The Second Coming of Gluttony 268

ตอนที่ 268

บทที่ 268 – พิธีเปิดอันงดงาม (5)

เวลาได้ผ่านไป และราตรีได้เข้ามาเยือน

ซอลจีฮูคิดว่าจะได้เจอกับยุนซอฮุยอีกครั้งในตอนมื้อเย็น แต่แล้วเขาก็ไม่ได้เจอเธอ ตามที่ผู้ดูแลเธอบอก อาการเมารถของเธอดูจะยังไม่ดีขึ้นทำให้เธอไม่ได้คิดจะลงมากินมื้อเย็น

ซอลจีฮูได้กินอย่างเต็มที่ และมุ่งหน้าไปแช่บ่อน้ำพุร้อนที่นักแปรธาตุได้สร้างเอาไว้เพื่อผ่อนคลายร่างกาย

‘ชั้นที่หนึ่งเป็นของผู้ชาย ชั้นที่สองเป็นของผู้หญิงสินะ?’

เขาได้ตรวจสอบดูชั้นอยู่หลายครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาด เมื่อเปิดประตูขึ้นภาพที่คุ้นตาก็ปรากฏออกมา

ที่ชั้นใต้ดินได้เต็มไปด้วยไอน้ำสีขาว เมื่อมองสำรวจซ้ายขวาแล้ว เขาก็ได้เห็นบ่อน้ำร้อนอยู่จนทำให้ที่นี่เหมือนเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะ

‘เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สาวยูฮุยกับคุณฟีโซราถึงชอบมันนัก’

หลังจากใช้ผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างเอาไว้แล้ว ซอลจีฮูก็คิดว่าจะไปตรงไหนก่อนที่จะเลือกไปที่บ่อน้ำร้อนเทลงมาจากผาที่มนุษย์สร้างไว้

“อ่า…”

เมื่อได้นั่งแช่น้ำพุร้อนสีใส เขาก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที เสียงครางได้หลุดออกมาจากปากเขาในทันทีที่ความร้อนน่าเหลื่อเชื่อสัมผัสถูกร่างกาย

“แกว๊ก…”

ลูกเจี๊ยบที่แอบตามเขามาโดยไม่รู้ตัวก็ยังส่งเสียงร้องออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน ซอลจีฮูได้หัวเราะออกมา

“นายก็ชอบสินะ?”

“แกว๊ก”

ลูกเจี๊ยบคงจะชอบบ่อน้ำพุร้อนมาจนทำให้มันลอยอยู่บนน้ำ และเริ่มว่ายไปมา

ซอลจีฮูได้คิดกับตัวเองโดยปล่อยให้ร่างกายผ่อนคลายไปกับน้ำที่กระทบร่าง แน่นอนว่าเป้าหมายที่เขาคิดถึงก็คือยุนซอฮุย

นอกเหนือจากเหตุผลที่เธอมาที่นี่ทำไมแล้ว เขาก็ยังมีอีกหลายคำถามที่อยากจะถาม เขาได้ถามคนอื่นๆถึงมุมมองที่พวกเขามีต่อเธอ และผิดคาดที่แต่ละคนต่างก็มีความประทับใจกับเธอในระดับหนึ่ง

มันดูเหมือนกับการแสดงความสุภาพที่เธอมีต่อจางมัลดงจะส่งผลเป็นอย่างดี

นี่มันช่างขัดกับภาพลักษณ์ที่พวกเขาวาดหวังเอาไว้สำหรับตัวแทนของซินยองในอนาคตอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะทำตัวห่างเหิน เธอกลับพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองจนทำให้ทุกๆคนประหลาดใจ ฟีโซราถึงขนาดบอกว่าเธอรู้สึกสนิทเหมือนกับเป็นญาติจากยุนซอฮุยเพราะเธอก็ถูกซอลจีฮูทำให้ลำบากเช่นเดียวกัน

‘แต่ว่านี่ใช่ตัวเธอจริงๆงั้นหรอ…?’

ระหว่างคิดแบบนี้เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

‘ฉันยังรู้จักยุนซอฮุยไม่พอที่จะตัดสินได้ว่าอะไรจริงหรืออะไรปลอม?’

แน่นอนว่าคิมฮันนาห์ก็เคยบอกเรื่องต่างๆเกี่ยวกับยุนซอฮุยกับเขา แต่ว่านั่นก็เป็นเพียงความคิดเห็นจากคนอื่นเท่านั้น

เขายังไม่อยากที่จะตัดสินอะไร จากสิ่งที่ยุนซอฮุยได้แสดงออกมาให้เห็นแล้ว มันยากที่จะจับผิดเธอ

เขาก็ยังได้ยินมาด้วยว่ายุนซอฮุยเป็นคนที่ชักชวนให้ผู้บริหารไปเป็นกำลังเสริมให้กับฮารามาร์คในสงครามครั้งก่อน

เมืองอื่นๆที่ร้องขอการสนับสนุนต่างก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจของซินยอง และราชวงศ์สกีเฮราซาร์ด แต่ว่าในท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจของพวกเขาก็ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หากมองจากในมุมนี้แล้ว ซอลจีฮูควรที่จะขอบคุณยุนซอฮุยต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายสูงสุดของซอลจีฮูอีกด้วย

‘อย่างน้อยก็จากที่เธอแสดงออกมาให้เห็นแหละนะ’

ปัญหาเดียวก็คือมันยากที่จะเชื่อใจเธอได้อย่างหมดห่วง

ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ คำๆนี้เป็นคำที่เอาไว้ใช้กับคนที่พูดดีแต่ในเวลาเดียวกันก็ซ่อนมีดเอาไว้แทงอีกฝ่าย

มนุษย์ทุกๆคนต่างก็มีอารมณ์ แม้แต่ซอลจีฮูก็ไม่เว้น และเมื่อไหร่ที่เขาเห็นยุนซอฮุย สัญชาตญาณของซอลจีฮูก็จะเตือนเขาเสมอ

ย้อนกลับไปแล้วนี่มันก็เป็นเหมือนกันกับในตอนที่เขาเจอเทเรซ่า แม้ว่าพวกเขาจะเจอกันเป็นครั้งแรก แต่ว่าเขาก็รู้สึกว่าเธอดึงดูดแปลกๆ และตามเธอไปที่หุบเขาอาร์เดนทั้งๆที่ยังอยู่แค่ระดับ 1

มันก็แค่เพราะเขาถูกเทเรซ่าดึงดูดเท่านั้นเอง

สถานการณ์ของยุนซอฮุยก็ต่างกันอยู่หน่อย เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาพยายามจะสนิทกับเธอ บางอย่างภายในตัวเขาก็จะห้ามเขาเอาไว้ มันค่อนข้างจะคลุมเครือ แทนที่จะผลักไสเธอออกไป มันเหมือนกับจะทำให้เขารักษาระยะห่างกับเธอไว้มากกว่า

ซอลจีฮูก็ไม่รู้ว่าทำไม

‘เธอเป็นมิตรหรือศัตรูกันนะ?’

หรือเธอจะเป็นฝ่ายที่สามที่ไม่ใช่ทั้งมิตรหรือศัตรู?

“ไม่เข้าใจเลย…”

เมื่อเขาได้ถอนหายใจออกมา

“ไม่เข้าใจอะไรหรอ?”

ซอลจีฮูได้เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ

จากนั้นเขาก็ต้องพููดไม่ออก ยุนซอฮุยกำลังยืนอยู่ด้านนอกบ่อน้ำพุร้อนด้วยรอยยิ้มงดงาม

‘อะไรกัน?’

หากนี่เป็นการโจมตีก็คงเป็นการลอบโจมตีที่ยอดเยี่ยมมาก

แต่โชคดีที่ยุนซอฮุยมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวที่ปกปิดท่อนบนกับท่อนล่างเอาไว้เท่านั้น แต่แน่นอนว่าไหล่เล็กๆ และผิวเรียบของเธอก็เผยออกมาให้เห็นจนหมด แต่ว่ามันก็ให้ความรู้สึกสง่างามมากกว่าความลามก

ยุนซอฮุยได้รวบมือเข้าด้วยกัน และทำสีหน้าลำบากใจออกมา

“ต้องขออภัย ฉันรู้ว่าห้องอาบน้ำของผู้หญิงอยู่ที่ชั้นสอง แต่ว่าฉันไม่มีทางเลือก”

“ไม่มีทางเลือก?”

“ค่ะ ที่นั่นมีคนอยู่ก่อนแล้ว ยูฮุยเอาแต่จ้องฉันเขม็งเลย ฮ่าฮ่า”

เธอได้พูดเหมือนกับว่าซอยูฮุยได้ไล่เธออกมา

“ฉันรู้สึกไม่สบาย แล้วก็อยากจะมาน้ำพุร้อนโดยหวังว่าการได้เหงื่อมันจะช่วยให้ฉันดีขึ้น ตอนนี้ฉันรู้สึกเศร้าแล้วสิ”

ซอลจีฮูได้พูดออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึง

“พี่สาวยูฮุยไม่ใช่คนแบบนั้นนะครับ”

“โอ้ ตัวแทนซอล คุณคงยังไม่ได้รู้เรื่องบุตรแห่งลูซูเรียดีใช่ไหม?”

ยุนซอฮุยได้ยิ้มออกมา

“เธอเป็นคนที่สุดโต่งกว่าที่คุณคิดนะ เธอเป็นคนที่มีบุคลิกจิตใจดีมีเมตตาก็จริง แต่ว่าเมื่อไหร่ที่มีคนทำให้เธอไม่พอใจ เธอก็จะไม่มีวันหันกลับมามองคนๆนั้นอีกเลย”

ยุนซอฮุยดูเหมือนจะกำลังล้อเล่น แต่ว่าน้ำเสียงของเธอไม่ใช่เลยสักนิด

“ยังไงก็ตามอยู่ตรงนี้มันก็รู้สึกก็ไม่ถูก แต่ฉันก็ยังอยากจะขอแช่น้ำพุร้อน เพราะงั้น….”

ยุนซอฮุยได้พึมพำก่อนจะหันมองซอลจีฮู

“ฉันขอเข้าไปได้ไหมคะ?”

ซอลจีฮูได้กลับมาสู่ความเป็นจริงจากน้ำเสียงนี้ของเธอ ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกเดจาวูแปลกๆ หรือว่าเขาควรจะบอกว่าเขารู้สึกเหมือนเขาอยู่ผิดที่? บางทีอาจจะทั้งคู่ก็ได้

[ฉันขอเข้าไปได้ไหมคะ?]

ในวันนี้เขาก็รู้สึกแบบเดียวกันที่ทางเข้าชั้นหนึ่ง มันเป็นในตอนที่ยุนซอฮุยขอซอลจีฮูเข้ามาในสำนักงาน

“ได้ครับ ตามสบายเลย เดี๋ยวผมจะออกไป แล้วก็เพื่อไม่ให้เกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ใช่ใครเข้ามาในบ่อน้ำพุร้อนของผู้ชายสักพักนะครับ”

ซอลจีฮูได้รีบจัดแจงผ้าเช็ดตัวรอบเอว และลุกขึ้น

“ไม่หรอก ไม่เป็นไร แขกจะมาแย่งที่เจ้าของได้ยังไงกัน?”

แต่ว่าเมื่อเธอพูดแบบนี้ยุนซอฮุยก็ได้ก้าวเข้ามาในบ่อน้ำร้อน

“แต่ว่า-“

“อ่า ไม่เป็นไรหรอก พวกเราทั้งคู่ต่างก็มีผ้าเช็ดตัวอยู่”

หลังจากหัวเราะออกมาเธอก็หันหน้าไปครึ่งหนึ่งและค่อยๆนั่งลงไป ระยะห่างระหว่างเธอกับซอลจีฮูมีไม่มากเลย

“อ่า~ นี่มันเยี่ยมไปเลย”

ในท้ายที่สุดซอลจีฮูก็ยังกลับลงไปนั่ง

“น่าทึ่งมาก! ฉันอิจฉาจังเลยที่มีบ่อน้ำพุร้อนใต้ดิน…”

ซอลจีฮูได้ไปมองยุนซอฮุยเมื่อเห็นเธอเอนหลังลงไปลูบผม

ผมสีดำสลวย ผิวสีน้ำนม และใบหน้าที่ดูเปล่งประกาย ซอลจีฮูรู้สึกแบบเดียวกันในตอนที่อยู่ที่ร้านกาแฟ เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์มากจริงๆ

แม้ว่าภาพลักษณ์ของเธอจะดูเย็นชา สูงส่งในตอนแรก แต่สีหน้าและรอยยิ้มของเธอที่มีอยู่เสมอก็ได้ทำให้บรรยากาศรอบตัวอ่อนโยนลง

ส่วนสูงกับรูปร่างของเธอก็เป็นเช่นเดียวกัน บนร่างกายของเธอไม่มีไขมันส่วนเกินอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

ออร่าความห่างเหินและอ่อนโยนได้ถูกปล่อยออกมาพร้อมๆกัน มันเป็นความขัดแย้งอันงดงาม แม้ว่าในบางมุมเธอจะดูคล้ายกับยุนซอรา แต่คำพูดและการกระทำของเธอก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนดูแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย

ไม่ว่าจะแบบไหนการได้อาบน้ำกับหญิงสาวที่งดงามแบบนี้โดยที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวปกปิดเอาไว้ มันก็คงจะไม่แปลกหากใจของซอลจีฮูจะเต็มแรงขึ้น แต่ยังไงก็ตามหัวใจของเขากลับเต้นช้าลงแทน

เขาเป็นกังวล ไม่ใช่หัวใจที่สั่นไหว แต่เป็นเพราะความระวังตัวที่พุ่งขึ้นมา ในแง่นี้แล้วมันลึกลับมากๆ

แม้กระทั่งในตอนนี้สมาธิทั้งหมดของซอลจีฮูก็ยังมุ่งไปที่สิ่งที่ยุนซอฮุยจะพูด และหาสาเหตุที่ว่าทำไมเธอถึงเข้ามาที่นี่

“โอ้ จริงสิ”

แปะ เสียงปรบมือได้ดังออกมา ยุนซอฮุยได้หันมามองซอลจีฮูราวกับเธอเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได

“มีเรื่องที่ฉันอยากจะรู้อยู่มากเลยล่ะ”

มันเริ่มแล้ว

“คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับซอรางั้นหรอ?”

แต่ว่านี่เป็นคำถามที่เขาคาดไม่ถึงเลยสักนิด เขาคิดว่าจะตอบกลับไปเล่นๆและถามเรื่องชื่อองค์กรอีกครั้ง แต่ว่าสมองเขาก็หยุดนิ่งไปแทบจะในทันที

“เพื่อนจาเขตพื้นที่เป็นกลาง… นี่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่คุณต้องการ”

เมื่อเขาได้ตอบกลับไปนิ่งๆ ยุนซอฮุยก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

“ฉันคิดไม่ถึงเลย ฉันมั่นใจว่าคุณคงจะพูดว่า ‘อะไรนะครับ?’ ซะอีก”

“…อะไรนะครับ?”

“นั่นแหละ ถูกแล้ว”

ซอลจีฮูได้กลายเป็นสับสนก่อนจะส่ายหัวออกมา

“ผมเข้าใจนะว่าคุณอยากจะถามอะไร แต่ว่าความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น”

“เอ๋~ ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นแค่เพื่อนได้ยังไงกัน?”

“มันก็ยากที่จะบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน คิดซะว่าพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันในพาราไดซ์ก็ได้”

ยุนซอฮุยได้เม้มริมฝีปากและร้อง “โอ้ว~” ออกมา

“…ว้าว หากว่าคุณพูดแบบนั้น ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ หากซอรารู้เขาเธอคงจะเศร้าแน่เลย ในตอนแรกแม้กระทั่งนอนหลับเธอยังทำได้ยากเลย”

ยุนซอฮุยได้หัวเราะออกมาพร้อมพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ยังไงก็ตามคุณไม่ตัดขาดเธอโหดร้ายไปหน้อยหรอ? หากเธอรู้เขาซอราของเราได้กลายเป็นเด็กน่าสงสารแน่เลย”

ซอลจีฮูก็พอจะเข้าใจซอยูฮุยบ้างแล้ว เขาได้หันไปมองยุนซอฮุยที่พูดเล่นออกมาตรงๆ

“ผมไม่รู้”

ซอลจีฮูไม่รู้ว่าทำไม…

“ในสายตาของคุณผู้บริหารยุนมันก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่ผมไม่คิดว่าเธอน่าสงสารเลยสักนิด”

แต่ว่าจู่ๆคำพูดนี้ก็ออกมาจากปากของเขา ดวงตาของยุนซอฮุยได้เบิกกว้าง และเธอก็เงียบลงไป

ความเงียบได้เกิดขึ้น ซอลจีฮูได้หลุด ‘อ๊ะ’ หลังจากที่พูดมันออกมา แต่ว่าเขาก็ได้พูดมันออกไปแล้ว

“อ่า…”

ยุนซอฮุยที่ทำอะไรไม่ถูกได้โบกมือออกมา

“มะ ไม่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น…”

เธอได้ลูบท้ายทอยอันน่าหลงไหลด้วยสีหน้าลำบากใจมากๆ

“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น… ขออภัยด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสอบสวนหรืออะไรกับคุณเลย”

ซอลจีฮูอยากจะถามออกไปว่าถ้างั้นเธอคิดว่าเขาคิดว่าเธอหมายความว่ายังไงหรือว่าเธอมีเจตนาอะไรกันแน่ แต่เขาก็ห้ามตัวเองเอาไว้

“ไม่หรอก คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษ ผมก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นเหมือนกัน ผมแค่พูดในสิ่งที่คิดออกมา”

“อ่า~ ฉันเข้าใจแล้ว ทำไมวันนี้ฉันถึงเป็นแบบนี้นะ?”

ยุนซอฮุยได้แลบลิ้นออกมาราวกับว่าเธออับอายเป็นอย่างมาก ซอลจีฮูได้หยุดหรี่ตาลง และค่อยๆพูดต่อ

“จะว่ายังไงดีล่ะ… ผมคิดมาเสมอว่าคุณยุนซอราเป็นคนที่เท่มากๆ เธอไม่รับกับสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย และลุกขึ้นยืนกลับมา”

“ว้าว คุณพูดเหมือนกับที่ซอราพูดเลย”

“?”

“เธอบอกว่าคุณก็เป็นคนที่เท่มากเหมือนกัน คุณได้ยื่นมือไปหาเธอในตอนที่เธอจมอยู่ในก้นนรกพร้อมที่จะยอมแพ้และตายไปแล้ว

“…”

“นี่มัน… สัญชาตญาณของหญิงสาวกำลังตื่นเต้น~”

ยุนซอฮุยได้แสดงสีหน้าสงสัยออกมา เธอมีประสบการณ์ในการเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกันกับคิมฮันนาห์

“คุณคิดอะไรงั้นหรอ?”

‘เดี๋ยวก่อนนะ’

ยิ่งเขาโต้ตอบกับเธอเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสงสัย

‘ไม่ใช่ว่ามีช่องหนึ่งในหน้าต่างสถานะที่จะแสดงถึงอารมณ์ของคนๆนั้นหรอกหรอ?’

ซอลจีฮูได้ลังเลก่อนที่จะตัดสินใจออกมา เขารู้สึกผิดกับยุนซอฮุยอยู่เล็กน้อย แต่ว่ามันก็อดไม่ได้จริงๆ

ขณะที่ซอลจีฮูใช้งานนพเนตร…

“ฉันรู้ว่าคุณพูดชัดแล้ว แต่ว่า- ฟุฟุฟุ”

ยุนซอฮุยได้หัวเราะออกมาอย่างมีนัยยะก่อนที่จะยกช่วงบนขึ้นเล็กน้อย และลอยไปกับน้ำ ต่อจากนั้นเมื่อซอลจีฮูเงยหน้าขึ้นก็มีแสงเจิดจ้าออกมาจากยุนซอฮุย

ในทันทีที่เขาได้เห็นสีของเธอ เขาก็ต้องเบิกตากว้าง

นั่นก็เพราะยุนซอฮุยไม่ได้มีแค่สีเดียว

สีเขียว เหลือง น้ำเงิน คราม ม่วง! สีทั้งห้านี้ได้พันกันเป็นเกลียวคลื่นอยู่รอบๆตัวยุนซอฮุย

พูดตามตรงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นหลายสีในคนๆเดียว แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เห็นคงที่เปล่งประกายออกมาห้าสีพร้อมๆกัน

“ฉันสงสัยว่าอย่างน้อยซอราคงมีความหวังอยู่สักหน่อยล่ะนะ…”

‘อะไรกัน-!?’

ซอลจีฮูตกใจจนเอนหลังถอยไปแทบจะพร้อมๆกันกับที่ยุนซอฮุยหยุดหลังจากเข้ามาใกล้เขา

ต่อจากนั้น ภาพนิมิตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซอลจีฮู

บางทีอาจจะเพราะมีมากกว่าหนึ่งสี จึงมีอยู่หลายนิมิต นิมิตทั้งห้าได้เล่นออกมาพร้อมๆกัน

ซอลจีฮูรู้สึกสับสนอยู่แล้ว และด้วยฉากภายในนิมิตกำลังเคลื่อนไหวทับซ้อนกันด้วยทำให้เขาไม่อาจจะทำความเข้าใจได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

จากนั้นในที่สุดเมื่อเขาแยกตัวออกมาได้ และตรวจสอบนิมิตหนึ่ง…

“!”

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆในทุกๆครั้งที่เจอยุนซอฮุย

‘ไม่…’

ลมหายใจของซอลจีฮูได้นิ่งไป

‘มีทาง…’

ดวงตาเขาได้เบิกกว้างพร้อมปากที่อ้าค้าง

จากนั้นจู่ๆเขาก็เห็นยุนซอฮุยกำลังจ้องมาที่เขาอย่างสับสน สีหน้าของเธอต่างไปจากก่อนหน้านี้เล็กน้อย เมื่อเห็นดวงตาที่ไร้อารมณ์ของเธอกำลังจ้องมาที่เขานิ่งๆ ทั่วร่างเขาก็เกิดความรู้สึกหนาวขึ้นมา

แต่นั่นก็แค่ครู่เดียว เธอได้ละสายตาไปจากใบหน้าของซอลจีฮู และมองขึ้นไปในทันที

‘อ่า’

จากนั้นเมื่อหันกลับลงมา มันก็ไม่มีอะไรให้สังเกตเห็นจากเธออีก เธอได้มองตรงไปที่จุดที่ภาพนิมิตเคยแสดงอยู่ ในเวลาสั้นๆนั้น เธอสังเกตเห็นได้ว่าซอลจีฮูไม่ได้มองที่เธอ

“ขอโทษด้วย ผมตกใจที่จู่ๆคุณก็เข้ามา”

แม้ว่าซอลจีฮูจะรีบหาข้ออ้างออกมา แต่มันก็สายไปหน่อยแล้ว มุมปากของยุนซอฮุยได้โค้งขึ้น เธอได้แสดงสีหน้าประหลาดใจเหมือนจะกำลังพูดว่า ‘โอ้?’

ซอลจีฮูได้เม้มปาก ท่ามกลางนิมิตมากมาย เขาได้รีบตรวจสอบฉากที่รายล้อมไปด้วยเคร้าโครงสีเหลืองก่อนจะมองกลับไปที่ซอยูฮุย

จากทั้งห้าฉาก มีเพียงแค่นิมิตนี้เท่านั้นที่ค่อนข้างเงียบสนิท

ยุนซอฮุยกำลังนั่งอยู่กับพื้นด้วยสภาพไม่สู้ดี โดยที่มีปีศาจยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ไม่สิ มันไม่ใช่ปีศาจ

[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…]

หากว่าเขามองไม่ผิด-

[…ทำไมล่ะ?]

ยุนซอฮุยได้หัวเราะออกมาก่อนที่จู่ๆเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง และชายที่กำลังชี้หอกไปที่คอของเธอ…

[ทำไมปีศาจหอกผู้ยิ่งใหญ่ของเรา- ทำไมเขาถึงเกลียดฉันมากขนาดนี้ล่ะ?]

…ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากตัวซอลจีฮูเอง

The Second Coming of Gluttony

The Second Coming of Gluttony

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 เข้าอ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


เขาเป็นผีพนัน ขี้แพ้ มนุษย์ที่น่าขยะแขยง แต่ว่าความฝันก็ได้ปลุกตัวเขาที่ไร้สติอยู่จนตื่นขึ้น

เขาจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขามี และใช้ความฝันเพื่อบุกเบิกเส้นทางของตนในโลกที่มีเป็นที่รู้จักกันในชื่อลอส พาราไดท์

“บุตรแห่งเทพกู่ลาได้หวนคืนมาแล้ว”

ฉันได้ติดอยู่ในโลกแห่งการพนัน ฉันได้หันหลังให้กับครอบครัวและกระทั่งทรยศต่อคนรัก

ฉันได้ใช้ชีวิตไปอย่างไร้ค่า ฉันมันเป็นเศษสวะ ความเป็นจริงได้บอกกับฉันเช่นนี้

ไม่ว่าฉันจะมีเงินแค่ไหนฉันก็สูญเสียมันไปจนหมด

เพื่อที่จะเปลื่ยนชีวิตที่น่าสมเพชนี้ ฉันได้เลือกที่จะไปสู่จินตนาการแทน แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังเป็นเช่นเดิม

ฉันสงสัยว่าฉันจะรอดไปถึงปลายทางของถนนที่ยาวไหลนี้ได้ไหม

แต่แล้วฉันก็ต้องถูกบังคับให้ต้องคุกเข่าต่อหน้าองค์กรที่ทรงพลัง

สิ่งที่ฉันได้บากบั่นสร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเองได้พังทลายลงอย่างไร้ค่า

อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ฉันอยากที่จะบอกให้ตัวฉันเองรู้ถึงความจริงเรื่องนี้

มานี่สิ บุตรข้า…

ในคราวนี้ฉันจะไม่ลีลาอีกต่อไปแล้ว

Options

not work with dark mode
Reset