Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 28 ข้อสรุป 2

ตอนที่ 28 ข้อสรุป 2

“ผมต้องขอโษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยจริงๆ โปรดให้ผมได้ขอโทษเถอะครับ”

 

ตอนนี้เราอยู่ในแมนชั่น ดูประหยัด และไม่ได้รสนิยมแย่เหมือนหลังก่อนหน้านี้ ผมและเลฟี่นั่งอยู่บนโซฟา และลอร์ดของเมือง เรย์ลอร์ นั่งอยู่ข้างหน้าเรา

 

เขาดูเหนื่อยมาก ทหารในแมนชั่นพยายามจะชี้อาวุธมาที่พวกเราอย่างเดียว เขาเลยต้องคอยหยุดพวกนั้น… น่าเห็นใจแหะ

 

“เจ้าชื่อเรย์ลอร์ใช่ไหม? รู้หรือเปล่าว่าเราเป็นใคร?” เลฟี่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“น-แน่นอนครับ ผมรู้ดีเลยครับ” เรย์ลอร์เครียดอย่างชัดเจน แต่พยายามจะเก็บกดมันไว้

 

“ในเมื่อเจ้าเป็นลอร์ดของที่นี้ เราว่าเจ้ายังคงจำข้อตกลงที่พวกเจ้าทำกับเราไว้ได้ใช่ไหม”

 

“ข้อตกลง?” เขาถาม

 

“เรายังไม่ได้อนุญาติให้เจ้าพูด ในตอนที่โลกนี้ยังเต็มไปด้วยความโกลาหล มีพวกโง่มากมายพยายามมาโจมตีเรา เราเบื่อพวกมันเลยตัดสินใจว่าจะลบเผ่าพันธุ์มนุษย์ทิ้งไปเสีย ราชาของพวกเจ้าในตอนนั้นได้ก้มหัวให้เราและสัญญาว่าจะไม่อนุญาติให้ใครมารบกวนเราอีก และเราก็ใจดีพอที่จะยอมตกลงและไม่ลบพวกมนุษย์ทิ้งไป”

 

“แต่ว่า หนอนแมลงอย่างพวกเจ้าได้มาลักพาตัวคนในครอบครัวของเราไป ผู้ที่เป็นดุจดังลูกสาวของเรา เศษขยะพวกนั้นได้ทำลายข้อตกลงที่ได้ให้กับเราเอาไว้… บอกเราหน่อยสิ เจ้าขยะ เจ้าจะชดเชยเรื่องนี้กับเรายังไง?”

 

“ต-แต่ นี้มันก็กระทันหันเกินไป”

 

“เหตุใดเราจึงต้องสนใจการกระทำของพวกมนุษย์ด้วยละ?”

 

“ผ… ผมเข้าใจแล้วครับ” เขาหน้าซีดและเหงื่อไหลพราก รู้สึกสงสารหน่อยๆแหะที่เขาต้องมาโดนข่มขู่โดยคนที่ดูเหมือนกับเด็กมัธยมต้นเนี่ย

 

“ช่างเถอะ เราก็ไม่มีอะไรที่อยากจะได้อยู่แล้ว แต่ชายคนนี้มีข้อเรียกร้องบางอย่าง ดังนั้นทำถามที่เขาบอกด้วยละ” เลฟี่พูดและขยิบตามาให้ผม… ที่เธอทำไปทั้งหมดนี้เพื่อที่จะให้ต่อรองเรื่องของอิลูน่าได้ง่ายขึ้นหรอ?

 

“ว-วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย เลฟี่? เธอดูแปลกๆนะ”

 

“พูดอย่างนี้หมายความว่าไงห้ะ!? เราเป็นมังกรชั้นสูงเลยนะ มังกรชั้นสูง! หัดแสดงความเคารพบ้างสิ! … การสนทนานี้ยังไม่จบนะ ช่วยเอาจริงเอาจังหน่อย ยูกิ”

 

“เข้าใจแล้ว” ผมตอบ

 

ลอร์ดดูงงกับบทสนทนาของพวกเราอย่างชัดเจน

 

“ก็อย่างที่เห็น ชายคนนี้จะเป็นคนจัดการเรื่องในคราวนี้เอง” เธอหันมาทางผม “ตาเจ้าแล้ว ยูกิ”

 

“เอออ… คือ…” คนที่อยากฆ่าก็ฆ่าไปแล้ว แล้วถ้าเลฟี่ไม่มาหยุดผมไว้ ได้นองเลือดมากกว่านี้แน่ ผมหายใจเข้าลึกๆ และทำท่าทีให้ดูน่ากลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะพูด

 

“ก่อนอื่นเลย อย่างที่เลฟี่พูด สิ่งที่นายจะทำนั้นไม่เกี่ยวกับเรา ดังนั้นอย่าได้มายุ่งกับพวกเราอีก ไม่อย่างนั้น…ชั้นฆ่าแน่” ผมจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายอิลูน่าอีกแล้ว

 

“ข-เข้าใจแล้ว เราจะไม่เข้าไปในป่าต้องห้ามอีกแล้ว” ป่าต้องห้าม? นี้เป็นชื่อที่ที่เราอาศัยอยู่กันหรอ? ไม่คิดว่าจะมีชื่อด้วยแหะ…

 

“แล้วก็ ส่งทาสทั้งหมดในเมืองนี้ ไม่ใช่แค่ในบ้านที่ชั้นทำลายไป แต่เป็นทั้งหมดของที่นี้ และถ้านายไม่ทำตาม…” ผมชี้ไปข้างบนฟ้าเพื่อเตือนถึงมังกรที่ยังบินอยู่

 

“… แค่นั้นจะไม่เป็นไรหรอครับ?” เอาจริงดิ? เขาดูไม่มีความไม่เต็มใจเลย

 

“แล้วนายโอเคไหมล่ะ?” 

 

“เข้าใจแล้วครับ เราจะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลย ต้งอการรถม้าด้วยไหมครับ?”

 

“เอออ… เลฟี่ เอาไว้บนหลังมังกรได้ไหม?”

 

“ตราบใดที่ไม่มากกว่า 300 ก็ได้” เธอตอบ

 

“งั้น… เอารถม้ามาด้วย” ผมหวังว่าจะไม่ถึง 300 นะ เป็นปัญหาแน่ถ้าเยอะกว่านั้น

 

“เข้าใจแล้วครับ โปรดรอให้พวกเราไปพาพวกนั้นมาก่อน มากับชั้น อะรุโตะ!” ลอร์ดของเมืองคำนับให้เราและออกไปกับคนที่เขาเรียก

 

อุตสาห์เตรียมตัวมาตั้งขนาดนี้ แต่ตอนจบกับสงบกว่าที่คิดไว้แหะ

 

* * *

 

“… ไปกันแล้ว” เรย์ลอร์พูดขึ้นมาหลังจากเห็นฝูงมังกรบินออกห่างไปจากตัวเมือง เขาหายใจเข้าลึกๆ นั่งพิงเก้าอี้และถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

มันน่ากลัวมาก ทันทีที่ผมเห็นฝูงมังกรบินเข้ามา ก็กำลังกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับมังกลชั้นสูงด้วยหรือเปล่า… แล้วก็ใช่

 

ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะดูเป็นสาวสวยอย่างนั้น แต่พลังที่เธอมีเป็นของจริงแน่นอน

 

เรย์ลอร์นั้นเป็นทหารธรรมดา เขาทำหน้าที่ได้ดีในสงครามและได้รับตำแหน่งลอร์ดเป็นรางวัล ในสงคราม ใครที่วิเคราะห์สกิลของศัตรูไม่ได้ก็จะอยู่ไม่นาน ทำให้เรย์ลอร์เรียนสกิลนี้อย่างเร็ว

 

และด้วยสิ่งนี้ ผมถึงเข้าใจถึงความแตกต่างของพวกเขา ‘วิเคราะห์’ มันแค่ทำให้ผมรู้ถึงความต่างอันยิ่งใหญ่ของผมกับเธอ ร่างกายผมสั่นยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในสนามรบ… ถ้าผมเสียสมาธิไปแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ผมได้สลบไปแน่

 

และชายที่อยู่ข้างๆเธอ ที่มีผมสีดำราวกับความมืด ดวงตาก็เช่นกัน และส่วนอื่นๆก็มีเลือดติดอยู่ ส่วนอื่นบนรูปลักษณ์เขานั้นไม่เด่นซักเท่าไหร่ แต่แค่นั้นก็มากพอที่ให้เป็นที่จดจำแล้ว

 

เขาอาจไม่ใช่มังกร แต่ตัวตนของเราก็อันตรายแน่นอน “… จอมมาร?” คงจะมีดันเจี้ยนเกิดใหม่ในป่าต้องห้าม

 

ไหนจะท่าทีของเขาต่อมังกรชั้นสูงอีก… และเขาก็มีผู้ติดตามเป็นมอนเตร์ในตำนานอย่างเฟนรีร์ด้วย ถึงแม้ถ้ามังกรชั้นสูงจะไม่มาด้วย เมืองนี้ก็ยังตกอยู่ในความอันตรายอยู่ดี

 

ร่างกายผมสั่นไปทั้งตัว…นี้มันโชคดีมากที่คู่กรณีของเขาถูกจัดการไปแล้ว เพราะว่าในตอนที่เขาโกรธ เมืองนี้ก็อาจจะถูกทำลายได้ถึงแม้ว่ามังกรชั้นสูงจะไม่เข้ามายุ่ง

 

“ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมูนั้นจะสร้างปัญหาให้ได้ขนาดนี้…” ผมยังจำหน้าของชายที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ได้ ดีจริงๆที่ทั้งมันและธุรกิจของมันถูกจัดการไปแล้ว

 

ทาสนั้นเป็นสิ่งผิดกฏหมาย แต่เรื่องพวกนี้มีพวกขุนนางคอยสนับสนุน ทำให้กฏหมายทำอะไรมากไม่ได้ มันบังคับให้ผมต้องมองข้ามการกระทำของพวกนั้นไป

 

ถ้านับแค่เรื่องที่เจ้าหมูนั้นถูกจัดการ และเมืองก็ปลอดภัย เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเลย

 

คิดเรื่องพวกนี้ เรย์ลอร์ก็ปล่อยยิ้มขมๆออกมา ถึงตอนนี้มันจะยังดีอยู่… แต่มันมีปัญหาในอนาคตอีก

 

พักหลังมานี้ ประเทศเริ่มไม่สนใจมังกรชั้นสูง และส่งกองพลเข้าป่าต้องห้าม

 

ตอนนี้ ผมต้องส่งกองพลตัวเองไปห้ามพวกนั้นไว้ก่อน เพราะว่าการไม่ทำอะไรก็เหมือนกับขุดหลุมให้ตัวเอง

 

ไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องหยุดพวกเขา เพราะว่ามังกรชั้นสูงนั้นไม่ใช่ภัยเพียงอย่างเดียวภายในป่าต้องห้ามอีกแล้ว

 

 

TL:ใครเห็นผมพิมพ์ผิด สะกดผิดตรงไหนก็บอกก็เตือนกันได้นะจิ เวลาผมแปลเสร็จผมจะเช็คผ่านๆแบบขี้เกียจเลยอาจจะมีพลาดบางจุดไปบ้าง และถ้าเห็นจุดไหนผมแปลแปลกๆแล้วมีคำที่ดีกว่าก็แนะนำกันเข้ามาได้นะจิ บัยจิ

Options

not work with dark mode
Reset