(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 24

ตอนที่ 24

การเตรียมการ

 

ไกด์กำลังมีความสุข

 

“ปีเตอร์! คุณนี่มันสุดยอด”

 

ไกด์ชมปีเตอร์ ที่ลากบ้านพีตัคมาเข้าร่วม

 

ไกด์ยินดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อะไรก็ดีตราบใดที่มันพยายามทำร้ายเลียม

 

“ตอนนี้พวกโจรสลัด บ้านพีตัค และบ้านราเซลต่างก็ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเลียม! สุดยอด!”

 

เมื่อเขาเฝ้าดูสถานการณ์ เขาตัดสินใจว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้พลังของเขา

 

พื้นที่ข้างหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อเขาเอื้อมมือออกไป

 

ตรงจุดนั้น พลังของมัคคุเทศก์ก็ระเบิดออกมาเพื่อเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์

 

“ครั้งนี้คุณโดนดีแน่ เลียม!”

 

อย่างไรก็ตาม พลังของไกด์ไม่ได้เหลือเยอะมากพอ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก

 

ในสถานะปัจจุบันของเขา เขาทำได้เพียงก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีความสุขที่สามารถขัดขาเลียมได้  

 

“สักวันพลังฉันจะฟื้นกลับมา และคราวนี้จะเป็นคุณที่รู้สึกเจ็บปวด เลียม! ฟุฮะๆๆๆ!”

 

แสงสีขาวมองดูไกด์หัวเราะก่อนจะหายตัวไป

 

◇ ◇ ◇

 

…ระยะเวลาการฝึกกำลังจะสิ้นสุดลง

 

แม้ว่าพวกเขาจะเรียกมันว่าการฝึกอบรม แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ทำงานง่ายๆ ให้กับบ้านของไวเคานต์

 

แม้ว่าผมจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษใดๆ แต่ก็สนุกดี

 

ถึงอย่างนั้นผมก็เบื่อ นโยบายของครอบครัวราเซลที่จริงจังเกินไป

 

ผมอยากเที่ยวเล่นมากกว่านี้…แต่มันค่อนข้างไม่ปลอดภัยอ่ะ

 

หลังจากที่ผมกลับไปยังอาณาเขตของ ผมสาบานว่าจะลงทุนในกิจการย่านบันเทิงมากขึ้น

 

“เร็วเข้า! แขกคนสำคัญหลายคนจะมาร่วมงานนี้นะ!”

 

ขณะที่ผมกำลังช่วยจัดห้องจัดเลี้ยง ผมก็คุยกับเคิร์ตขณะทำงานไปด้วย

 

“เขาดูกระตือรือร้นจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“ได้ยินมาว่าครั้งนี้แขกมาเยอะ เนื่องจากบ้านปีเตอร์แห่งพีตักอยู่ที่นี่ กองกำลังทหาร ผู้แทนโรงงานอาวุธ และหัวหน้าหอการค้าต่างๆ ก็จะมาด้วย”

 

เมื่อผมทำพิธีบรรลุนิติภาวะ ผู้คนยังไม่เยอะเท่านี้

 

แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ ขุนนางที่แท้จริงที่มีอำนาจและประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า ผู้คนจำนวนมากจะแห่เข้าหาพวกเขาโดยธรรมชาติโดยหวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

 

ผมอิจฉานิดหน่อย

 

สักวันหนึ่ง ผมอยากจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ได้ทุกวัน พร้อมดื่มด่ำรสชาติของชีวิต

 

“แม้ว่าพวกเขาจะบอกให้เราจัดสถานที่จัดปาร์ตี้ แต่เขารื้อสถานที่สร้างใหม่เลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเขามากน่ะสิ”

 

พื้นของสถานที่ถูกรื้อออกและเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่มีการเตรียมน้ำพุไว้ตรงกลาง

 

การหมั้นของปีเตอร์และแคทเทอรีน่าจะมีการประกาศในงานปาร์ตี้นี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจว่าเกือบทุกอย่างควรถูกสร้างใหม่และปรับปรุงให้ทันสมัย

 

มีคนงานก่อสร้างมากมายที่นี่ แต่เราก็ต้องช่วยด้วย

 

อย่างแรกเลย สถานที่จัดงานมันกว้างมาก

 

นี่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน?

 

ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ ผมก็สังเกตเห็นว่ามีสนามประลองก็เตรียมไว้ที่นี่ด้วย

 

“นั่นคือเวทีประลองเรอะ?”

 

“ฉันคิดว่างั้นนะ คุณจะไม่เข้าร่วมใช่ไหมเลียม?”

 

“การประลองถูกจัดฉากไว้ก็จริง แต่ผมยอมให้ตัวเองแพ้ไม่ได้ ในฐานะผู้ใช้ทักษะดาบประกายแสงเพียงคนเดียวที่นี่”

 

นี่เป็นเพียงงานเล็กๆ เพื่อแสดงผลของการฝึกอบรม  

 

ดูเหมือนว่าเคิร์ทจะเข้าร่วมและจะต้องแกล้งแพ้อย่างเหมาะสม

 

เรื่องมันยุ่งยาก

 

“ฉันอาจจะคิดถึงที่นี่นิดหน่อย”

 

เคิร์ทดูเศร้าเล็กน้อย

 

“ไม่มีเวลาให้ซึมหรอกนะ อีกไม่นานเราจะต้องไปโรงเรียนประถม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำหลังจากนี้”

 

“ก็จริงนะ”

 

ขณะที่เคิร์ทตอบด้วยรอยยิ้มแหย อัศวินฝึกสอนก็เข้ามาหา

 

“เคิร์ท มีการติดต่อจากที่บ้านน่ะ!”

 

“ครับ ฉันกำลังไป!”

 

เคิร์ทจึงออกจากสถานที่

 

ขณะที่ผมทำงานตัวเองต่อไป ผมเหลือบเห็นเหมือนหางอยุ่ที่มุมโต๊ะ

 

-มันดูเหมือนสุนัข

 

“หลงทางมมาเหรอ? แกหาทางออกอยู่รึเปล่า?”

 

ขณะที่ผมพยายามจะเข้าใกล้มัน ทันใดนั้น สัตว์ที่เหมือนสุนัขก็หนีไปทางด้านหลังของห้อง

 

ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ไล่ตามไปจนถึงโถงทางเดินใกล้ทางออก

 

“หืม? มันไปไหนแล้วล่ะ? ช่างเถอะ…หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?”

 

ตราบใดที่มันออกจากสถานที่จัดเลี้ยงก็ไม่มีปัญหา

 

แต่เมื่อผมหันหลังจะเดินกลับ ผมได้ยินเสียงของเคิร์ต

 

“–คุณมาไม่ได้เพราะพวกโจรสลัดเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้? ครับ ฉันเข้าใจ… ครับ”

 

คนที่เขาคุยด้วยน่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว

 

ฟังดูเหมือนพวกโจรสลัดเคลื่อนไหวในอาณาเขตของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมารับเคิร์ทได้

 

เคิร์ตมีสีหน้ากังวล

 

เมื่อเขาวางสาย ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน เมื่อเขาสังเกตเห็นผม

 

“คุณฟังอยู่เหรอ?”

 

“อ่า ผมขอโทษ ผมกำลังไล่ตามสุนัขจนมาถึงนี่ แล้วบังเอิญได้ยินน่ะ”

 

“ไม่เป็นไร. ตอนนี้ครอบครัวของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันจึงไม่สามารถกลับไปได้อีกสักพัก ฉันจะต้องถามไวเคานต์ว่าเป็นไรไหมถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย”

 

ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ทางบ้านทำให้เขาวิตกกังวล

 

ผมคิดว่าสามารถช่วยเขาได้ ในฐานะเพื่อของจอมวายร้าย

 

“ถ้ากังวลขนาดนั้น ให้ผมช่วยส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”

 

“จริงรึ?! ไม่… นั่นมันไม่ได้หรอก ที่นั่นมีโจรสลัด-”

 

“เคิร์ท โจรสลัดเป็นเพียงกระเป๋าเงินที่มีชีวิตเท่านั้นแหละ”

 

“ฮะ?”

 

“หลังจากเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ผมจะเอาของที่ริบมาเจ็ดส่วน และคุณก็รับไปสามส่วน”

 

“เดี๋ยว อย่าพูดอย่างกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆสิ! คุณต้องไปคุยกับคนของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แถมถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้-”

 

“ไม่เป็นไรหรอก ผมมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในอาณาเขต พวกเขาจะฟังทุกสิ่งที่ผมพูดทุกอย่าง จำไว้ว่านี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็นจอมวายร้าย ต่อให้ของสิ่งนั่นเป็นสีขาวแต่ถ้าผมบอกว่ามันสีดำมันก็จะเป็นสีดำ  

ดังนั้นถ้าผมสั่งให้พวกเขาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปฏิเสธได้”

 

เคิร์ตมองมาที่ผมในขณะที่ตกตะลึง

 

ยังไร้เดียวสาอยู่ล่ะนะ

 

ผมคิดว่าต้องติดต่ออามากิซะแล้วสิ

 

◇ ◇ ◇

 

คฤหาสน์เบนฟิลด์

 

ภายในอาคารสำนักงาน อามากิกำลังคุยกับเลียม

 

ภาพฉายของเลียมลอยอยู่ในอากาศ

 

“-ส่งกองยานไปรับ? ได้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะส่งไปยังดินแดนของไวเคานต์”

 

“ผมต้องการกิงยานเพื่อช่วยพาเพื่อนกลับบ้าน ผมจะไปล่าโจรสลัดอีกครั้ง”

 

“อ้อเข้าใจแล้ว… นายท่านทำเพื่อช่วยเพื่อนใช่ไหม?

 

“เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลอร์ดผู้ชั่วร้าย ผมจึงต้องรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้”

 

“ดิฉันดีใจกับคุณด้วย.”

 

อามากิแสดงสีหน้าอ่อนโยน ขณะที่เธอคิดว่าเลียมอาจเข้าใจผิดอะไรบางอย่างอีกครั้ง

 

“แล้วคุณต้องการกองยานมากแค่ไหน”

 

“ส่งมาได้เท่าไหร่?”

 

เมื่อไม่นานมานี้ดินแดนเบนฟิลด์ถูกโจมตีโดยกองยานโจรสลัดของโกอาส

 

เพราะแบบนั้น ผมจึงลงทุนเล็กน้อยในการขยายกองเรือ

 

“ดิฉันสามารถเตรียมยานได้ประมาณ 12,000 ลำ”

 

“นั่นก็น่าจะพอ โอ้ และอย่าลืมพาเอวิทของผมมาด้วย”

 

เอวิทเป็นอัศวินขับเคลื่อนส่วนตัวของเลียม

 

มันใหญ่กว่าอัศวินทั่วไป เป็นเครื่องคุณภาพสูงที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถขับได้

 

“ทำไมไม่พักผ่อนซักหน่อยล่ะ? คุณไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง”

 

“มันเป็นความฝันของเด็กผู้ชายที่จะต่อสู้ในหุ่นยนต์! ครั้งนี้น่าจะได้กำไรไม่น้อย”

 

“…ถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันจะติดต่อกับบารอน เอ็กซ์เนอร์”

 

“ต้องฝากเรื่องนี้ให้คุณแล้ว”

 

ทันทีที่เลียมวางสาย อามากิก็เริ่มติดต่อกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันที

 

“–พอดีเลย ฉันควรให้พวกเขาทำงานด้วย”

 

◇ ◇ ◇

 

โรงงานอาวุธที่สาม

 

ต่อหน้าอัศวินขับเคลื่อนจำนวนมากที่เรียงรายอยู่ที่นั่น – เทีย มองดูหุ่นรูปร่างมนุษย์

 

เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย

 

หลังจากรวบรวมหน่วยกิตที่จำเป็นสำหรับการสำเร็จการศึกษา เธอก็จบหลักสูตร

 

ต่อจากนี้ไป สิ่งที่รอเธออยู่คือการฝึกเป็นข้าราชการ แต่ก่อนหน้านั้นเธอกำลังจะกลับไปยังดินแดนของเลียม

 

สาวๆ ที่สมัครเป็นอัศวินก็กลับมาเช่นกัน

 

–พวกเขาทั้งหมดต้องการมีส่วนร่วมในการล่าโจรสลัด

 

ยูลิเซีย ซึ่งทำงานในโรงงานอาวุธที่สาม กำลังอธิบายคุณสมบัติอัศวินรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขา

 

“รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในกองกำลังพิเศษของกองทัพจักรวรรดิ”

 

จากการออกแบบ อัศวินขับเคลื่อนควรจะมีขนาดใหญ่ แต่เครื่องที่อยู่ด้านหน้าเทียถูกสร้างขึ้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

พวกมันมีหุ่นเพรียวบางและรูปลักษณ์สวยงาม

 

“สเปกที่ระบุไว้ในแค็ตตาล็อกก็ไม่เลว”

 

ยูลิเซียที่ได้ยินคำชมของเทียก็ยิ้มออกมา

 

“ฉันมีความมั่นใจในคุณภาพของพวกมันมาก แต่ท่านเคานต์ก็สุดยอดมาก มีขุนนางไม่กี่คนที่สามารถซื้ออัศวินจำนวนมากพร้อมกันได้ขนาดนี้”

 

เป็นการซื้อรุ่นใหม่หลายร้อยเครื่อง

 

ในขณะที่ชื่นชมอัศวินขับเคลื่อนเครื่องใหม่ของเธอ เทียได้ร้องขอไปยังยูลิเซีย

 

“ฉันอยากให้สีเครื่องของฉันเป็นสีขาวและสีม่วง มันเป็นสีประจำตัวของฉัน”

 

“สีประจำตัวสำหรับผู้สมัครอัศวิน? คุณต้องมีความมั่นใจในตัวเองมาก”

 

เทียหัวเราะกับสิ่งนี้และยิ้ม

 

“ก็คงงั้น นับจากนี้ไปฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ”

 

เมื่อผู้สมัครอัศวินของบ้านเบนฟิลด์ เข้าไปในเครื่องของตัวเอง สายตาของอัศวินขับเคลื่อนทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยแสงจ้าขณะที่พวกเขาเดินเครื่อง

 

เทีย เริ่มพูดกับทุกคน

 

“ทุกคนจงสรรเสริญ! ลอร์ดเลียมให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่เราในการพิสูจน์คุณค่าของเรา! ถึงเวลาล่าโจรสลัดแล้ว!”

 

◇ ◇ ◇

 

การฝึกอบรมของเราในต่างแดนใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

 

ก่อนที่เราจะออกจากบ้านราเซล มีการจัดแสดงศิลปะการต่อสู้โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามาเข้าร่วม

 

ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษจะชนะการแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่า และสถานที่จัดงานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

ตอนนี้มันเป็นการแข่งขันระหว่างเคิร์ทและปีเตอร์

 

“-อุ!”

 

“หืม? เป็นอะไรไป? เราต่างก็เป็นนักดาบของโรงฝึกอาเรส ดังนั้นมันคงดูไม่ดีที่คุณไม่สามารถทำอะไรฉันได้~”

 

ปีเตอร์ที่เป็นฝ่ายเหนือกว่าในการแข่งขัน เขาเริ่มเยาะเย้ยเคิร์ท

 

ผมค่อนข้างแปลกใจกับความโหดร้ายที่เกินความจำเป็น

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างปกติ แต่จู่ๆปีเตอร์ก็ทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยการแกล้งอ่อนข้อ ทำให้ศึกนี้ยาวโดยไม่จำเป็น

 

ปีเตอร์แกล้งอ่อนข้อหนักมาก จนแม้แต่เคิร์ทก็ยังดูงุนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

 

“นั่นสินะ…”

 

ในขณะที่พูดแบบนั้น เคิร์ทก็แกล้งแพ้โดยตั้งใจทำดาบตก

 

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ไม่ นี่มันผิดปกติเกินไปละ…ไม่น่าจะแกล้งอ่อนข้อ… ผู้ชายคนนี้เป็นทายาทของบ้านที่มีคุณธรรมจริงดิ?

 

แบบนั้นใช่มะ? แบบที่ลูกกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทั้งๆ ที่พ่อแม่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้น?

 

หลังจากทิ้งดาบของเขา เคิร์ทก็ทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง

 

“…ฉันยอมแพ้”

 

บรรยากาศของสถานที่จัดงานดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่

 

ปีเตอร์กระทืบไปที่เคิร์ทที่คุกเข่าอยู่

 

“แสดงว่าคุณยอมรับความสามารถของฉันแล้วสินะ?”

 

“…ใช่.”

 

แค่ดูท่าทางของเคิร์ทผมก็สงสารเขาแล้ว

 

ถึงอย่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจที่ปีเตอร์มีคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นลอร์ดชั่วร้ายที่ดีในอนาคต

 

ขณะที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ปีเตอร์ก็หันดาบมาทางผม

 

“นายน่ะขึ้นมาสู้กับฉันซะ! มันคงจะน่าเบื่อถ้าจบแค่นี้ มาเร็วๆเข้า ไอ้ผู้ฝึกดาบผู้น่าสงสาร”

 

เมื่อปีเตอร์ประกาศเช่นนั้น ไวเคานต์ก็สั่งให้ผมขึ้นไปที่ลานประลองพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนเริ่มขอโทษผม

 

“ฉันขอโทษ เขาเป็นแขกคนสำคัญของเรา ดังนั้นฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณออกไปซักหน่อย”

 

“เขากล้ามากที่ดูถูกโรงฝึกของผม เฮ้– จะเป็นไรไหมถ้าผมจะเอาจริง”

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนยิ้มให้ผมเล็กน้อย

 

“ก็เขาไม่ยอมรามือเองนี่? ฉันไม่เคยชอบเรื่องตลกแบบนี้ตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม อย่าฆ่าเขาล่ะ”

 

มีเพียงส่วนที่ไม่ฆ่าเขาเท่านั้นที่พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

ก็แน่นอนผมจะไม่ฆ่าเขา

 

“อย่ากังวลไป ผมอาจไม่ได้ฝึกฝนการอ่อนข้อไว้มากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเคิร์ท ผมสามารถหาวิธีแก้ไขเพื่อทำให้วิชาดาบของผมอันตรายน้อยลง”

 

“จริงรึ?”

 

เพื่อตอบคำถามให้กับอัศวินที่สงสัย ผมขอนำเสนอ ค้อนของเล่นส่งเสียงปิ๊ดๆ

 

ทั้งในจักรวาลนี้และในชีวิตก่อนหน้าของฉัน นี่คือค้อนของเล่นที่ส่งเสียงมื่อใดก็ตามที่มันกระทบบางสิ่ง

 

มันจะไม่เจ็บมากถ้าผมตบเขาด้วยสิ่งนี้

 

“เดี๋ยวนะ คุณไม่คิดว่านั่นจะดูหมิ่นไปหน่อยเหรอ?”

 

“ถ้าผมไม่ใช้สิ่งนี้ ผมอาจจะฆ่าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้”

 

เมื่อผมเข้าสู่สนามประลองด้วยค้อนของเล่น ปีเตอร์เริ่มหัวเราะเยาะผม

 

ไวเคานต์ราเซล จ้องมาที่ผมราวกับว่าฉันเพิ่งตอกตะปูสุดท้ายในโลงศพ

 

ปีเตอร์หันมาหาผม

 

“พูฮะฮะ! ดูเหมือนแกจะยากจน จนไม่มีเงินซื้อดาบสินะ แกรู้ไหมว่าฉันสามารถซื้อของเหล่านั้นได้มากเท่าที่ฉันต้องการ”

 

ขณะที่ฟังเขาพูดพล่อยๆ ผมก็รอสัญญาณเริ่มต่อสู้

 

ผู้ตัดสินมองไปที่ไวเคานต์ราเซล และดูเหมือนจะลังเล แต่ในที่สุดก็ยอมปล่อยหลังจากได้รับคำสั่ง

 

“เตรียมพร้อม… เริ่ม!”

 

พริบตาหลังจากนั้น

 

ค้อนที่ผมเหวี่ยงลงบนหัวของปีเตอร์ก็ส่งเสียง ‘ปิ๊บ’ ดังลั่น เขาทรุดตัวลงกับพื้นดัง ‘ป๊าบ!’

 

ทันทีที่การแข่งขันเริ่มต้น ผมก็ประชิดตัวทันทีแล้วเหวี่ยงค้อนลงไป ทำให้ปีเตอร์ล้มลงไปกองกับพื้น

 

ผมมองเห็นสีขาวในดวงตาของเขา

 

“…ก็แค่นี้เอง”

 

ผมเขย่าค้อนเพื่อตรวจดูสภาพ ดูเหมือนว่าจะยังไม่หัก

 

มันทนทานมากสำหรับของเล่น

 

ขณะที่ผมยืนอยู่คนเดียวในสนามประลอง เด็กรอบๆที่ได้รับสิทธิพิเศษก็ประณามผม

 

“ค-คุณโกง! อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ไม่ยุติธรรมเลย!”

 

“ถ้ามีเรื่องจะบ่นก็ขึ้นมาสิ”

 

ผมจะสอนความจริงของจักรวาลนี้ให้สักหน่อยนะ

 

ในจักรวาลนี้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ถูกต้อง!

 

ถึงเหล่าขุนนางผู้มีคุณธรรมในอนาคต ผมจะสอนความจริงทั้งหมดให้คุณเอง!

 

“มันน่ารำคาญที่จะสู้กับพวกคุณทีละคน ดังนั้นมาพร้อมกันทั้งหมดนั่นแหละ!”

 

“แกมันก็แค่ขยะจากโรงฝึกดาบเล็กๆ อย่ามาอวดดีนะ!”

 

สำหรับพวกโง่ที่ปีนขึ้นมาบนสังเวียน ผมส่งเขาบินออกจากสังเวียนทันที

 

“มันไม่ใช่ ‘โรงฝึกเล็กๆ’ มันคือโรงฝึกประกายแสง ผมจะสลักชื่อนี้ลงไปในหัวของคุณเอง”

 

พวกที่ชนะการแข่งขันเริ่มปีนขึ้นมาบนเวทีและแห่เข้ามาหาผม

 

ผมเป่าพวกมันทั้งหมดออกจากวงแหวนด้วยค้อนของเล่นขณะหัวเราะ

 

เมื่อยืนอยู่ใจกลางเวที ผมเริ่มเล่าความจริงของสถานที่นี้ให้พวกเขาฟัง

 

“อย่าเพิ่งเหลิงเพียงเพราะคุณชนะการแข่งขันที่กำหนดชัยชนะไว้แล้ว! คุณมันเป็นแค่นักดาบตัวเล็กๆเท่านั้นแหละ!”

 

ไม่ใช่แค่คนที่ท้าทายผม แต่แม้แต่ไวเคานต์ราเซล ก็จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าสีแดง

 

ผมคิดว่าอาจจะทำมันเกินไปหน่อย แต่นั่นก็เพราะผมไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาอีก

 

อย่างน้อยมันก็สดชื่น

 

——————————

 

ไบรอัน ( ´・ω・`) “ท่านเลียมน่าทึ่งมาก!”  

 

เทีย ( ゜∀゜) “ลอร์ดเลียมสุดยอดเลยค่ะ!”

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset