(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 30

ตอนที่ 30

บารอน ราเซล

 

บ้านขุนนางถูกลดระดับ

 

ดาวทรัพยากรของพวกเขาถูกยึดโดยจักรวรรดิ และความน่าเชื่อถือทั้งหมดของพวกเขาในฐานะขุนนางก็หายไป

 

บ้านไวเคานต์…ไม่สิ… บ้านบารอน ราเซล กลายเป็นสถานที่ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือพอสำหรับการฝึกอบรมอีกแล้ว

 

“-มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”

 

เมื่อบ้านเบนฟิลด์ถูกโจรสลัดโจมตี พวกเขาก็ถูกสงสัยเพราะไม่ได้เจตนาจะส่งความช่วยเหลือไป

 

สิ่งเดียวที่ดีต่อพวกเขาคือการที่เลียมสังหารผู้ซุ่มโจมตีทั้งหมด

 

นั่นรวมถึงกลุ่มโจรสลัดที่เหลืออยู่ในดินแดนทั้งหมดที่สามารถเล่นงานแรนดอล์ฟได้

 

แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจักรวรรดิจะทุ่มเต็มที่กับการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันจึงนำมาสู่สถานการณ์ดังเช่นปัจจุบัน  

 

เหตุผลที่พวกเขาไม่ทำลายบ้านทั้งหมดก็เพราะว่ามันจะลำบากสำหรับฝ่ายจักรวรรดิที่จะต้องหาคนมาปกครองอาณาเขตของบ้านราเซลในทันที

 

นอกเหนือจากนั้น พวกเขาถูกลงโทษด้วยสิ่งที่พวกเขาทำลงไปอยู่แล้ว

 

บ้านพีตัคที่พวกเขาสานสัมพันธ์ด้วยได้รับการยืนยันแล้วว่าพังทลาย ในขณะที่หนี้สินจำนวนมหาศาลที่พวกพีตัคถืออยู่จะถูกผลักเข้าใส่พวกเขา

 

สาเหตุหลักคือตัวของแคทเทอรีน่าที่แต่งเข้าบ้านพีตัค

 

ถ้าปีเตอร์ตาย เป็นไปได้ที่แคทเทอรีน่าจะเป็นหัวหน้าคนต่อไปของบ้าน

 

คงจะดีสำหรับพวกเขาถ้าเลือกที่จะละทิ้งทุกสิ่งและวิ่งหนีไป แต่พวกเขาก็จะถูกเหล่าขุนนางดูหมิ่นเหยียดหยามและไม่เหลือกระทั้งทางรอดชีวิต

 

พวกเขาจะถูกมองด้วยสายตาที่เย็นชานับแต่นั้นในสังคมชนชั้นสูงของจักรวรรดิ

 

ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร แรนดอล์ฟก็มองไม่เห็นแสงสว่างของอนาคตเลย

 

ในขณะเดียวกัน…

 

“พวกนักธุรกิจทั้งหมดก็จากกันไปหมด”

 

พ่อค้าที่ได้ยินข่าวก็ละทิ้งพวกเขา

 

นักธุรกิจทุกคนที่พวกเขามีความสัมพันธ์ด้วยเริ่มตีตัวออกห่าง… แต่หลังจากการสืบสวนพบว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกับพวกโจรสลัด พวกพ่อค้าทั้งหมดจึงใช้โอกาสนี้จากไป

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เห็นท่าไม่ดี ต่างก็ออกไปค้นหาลอร์ดคนใหม่เพื่อรับใช้เช่นกัน

 

คนที่เหลืออยู่คือคนที่ภัคดีกับบ้านราเซลจริงๆ

 

ในหมู่พวกเขามีอัศวินที่ดูแลเลียมอยู่ด้วย

 

“มันเกิดอะไรขึ้น…เราผิดพลาดตรงไหน”

 

แรนดอฟกำลังสิ้นหวัง – และไกด์กำลังเฝ้าดูเขาอยู่

 

เขายืนอยู่ต่อหน้า แต่แรนดอล์ฟมองไม่เห็นเขา

 

“คุณทำให้ฉันผิดหวังคุณแรนดอล์ฟ แต่ด้วยความสิ้นหวังของคุณ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ฉันจะแก้แค้นเลียม โดยใช้พลังที่คุณมอบให้ฉันอย่างแน่นอน”

 

แรนดอล์ฟ ปีเตอร์และคนอื่นๆ อยู่ในความสิ้นหวัง ความคิดด้านลบของพวกเขานำพลังจำนวนเล็กน้อยกลับมาหาไกด์

 

แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอาไปต่อกรกับเลียมได้

 

ไกด์กำลังครุ่นคิด

 

“ถ้าเรื่องจะเป็นแบบนี้ เรามาเปิดเผยทุกอย่างกับเลียมกันเถอะ”

 

ความสำนึกในบุญคุณของเลียมยังคงส่งไปถึงเขาแม้อยู่ไกลแสนไกล

 

หากปราศจากความรู้สึกด้านลบของแรนดอล์ฟหรือปีเตอร์ สถานะของเขาในตอนนี้จะเลวร้ายมาก

 

หากเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น เขาอาจจะหมดพลังและสลายตัวไป

 

เขาหวังว่าคนพวกนี้จะมอบพลังด้านลบให้เขามากกว่านี้ด้วยซ้ำ

 

ไกด์คิดอย่างนั้นจริงๆ

 

“ด้วยอารมณ์เชิงลบของคุณทำให้ฉันมีพลัง ฉันจะส่งเลียม ให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!”

 

เมื่อไกด์หายตัวไป แรนดอล์ฟก็เงยหน้าขึ้น

 

การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย – ใบหน้ารู้สึกสดชื่นขึ้น

 

อาจเป็นเพราะไกด์ซึมซับอารมณ์ด้านลบของเขา

 

“ฉันต้องทำงานหนัก ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็แค่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง อันดับแรก ติดต่อกับลูกชายของฉันก่อน แล้วฉันจะโทรหาแคทเทอรีน่าในภายหลัง”

 

เขาต้องการให้แน่ใจว่ามีอนาคตสำหรับลูก ๆ ของเขา

 

แม้จะไม่มีใครช่วย แรนดอล์ฟกำลังจะฟื้นฟูทุกอย่างกลับคืนมา

 

◇ ◇ ◇

 

ปีเตอร์ซึ่งความเป็นลูกผู้ชายได้ระเบิดออกมีสีหน้าว่างเปล่า

 

ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง ปีเตอร์เริ่มหัวเราะอย่างว่างเปล่า

 

แคทเทอรีน่ายังอยู่เคียงข้างเขา

 

“ผู้ยิ่งใหญ่อย่างฉั…ไม่สิ ฉันมันเป็นคนโง่”

 

“เป็นอะไรไป?”

 

แคทเทอรีน่ารู้สึกประหลาดใจ

 

“แคทเทอรีน่า…คุณกลับบ้านของคุณไปเถอะ… คุณไม่จำเป็นต้องมามีส่วนร่วมกับฉันอีกต่อไป… ฉันจะเป็นพยานว่าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางร่างกาย และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะไม่มีปัญหากับเรื่องนี้”

 

สำหรับปีเตอร์แล้ว เขาไม่อยากให้แคทเทอรีน่ามามีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป

 

“แม้ว่าฉันจะจากไปมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก พ่อบอกให้ฉันกลับแต่ฉันไม่ไป ถ้าฉันปล่อยให้คุณอยู่ตามลำพัง บ้านของคุณจะถูกทำลาย”

 

“…แคทเธอรี ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ.”

 

“ไม่เป็นไร.”

 

แคทเทอรีน่ามีสีหน้าผิดหวังบนใบหน้าของเธอ

 

ถึงอย่างนั้นเธอก็คิดอย่างจริงจังถึงวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูบ้านพีตัค

 

“ถ้าบ้านพี่ตัคได้รับการฟื้นฟู จะต้องมีคนโผล่มารับตำแหน่งหัวหน้าแน่ๆ เมื่อถึงเวลานั้นก็โยนเรื่องนี้ให้เขาแล้วเกษียณไปด้วยกัน”

 

“ได้สิ… ผมจะทำให้ดีที่สุด”

 

ปีเตอร์ก็เหมือนกับเลียม

 

เขาโตมาโดยไม่รู้จักความรักของพ่อแม่

 

พ่อแม่ของเขาได้หนีไปยังเมืองหลวงเมื่อตอนที่เขายังเด็ก

 

ปีเตอร์มีความสุขที่ได้มีคนที่เขาพึ่งพาได้เป็นครั้งแรกในชีวิต

 

◇ ◇ ◇

 

เมืองหลวงของจักรวรรดิ

 

หลังจากเทียจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ได้รับการฝึกอบรมเพื่อเป็นข้าราชการ

 

ระยะเวลาการฝึกอบรมนั้นมากกว่าสองปี โดยในระหว่างนั้นพวกเขาจะถูกบังคับให้ทำงานแปลกๆ ต่างๆ

 

อย่างไรก็ตามผู้ที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งสูงในอนาคตจะได้รับมอบหมายให้อยู่ในแผนกที่เหมาะสมซึ่งพวกเขาได้รับการศึกษาเป็นพิเศษ

 

เทียเป็นหนึ่งในนั้น

 

เมื่อเธอเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลด้วยชุดสูท เธอมองเห็นทายาทของบ้านราเซลในชุดทำงาน

 

เขาถูกผู้บังคับบัญชาดุ

 

“เฮ้ ไอ้เจ้าเด็กใหม่! พูดขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นสิ่งเดียวที่คุณทำได้หรือเปล่าห๊ะ!”

 

“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ”

 

“คุณไม่ได้สนใจงานเลยรึไง!”

 

“มะ…ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ”

 

“แบบนั้นมันแบบไหน? ยกเว้นพวกในแผนกดาวเด่น ทายาทของตระกูลขุนนางล้วนแต่เป็นพวกไร้ประโยชน์… หากมัวแต่ทำตัวแบบนี้ตลอดสองปี คุณคิดว่าคุณพร้อมเข้ารับตำแหน่งรึเปล่าห๊ะ!”

 

“ไม่ครับ… ฉันจะไม่ทำแน่นอน”

 

“แม้แต่คนอย่างคุณก็ไม่ได้รับอนุญาตให้หลบหนีจากสิ่งนี้ สำหรับการฝึกสองปีของคุณ คุณจะต้องทำความสะอาดห้องน้ำ”

 

ศีรษะของเขาก้มลงและมือของเขากำแน่น

 

บ้านราเซลถูกลดระดับลง และด้วยเหตุนี้ ลูกชายของพวกเขาจึงไม่อยู่ในแผนกดาวเด่น

 

เขาถึงขนาดถูกมอบหมายให้ทำงานในแผนกภารโรง

 

แผนกนั้นไม่ใช่สถานที่ที่จะให้พวกลูกขุนนางเข้าไปทำด้วยซ้ำ

 

ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำงานอย่างจริงจัง

 

(…ฉันคงพูดอะไรไม่ได้  ฉันหวังว่านายจะทำดีที่สุด)

 

หากเธอพูดอะไรที่นี่ แสดงว่าเธอให้อภัยบ้านเรเซลที่ปฏิบัติแย่ๆกับเลียม แต่สภาพของผู้ชายคนนี้ก็ทำให้เทียรู้สึกเห็นใจเล็กน้อย

 

(เฮ้อ- การเรียนสองปี แล้วก็ฝึกงานอีกสี่ปี ระหว่างสถาบันการทหารกับมหาวิทยาลัย ฉันสงสัยว่าลอร์ดเลียมจะเลือกที่ไหน)

 

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจว่าจะต้องจริงจังยิ่งขึ้น

 

เทียทำงานหนักเพื่ออนาคตของเลียม

 

◇ ◇ ◇

 

มีการโต้ตอบอย่างรุนแรงภายในอาณาเขต

 

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผมได้ต่อสู้กับกลุ่มกบฏที่โง่เขลาซึ่งเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ

 

แต่สิทธิและเสรีภาพของพวกเขาเป็นของผม!

 

พวกเขาไม่มีเสรีภาพหรือสิทธิอะไรทั้งนั้น!

 

“ทำไมพวกเขาถึงยืนกรานที่จะมีทรงผมอะไรแบบนั้น!”

 

ผมทุบโต๊ะในที่ทำงานขณะที่วางแผนส่งทหารไปยังสถานที่ต่างๆ

 

มันเป็นขบวนพาเหรดเพื่อประท้วงการแบนทรงผมแบบทอร์นาโด แต่ก็มีป้ายทรงผมแปลกๆหลากหลายแบบที่เข้ามาร่วมการประท้วงด้วย

 

เพราะมันเป็นเรื่องแบบนั้น พวกทหารก็เลยไม่รู้จะทำยังไง

 

บางคนถึงกับพูดว่า “ทรงผมนั้นก็ดูดีอยู่นะ…”

 

อย่ามาล้อกันเล่นนะเฟร้ยย!

 

ผมจะไม่ยอมรับทรงผมแบบนี้แน่!

 

ไม่สำคัญว่าจะต้องใช้เวลากี่ปี! ผมจะบังคับให้พวกเขาใช้ทรงผมที่ผมต้องการแทนการตัดทรงทอร์นาโดบ้าๆนี่!

 

“ดินแดนแห่งนี้สงบสุขจริงๆ”

 

ผมตกตะลึงกับความคิดเห็นของอามากิ

 

“สงบสุขยังไง! ผู้คนกำลังลุกขึ้นต่อต้านผมนะ!”

 

เมื่อผมบอกสถานีออกอากาศว่า “สิ่งนี้มันสมควรถูกห้ามอย่างร้ายแรง!” พวกเขาก็บอกผมว่า “ไม่มีกฎหมายข้อไหน ที่ควบคุมทรงผม”

 

พวกเขาอยู่ฝ่ายใครกันแน่! ผมเป็นผู้ปกครองที่นี่!

 

อย่ามาล้อกันเล่นนะเฟร้ยย!

 

เมื่อผมพยายามบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่บอกว่า “เรื่องแค่นี้เหรอครับ?”

 

จากนั้นพวกเขาจะเริ่มสอนผมว่า มันเป็นสิ่งพื้นฐานของสิทธิมนุษย์ชนในการเลือกจัดการร่างกายของตัวเอง แล้วก็ไม่ได้เดือดร้อนผู้คนในอาณาเขต อีกทั้งมันยังเป็นที่นิยมด้วย

 

ผมรู้ว่ามันเป็นแบบนั้น… ผมรู้ แต่-!

 

ทำไมพอเป็นเรื่องทรงผมแล้วพวกคุณก็กลายเป็นนักวิชาการกันหมด!

 

นี่เป็นการตอบโต้ของพวกเขาต่อการเพิ่มภาษีใช่ไหม? มันต้องเป็นเรื่องนั้นแน่!

 

“ที่สำคัญกว่านั้น ดูเหมือนว่าทีมที่สี่จะไปถึงดาวบุกเบิกอย่างปลอดภัยแล้ว การพัฒนาดูเหมือนจะไปได้ดีกว่าที่คาดไว้ การเพิ่มภาษีโดยนายท่านดูเหมือนว่าจะช่วยในเรื่องนั้นอย่างมาก”

 

“อะไรจะสำคัญไปกว่าปัญหาทรงผม! ผมเกลียดมัน! คนที่มีทรงผมทอร์นาโดปรากฏตัวอยู่ทุกที่!”

 

ก่อนที่ผมจะเข้าเรียนในโรงเรียนประถม ผมจะแบนทรงผมนั้นให้ได้!

 

◇ ◇ ◇

 

หัวหน้าสาวใช้กำลังรายงานนายกรัฐมนตรี

 

“…และนั่นคือสถานการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดี ยกเว้นการประท้วงนิดหน่อย”

 

“ฉันเข้าใจความเจ็บปวดของเขาเลยล่ะ”

 

หลังจากได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเลียม นายกรัฐมนตรีก็แสดงความเห็นอกเห็นใจ

 

“ไม่ว่ายังไง สำหรับเขาที่จะลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนประถมกำลังใกล้เข้ามาแล้ว”

 

“ส่วนตัวแล้วคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร… แต่ฉันได้ยินมาว่ามีเด็กมีปัญหาจำนวนไม่น้อยที่ลงทะเบียนเรียนในทุกวันนี้”

 

โรงเรียนประถมก็มีปัญหาเช่นกัน

 

นายกรัฐมนตรีความหวังไว้สูงสำหรับเลียม ผู้ซึ่งเป็นเหมือนแสงสว่างส่องประกายให้กับจักรวรรดิ

 

“ยังไงก็เถอะ ฉันได้ยินมาว่าเขาซื้อยานคลาสป้อมปราการมาจากโรงงานอาวุธที่เจ็ด ดูเหมือนว่าเขากำลังสร้างกองกำลัง มีเหตุผลอะไรไหม?”

 

หัวหน้าสาวใช้ตอบกลับ

 

“เราใช้มันเป็นฐานป้องกันชั่วคราวสำหรับพื้นที่รอบดาวบุกเบิก ต้องใช้เวลาหลายปีในการเตรียมฐานที่มั่น ดังนั้นเราจึงใช้มันแบบนี้จนกว่าจะถึงเวลานั้น”

 

“เข้าใจล่ะ นั่นคือเหตุผลสินะ? ฉันคิดว่ามันเป็นแบบนั้น”

 

◇ ◇ ◇

 

เด็กๆขุนนางได้รับการฝึกอบรมในบ้านของเลียม

 

แม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ แต่พวกเขาก็ได้รับการฝึกอย่างเคร่งครัดเหมือนคนรับใช้ในช่วงสามปีของการฝึกอบรม

 

พวกเขายังได้รับการศึกษา จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเลียมไปเรียนโรงเรียนประถม?

 

– คำตอบนั้นง่าย

 

พวกเขายังคงใช้เวลาอยู่ในอาณาเขตของเลียมต่อไป

 

มีการสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น พวกเขาจึงเรียนต่อในโรงเรียนที่ตนเองเลือก

 

เด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่ในคฤหาสน์มาแล้วสามปีกำลังเดินไปรอบ ๆ บริเวณมหาวิทยาลัยในชุดธรรมดา

 

“ว้าว~ ท่านเคานต์นั้นใจกว้างจริงๆ เขาครอบคลุมค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของเราด้วย”

 

ค่าเล่าเรียนของพวกเขาได้รับการยกเว้น

 

พวกเขาได้รับเงินช่วยเหลือ และถ้าไม่เพียงพอ พวกเขาจะเริ่มทำงานนอกเวลาหรือขอเพิ่มจากพ่อแม่

 

“เราคงไม่มีโอกาสได้เที่ยวเล่นกันมากนักถ้ากลับบ้าน”

 

ในอาณาเขตของพวกเขาไม่มีมหาวิทยาลัย

 

เมื่อเทียบกับพื้นที่โดยรอบ อาณาเขตของเลียมได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ

 

เหตุผลที่เหล่าขุนนางปล่อยให้ลูกหลานไปเรียนต่างแดนก็เพราะพวกเขาต้องการให้พวกเขาเรียนรู้จากอาณาเขตที่มีความสมบูรณ์พร้อม แบบอาณาเขตของเลียม

 

“ฉันไม่อยากกลับบ้านเลย~”

 

เด็กสาวคนหนึ่งหันไปยิ้มให้เพื่อนที่คร่ำครวญของเธอ

 

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องแต่งงานกับคนในท้องถิ่นแล้วย้ายมาที่นี่”

 

สาวคร่ำครวญจ้องมองเพื่อนของเธอ

 

“ฟังดูดีนะ~ ฉันอยากพักผ่อนที่นี่สักสิบปีเป็นอย่างน้อย”

 

“อย่ายอมแพ้! ฉันแน่ใจว่าคุณจะพบใครบางคนในหมู่อัศวิน”

 

สาวๆดูสนุกสนานกันจริงๆ

 

ผู้ชายก็พูดได้เหมือนกัน

 

พวกเขาทั้งหมดยังคงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในขณะที่ประสบชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักและความเยาว์วัย

 

◇ ◇ ◇

 

“บัดซบ!!!”

 

ผมโมโหมากทั้งที่กำลังจะเข้าโรงเรียนประถม

 

เหตุผลก็คือ-

 

เมื่อหยิบนิตยสารแฟชั่นขึ้นมา ทรงผมบนหน้าปกก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น แทนที่จะหายไป… และตอนนี้ผมก็หมดเวลาแล้ว

 

ไบรอันแสดงความคิดเห็น

 

“นายท่านเลียม ถ้าคุณไม่สนใจผู้คน เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะพบกับฝ่ายค้าน”

 

“ผมจะทุบมันให้ละเอียดเลย!”

 

ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทำให้ผมโกรธได้ขนาดนี้

 

ผมสงสัยว่านี่เป็นการโต้ตอบของการที่ผมที่ให้อามากิขึ้นภาษีถึงขีดสุด

 

หากเป็นแบบนั้น ผมจำเป็นต้องบอกให้พวกเขารู้ว่าใครอยู่จุดสูงสุดของดินแดนนี้!

 

“แน่ใจรึครับว่าไม่อยากยอมแพ้?”

 

“ราวกับว่าผมจะยอมแพ้งั้นเรอะ! ผมจะทำให้พวกเขาเสียใจที่พวกเขากบฏต่อผม – ลอร์ดเลียมผู้นี้!”

 

“แต่ผู้คนดูเหมือนจะยังสนุกสนานกันอยู่”

 

“ถ้าอย่างนั้นผมก็ยิ่งไม่สามารถให้อภัยพวกเขาได้!”

 

ผมต้องเป็นผู้เดียวที่เล่นอย่างสนุกสนานในดินแดนนี้ แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

 

ผมต้องใช้ไพ่ตายสำหรับจอมมารซะแล้ว

 

“หากเป็นแบบนี้ ผมสั่งให้ส่งอัศวินออกไปและบังคับให้พวกเขาตัดผม—”

 

ขณะที่ผมพูด ผมก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าไบรอันดูแปลกไปเล็กน้อย

 

เขาไม่เคลื่อนไหวเลย ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง

 

ความรู้สึกนี้ ใช่… ผมรู้ว่าสถานการณ์นี้คืออะไร

 

เมื่อผมมองไปรอบๆ ก็พบไกด์ที่ดูเหนื่อยๆ

 

เขากำลังนั่งไขว่ห้างบนกระเป๋าเดินทาง

 

เขายังคงสวมหมวกทรงสูงของเขา ใบหมวกกดต่ำจนผมมองไม่เห็นดวงตาของเขา

 

อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มเหมือนพระจันทร์เสี้ยวบนใบหน้าของเขานั้นชัดเจน

 

“ไม่เจอกันนานเลยนะ เลียม”

 

“เป็นคุณนั้นเอง…”

 

ไกด์กางมือออก

 

“ฉันอยากพบคุณจริงๆ นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาในวันนี้”

 

สำหรับไกด์ที่ดูมีความสุข ผมต้องการกล่าวขอบคุณเขาสักสองสามคำ

 

“ที่จริงผมก็อยากเจอคุณเหมือนกัน ผมต้องการที่จะ—”

 

ไกด์เอานิ้วชี้มาที่ปากเพื่อบอกให้ผมหยุด

 

“ขอให้ฉันได้พูดอะไรบางอย่างก่อนนะเลียม… ฉันมีหลายอย่างที่อยากจะพูด”

 

หลังจากยืนขึ้น ไกด์ก็เริ่มพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

“ไม่คิดว่ามันตลกบ้างเหรอ?”

 

“หะ…เรื่องอะไรล่ะ?”

 

“หลายๆอย่างนั่นแหละ แต่ถ้าให้เลือกหัวข้อล่าสุด… ก็คงเป็นเรื่องบ้านราเซล… เลียม คุณไม่เคยสงสัยเลยเหรอว่าทำไมคุณถึงถูกปฏิบัติแบบนั้นที่นั่น?”

 

“ไม่จริงน่า—”

 

“คิดได้รึยัง!”

 

ไกด์ที่จู่ๆ ก็ตะโกนเสียงดัง เริ่มไอแล้วพูดต่อ

 

“เลียม อันที่จริงมันต้องเป็นคุณต่างหาก ที่ควรได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ใช่ปีเตอร์! ซึ่งมันเป็นโอกาสของคุณที่จะได้พบกับลูกสาวของบ้านราเซล และสร้างสัมพันธ์กับบ้านที่ทรงพลัง มันควรเป็นเหตุการณ์แบบนั้น!”

 

“-คุณล้อฉันเล่นแน่ๆ”

 

ขณะที่ผมลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ ไกด์ก็กางมือออกและเริ่มหัวเราะ

 

“แล้วทำไมปีเตอร์ถึงเอาทุกอย่างที่ควรจะเป็นของคุณไป? เป็นเพราะมีคนเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง”

 

“เบื้องหลังงั้นรึ?”

 

“นั่นคือฉันเอง!”  (TL: ซุปเปอร์เบจิต้าคนนี้….แค่กๆผิดๆ)

 

ไกด์ที่โค้งคำนับ ส่งรอยยิ้มมาทางผมขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง

 

“มันเป็นฉันเอง และฉันตลอดมา”

 

เมื่อผมเริ่มคิดถึงความจริงที่เกิดขึ้นมาตลอดกับผม

 

“ทะ…ทั้งหมดนั่น…”

 

“ไม่ใช่ปีเตอร์ที่พรากทุกอย่างไปจากคุณ! คุณสูญเสียทุกอย่างเพราะฉัน! ใช่แล้วเลียม! คุณถูกหลอกแล้ว!”

 

มันเป็นเขา…..

 

———————————————-

 

ไบรอัน (; ・`ω・´) “อะ…อะไรนะ!?”

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset