียคนนี้—”

 

ผมสะบัดมือสะบัดแขนออกจากเธอขณะที่ผมยืนขึ้น

 

คนใช้เริ่มจับเธอ

 

“อะ-! ท่านลอร์ด….?!”

 

“ฉันอุคส่าห์มีความคาดหวังสูงสำหรับคุณ…พาเธอไป”

 

“อ๋า~~~ท่านลอร์ด—!!! ”

 

เธอถูกพาตัวไป ออกจากห้องไปวิธีเดียวกับไนอัส

 

อย่างที่คิด ผู้หญิงจากโรงงานอาวุธนี่น่าผิดหวังจริงๆ

 

ผมคิดว่ามันเป็นความผิดของผมส่วนหนึ่งด้วย…ที่บอกให้โรงงานปล่อยให้พวกเขารับผิดชอบการขายเพราะผมเห็นว่าโรงงานเหล่านี้น่าสนใจ

 

อามากิหันมาหาผม

 

“นายท่าน การนัดหมายทั้งหมดในตอนเช้าเสร็จสิ้นลงแล้วค่ะ”

 

“ช่วงบ่ายมีอีกไหม?”

 

“ค่ะ โทมัสหวังว่าจะได้พบคุณ”

 

“เอจิโกยะของผมอ่ะนะ?”  

 

◇ ◇ ◇

 

ณ ห้องห้องหนึ่งในคฤหาสน์ของเลียม

 

ภายในห้องแต่งตัวที่หรูหรา ยูลิเซียที่สวมชุดชั้นในมีสีหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความหงุดหงิดอยู่หน้ากระจก

 

“…ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้เขาที่เมินฉัน!”

 

ยูลิเซียเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ

 

ผู้ชายหลายคนพยายามจีบเธอในอดีต

 

ในหมู่พวกเขามีแม้กระทั่งขุนนาง

 

อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธพวกเขาทั้งหมดในขณะที่ทำงานอย่างหนัก

 

ด้วยใบหน้าที่เหมือนนักแสดง ร่างกายที่ผู้ชายคนไหนๆก็ปรารถนา และหน้าที่การงานของเธอ เธอพยายามใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดเพื่อวันหนึ่งจะได้ไปเป็นภรรยาของขุนนางผู้ยิ่งใหญ่

 

แม้แต่ตอนนี้ ที่เธอได้รับมอบหมายให้ทำงานในโรงงานอาวุธ เธอก็มีความสุขเพราะสิ่งนี้ทำให้เธอมีโอกาสมากมายที่จะพบกับเหล่าขุนนาง

 

เธอฝึกฝนตัวเองและรักษาความบริสุทธิ์ของเธอไว้ – ทั้งหมดเพื่อดึงดูดสายตาของขุนนางผู้ยิ่งใหญ่

 

เป้าหมายของเธอคือการเป็นอัญมณีที่ทุกคนปรารถนา

 

เธอเชื่อว่าเธอมีคุณสมบัติที่จำเป็นในการทำเช่นนั้น และเธอก็ไม่เสียใจที่ทำแบบนั้น

 

อย่างไรก็ตาม เลียมดูเหมือนจะไม่สนใจเธอเลย

 

ตอนแรกเธอคิดว่าเธอชอบเขา และให้เลียมเป็นหนึ่งในการค้นหาคู่ชีวิตในอุดมคติของเธอ แต่เธอไม่สามารถยกโทษให้เรื่องนี้ได้  

 

“ฉันจะสานความสัมพันธ์กับเขาแล้วก็หักอกเขา! เขาจะร้องไห้และขอการให้อภัยจากฉันในขณะที่ฉันหัวเราะเยาะภาพที่น่าสมเพชของเขา!”

 

แต่เลียมเป็นขุนนางระดับสูง  

 

หากเธอต้องการทิ้งเขา จำเป็นต้องขึ้นสู่ตำแหน่งที่ถือว่าเท่าเทียมกับเขา

 

ดังนั้นเธอจึงสาบานในใจว่าวันหนึ่งเธอจะแก้แค้นเลียม

 

“ถ้าฉันจำไม่ผิด เขากำลังจะไปโรงเรียนประถมในไม่ช้านี้”

 

เมื่อยูลิเซียมองดูตัวเองในกระจก เธออดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นรอยยิ้มอันเย็นเยียบบนใบหน้าของเธอ

 

◇ ◇ ◇

 

หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จ

 

โทมัสก็เข้ามาพบผม

 

“ท่านเลียม เป็นการยากที่จะพบกับท่านเมื่อเร็วๆ นี้”

 

ระยะหลังมีคนมารวมตัวกันอยู่รอบตัวจำนวนมาก ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้

 

ผมคิดว่าพวกเขาส่วนใหญ่เป็นเพียงงูที่พยายามเอาเปรียบผม

 

พวกเขาเป็นพ่อค้าแบบเดี่ยวกับโทมัส แต่ผมมักจะถือผลประโยชน์ของตัวเองเป็นความสำคัญสูงสุด ดังนั้นผมจึงไม่ได้พิจารณาพวกเขา เว้นแต่สิ่งที่พวกเขาเสนอจะให้ผลกำไรแก่ผม

 

“คนส่วนใหญ่ที่มาพบกับผมนั้นไร้ประโยชน์”

 

“แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาจำนวนมากรวมตัวกันเพื่อเจอท่าน เป็นเครื่องพิสูจน์ในตัวของมันเองว่าผู้คนมีความคาดหวังในตัวของคุณสูง ลอร์ดเลียม… โอ้ แต่มาต่อกันที่หัวข้อหลักกันดีกว่า”

 

สิ่งที่โทมัสนำออกมาคือสิ่งของต่างๆสำหรับโรงเรียนประถม

 

“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการสำหรับโรงเรียนประถม”  

 

“มันต่างจากปกติยังไง?”

 

“ท่านเลียม เมื่อมีคนที่ดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกับคุณ มันจะเป็นปัญหาถ้าใช้สินค้าเดียวกับประชาชนทั่วไป โปรดตรวจสอบตราประจำตระกูลที่เราได้ตราไว้บนสิ่งของต่างๆ”

 

แม้ว่าจะเป็นเพียงโรงเรียนประถม แต่ขุนนางประจำจังหวัดสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ก็ต่อเมื่อมาจากบ้านที่มียศบารอนหรือสูงกว่า

 

แต่สำหรับขุนนางในราชสำนัก พวกเขาสามารถเข้าร่วมได้แม้ว่าจะมาจากตระกูลอัศวินก็ตาม

 

ดังนั้นจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนจึงมีจำนวนมาก

 

ดูเหมือนว่าผมต้องการเครื่องมือพิเศษที่แตกต่างจากนักเรียนทั่วไปเพื่อที่พวกเขาจะได้ทราบสถานะของผมไปในตัว

 

“ยุ่งยากชะมัด”

 

“ฉันได้ยินมาว่าที่โรงเรียนประถม คุณจะได้เรียนรู้พื้นฐานของการเป็นขุนนางของจักรวรรดิ ก่อนที่จะเข้าเรียนในชั้นเรียนที่เป็นที่ยอมรับในโรงเรียนการทหารและมหาวิทยาลัย”

 

นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาทั่วไปในโรงเรียนทหารและมหาวิทยาลัย

 

ถ้าคุณไม่ต้องการให้ขุนนางแพ้ให้กับนักเรียนทั่วไป พวกเขาจึงส่งเหล่าขุนนางให้ได้เรียนรู้ในโรงเรียนประถมก่อน

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกขุนนางจะได้รับการศึกษาล่วงหน้าเพื่อตัดสินใจในการเริ่มต้น

 

เป็นเพียงสถานที่เรียนก่อนที่จะเริ่มการศึกษาอย่างจริงจัง

 

“ก็เหมือนไปเที่ยวเล่นแหละน่า ไม่ต้องคิดมาก”

 

“ท่านเลียม มันเป็นแค่ ‘การเที่ยวเล่น’ สำหรับคุณเหรอ? หากเป็นแบบนั้น คุณได้ตัดสินใจเลือกแผนการเรียนของคุณหลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาแล้วหรือยัง?”  

 

หลังจากที่ผมเรียนจบ ผมต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการทหารที่จักรวรรดิยอมรับ

 

ซึ่งจำเป็นและไม่สามารถปฏิเสธได้

 

“มันไม่สำคัญหรอก มันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”

 

“เนื่องจากคุณมีฐานะเจ้าบ้านยศเคานต์ อาจจะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นในขณะที่คุณถูกบังคับให้อยู่ในเมืองหลวงหลังจากสำเร็จการศึกษา”

 

“ผมจะพยายามกลับมายังดินแดนโดยเร็วที่สุด”

 

ในจักรวรรดิ ฉันเป็นเพียงขึนนางอีกคนหนึ่งแค่นั้น

 

แต่ในดินแดนของผม ผมเป็นราชา

 

ผมสามารถแสดงท่าทีเย่อหยิ่งได้ตามต้องการในดินแดน

 

เพื่อที่จะไปสู่สถานการณ์แบบนั้น ผมต้องฝึกให้เสร็จโดยเร็ว

 

“ก่อนหน้านั้น—-”

 

โทมัสขอบคุณผมขณะก้มหัว

 

“ขอขอบคุณสำหรับมาตรการลดภาษีที่คุณให้กับบริษัทของฉัน ท่านลอร์ด”

 

ผมช่วยโทมัสซึ่งกำลังประสบกับความยากลำบาก เนื่องจากความล้มเหลวที่พยายามหลอกลวงบ้านพีตัค  

 

สองสามปีที่ผ่านมา ผมได้ลดหย่อนภาษีเป็นพิเศษให้กับบริษัทของเขา

 

ผมอยากให้เขาระวังตัวมากกว่านี้

 

“คราวหน้าระวังตัวด้วยล่ะ”

 

“น- แน่นอนครับ โอ้ ใช่ คุณมีคฤหาสน์ที่เตรียมไว้ในเมืองหลวงของจักรวรรดิหรือยังครับ ลอร์ดเลียม?”

 

“คฤหาสน์ในเมืองหลวง?”

 

ผมกำลังจะไปเรียนต่อต่างแดนในเมืองหลวงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรม แต่ดูเหมือนว่าเด็กๆขุนนางมักจะเตรียมที่พักอาศัยในช่วงเวลานั้น

 

ผมไม่ได้คิดว่ามันจำเป็นอะไร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องแปลกถ้าผมไม่มีมัน

 

“มาลองคิดดูแล้ว… แม้แต่พ่อแม่และปู่ย่าตายายของผมก็มีคฤหาสน์อยู่ที่นั่น”

 

“ราคาที่ดินในเมืองหลวงนั้นจะค่อยๆแพงขึ้นตามจำนวนประชากร ดังนั้น การหาที่ดินดีๆให้กับตัวเองนั้นยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”

 

มันมีระบบหอพักให้ใช้ในช่วงชั้นประถมศึกษา

 

สถาบันการทหารก็เหมือนกัน แต่ดูเหมือนสำหรับมหาวิทยาลัยจะไม่มี

 

ผมเลยสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่จะเพียงแค่เช่าอพาร์ทเมนต์อะไรทำนอนนั้น… มันไม่จำเป็นต้องเป็นคฤหาสน์ก็ได้นี่?

 

“มันจุกจิกไปหน่อย ผมก็ไม่ใช้มันมากมายอยู่แล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหรือ?”

 

“ถ้าอย่างนั้นท่านลอร์ดไม่เช่าโรงแรมที่นั่นแทนล่ะ”

 

“โรงแรมงั้นรึ?”  

 

“อืม… แม้ว่าคุณจะมีคฤหาสน์ในเมืองหลวง ก็ไม่มีประโยชน์ถ้ามันอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากเกินไป มันเป็นอะไรแบบนั้น”

 

ก็ยังดูเหมือนว่าต้องมีคฤหาสน์

 

“ถ้าอย่างนั้น… ให้นำรายชื่อโรงแรมที่ผมสามารถเช่าได้มาให้ผมก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องสร้างคฤหาสน์กันทีหลัง”

 

“ตามที่ท่านสั่งครับ”

 

มันเป็นบ้านที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะใช้อะไรมันมากอยู่แล้ว

 

แบบนี้ก็น่าจะเพียงพอ

 

ผมควรจะหาที่ดินราคาถูกที่จะสร้างคฤหาสน์ที่นั่นดีไหมนะ?

 

◇ ◇ ◇

 

ไบรอันอยู่ในคฤหาสน์ อยู่ที่ระเบียงของห้อง ดูแลต้นบอนไซของเขา

 

เขากำลังฮัมเพลง

 

“วันนี้ก็เป็นวันที่ดีอีกวัน”

 

ก่อนที่เลียมจะเกิด เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีวันที่ดีแบบนี้

 

เด็กชายในวันนั้นอายุใกล้จะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาแล้ว

 

“ฉันจะตั้งตารอวันที่ลอร์ดเลียมกลับมา”

 

ขณะที่เขาจัดแนวต้นบอนไซที่เขาดูแลเป็นงานอดิเรก หัวหน้าสาวใช้ก็เข้ามาในมุมสายตาของเขา ขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาจากสวน

 

“โอ้ คุณต้องการอะไรจากฉันหรือเปล่า”

 

หัวหน้าสาวใช้ถือร่มกันแดด

 

“ฉันแค่ออกไปเดินเล่น ฉันกำลังเดินสำรวจพื้นที่บ้านอยู่”

 

“คุณรักในงานของคุณจริงๆ”

 

ไบรอันเชิญหัวหน้าสาวใช้มาที่ระเบียง คิดว่าคงจะดีถ้ามีเพื่อนคุย

 

ชาเตรียมไว้แล้วและพวกเขาก็คุยกันเป็นเวลานาน

 

“ไบรอัน ครอบครัวของคุณเป็นอย่างไรบ้าง”

 

“หลานของฉันและครอบครัวของพวกเขาจะกลับมาที่นี่เร็ว ๆ นี้”

 

“-เข้าใจแล้ว. ดีใจที่ได้ยินว่าพวกเขากลับมา”

 

หลานของไบรอัน นั้นมีหลานให้เขาแล้ว

 

ส่วนลูกชายและภรรยาของเขา—ต่างก็จากไปแล้ว

 

“ใช่ และทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านเลียม”

 

“เมื่อคุณอายุมากขึ้น สิ่งที่เราสามารถทำได้นั้นมีจำกัด แต่ด้วยนิสัยของเราในการทำงานไม่ได้หายไป และโดยส่วนตัวแล้ว ฉันพบว่าตัวเองกำลังหางานทำแม้กระทั้งวันหยุด”

 

“นั่นเป็นเพราะคุณเป็นคนบ้างานต่างหาก”

 

ไบรอันพูดขณะหัวเราะ หัวหน้าสาวใช้ก็เห็นด้วยและพูดว่า “ก็จริงนะ”

 

“…ไบรอัน เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่คุณมาเป็นพ่อบ้าน แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณถึงอดทนกับทุกอย่างเป็นเวลานานแบบนี้?

 

“ฉันไม่ต้อง ‘อดทน’ อะไรเลย ฉันยังคงรับใช้ในบ้านต่อไปเพราะฉันรู้สึกขอบคุณนายท่านอลิสแตร์”

 

“ฉันจะยินดีกว่านี้ถ้าคุณได้ทำงานในวังแทน ถ้าคุณต้องการ…ฉันจะรับประกันตำแหน่งของคุณอย่างดี”

 

เมื่อนานมาแล้วหัวหน้าสาวใช้ขอให้เขาทำงานในราชสำนัก

 

แต่เมื่อมองดูสิ่งต่างๆในตอนนี้ คงดีแล้วที่เขาปฏิเสธ

 

“ยังไงก็ตาม ตอนนี้ผมก็มีความสุขดีนี่?”

 

“คุณไม่มีความทะเยอทยานเลยจริงๆ ใช่ไหม? ฉันอิจฉานะเนี่ย”

 

◇ ◇ ◇

 

–สถานที่ที่มองเห็นคฤหาสน์ของเลียม

 

ที่นั่น ไกด์ก์ล้มลง

 

หลังจากเปิดเผยทุกอย่างให้เลียมฟัง ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคาดไว้ เขากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกขอบคุณที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม

 

เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจางหายไปและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

แม้แต่ในฝันเขาก็ไม่เคยนึกว่าเขาจะได้รับการขอบคุณด้วยใจจริง หลังจากเปิดเผยความจริง

 

‘ผู้ชายคนนั้นมันยังไงกันแน่!’ — ไกด์กลัวเลียมมาก

 

ขณะที่เขาหายใจเข้าอย่างขมขื่น

 

“อ- ไอ้สารเลว… เลียม… ฉันจะแก้แค้นอย่างแน่นอน… ฉันจะไม่ลืมความแค่ครั้งนี้”

 

แต่ตอนนี้เขาต้องพักผ่อนก่อนจึงจะทำอะไรได้

 

เขายังต้องรวบรวมอารมณ์ด้านลบอีกมาก

 

เพื่อเอาชนะเลียม เขาต้องรวบรวมให้ได้มากที่สุด

 

“ที่เมืองหลวงของจักรวรรดิ อารมณ์ด้านลบจะหลั่งไหลเข้ามาไม่รู้จบ ถ้าอยู่ที่นั่นฉันจะสามารถดึงพลังคืนมาได้อย่างแน่นอน”

 

เมื่อนึกถึงแผนการต่อไปของเขากับเลียม ไกด์ก็ยืนขึ้นและเริ่มเดินจากไป

 

ข้างหลังเขาเป็นสุนัข

 

รูปร่างของมันค่อยๆ ชัดเจนขึ้น แต่ไกด์นั้นอ่อนแอเกินไปและไม่ได้สังเกตว่ามันเดินตามหลังเขา

 

“เลียม… ครั้งต่อไปที่เราพบกันจะเป็นครั้งสุดท้ายของคุณ”

 

ไกด์สาบานว่าจะแก้แค้นเลียมอีกครั้ง

 

——————————————-

 

ไบรอัน(´;ω;`) “โอ้ลาก่อน….แล้วเจอกันใหม่”

 

——————————————

จบไปแล้วนะครับ สำหรับเล่ม 2 เป็นยังไงกันบ้าง

ส่วนตัวพึ่งมาลองแปลงาน ที่คำค่อนข้างงงๆ ทั้งอิ้งทั้งญี่ปุ่น แต่ก็หวังว่าจะสนุกครับ แล้วพบกันใหม่เล่ม3 
 

Avolenn

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset