Midterm Fantasy 88

ตอนที่ 88
ฉิบหายแล้วไง!

ร่างของลุงยามถูกยกขึ้นรถฉุกเฉินไป แม้จะรู้สึกตัวแล้วแต่พยาบาลบนรถบอกว่าลุงยามสลบไป ต้องเอาไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนว่าได้รับความกระทบกระเทือนที่สมองมากแค่ไหน

รอนกับแพทค่อยๆเดินหลบไปที่ด้านข้าง น้องม.1สามคนนั่งตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่ที่หน้าห้องฝ่ายปกครอง

“ไม่ต้องกลัวนะ ตอนนี้อยู่ที่นี่คนเยอะแยะไม่เป็นไรหรอก”

แพทปลอบน้องผู้หญิงที่นั่งกลัวอยู่

“พวกนั้นมันกระชากกระเป๋าหนูไป ข้างในมีบัตรประชาชนด้วย จะมีอันตรายหรือเปล่าคะ”

“พวกเราเดินอยู่เฉยๆ ไม่รู้ทำไมจู่ๆพวกนั้นก็เข้ามาทำร้ายพวกเรา นี่มันเรื่องอะไรกัน”

ทั้งรอนและแพทมองดูรุ่นน้องทั้งสามที่นั่งตัวสั่น ที่กลางหลังของน้องผู้หญิงทั้งสามคนมีรอยเปื้อนที่เกิดจากไม้ของพวกนั้นฟาดเข้าใส่ แขนมีรอยช้ำม่วงจากการถูกตี

แชะ แชะ แชะ

“เดี๋ยวๆคุณ ไม่ถ่ายรูปนะครับ”

พี่ยามสองคนห้ามชายคนนึงที่กำลังยกกล้องขึ้นถ่าย แต่ชายคนนั้นยกบัตรให้ดูแล้วยังคงยกกล้องขึ้นถ่ายต่อไปแม้จะถูกขอร้องให้ออกห่างจากเขตโรงเรียน

“คนนั้นใครกันน่ะ” แพทถามรอนพร้อมกับขมวดคิ้วแบบไม่พอใจขณะที่ชายคนนั้นหันกล้องมาทางเธอ

“น่าจะเป็นคนทำน้ำมันน่ะ”

“หืม”

“ก็มีบัตรPressน่ะ คงเป็นพวกทำน้ำมันพืช”

“….”

“ไม่ตลกเลยพี่”

“กริบ”

น้องๆทั้งสามผู้เสียหายเงยหน้าขึ้นมองรอนพร้อมๆกัน

บรื้นนนนนนนน

“เสียงอะไรน่ะ”

รถมอเตอร์ไซค์วิ่งบึ่งมาจากด้านในซอย แล้วก้อนบางอย่างก็ลอยข้ามกำแพงเข้ามา พุ่งทะลุกระจกห้องฝ่ายปกครองตรงจุดที่รอนและน้องๆ3คนนั้นนั่งอยู่

เพล้ง!

“ว้าย”

บรื้นนนนนนนนน

รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว นักเรียนที่อยู่หน้าโรงเรียนต่างวิ่งหนีแตกตื่น เสียงกรีดร้องของเด็กนักเรียนหญิงดังขึ้นสลับกับเสียงของรุ่นพี่ม.6

“เฮ้ย ใครก็ได้ถ่ายรูปรถมันไว้เร็ว”

พี่ม.6วิ่งกรูกันออกไปด้วยใบหน้าที่เกรี้ยวกราด แต่เมื่อวิ่งไปถึงก็ไม่ทันซะแล้ว

“ลุงๆ ลุงถ่ายมอเตอร์ไซค์มันทันไหมครับ” พี่ม.6คนนึงร้องถาม

แต่ลุงที่ถือกล้องคนนั้นส่ายหน้า ภาพมอเตอร์ไซค์พื้นๆที่กำลังหนีนั่นไม่ได้อยู่ในความคิดของเขา ภาพของนักเรียนที่กำลังตกใจกรีดร้อง และภาพของนักเรียนชายที่กำลังทำหน้าโกรธแค้นสุดขีดน่าสนใจกว่าตั้งแยะ

“นั่นมันลูกน้องเป๋งโมบายหรือเปล่าวะ” คนขับรถของโรงเรียนพูดขึ้น

“เห็นไม่ชัดว่ะ แต่น่าจะใช่” คนขับรถอีกคนบอก “แต่แปลกนะมันบอกว่านักเรียนที่นี่ไปทำร้ายพวกมัน จะเป็นไปได้ยังไงกัน”

ชายผู้ถือกล้องแววตาเป็นประกายเมื่อได้ยินบทสนทนานั้น เขามองเข้าไปที่ด้านในโรงเรียน ถ่ายภาพนักเรียนที่เลือดอาบเต็มแขนจากนั้นก็รีบกลับที่ทำงานอย่างอิ่มเอม

“แพทไม่เป็นไรใช่ไหม”

“อื้อ ไม่เป็นไร”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น คลายแขนที่โอบกอดร่างของเพื่อนสาวเอาไว้ออกมา

“เฮ้ย เลือด แพท ทำไมเลือดเต็มไปหมดเลย” รอนร้องอย่างตกใจ “มาสเตอร์ครับ ช่วยด้วยครับ มีคนเจ็บ เรียกรถพยาบาลด้วยครับ”

เด็กหนุ่มส่งเสียงร้องดัง มือดึงเปิดแขนเสื้อที่ชุ่มโชกเลือดของเด็กสาวออกหาตำแหน่งที่เลือดออก

“เดี๋ยวรอน เดี๋ยวก่อน” แพทร้องปัดมือวุ่นวาย

“ไม่ได้แพท ต้องกดห้ามเลือดไว้ไม่งั้นเลือดไหลไม่หยุดอันตรายนะ”

มือทั้งสองยังพยายามเปิดเสื้อเด็กสาวเพื่อหยุดหาจุดเลือดออกอย่างลนลาน แต่ไม่ว่าจะเปิดตรงแขน ท้อง หรือหลัง ก็ไม่พบบาดแผล

“แผล แผลอยู่ไหน ทำไมไม่มีแผล”

“รอน! แผลอยู่ที่แขนเธอ ” แพทร้องเสียงดัง ส่วนมือดึงเสื้อที่ถูกรอนดึงจนถึงกลางหลังลงด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ปึด ปึด ปึด ปึด

เสียงเลือดที่กำลังพุ่งเป็นสายออกจากแขนของเด็กหนุ่มได้ยินออกมาเบาๆ รอนหันไปมองแขนตัวเองที่มีกระจกปักอยู่อีกหลายชิ้นแล้วดึงกระจกออกมา

ปึดๆ ปึดๆ ปึดๆ

เลือดพุ่งออกมาอีกสาย

“กรี๊ดดดด ตาบ้า ใครสั่งใครสอนให้ดึงเศษออกจากแผล” แพทกรีดร้อง ใช้มือซ้ายกดลงไปที่แผลของรอนเพื่อหยุดเลือด อีกมือพยายามหาว่าตนเองมีผ้าหรืออะไรจะเอามากดแผลได้ไหม

“เอารถมาเร็วเข้า” ครูเทพตะโกนเรียกคนขับรถโรงเรียน “รอน ขึ้นรถเร็ว ส่วนวิกานดาเธอกดแผลห้ามเลือดต่อไปอย่าปล่อยมือ”

เด็กทั้งสองถูกจับขึ้นหลังกระบะ จากนั้นรถก็บึ่งออกไปโดยมีเด็กทั้งสองนั่งในแคปหลัง

“รอน”

“หืม”

“หลับตา”

แม้ไม่รู้ว่าแพทจะทำอะไรแต่รอนก็หลับตาอย่างว่าง่าย เด็กสาวค้นหาของครู่หนึ่งแล้วใช้ผ้ากดลงบนแผลของรอนแทนการใช้มือกด เลือดที่ยังไหลซึมอยู่ค่อยๆหยุดไหลลง

“แพทใช้เวทรักษาได้ไหม” รอนถาม

“ไม่ได้ ถ้าใช้แล้วแผลหายขึ้นมาทุกคนต้องสงสัยแน่ๆ” เด็กสาวตอบ “นี่ เธอกินลูกอมนี่ก่อน”

แพทล้วงลูกอมออกจากกระเป๋าแล้วแกะห่อด้วยมือเดียวส่งให้ รอนรับไปเคี้ยวหนึบๆ

[+0.2]

[+0.2]

[+0.2]

[+0.2]

ตัวเลขเขียวๆโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอ รอนลองยกมือของแพทขึ้นเบาๆแล้วดูที่แผล เลือดที่ไหลพุ่งเป็นสายเมื่อครู่หยุดลงแล้ว

ใช้เวลาไม่นานนักรถกระบะของโรงเรียนก็ขับไปจอดที่ห้องฉุกเฉิน แพทพยุงรอนลงจากรถเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

“แผลลึกเหมือนกันนะ โชคดีที่ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่” หมอเคพูด “เดี๋ยวเย็บแผลสักหน่อยแล้วกันแผลยาวแบบนี้น่าจะเย็บสัก20เข็ม”

“20เข็ม!”

“ใช่ เดี๋ยวรอคุณพยาบาลเตรียมที่เย็บแผลก่อน แล้วหมอมาเย็บให้”

หมอเคเดินออกไปที่เตียงข้างๆ รอนหันไปหาแพท

“แพท เอาลูกอมมาหน่อย”

“ไม่ได้ เดี๋ยวแผลหายหมดคนจะสงสัย”

“นิดนึงน่า ขอหน่อย”

“ไม่ได้”

“น่า นะ นิดนึง”

แพทยื่นลูกอมให้อย่างเสียไม่ได้ รอนจัดการกินเข้าไป

[+0.2][+0.2][+0.2][+0.2]

เอ้า อีกเม็ด

[+0.2][+0.2][+0.2][+0.2]

อีกเม็ด!

[+0.2][+0.2][+0.2][+0.2]

ครืดดดด

หมอเคเปิดม่านเข้ามา แพทออกไปรอที่ด้านนอก แขนของรอนถูกดึงยืดออก น้ำยาถูกทารอบแผล ผ้าเจาะกลางถูกปูลง หมอเคเตรียมเข็มฉีดยาชาแล้วมองลงไป

“หืมมมม”

แผลที่ยาวและลึกเมื่อครู่ มาบัดนี้เหลือความยาวเพียง3ซม.

“แบบนี้น่าจะเย็บแค่4-5เข็มก็พอ” หมอเคหรี่ตามองหน้ารอนนิดนึง ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมา ก่อนจะลงมือฉีดยาชา เข็มถูกปักลงไป ไซโลเคนผสมแอดรีนาลินถูกฉีดชำแรกเข้าไปในเนื้อเยื่อ ตามด้วยเข็มเย็บที่ตักลงไปทีละเข็มๆ

“เอ้า เสร็จแล้ว” หมอเคจัดการปิดก็อซและพันแผลให้ “อ้อ นี่ฟองน้ำที่เธอใช้กดแผลมาเมื่อกี้ จะเก็บหรือจะทิ้งเลย”

“ฟองน้ำ?”

รอนหยิบฟองน้ำกลมๆชุ่มเลือดพลิกไปพลิกมาดูไม่ออกว่ามันคืออะไร

“เก็บไว้ก่อนแล้วกันครับ อันนี้เป็นของเพื่อนผม เดี๋ยวผมถามเธออีกที”

ครืดดดดด

“เสร็จแล้วใช่ไหมรอน เป็นไงบ้าง เจ็บมากไ……..”

แพทค้างคำพูดไว้เพียงเท่านั้น ปากอ้าค้างเอาไว้ขณะที่ตาจ้องมองดูฟองน้ำเปื้อนเลือดในมือของรอน

“อ๋อ นี่ฟองน้ำที่เธอกดห้ามเลือดเราเมื่อกี้ไง เดี๋ยวเราเอากลับไปซักให้ที่บ้านก็ได้นะ”

“ไม่เป็นไร เอามานี่” เด็กสาวคว้าหมับเข้าให้แล้วขอถุงพลาสติกจากพยาบาล คุณพยาบาลกลั้นหัวเราะยื่นถุงให้ ตาเหลือบมองไปที่หน้าอกของเด็กสาว

“เดี๋ยวเธอไปนั่งรอที่หน้าห้องจ่ายยาก่อน รอรับยากับใบรับรองแพทย์” หมอเคบอก รอนกับแพทเดินไปรอที่หน้าห้องจ่ายยาและนั่งลงที่เก้าอี้ยาว แพทก้มหน้าก้มตามองถุงในมือพวงแก้มแดงเรื่อไม่พูดไม่จากับรอน เด็กหนุ่มเองก็ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่มองทีวีของโรงพยาบาลที่เปิดไว้ที่ช่องเคเบิลช่องหนึ่ง ภาพบนหน้าจอตัดไปที่ข่าวด่วน

“มีรายงานด่วนจากโรงเรียนมัธยมชื่อดังใจกลางกรุง เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างนักเรียนในโรงเรียนกับกลุ่มอันธพาล”

รอนมองตามข่าวส่ายศีรษะ ขณะที่พวกเขาเจอก่อกวนกลับมีเด็กที่ไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาท ช่างแย่จริงๆ

แต่เดี๋ยวนะ ภาพนั่นมันคุ้นๆ

“นี่เป็นภาพที่นักข่าวของเราบันทึกได้ขณะเกิดเหตุทะเลาะวิวาท”

ภาพบนเครื่องรับโทรทัศน์ตัดไปเป็นภาพรุ่นพี่ม.6ที่กำลังวิ่งไปหน้าโรงเรียนด้วยสีหน้าที่โกรธจัดเพื่อหวังจะถ่ายภาพคนที่ปาหินใส่กระจกในโรงเรียน

“จากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บหลายคน เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินและนักเรียน นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ทางเราได้สอบถามไปทางโรงเรียนและกลับพบว่าไม่มีใครสามารถบันทึกภาพคู่กรณีได้”

ภาพตัดไปเป็นภาพนักเรียนหญิงที่ถูกทำร้าย3คนแรก เสียงบรรยายยังคงบรรยายต่อไป

“แต่จากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยระบุว่า การกระทำครั้งนี้น่าจะเป็นการลงมือของผู้กว้างขวางในพื้นที่ที่ชื่อว่า เป๋งโมบาย ซึ่งเป็นผู้ที่เป็นที่รู้จักกันว่าทำธุรกิจโทรศัพท์มือถืออยู่ในพื้นที่ มีข่าวลือว่าเป๋งโมบายคนนี้มีธุรกิจสีเทาหลายอย่างและมีสายสัมพันธ์กับแก็งค์ ‘ซื่อเย่ว์’ แก็งค์ชาวจีนที่รู้จักในไทยในชื่อแก็งค์เมษา ซึ่งทางเราจะได้รวบรวมข้อมูลต่อไป”

รอนมองดูภาพบนทีวีแล้วขมวดคิ้ว เพราะขณะที่ผู้บรรยายพูดถึงเป๋งโมบายและแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนั้น ภาพข่าววนไปวนมาที่ใบหน้าของน้องม.1ผู้หญิงทั้ง3คนตลอดเวลา

“แบบนี้ไม่น่าเหมาะนะ ใครไม่รู้จะคิดว่าน้องสามคนนั้นเป็นคนให้ข้อมูล แล้วลงข่าวแบบไม่ปิดบังใบหน้าอย่างนี้จะดีเหรอ”

หลังรับยาเสร็จรอนกลับไปที่โรงเรียน ทั้งสองเดินผ่านตำรวจที่กำลังดูที่เกิดเหตุเข้าไปในห้องฝ่ายปกครอง บราเดอร์สมนึกกำลังคุยโทรศัพท์อยู่อย่างเคร่งเครียด ส่วนห้องข้างๆครูกำลังรับสายผู้ปกครองที่โทรเข้ามาจนสายแทบไหม้

ปัง!

โทรศัพท์ในมือบราเดอร์ถูกปาอัดเข้าแป้นจนพลาสติกแตกกระจาย

หลังจากหายใจเข้าออกลึกๆครึ่งนาที บราเดอร์ก็ค่อยๆพูดออกมา

“ทางนั้นไม่ยอมเอาข่าวออก บอกว่าในข่าวมีความชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้ระบุสักคำว่านักเรียน3คนนั้นให้ข่าว”

“แต่บราเดอร์บอกแล้วใช่ไหมครับว่าถ้าคนฟังผ่านๆอาจจะเข้าใจผิดได้”ครูเทพบอก

“ใช่ แต่ทางนั้นยืนยันว่าในข่าวไม่ได้ระบุ ดังนั้นเค้าไม่ผิด” บราเดอร์บอก “เมื่อกี้เลยให้ทนายโทรไปอีกทางหวังว่าจะพอเจรจาอะไรกันได้บ้างก่อนจะมีคนเข้าใจผิด”

รอนนึกได้พอดี

“บราเดอร์ครับ น้องคนที่เจอเอาภาพขึ้นข่าวเค้าบอกกับผมว่าตอนที่เจอทำร้ายเค้าถูกคนพวกนั้นแย่งกระเป๋าไป ในนั้นมีบัตรประชาชนน้องเค้าอยู่ด้วย”

“ตายล่ะ แบบนี้ยิ่งต้องรีบให้ทางนั้นแก้ข่าว ไม่งั้นอันตรายแน่”

กริ๊งงงงงงง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“สงสัยทางช่องโทรมา เดี๋ยวขอคุยดูก่อน ฮัลโหล เอ๊ะ ครับ ……เดี๋ยวๆเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ นี่ไม่ได้แก้ตัวแทนเด็ก ไม่มีใครให้ข่าวจริงๆ เดี๋ยวๆๆ ฮัลโหล ฮัลโหล”

บราเดอร์สมนึกค่อยๆวางสายลง ปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นที่หน้าผากเป็นเม็ดๆ

“ใครโทรมาเหรอครับ” ครูเทพถาม

“เป๋งโมบาย ทางนั้นบอกให้เราบอกชื่อที่อยู่เด็กอีกสองคนที่ให้ข่าวกับนักข่าวซัดทอดมัน ดูเหมือนทางนั้นเข้าใจผิดจริงๆว่านักเรียนของเราไปให้ข่าวกับนักข่าว”

“สองคน แต่ในข่าวมีภาพเด็กของเราสามคนนี่ครับ” ครูเทพถามอย่างสงสัย

“ใช่ ในภาพมีสาม แต่เป๋งโมบายขอชื่อแค่สอง”

บราเดอร์สมนึกบอก

“มันบอกว่าเพราะในมือมันมีบัตรประชาชนของเด็กคนนึงแล้ว มันรู้ชื่อที่อยู่ของเด็กคนนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องถามเรา”

รอนที่ยืนฟังอยู่ยืนเหงื่อแตกอยู่ตรงกลางห้องฝ่ายปกครอง

ฉิบหายแล้ว!

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

Score 10
Status: Completed
เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ ... มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset