Midterm Fantasy 179

ตอนที่ 179
Poker face Monarch! ราชันหน้าตาย!

หลงจิ่งไม่อยู่นิ่งรอให้ทั้งสองบุกเข้ามา มันพุ่งเข้าหาหยางเทียนอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองยกขึ้นเป็นรูปกรงเล็บ

“รับไปซะ กรงเล็บมังกรอุทก!”

มือทั้งสองพุ่งเข้าหาหยางเทียนจากเบื้องบน ชายหนุ่มยกมือขึ้นเตรียมรับแล้วก็ต้องร้องออกมา

“อ้ากกก”

ผัวะๆๆๆ

เท้าของหลงจิ่งประเคนเตะเข้าที่ท้องก่อนจะซ้ำอีกหลายคำรบจนหยางเทียนลุกไม่ไหว จากนั้นมันก็หันกลับไปทางหมอเค

ป่ะๆๆๆๆๆๆ

เสียงเท้าที่กระทบกล้ามเนื้อของหมอเคดังเป็นชุดๆ หน้าของหมอหนุ่มแดงก่ำอย่างเจ็บปวดแต่เขาก็ไม่หยุดปล่อยหมัดออกไปเรื่อยๆ

หากทว่า แต่ละหมัดที่ปล่อยออกไปถูกหลงจิ่งปัดจนพลาดเป้าทั้งหมด

“หมัดมังกรอุทก!”

ผัวะๆ หมอเคต่อยปัดแขนที่พุ่งเข้ามาพ้นได้หวุดหวิด

“ลูกเตะกิเลน!”

หมอเคใช้ขาป้องกันเท้าที่ถีบเข้ามา

“เพลงหมัดตะวันแดง”​

สายตาของหมอเคจ้องไปที่กล้ามเนื้อทั้งหลายบนร่างของหลงจิ่ง จากกล้ามเนื้อ Sternocleidomastoid ที่กำลังเกร็งขึ้นและเข่าที่กำลังหมุนออก ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะปล่อยหมัดด้วยมือซ้าย

หมอเคยกแขนขึ้นเตรียมป้องกัน

โป้ก!

แล้วร่างของหมอเคล้มลงสลบไปกับพื้น ชายชุดดำที่ย่องมาจากด้านหลังเงื้อไม้เตรียมฟาดซ้ำ แต่เมื่อเห็นว่าหมอนิ่งไม่ไหวติ่งก็ไม่ได้ทำอะไรต่อเพราะข้างหลังมีนักข่าวอยู่เต็ม

หยางเทียนก็ล้มไปแล้ว

ลูกน้องของหยางเทียนทั้ง 9 คน ก็เจอทหารทั้งกองร้อยคุมตัวไว้แล้ว

หมอเคก็เรียบร้อยไปแล้ว

สิ่งที่ขวางกั้นระหว่างห้องนี้กับโรงรถเหลือเพียงประตูบานเล็กๆนั่นเท่านั้น

“ไป พวกเราบุก!”

ชายชุดดำที่เหลืออยู่ทั้ง 10 กรูไปที่ประตู บานประตูถูกกระชากออก แล้วเจ้าคนกระชากก็ร่างลอยไปข้างหลัง

“เฮ้ย อะไรวะ อั่ค!”

“โอ๊ค”

“เพลงหมัด… ”​ผัวะๆๆๆ “เอื้อกกก”

พริบตาเดียวลูกน้องของหลงจิ่งก็ล้มลงกับพื้นไป 4 คน  ก่อนที่คนที่ 5 จะล้มตามลงไปเมื่อถูกลูกถีบเตะเข้าที่ก้านคอ

“ลูกเตะกิเลน!” หลงจิ่งตื่นตัวขึ้นมาทันที  แม้ท่าเตะนี้จะดูธรรมดา แต่ที่จริงแล้วจะมีการเตะหลอกด้านนึงให้คนโดนเตะเกร็งต้าน จากนั้นเตะเข้าที่คออีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดการบาดเจ็บมากกว่าปกติ

เป็นท่าซิกเนเจอร์ของมือปืนระดับด้ามม่วง ด้ามเงิน และด้ามทองในแก๊งเมษา

“เจนัส!” หลงจิ่งคำรามขึ้น ลูกน้องของมันที่เหลือ 5 คน หันไปมองพร้อมกัน เท้าทั้ง 10 ข้างเคลื่อนถอยออกมาตามสัญชาตญาณ

เจนัส หัวหน้าทีมมือปืนรุ่นใหม่ ดาวรุ่งในแก๊งที่หายไปอย่างลึกลับหลังจากสาขาอุษาคเนย์ถูกทำลายน่ะเรอะ

หญิงสาวมองหลงจิ่งก่อนจะดึงผ้าคลุมหน้าออก

“ครูฝึกหลงจิ่ง…”​ หญิงสาวเอ่ยออกมา

“ฮ่าๆๆๆ ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่” ชายชุดดำคนหนึ่งหัวเราะขึ้น “จางหลงคนนี้จะขอจัดการกับคนทรยศเอง ย้ากกกก”

ป่ะ ป่ะ ป่ะ

มือและเท้าของทั้งสองปะทะพัวพันกันด้วยความเร็วจนคนมองตามแทบไม่ทัน

“หลังจากสามสาวนั่นออกจากศูนย์ฝึกไป จางหลงก็หมั่นฝึกฝนเต็มที่จนเป็นอันดับหนึ่ง”

“ใช่ มันฝึกวิชาจากครูฝึกหลงจิ่งหลายขั้น ไม่แน่ว่าเจนัสในตอนนี้อาจไม่ใช่คู่มือของมัน”

หญิงสาวถอยออกมา จางหลงฝีมือดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เพลงหมัดที่เธอใช้ออกไปเจอจับทางได้ทั้งหมด

ถ้าอย่างนั้นล่ะก็

หญิงสาวตั้งท่าใหม่ มือทั้งสองเปลี่ยนตำแหน่งเป็นแบบที่จางหลงไม่เคยเห็นมาก่อน

“เปลี่ยนท่าเรอะ เปล่าประโยชน์!” จางหลงคำรามแล้วกระโจนเข้าไป

“จางหลงระวัง!” หลงจิ่งตะโกนแต่ไม่ทันเสียแล้ว ใบหน้าของชายหนุ่มถูกระดมต่อยจากหลากทิศทางจนล้มลงสลบกับพื้น

“จางหลง!”

“ล้างแค้นให้จางหลง พวกเราลุย!”

ชายชุดดำที่เหลือ 4 คนเตรียมเข้าไปหากแต่เสียงตวาดจากเบื้องหลังทำให้ทุกคนหยุดชะงัก

“พวกแกไม่ใช่คู่มือของเจนัส” หลงจิ่งร้องขึ้น “เธอใช้เพลงหมัดหนานฉวน เพลงหมัดใต้อันขึ้นชื่อลือชา พวกแก 4 คนเข้าไปรังแต่จะเพิ่มร่างที่นอนสลบบนพื้น”

เจนัสขยับตัวมองตามหลงจิ่งผู้เคยเป็นครูฝึกของเธอมาก่อน

“หลงจิ่งคนนี้จะเป็นคู่มือให้เอง”

“ช้าก่อน” หญิงสาวร้องขึ้นและยกมือห้าม

“มีอะไรว่ามา”

“เป็นอาจารย์วันเดียวมีบุญคุณเหลือคณา อาจารย์หลงจิ่งเคยฝึกเจนัสและน้องๆมานับปี ชาตินี้พวกเราไม่มีวันลืม” หญิงสาวยกมือขึ้นประสาน “แต่มาวันนี้ ด้วยความจำเป็น พวกเราแม้นรู้จักกันแต่ไม่อาจร่วมทางเดินได้ เจนัสขอดื่มให้กับอาจารย์ 3 จอก”

หญิงสาวหันไปหยิบขวดเหล้าแบนที่วางอยู่บนโต๊ะ เปิดฝาแล้วเทเหล้าลงในแก้วเป็กเหล้าข้างๆ

“แก้วแรกให้กับความเป็นศิษย์อาจารย์”

หญิงสาวยกขึ้นดื่มช้าๆ มือยกประสานชี้ไปทางหลงจิ่ง

“แก้วที่สองให้กับบุญคุณความแค้นใดๆที่เคยมีร่วมกันมา”

หลงจิ่งพยักหน้ารับ

“แก้วที่สาม นับต่อแต่นี้ไป เราทั้งสองมิได้มีความผูกพันใดๆ”

เจนัสดื่มจนหมดหยดสุดท้าย ยกแก้วขึ้นสูงแล้วปล่อยลงกับพื้นจนแตกกระจาย  หญิงสาวหยิบเหล้าแบนนั้นขึ้น โยนส่งไปที่หลงจิ่งตามด้วยแก้วเป็ก

“ดี!” หลงจิ่งเปิดขวด “3 แก้วนี้ครูฝึกขอรับไว้ว่าครั้งหนึ่งพวกเราเคยพบกันรู้จักกัน และหลังจากสามแก้วนี้ ทุกอย่างเป็นอันจบสิ้น”

“แก้วแรก ดื่มให้กับลูกศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดตั้งแต่อาจารย์คนนี้เคยสอนมา”

หลงจิ่งยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด

“แก้วที่สอง ให้กับบุญคุณความแค้นที่พวกเรามีต่อกันในอดีต”

แก้วที่สองถูกยกขึ้นจนหมด  หลงจิ่งค่อยๆรินเหล้าแก้วลงไปในแก้วที่สาม ขณะเดียวกัน บรรดานักข่าวที่ทำข่าวอยู่ต่างระดมถ่ายรูปและภาพเคลื่อนไหว นักข่าวจีนที่อยู่ตรงนั้นทำหน้าที่แทนล่ามแปลสิ่งที่หลงจิ่งและเจนัสคุยโต้ตอบกัน

จากข่าวผู้ก่อการร้ายคุมหน่วยแพทย์ ซับซ้อนกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดของสายลับที่ใช้หน่วยแพทย์แทรกซึม

มาตอนนี้กลายเป็นศิษย์อาจารย์ที่กำลังเผชิญหน้ากันไปแล้ว

“แก้วที่สาม! ห๊ะ!” หลงจิ่งกำลังจะยกแก้วขึ้นพลางเหลือบตาไปมองเจนัสที่เหลือบมองนาฬิกา มันชะงักนึกขึ้นได้ ขว้างแก้วทิ้งลงกับพื้นชี้นิ้วไปที่หญิงสาว ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างโมโหโกรธา

“นี่แกต้องการถ่วงเวลาเฉยๆใช่ไหม”

“ครูฝึกนี่จริงๆเลย นี่เจนัสคิดว่าครูจะรู้ตัวตั้งแต่แก้วแรกแล้วนะ”​ หญิงสาวส่ายหน้า “เข้ามา!”

“ลูกเตะกิเลน!”

“บาทาไร้เงา!”

ป่ะป่ะป่ะป่ะป่ะ

เท้าของทั้งสองเตะกระแทกกัน และเมื่อเท้าของทั้งสองลงแตะพื้น ฝ่ามือก็พุ่งเข้าหาอีกฝ่าย

“หมัดพยัคฆ์ใต้”

“หมัดมังกรอุทก”

เพี้ยะๆๆๆๆ

“แฮ่กๆๆ” เจนัสหายใจหอบถี่ ฝีมือของครูฝึกหลงจิ่งสูงอย่างที่คาดเอาไว้ ขณะที่หลงจิ่งเองเบิกตาอย่างประหลาดใจ

“บาทาไร้เงา หมัดพยัคฆ์ใต้ หมัดใต้ นี่เธอเป็นอะไรกับคนแซ่หวง” หลงจิ่งร้องขึ้น

“คนแซ่หวง?” เจนัสนึกไปนึกมา อาม่าแซ่หวงนี่นา

เพลงหมัดและลูกเตะพวกนี้ก็อาม่าสอนให้หลังจากทำงานบ้านเสร็จ

แล้วอาม่าเป็นอะไรกับเธอเหรอ … จะบอกว่าเป็นเจ้าของร้านชำที่ให้อาศัยชั่วคราวคงไม่ดีแน่ เดี๋ยวพวกมันได้ข้อมูล

“คนแซ่หวง เป็นบอสคนปัจจุบันของเจนัส”

“บอสเรอะ!”

“อะไรกัน สามสาวแห่งเมษา แปรพักตร์ไปอยู่กับบอสคนใหม่”

“ต้องเป็นองค์กรที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่ ถึงได้สามารถดึงสามคนนี้ไปอยู่ด้วยอย่างซื่อสัตย์แบบนี้”

สมุนที่เหลืออยู่ของหลงจิ่งร้องประสานอย่างตระหนก

หลงจิ่งเองก็ตกใจ แต่เมื่อนึกขึ้นมา เจนัสต้องการถ่วงเวลา เช่นนี้ยิ่งชัดเจนว่าพวกมันต้องบุกเข้าไปให้ได้

“พวกเรา บุกพร้อมๆกันเลย”

“โอร่าาาาาา”

เจนัส ตั้งท่ารับอย่างเขม็งเคร่งเครียด แต่แล้วประตูเบื้องหลังก็เปิดออก ร่างๆหนึ่งพุ่งเข้ามาบังด้านหน้าของหญิงสาวไว้

“หลบข้างหลังผมครับคุณเจนัส”

เด็กหนุ่มบดขยี้แกนมอนสเตอร์เข้ากับม้วนเวทย์ จากนั้นยกมือขึ้นป้องกันด้านหน้า

“<Wind Shield>”

ร่างของชายชุดดำทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อจู่ๆก็กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างกลางอากาศ เหมือนกับถูกกำแพงที่มองไม่เห็นเบรกเอาไว้อย่างไงอย่างงั้น

ไม่เว้นแม้แต่หลงจิ่งที่ชะงัก หมัดที่ต่อยเข้าใส่เหมือนกับกระแทกเข้ากับวุ้นหนาๆ ความเร็วตกลงจนหยุดกลางอากาศ ก่อนที่รอนจะเอื้อมมือเข้ามาจับแล้วก็บีบ

“อ้ากกกกกกก”

แรงบีบขนาดหลายร้อยกิโลทำให้หลงจิ่งร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แรงมหาศาล มหาศาลอะไรอย่างนี้

แต่แล้วแรงบีบนั้นก็คลายลง รอนถอนมืออันแข็งดั่งคีมเหล็กออก หลงจิ่งและพวกกระโดดหลบไปด้านหลังเหงื่อผุดพรายขึ้นบนใบหน้า

หากแต่รอนไม่ได้สนใจติดตาม เด็กหนุ่มหันไปมองมือและแขนของเจนัสที่เต็มไปด้วยรอยช้ำจ้ำจากการต่อสู้

“ขอโทษด้วยที่ทำให้ต้องเจ็บตัว แต่ต่อจากนี้คุณหลบอยู่ข้างหลังผม ที่เหลือต่อจากนี้ให้ผมจัดการเถอะครับ” รอนยิ้มให้หญิงสาวต่อหน้ากล้องของนักข่าวที่จับจ้องมา

“เอาล่ะ”  รอนร้อง

“ตาย!!!” หลงจิ่งคำราม

“เชิญเข้าไปตรวจค้นได้ครับ”

“เฮ้ย!” หลงจิ่งร้อง

“เฮ้ย” นักข่าวร้อง

“เฮ้ย” หมอร้อง

“เฮ้ย” ทหารนายพลแทงโก้ร้อง

อะไรวะ สู้มาตั้งนาน ให้ค้นง่ายๆเนี่ยนะ

“มีข้อแม้ว่า ให้นักข่าวนำเข้าไปก่อนตลอดการตรวจค้นครับ” รอนบอก

“น น นี่แก แก… อ๋อ ที่แท้เมื่อกี้ถ่วงเวลารอจะซ่อนอุปกรณ์สอดแนมใช่ไหม” หลงจิ่งร้องขึ้น

“ไม่ใช่!” รอนบอก “พวกเรา …”

“หยุด แกอยู่ในนั้นแกต้องทำอะไรแน่ๆ ถามแกไปแกก็แก้ตัว” หลงจิ่งตะโกน “ต้องถามพวกที่อยู่ข้างนอก”

นักข่าวทุกคนมองไปทางหมอและพยาบาลที่นั่งตัวสั่นอยู่มุมห้อง  หมอโรเบิร์ตที่อาวุโสที่สุดค่อยๆลุกขึ้น

“ในนั้นไม่มีอะไรจริงๆ พวกเราแค่ต้องการให้นักข่าวเข้าไปก่อน เพื่อจะได้เป็นสักขีพยานว่าไม่มีอะไรจริงๆ” หมอโรเบิร์ตพูด

“ใช่แล้วครับ”​ หมออีกคนเอ่ย “ถ้าคนที่กล่าวหาเราบุกเข้าไปก่อน แล้วจู่ๆแอบทิ้งอุปกรณ์อะไรแปลกปลอมลงไป พวกเราก็ถูกใส่ร้ายแย่น่ะสิ”

“เมื่อกี้ จู่ๆก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมาเอาตัวคนในทีมของเราไป นี่ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรประหลาดๆอีก พวกเราเลยกลัวว่าจะมีเรื่องแปลกๆอีก”

รอนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนที่หน้าจอจะปรากฎคำพูด

[คุณรับรู้ได้ว่ามีคนใช้Skill Poker face อยู่]

โอ้ หมอๆพวกนี้นี่ หัวไวสุดๆ

รอนหยิบมือถือของตนขึ้น เปิดหน้าจออัลบั้มภาพที่ถ่ายภายในโรงรถเอาไว้และเตรียมจะพูดอะไรออกมา แต่หมอโรเบิร์ตที่กำลังเหลือบมองก็พูดชิงดักหน้าไว้ก่อน

“นักข่าวทุกท่านครับ ผมอยากจะให้ทุกท่านเป็นสักขีพยาน อย่างน้อยดูมือถือของเด็กหนุ่มคนนี้”​ หมอโรเบิร์ตบอก “พวกเราถ่วงเวลาเพื่อให้เขาถ่ายสภาพภายในโรงรถไว้ทุกซอกมุมเผื่อว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้มีหลักฐานอันน้อยนิดปกป้องตนเองบ้าง แต่มาในตอนนี้นักข่าวทุกท่านก็มาพร้อมกันแล้ว ผมอยากจะเชิญทุกท่านให้ตรวจค้นไปพร้อมกัน ถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นพยานให้กับพวกเรา”

รอนอ้าปากค้าง … อิหมอนี่รู้ได้ยังไง

แค่เห็นภาพที่หน้าจอมือถือของเขาแว้บเดียวก็เดาได้แล้วรึเนี่ย

[คุณรับรู้ได้ว่าบริเวณใกล้เคียงมี Poker Face Monarch]

ราชันหน้าตาย!

โอ้วววว

“งั้นแก เข้าไป” หลงจิ่งจับตัวหมออีกคนลุกขึ้น “นักข่าว เดินนำเข้าไป ส่วนแก ไอ้หนุ่ม อยู่ข้างนอกอย่าพูดอะไร ข้าไม่เชื่อหรอกว่าคนข้างนอกจะรู้ว่าแกทำอะไรในนั้น”

หมอเจมส์ถูกดุนหลังเข้าไป พร้อมกับนักข่าวกลุ่มใหญ่ เมื่อเข้าไป ม่านตาของเขาขยายขึ้นแวบนึงเมื่อเห็นรถ 2 คัน ส่วนรถบรรทุกวัคซีนหายไปไหนแล้วไม่รู้

“เฮ้ย รถอีกคันหายไปไหน” หลงจิ่งร้องถาม

“รถอะไร” หมอเจมส์ร้องขึ้น ทำหน้างงสุดขีด “ก็พวกเราจอดรถในนี้กันแค่ 2 คัน จริงไหมหมอโรเบิร์ต”

“ใช่ พวกเราน่ะเดินทางมากัน 3 คันก็จริง แต่หลังจากที่เข้าเมืองมา รถบรรทุกวัคซีนก็เจอยึดไป”

“ใช่แล้ว พวกเราเจอยึดรถไปตั้งแต่แรกๆที่เข้ามาแล้ว รถก็เหลือแค่ 2 คันนี่แหละ” พยาบาลบอก “นักข่าว ทหาร ทุกคนก็ล้อมอาคารนี้อยู่ ถ้ามีรถอยู่จริงพวกเราจะเอาออกไปยังไงกันเล่า”

ทั้งหมอและพยาบาลต่างพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติไม่มีท่าทีตื่นตระหนกนักข่าวพยักหน้าให้แก่กัน ขณะที่หลงจิ่งและนายพลแทงโก้งงเป็นไก่ตาแตก

ส่วน​รอนเองก็ทึ่งไม่แพ้กัน

รอนคิดพลางมองไปที่นาฬิกาที่บอกเวลา 4 ทุ่ม 5 นาที

ยังดีที่เขาย้ายรถไปโลกโน้นได้ทัน

ถ้าไม่ใช่ว่าที่นี่เวลาเร็วกว่าบ้านเขา 2 ชั่วโมง ตอนนี้ทุกอย่างคงพังหมดแล้ว

[คุณรับรู้ได้ว่ามี Poker face Master อยู่บริเวณนี้ x 2]

ชิท! พวกหมอๆพวกนี้ หน้าตายได้สุดๆ

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

Score 10
Status: Completed
เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ ... มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset