Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 29 กลับบ้าน

ตอนที่ 29 กลับบ้าน

“แล้ว เราจะทำยังไงกับเด็กพวกนี้ดีล่ะ?” ผมถาม

 

เรากลับมาถึงดันเจี้ยน ผมไม่อยากจะเป็นกังวล ผมเลยปิดทางเข้าไว้ด้วยหินก้อนใหญ่ ซึ่งตอนนี้ก็เก็บลงไอเท็มบ็อกไปแล้ว

 

มีอดีตทาสสาวประมาณ 20 คนอยู่ข้างๆผม พวกเธอตัวสั่น มองซ้ายมองขวา สงสัยว่าถูกพามาที่ไหน

 

อิลูน่าไม่ได้อยู่ด้วยเพราะเหนื่อยจากเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้เธอจึงไปนอนกับชิอิแล้ว ส่วนชิอิก็ดีใจมากที่อิลูน่ากลับมา

 

“แล้วเจ้าคิดอะไรออกบ้างหรือเปล่าล่ะ?” เลฟี่ถามผม

 

“ไม่อ่ะ ไม่มีเลย” ผมตอบ

 

“… เจ้าไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้อย่างที่เราคิดไว้เลย” เลฟี่ถอนหายใจ

 

“อืมม… พวกเธอ… มีบ้านให้กลับกันหรือเปล่า?” ผมถามพวกเธอ

 

พวกเธอดูตกใจ แต่ก็เริ่มพึมพัมกันหลังจากที่ผมถาม ไม่นานนัก ก็มีเด็กสาวเขาแกะยกมือขึ้นมา

 

“ม-มีค่ะ ท่านจอมมาร พวกเราส่วนใหญ่โดนจับออกมา ดังนั้นบ้านของเราก็ยังมีอยู่ตราบใดที่พวกเขายังไม่ย้ายออกไปค่ะ”

 

“เข้าใจแล้วแปลกใจเหมือนกันนะที่พวกเธอรู้ว่าชั้นเป็นจอมมาร”

 

“ฉ-ฉันรู้ได้จากพลังเวทนะค่ะ” เธอรู้ได้จากเรื่องนั้นหรอ? น่าประทับใจ

 

“ก็น่าสนใจดี แต่ชั้นคิดว่าเรามีเรื่องอื่นให้กังวลมากกว่านั้น… เลฟี่ ให้พวกมังกรพาพวกเขาไปได้ไหม?”

 

“ไม่มีปัญหา” เธอตอบและเรียกมังกรใกล้ๆมาด้วยการกระดิกนิ้ว… สงสัยจริงๆว่าฝึกยังไงให้เชื่อฟังได้ขนาดนี้

 

“ก่อนหน้านี้เราไปสอนเจ้าพวกนี้นิดหน่อยว่าใครใหญ่นะ” เธอตอบราวกับรู้สิ่งที่ผมคิด

 

“งั้นก็ ทุกคน ถ้าต้องการจะกลับบ้าน แค่บอกพวกมังกรแล้วเขาจะพาไปส่งให้” พอผมพูดจบ ก็มีประกายแห่งความหวังแสดงขึ้นมาในดวงตาของพวกเธอ

 

พวกเด็กผู้หญิงพวกนี้เป็นทาสกลุ่มเดียวที่เราเจอในเมือง เพราะเมืองที่เราไปกันมาอยู่ในช่วงสงคราม ทำให้ทาสผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชายนั้นถูกส่งไปยังสนามรบหมด

 

แล้วการค้าขายทาสก็เป็นเรื่องผิดกฏหมายจริงๆด้วย แต่มันก็มีบริษัทอย่างของเจ้าหมูนั้นคอยจับและขาย ทำให้เหลือทาสเป็นแค่เด็กสาว 20 คนนี้ภายในเมืองขนาดนั้น

 

นี้เป็นเหตุผลที่คำขอการปล่อยตัวทาสถึงถูกยอมรับได้โดยง่าย 

 

“จ-จะไม่เป็นอะไรจริงๆหรอค่ะ?” หนึ่งในพวกเธอถาม

 

“ไม่มีปัญหาหรอก กลับบ้านไปหาครอบครัวเธอเถอะแต่ถ้าไม่มีที่จะไปก็บอกชั้นได้ เข้าใจนะ?” ถ้าแค่ 1-2 ก็พอไหว แต่ถ้าเยอะๆนี้ เป็นปัญหาแน่

 

พวกเธอมองหน้ากันซักพัก ก่อนจะหันมาทางผมและคำนับให้ “เรานั้นต่างก็ต่างเผ่าพันธุ์และต่าบงถิ่น แต่ความรู้สึกของพวกเรานั้นเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับความใจดีของท่านค่ะ ท่านจอมมาร”

 

* * *

 

“งั้น เหลือแค่เธอสองคนสินะ?” ผมหันหน้าไปทางเด็กสาวสองคนที่ยังอยู่ ที่เหลือถูกพาไปโดยมังกรแล้ว

 

“พ่อแม่ของฉันคอยบอกเสมอว่าต้องตอบแทนบุญคุณกับผู้ให้ ฉันจึงอยากจะรับใช้ท่านถ้าเป็นไปได้ค่ะ” เด็กสาวที่พูดมีเขาแกะและผมสีเทายาวไปถึงเอว รูปร่างของเธอก็ดูดีเลย… และเพราะเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ทำให้บางส่วนของร่างกายมันไม่ได้ถูกปิดไว้ด้วย ผมเลยไม่รู้ว่าจะมองไปตรงไหนดี และเธอก็ให้บรรกาศแบบพี่สาว

 

“ท-ท่านจอมมารคะ ก-เกี่ยวกับท่านเฟนรีร์นะค่ะ?” เด็กสาวอีกคนมีหูและหางหมา ผมสีน้ำตาลสั้น รูปร่างก็ใกล้เคียงกับอิลูน่าและเลฟี่ เลยมองง่ายหน่อย… แต่เจ้าพวกนั้นก็เลือกจับแต่เด็กสาวสวยๆจริงๆนะ

 

“มีอะไรหรอ?” ผมตอบ

 

“ค-คือ ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไป จ-จะให้ชั้นช่วยเรื่องการดูแลเขาได้ไหมคะ!?”

 

“เอ๋? โอ้ ก็ได้นะ แต่… มีอะไรกับเขาหรือเปล่า?” ผมถามพลางลูบขนฟิร์

 

“อ๊ะ คือว่า ท่านเฟนรีร์ถือเป็นพระเจ้าของมนุษย์หมาป่าอย่างเรานะค่ะ! การได้รับใช้พระเจ้าที่เรานับถือเป็นเรื่องที่ใครๆก็อยากทำค่ะ!”

 

“งั้นหรอ…” ผมกังวลนิดหน่อย เรามีคนที่มีจิตใจแน่วแน่มาแล้วสิ “ดูเหมือนตอนนี้นายจะเป็นพระเจ้าแล้วนะ ฟิร์” 

 

ฟิร์ส่งเสียงเบาๆและยิ้มขืนๆ… ก็เป็นอาการที่เข้าใจได้

 

“จริงสิ ชั้นชื่อยูกิ เธอชื่อเลฟี่ ส่วนเขาชื่อฟิร์ เดี๋ยวชั้นจะแนะนำอีกสองคนข้างในทีหลัง แล้วพวกเธอชื่ออะไรล่ะ?” 

 

“ฉันชื่อเลล่าค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ?” เด็กสาวแกะ เลล่า พูดและก็ก้มหัวให้… ผมอยากให้เธอยกหัวให้เร็วกว่านี้นะ เพราะผมเกือบไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าแล้ว

 

“ชั้นเป็นมนุษย์หมาป่าชื่อ ลูอิน-กิลออน(Lyuuin-Gilou) เรียกสั้นๆว่าลูค่ะ!” เด็กสาวหูหมา ลู ให้ความรู้สึกเหมือนผู้จัดการทีมเบสบอลกำลังเชียร์ทีมตัวเองอยู่

 

“เดี๋ยวค่อยมาคุยกันทีหลังละกัน ชั้นว่าพวกเธอต้องเหนื่อยกันแน่ เข้ามาข้างในก่อนสิ” 

 

“เอ่ออ… คุณ… อาศัยอยู่ในถ้ำ…?” หนึ่งในสองคนนั้นถาม

 

“ชั้นเข้าใจนะว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ข้างในมันดูดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก เข้ามาสิ” ทั้งสองดูกังวล แต่ก็เข้าไป ผมหยุดเลฟี่ที่กำลังจะเข้าไปไว้ก่อน 

 

“เลฟี่…” 

 

“อะไรรึ?” 

 

“ชั้นแค่… อยากจะขอบคุณที่มาช่วยชั้นไว้นะ” 

 

เธอนิ่งไปซักพักก่อนจะปล่อยรอยยิ้มขี้เล่นออกมา “หมายถึงตอนที่เจ้าจะอาละวาดแล้วเราก็ไปกล่อมเจ้าเหมือนเด็กๆนะหรือ?”

 

“อึก… ช่วยลืมเรื่องนั้นไปทีเถอะ” ผมบอกเธอด้วยรอยยิ้มขืนๆ แต่เธอก็หัวเราะกลับมา

 

“รู้อะไรไหม ยูกิ” จู่ๆเธอก็หยุดหัวเราะ “เรานะอยู่ตัวคนเดียวมานาน โลกนี้มันน่าเบื่อ ทุกอย่างมันช่างไร้จุดหมาย” ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร

 

เลฟี่นั้นเป็นมังกรชั้นสูง เธอใช้ชีวิตมานานเกินกว่าใครจะรู้… ความทรงจำของเธอคงเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว

 

“แต่ช่วงนี้ เราเจอชายที่มาเติมเต็มโลกของเราด้วยสีแห่งความสุข ทุกวันนั้นเต็มไปด้วยความสุขสดใหม่ และสดชื่น… ดังนั้นแล้ว ยูกิ ช่วยทาสีโลกของเราให้มันหลากสีกว่านี้ด้วยนะ” เลฟี่พูดด้วยน้ำเสียงปนความขี้เล่นนิดๆ แต่ผม…

 

“เอ่ออ” เป็นคำเดียวที่ผมเอ่ยออกมา ก่อนที่จะพยักหน้าให้

 

 

TL:ตอนสุดท้ายของวันนี้แล้วจิ ไปนอนล่ะจิ บัยจิ ZZzzzZZzzZzzz………

Options

not work with dark mode
Reset