LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 9.2: ค้างคืนและฟ้าผ่า

ตอนที่ 9.2: ค้างคืนและฟ้าผ่า

 

 

การเอาหน้าตัวเองหนุนต้นขาสาวที่ชอบ สัมผัสความเด้งดึ๋ง ความอบอุ่น และกลิ่นหอมหวานๆตรงนั้นแบบแนบชิด ความรู้สึกที่ว่าสาวเจ้าไม่ระมัดระวัง ปล่อยให้นนอนเพราะความเชื่อใจ มันช่างทะลวงใจยิ่งนัก

 

“ย…ยุย..ด…เดี๋ยวก่อน”

“อย่ายุกยิกไปมาสิ ม้นอันตรายนะ”

ยุยกล่าวด้วยน้ำเสียงดุ เอาไม้แคะหูแหย่รูหูยูมะ

“เจี๊ยก”

ยูมะหลุดปากเสียงประหลาดออกมา

“ข..ขอโทษนะ เจ็บเหรอ”

“ป..เปล่า ไม่ได้เจ็บหรอก”

“งั้นเหรอ งั้นชั้นปั้นต่อเลยนะ”

“ด..เดี๋ยว…”

ไอ้การนอนหนุนตักและให้สาวปั่นหูให้นี่  ในมังงะเคยอ่านบ่อยอยู่ แต่พอมาโดนเองนี่ก็เริ่มเข้าใจฟีลละ 

ความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองที่มานอนหนุนขายุย กับความรู้สึกจั๊กจี้ข้างในหู นี่มันยากจะบรรยายเป็นคำพูด

เอาเหอะ ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้ก็ได้แค่ทำตัวตามสบาย ปล่อยวางความขัดแย้งในใจ รับฟีลลิ่งปั่นหูเพลินๆจากยุยก็พอ

“ยูมะ รู้สึกดีมั้ย”

“…..อย่างเริ่ด”

ถ้าให้ฟันธงโชะไปเลยว่าถูกยุยปั่นหูให้มันรู้สึกดีหรือแย่ ตอบได้เต็มๆเลยว่ารู้สึกดี  แต่ไอ้การหนุนตักและได้กลิ่นหอมๆจากตรงนั้น มันก้ขัดแย้งบางจุดเหมือนตกนรกทั้งเป็นนิดๆ

ในขณะที่ยุยไม่ได้รู้เรื่องราวเลยว่ายูมะกำลังปั่นป่วนขนาดไหน เธอกล่าว “ดีจังเลย” พร้อมเผยรอยยิ้มอย่างดีใจ

“คือว่านะ..ยุย”

“หือ มีอะไรเหรอ”

“นายรู้ใช่มั้ยว่าชั้นเป็นผู้ชาย”

“อืม แน่นอนอยู่แ่ล้ว”

“คือว่า ถามเองมันก็อายอยู่หรอก แต่ว่า เธอไม่รู้สึุกอายบ้างเหรอ ผู้หญิงธรรมดาถ้ามาปั่นหูโดยให้ผุ้ชายนอนหนุนต้นขาน่าจะอายนะ”

“…พูดตามตรง..อายสิ”

“แล้วทำไมถึงเลือกปั่นหูให้ชั้นล่ะ”

“ก็เพราะว่า…ชั้นชอบยูมะที่สุดไง”

ยุยส่งยิ้มเขินแต่คำพูดเธอที่บอกว่าชอบยูมะไม่มีความลังเลในน้ำเสียงเลย

“บางทีนะ ชั้นน่ะอาจจะชอบยูมะมากกว่าที่คิดซะอีก ถึงการปั่นหูหรือถูกสัมผัสจะรู้สึกอาย แต่ถ้ายูมะรู้สึกยินดีกับสิ่งที่ชั้นทำ ชั้นจะดีใจมากก เพียงแค่ได้อยู่ด้วยกัน ชั้นก็มีความสุขสุดๆแล้วล่ะ”

ยุยอธิบายเสียงใส ถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ในใจตอนนี้ให้ยูมะฟัง

“หรือว่า….ยูมะไม่ชอบเหรอ..ถ้าไม่ชอบชั้นจะหยุด…”

“…ใครบอกไม่ชอบเล่า”

“งั้นปั่นหูต่อเลยนะ”

“…..อืม”

ยุยยิ้มดีใจ เริ่มปั่นหูยูมะต่อ

…ถูกผู้หญิงที่ชอบพูดขนาดนี้เป็นใครไม่ดีใจบ้างล่ะ

ด้วยความดีใจจนหน้าแดง ยูมะเลยเลี่ยงหันหน้าอีกทางไม่สบตายุย

“….ทำแบบนี้แล้วจะไม่ให้ตูมโนได้ไงฟะ”

“เอ๋ ตะกี้ยูมะว่าอะไรเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร…”

ยูมะปล่อยให้ยุยแคะหูต่อ ด้วยความที่อายเขาเลยไม่กล้าพูดและสบตายุยแล้วในตอนนี้

 

*******

“เซอวิสต่อไป ชั้นจะบริการด้วยอาหารฝีมือชั้นทำเองนะ”

ยุยหยิบโทรศํพท์ขึ้นมาแชทหายูมะในระหว่างที่ยูมะยังไม่หันหน้ามาหาเธอ

ยูมะหยิบโทรศํพท์พิมพ์ตอบ

“อาหารทำเอง?”

“ใช่แล้ว นี่ก็เป็นสิ่งที่ชั้นรู้มาจากการค้นคว้า ผู้ชายอยากให้ผู้หญิงทำอาหารฝีมือของเธอมาให้นะ หรือยูมะไม่ดีใจเหรอถ้าชั้นทำอาหารให้ทาน”

ใครๆก็ดีใจแหละ ถ้าเป็นผู้หญิงที่ชอบ ลงมือทำอาหารมาให้ผู้ชาย จริงๆมันมีความหมายพิเศษข้างใน แต่ยุยซื่อแบบนี้คงไม่คิดแบบเดียวกับที่ผมคิดหรอก ยิ่งไปกว่านั้น มีเรื่องหนึ่งที่กังวล

“ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”

“บู่ นี่คิดว่าชั้นเป็นมนุษย์ประเภทที่พออยู่คนเดียวแล้วทำอะไรไม่เป็นรึไง ปกติชั้นจัดการงานบ้านเองนะ ส่วนเรื่องอาหารรับรองว่าอร่อยไม่แพ้โปรแน่”

“ว้าว ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“โทษทีนะ ก็โม้เวอร์เกิน แต่ชั้นทำได้จริงๆ ขอให้ชั้นทำอาหารให้ทานนะ”

“ถ้าพูดขนาดนั้นก็ขอรอรับชมฝีมือครับ”

ยุยอ่านแชทที่ยูมะพิมพ์ตอบ ยิ้มดีใจ ถึงจะเป็นการสนทนาผ่านแชท ไม่ได้คุยจากปากตัวเอง แต่ยุยก็รู้สึกสนุกมาก

 

“หิวเมื่อไรรีบบอกเลยนะ อยากโชว์ไวๆละ”

“โอเค ถ้าหิวเดี๋ยวบอก”

“แต่เพื่อความชัวร์ ขอเริ่มทำเลยละกันนะ”

ยุยลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นค้นดูว่าเหลือวัตถุดิบอะไรที่พอทำได้บ้างด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะส่งเสียงถามยูมะ

“ยูมะชอบทานแฮมเบิร์กมั้ย”

“ชอบ”

“ทานแครอทกับบรอคโคลี่ได้ใช่มั้ย”

“ทานได้ไม่ได้เกลียดผักครับ”

“โอเค งั้นเมนูที่จะทำคือสเต็กแฮมเบิร์ก เครื่องเคียงเป็นแครอทกับบร้อคโคลี่นะ อืมม แต่ถ้าทำแค่นี้ไม่น่าจะพอ ต้องทำน้ำซุปเพิ่มด้วย งั้นใช้เยลลี่กาแฟละกัน”

เยลลี่กาแฟ… คงเป็นของหวานแหละน่า เอาจริงๆก็ไม่ชอบเยลลี่กาแฟนนักหรอก แต่อุตส่าจะทำให้ทานก็อดทนกินละกัน

ยูมะคิดว่านั่งเฉยปล่อยให้ผู้หญิงทำงานคนเดียวก็ใช่เรื่องเลยเดินไปห้องครัว

“มีอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย”

“วันนี้คุณยูมะเป็นลูกค้านะคะ รบกวนนั่งรอตามสบายค่ะ”

“อย่าคิดมากน่า ชั้นแค่อยากจะช่วย…แล้วก็…ทำด้วยกันน่าจะสนุกกว่านะ”

“…อืม♥”

สุดท้ายทั้งคู่เลยช่วยกันลงมือทำอาหาร

ยุยมัดผมข้างหลังทรงหางม้า ปกติยูมะจะเห็นยุยในทรงผมยาวกลางหลังตลอด พอเห็นยุยในทรงนี้ก็รู้สึกได้บรรยากาศอีกแบบ

ยุยสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพู  ส่วนยูมะยืมผ้ากันเปื้อนสีดำของพ่อยุยมาสวม

 

 

…ทรงผมและชุดผ้ากันเปื้อนที่ยุยสวมใส่ตอนนี้ เล่นเอายูมะใจเต้นตึกตัก ในชุดนี้เธอก็สวยอยู่ดี

 

“ยูมะทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”

“นิดหน่อยครับ เคยเรียนทำอาหารเมนูพื้นๆมาบ้างครับ”

“งั้นถ้ามีสูตรอะไรแนะนำก็บอกได้นะ”

“อืม”

พอได้มาดูสดด้วยตาตัวเอง สกิลทำอาหารของยุยก็น่าจะไม่ใช่คำคุยโต เพราะเธอเตรียมวัตถุดิบและลงมือทำโดยที่ไม่ได้เปิดคู่มือทำอาหาร ท่าทางไหลลื่นทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว

“..จะว่าไป..เยลลี่กาแฟเอามาใช้ทำอะไรนิ”

“รสชาติลับของสเต็กแฮมเบิร์ก”

“เฮ้ย..เอาจริงดิ ทานได้แน่นะ”

“อืม อร่อยด้วย เชื่อใจชั้นสิ”

ยุยกล่าวจบ ผสมเยลลี่ลงไปในฮัมเบิร์ก

“ไอ้รสชาติลับนี่ไปเรียนมาจากไหนนิ”

“อินเตอร์เน็ตไง…ชั้นน่ะนะ ร่างกายอ่อนแอแต่เด็ก แต่ไม่อยากจะเป็นภาระให้พ่อกับแม่ ชั้นเลยฝึกทำงานบ้านมาตลอดนะ”

“ว้าว เจ๋งมากครับ”

“แฮะแฮะ แล้วก็นะ เพื่อการนี้ ชั้นลงทุนศึกษาจากในเน็ตเรื่องรสชาติลับเพราะอยากทำให้ยูมะกิน ถ้าลองกินไปด้วยกันมันต้องน่าสนุกแน่นอน”

เธอหัวเราะแต่น้ำเสียงที่กล่าวจริงจังไม่ล้อเล่น เห็นชัดเลยว่ายุยเป็นคนประเภทใครทำดีอะไรต้องตอบแทนบุญคุณกลับอย่างแน่นอน ไม่ใช่ทำดีให้แล้วตีเนียนหายจ้อย

 นิสัยแบบนี้ยิ่งทำให้ยูมะอยากกอดยุยเข้าไปอีก

 

“เอาส้อมจิ้มฮัมเบิร์กให้เป็นรูพรุนหน่อยจ้า “

“ทำแบบนี้เป็นไง”

“อืม ยอดไปเลย”

อืมม คิดเล่นๆว่าถ้าเกิดอนาคตเราแต่งงานกับยุย คงจะมีความรู้สึกประมาณนี้สินะ

ยูมะคิดจบรียส่ายหัวดิก จะมาคิดเรื่องแบบนี้ได้ไงเล่า นี่เรากำลังช่วยเขาทำอาหารอยู่นะ

 

“เริ่มแรกใช้ไฟแรง รอให้น้ำจากเนื้อไหลออก..”

ยุยพูดกับตัวเองพลางทำอาหารไปด้วย ยูมะเห็นเธอตอนนี้ยิ่งเกิดความรู้สึกชอบเธอมากขึ้น อยากจะกอดเธอให้แน่นๆสมใจสักครั้งเหลือเกิน

หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็ทำเสร็จเรียบร้อย เอาจริงๆยูมะแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ยูมะเลยตัดวินใจไปช่วยจัดเตรียมจานชามช้อนส้อมของเขาและของยุยแทน 

“ใกล้ได้เวลาชิมละสินะ…”

ฮัมเบิร์กเยลลี่กาแฟ

ตอนใส่เยลลี่ก็แอบกังวล แต่พอดูภายนอก หน้าตาอาหารก็ไม่ได้ต่างจากปกติ

ไม่แน่ว่า ร้านอาหารก็อาจจะใช้สูตนี้อยู่แล้วก็ได้

เรื่องกลิ่นก็โอเค ปัญหาก็อยู่ที่รสชาติละ …เอาจริงๆยูมะเป็นคนที่ไม่ชอบกาแฟ แต่ไหนๆเธอก็ใส่ไปแล้ว คงได้แต่พูดว่า “ลองสักตั้งวะ”

ยูมะลองเอาส้อมจิ้มเนื้อเสต็กฮัมเบิร์ก น้ำจากเนื้อกระฉอกเล็กน้อย สัมผัสดูดีมาก

(น่าจะอร่อยนะ)

ยูมะจิ้มเนื้อ เอาเข้าปาก เคี้ยวหยับๆ

รสชาติเนื้อกระจายฟุ้งในปาก

“…เป็นไงบ้าง?”

“อร่อยดีครับ”

“แฮะแฮะ บอกแล้วไม่เชื่อ”

อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ที่บอกว่าไม่แพ้โปร สรุปว่าไม่ใช่คำคุยโตแต่ทำได้จริงแฮะ

 

…รสนิยมความชอบตรงกัน อาหารก็ทำอร่อย หน้าตาก็น่ารัก นี่มันภรรยาในฝันของเราชัดๆ

ยูมะคิดจบ รีบส่ายหัว หันมาทานอาหารต่อ รสชาติมันดีจริงๆ

 

“ยูมะ มีเม็ดข้าวติดหน้านะ”

“ตรงไหนล่ะ”

“ตรงนี้”

ยุยยื่นมือออกมา ใช้นิ้วปาดเม็ดข้าวตรงแถวขอบริมฝีปากยูมะออก ริมฝีปากยูมะสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของนิ้วยุย

(อ้ากกกก ทำแบบนี้ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าชั้นมโนไปไกลไหนต่อไหนแล้ว)

****

 

จบ CH9-2

 

ใกล้จะจบเรื่องนี้ละ น้องโชว์สกิลความแม่ศรีเรือนได้สุดๆอะ ยูมะหลงนี่ไม่แปลกเลย 55 (ว่าไปในนิยายรอมคอมล่าสุด รู้ว่าสกิลทำอาหารอร่อยนี่ต้องมีทุกเล่มแน่ แต่แคะหูนี่เพิ่งจะเคยอ่านนะ หรือใครเคยอ่านเรื่องไหนอีกมั้ยเอ่ย)

 

อีกไม่เกินสี่วัน น่าจะจบละครับ พร่งนี้ติดดูบอลแมนยูกับน่อลและกินเหล้าแน่ๆ เลยไม่รู้ว่าจะกินหนักจนแปลไม่ไหวรึเปล่า ถ้ากินไม่เยอะ มีแรงแปล จะมาลงอัพให้นะครับผม

ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend

Score 10
Status: Completed
สมบัติอันล้ำค่าของมนุษย์คือเพื่อนสนิท หากมีความสุข เราจะสุข2เท่า หากมีความทุกข์ เราแชร์ความรู้สึกแย่นั้นให้เพื่อนฟังเพื่อระบายได้ สรุปง่ายๆ ขอแค่ชีวิตคุณมีเพื่อนแบบนี้สักคนก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว แล้วถ้าเพื่อนที่สุดยอดคนนั้น เป็นเพื่อนต่างเพศ เขาและเธอมีความรรู้สึกชอบกัน เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ***

Options

not work with dark mode
Reset