I Never Run Out Of Mana 96. อีเว้น 100+500 (2)

ตอนที่ 96. อีเว้น 100 500 (2)

96, อีเว้น 100+500 (2)

 

ผมไม่เห็นมอนเตอร์เลย.

 

ผมไม่แน่ใจว่าพอร์ทัลถูกทําลายไปหมดแล้วหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม ผมจะเจอมันได้ในไม่ช้า

 

บรรดาผู้ที่ทําตามคําสั่งของดาร์กเลดี้ที่กระโดดลงไปในน้ําทะเลที่เย็นจัดจะกลับมาในไม่ช้า

 

เมื่อพวกเขากลับมาเห็นฉากนี้พวกเขาอาจจะตกใจ.

 

นอกเหนือจากดาร์กเลดี้และบอดี้กาดส่วนตัวของเธอแล้ว กองกําลังทั้งหมดของเธอก็ถูกจัดการไปทั้งหมด

 

มันไม่น่าแปลกใจเลย.

 

มันเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

 

เมื่อคิดว่าผมจะสามารถเห็นพวกเขาได้ในระหว่างที่ป้องกันพอร์ทัล

 

ผมไม่แน่ใจว่าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือเปล่า

 

มันเกือบจะเป็นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งในห้าง

 

เครื่องทําลายคลื่นได้รับความเสียหายจากการระเบิดจนเป็นชิ้นๆ พร้อมกับบาเรียด้วยเวทย์ของผม

 

แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ไม่มีศพแม้แต่ศพเดียว แม้กระทั่งเศษชิ้นส่วนของกลุ่มหัวรุนแรง

 

มันเป็นเพราะผมทําลายพวกเขาราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

 

ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้แตกต่าง จากกองกําลังของโกสต์เลย.

 

บาเรียถูกเมเทโอที่มีไฟสีดําลุกโชนพุ่งเข้าใส่แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว

 

สิ่งที่เหลืออยู่จากจุดที่กองกําลังของเธอนั้นก็อยู่คือน้ําทะเลและหลุมลึก.

 

ข้างหลังพวกเขาคือมหาสมุทร ในขณะที่มีคนบ้าอยู่ด้านหน้า

 

เมื่อมาถึงจุดนี้พวกเขาต้องการที่จะตายด้วยการจมน้ํา แทนที่จะเผชิญหน้ากับผม.

 

อีกไปกว่านั้นผมไม่ได้ต่อสู้อย่างจริงๆจังๆ

 

ผมค่อยๆเดินไปด้านหน้าและจัดการพวกเขาอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดที่สุด

 

ผมก็เป็นคนเหมือนกัน ดังนั้นผมจะมีความสุขมากนักหรือ หากว่าต้องมาฆ่าคนด้วยกันเองเนี่ย?

 

แค้ผมถือว่าพวกเขาไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ พร้อมกับการคิดว่าพวกเขาเป็นมอนเตอร์รูปร่างมนุษย์ เมื่อผมต่อสู้กับพวกเขา

 

ดวงตาของดาร์กเลดี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

เธอไม่คิดแม้สักวิฯที่จะโยนโล่ขนาดใหญ่ของเธอ

 

ไอละอองพุ่งขึ้นจากดาบบุชเชอร์ที่ผมถืออยู่ในมือ

 

กลิ่นเลือดที่สดใหม่ยังคงไม่หายไป

 

ยกดาบขึ้น ผมชี้ไปทางเธอ.

 

เมื่อเสียงเกตว่าเธอสั่น ผมก็พูด

 

“รอนานไหม?”

 

“สะสัตว์ประหลาด…”

 

“นี่ สัตว์ประหลาดนั่นคือพวกคุณ คุณกําลังฆ่าคนที่ไม่ได้ทําอะไรผิด มันไม่ถูกต้องหรอก ใช่ไหม?”

 

“เห็นได้ชัดว่าผู้อ่อนแอถูกปกครองโดยผู้แข็งแกร่ง!”

 

“คุณไม่คิดจะพูดอะไรดีๆเลย? คุณไม่รู้ว่าผมเป็นคนที่ตามกฏบ้านกฏเมืองงั้นหรอ?”

 

“ที่นี่คุณมันอ่อนแอ ดังนั้นจงยอมรับชะตากรรมของคุณอย่างสงบ.”

 

“ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน คุณก็ไม่มีอะไรมากเมื่ออยู่ ต่อหน้าของเซคิล..”

 

“อ่า! เซคิล? รีบเรียกเขามาเลย ผมจะให้คุณมีชีวิตอยู่จนกว่าเขาจะมาถึง เมื่อถึงเวลานั้นอย่าลืมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทําได้ โอเค?”

 

“แก ไอ้สารเลว! กรี้ดดด!”

 

มันเป็นการโจมตีครั้งแรกของดาร์กเลดี้หลังจากที่คอยป้องกันมานาน.

 

จุดอ่อนของแอสซาซิน คือการโจมตีระยะไกล ดังนั้นพวกเขาต้องมีสกิล [อาวุธซัด] และมันก็ไม่ได้เป็นสกิลที่อยู่ในขั้นเหนือแรงค์ด้วยซ้ํา

 

คลาส แอสซาซินอย่างจินก็มีสกิลแบบนี้

 

โล่มานาของผมสั่นเล็กน้อยเนื่องจากมันเป็นสกิลระดับสูง แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายกับผม

 

“อาวุธซัดของแอสซาซิน สําหรับคุณ สิ่งนี้มันเป็นอะไรที่น่าสงสารมาก มันเป็นการโจมตี้เพียงอย่างเดียวที่คุณรู้?”

 

“หนอย ไอ้เด็กนี่!”

 

จากคําสั่งของดาร์กเลดี้ กาดส่วนตัวของเธอและกองกําลังของเธอพุ่งเข้าหาผม

 

พวกเขาไม่มีความเต็มใจที่จะต่อสู้อยู่เต็มสายตาของพวกเขาและไม่มีใครจะมาต่อว่าพวกเขาได้

 

พวกเขาได้เห็นพลังที่แท้จริงของผมแล้ว

 

อย่างไรก็ตามพวกมันพุ่งเข้าหาผมเหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ตามคําสั่งของเธอ ทําให้ผมตั้งคําถามมากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมองของพวกเขากัน

 

พวกเขารู้ว่าถึงชะตากรรมของพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังเข้ามา

 

“ผมรู้ถึงความภักดีของพวกคุณต่อหน้าผู้นําของคุณ อย่างไรก็ตามอย่าหวังว่าจะได้อะไรจากผม”

 

“ไอ้ชาติหมา! ก๊ากกก!”

 

“ตายซะ!”

 

ผมไม่ได้ใช้สกิลใดๆ

 

ผมแค่จับดาบของผมและพุ่งไปด้านหน้าด้วยค่าสถานะความแข็งแกร่งของผม.

 

การโจมตีก็คือการแทงธรรมดา

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเร็วของมัน ทําให้ผมสามารถแทงทะลุร่างของพวกเขาได้ทั้งหมดภายในครั้งเดียว มันเป็นเหมือนกับมีดร้อนๆปาดเนย.

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ชุดเกราะที่ปกป้องร่างกายของพวกเขา รวมทั้งรูปร่างของพวกเขาก็บวมราวกับลูกโป่ง.

 

ไม่มีใครร้องออกมาได้แม้แต่คนเดียว

 

มีเพียงเลือดที่ไหลริน

 

ผมโจมตีต่อ

 

มานาชิลด์และร่างกายของผมเต็มไปด้วยเลือด

 

คนเดียวที่รอดคือดาร์กเลดี้

 

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดที่จะสู้กับผม.

 

โจ๊กเกอร์และโกสต์

 

ทั้งสองคนเป็นนักสู้โดยเฉพาะและพวกเขาเชื่อมั่นใจพลังของตัวเอง

 

ท้ายที่สุด จุดจบของพวกเขาก็โหดร้าย

 

ตอนนี้ ผมเดินไปถึงด้านหน้าของเธอที่ไม่มีใจสู้อีกต่อไปอีก

 

“อ๊าาา….อ่าาาห์! อย่าเข้ามาใกล้ฉัน! ได้โปรด!”

 

“ถ้ามีคนอื่นมาเห็นฉากนี้ พวกเขาจะต้องคิดว่าผมเป็นนักลอบสังหารที่ฆ่าคนไปเป็นร้อยๆคนแล้วละ หืมม?”

 

“อ้าาา!”

 

“คุณไม่อาจทําอย่างนี้ได้ ดวงอาทิตย์อยู่บนหัวแล้วแสดงว่ามันเป็นตอนเที่ยงแล้ว ยังเร็วเกินไปที่คุณจะต้องมาตาย”

 

ผมฟันดาบออกไปและทําให้โล่ขาดครึ่ง

 

สิ่งเดียวที่เธอถืออยู่คือด้านจับของโล่และดาบสั้น

 

ผมกําลังจะได้รับข้อมูลที่ผมไม่อาจหาได้จากผู้นําคนอื่นๆจากเธอ.

 

เมื่อผมเผชิญหน้ากับโจ๊กเกอร์ครั้งแรก ผมไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะรีดเอาข้อมูลมาได้ ทําให้ผมทําอะไรไม่ได้

 

พลังของเขาเกือบจะทําให้ผมทําอะไรไม่ถูกหลังจากนั้น

 

ถ้าไม่ใช่เพราะรีเฟล็กชิลด์ เป็นไปได้ว่าคนที่จะตายคือผมไม่ใช่เขา

 

สําหรับโกสต์ ผมรู้สึกเต็มไปด้วยความโกรธเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขาพยายามฆ่าแม่ของผมและสกิลพิเศษอย่าง[Wild Beast]ที่ต้องใช้สกิลพิเศษอย่าง[Transcended Formless Sword Aura]ในการรับมือ ดังนั้นผมถึงเอาชนะโกสต์ได้แม้ว่าผมจะหมดสติ

 

ผมต้องทําลายพวกเขาจนถึงราก ผมต้องการใช้ดาร์เลดี้

 

“ไว้ชีวิตฉันไว้ชีวิตฉันด้วย!”

 

“ไม่ คุณต้องตาย.”

 

“อ้าาา!”

 

“แต่ผมจะให้คุณเลือกว่าคุณจะตายอย่างไง.”

 

“คุณจะตายอย่างไม่เจ็บปวดเหมือนกับลูกน้องของคุณก่อนหน้านี้ หรือคุณจะรู้สึกเจ็บปวดจนตายซึ่งมันก็ไม่ต่างจากตายอย่างช้าๆ มันจะขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณ คุณเข้าใจไหม?”

 

“อาาาห!”

 

“คุณไม่อาจตายได้ง่ายๆ

 

ดาร์กเลดี้พยายามที่จะแทงคอของเธอด้วยดาบสั้นของเธอ

 

แทนที่จะต้องทนทรมาณกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ ขณะที่เธอต้องพบกับความตายที่โหดร้าย เธอก็พยายามที่จะฆ่าตัวตาย

 

แต่เธอคิดจริงๆหรือว่าผมจะปล่อยให้เธอลงนรกได้ง่ายๆขนาดนี้

 

ผมรีบคว้าไปที่มือของเธอและสะบัดมันออกทันที

 

ยิ่งไปกว่านั้น ผมใช้มีดเฉือนไปที่ไหล่ของเธอ

 

ผมไม่รู้ว่าดาบสั้นนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน

 

มันไม่สําคัญหรอก.

 

เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ผมมี แม้แต่มีดของเล่นก็สามารถแทงร่างกายของเธอได้อย่างง่ายๆ ถ้าผมต้องให้เป็นอย่างนั้น

 

“คุณสิ้นหวังมากพอที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายหัวรุนแรง แต่กลับลงเอยเช่นนี้? เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ เรามาทํามันให้ถูกต้อง โอเค?”

 

“อีก

“โอ้ มาได้เวลาเลย พวกมาถึงแล้ว.”

 

ผมเห็นกลุ่มหัวรุนแรงทั้ง 30 คนที่ออกไป สํารวจพอร์ทัลเลเวล 30 ที่กําลังว่างน้ํากลับฝั่ง

 

พวกเขามุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วยังทิศทางซากเครื่องทําลายคลื่น

 

พร้อมกับกําลังมองไปรอบๆขณะที่เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

 

พวกเขาค่าสถานะเดินได้พวกนี้กล้าทําสิ่งเหล่านี้งั้นรี.

 

“มาถึงแล้วหรอ? พอร์ทัลถูกปิดได้อย่างถูกวิธีหรือเปล่า? พวกมันกลายเป็นดันเจี้ยนแล้วใช่ไหม??”

 

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ หัวหน้า!”

 

“แก…กล้าที่จะทําอย่างนี้”

 

“พวกคุณไม่ต้องรีบหรอก จะมีเพียงคนเดียวที่รอด ผมจะถามอีกครั้ง”

 

ผู้บัญชาการยุนจองซันและโฮจินสามารถทําลายพอร์ทัลเลเวล 35 ที่ระเบิดที่เมืองพาจูสําเร็จ

 

มันเป็นพอร์ทัลที่ต้องใช้การโจมตีด้วยเวทย์

 

โฮจินเป็นวอริเออร์และเขาก็ได้มอบแหวนบัลร็อกให้กับจุงโฮ ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรที่จะสู้ได้

 

อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณคําสั่งของผู้บัญชาการ อย่างน้อยๆเขาก็สามารถดึงดูความเกลียดชังของมอนเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆและใช้ชิลด์แบบAoEกับคนของเขา

 

หลังจากวางสายกับจองโฮ เขากําลังรอคําสั่งต่อไปของผู้บัญชาการ

 

ตอนนั้นเองที่กลุ่มอเวควิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง

 

หลังจากทําความเครารพผู้บัญชาการแล้วเขาก็พูด

 

“ขอรายงานสถานการณ์ในปัจจุบัน!”

 

“ได้ เริ่มเลย.”

 

“ ขณะนี้มี 3 พอร์ทัลในอินชอนและซางวอนได้หยุดระเบิดแล้วและจากการที่ไม่มีความเสียหายอยู่ใกล้ๆ เราคาดได้ว่ามันถูกจัดการแล้ว”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น พาจูได้ถูกคุณจัดการ พื้นที่สีซางโฮ,คิมฮเยวอนและชินเกออันที่มุ่งหน้าไปที่นั่นก็ได้รับการจัดการเช่นกัน.”

 

“ผมรู้ ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทํางานอย่างหนัก พอร์ทัล ทางซางของยางพย็องมีเพียงแห่งเดียวและแพ้ทางเวทย์มนต์?”

 

“ครับผม ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเราได้รับข่าวมาว่าความเสียหายในปูซานนั้นรุนแรงมาก เราขาดการติดต่อกับอเวคทั้งหมดที่ไปแล้ว แม้แต่โดรนที่เราส่งไปสอดแนมก็หายไปเช่นกัน”

 

“หืมม…งั้นหรอ…เอาหล่ะ แจ้งให้เรารู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น

 

“ครับผม! รับทราบ!”

 

เสร็จสิ้นการรายงานของเขา เขาก็มุ่งหน้าลงจากภูเขา และหายไปจากสายตา

 

โฮจินที่ฟังอยู่ข้างๆเขาพูด.

 

“ผู้บัญชาการ พอร์ทัลในยางพย์องจะได้รับการจัดการในเร็วๆนี้เช่นกัน”

 

“ให้มันเป็นอย่างนั้น งั้นผมก็เดาว่าผมต้องมุ่งหน้าไปซาน?

 

“มีความรู้สึกไม่ดีบางอย่าง แม้ว่าเราจะเสียโดรนไป แต่ก็อธิบายถึงการสูญเสียการติดต่อกับอเวค.”

 

“ฉันคิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

 

โฮจินกระซิบผู้บัญชาการ.

 

“มีการยืนยันว่าการเบิดของพอร์ทัลเกิดจากพวกมัน.”

 

“หึม…”

 

“ถ้ามันขนาดนี้ เท่ากับว่านี่เป็นสัญญาณว่าพวกเขากําลังเดินทาง.”

 

“ผมคิดอย่างนั้นเหมือนกัน งั้นสิ่งที่คุณพยายามจะพูดก็คือ…”

 

“ครับ ถูกต้องเลย ผมเชื่อว่าอเวคทั้งหมดที่มุ่งหน้าไปปูซานนั้นถูกทําโดยฝ่ายหัวรุนแรง”

 

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ที่สมาคมไม่สามารถส่งกองกําลังไปได้จึงมีสมาชิกจํานวนมาจากกิลด์ต่างๆมุ่งหน้าไปที่นั่น ระดับของพวกเขาและอุปกรณ์ที่พวกเขาติดตั้งไม่มีอะไรน่าเยาะเย้ย คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะบอกว่าพวกเขาจัดการมันทั้งหมด?”

 

“ผมก็เดาว่าถูกต้อง…”

 

“มีคนอยู่เหนือกว่าผู้นําอยู่ที่นั่น จะพูดให้ตรงๆคือหัวหน้าใหญ่ขององค์กร.”

 

“หากเป็นเช่นนั้นนี่เป็นเรื่องพิเศษ เราจะจัดการพอร์ทัลในยางพย์องเป็นเรื่องน่าอายสําหรับเราที่จะถามเรื่องนี้ แต่ขอให้มินชยอลมุ่งหน้าไปที่ปูซานได้ไหม? ผมก็จะไปที่นั่นแน่นอน”

 

“ฉันจะขอให้เขาทําอย่างนั้น.”

 

“ครับ ขอบคุณ.”

 

พวกเขาพูดถูก.

 

ดาร์กเลดี้ถูกนําไปใช้ที่วอนมิโด

 

ความหวังสุดท้ายถูกนําไปใช้ที่กาบอนซานของยางพยอง

 

ในที่สุดหัวหน้าของฝ่ายหัวรุนแรงก็มุ่งหน้าไปยังซาน

 

สาเหตุที่การติดต่อถูกตัดขาดกับเหล่าอเวคหายไปนั้น โฮจนคิดว่านี่มันสมเหตุสมผล

 

พอร์ทัลดังกล่าวได้ระเบิดขึ้นที่ยอดเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยปูซานกามานดง.

มีเซคิลยืนเฝ้าอยู่

 

พอร์ทัลได้ระเบิดอย่างสมบูรณ์แล้วและมอนเตอร์จํานวนนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลออกมา

พื้นที่นั้นพังพินาศและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลุกลามเพียงพื้นที่เฉพาะเท่านั้น

 

ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนสูญเสียชีวิต

 

ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าอเวคจํานวนมากจากกิลด์ต่างๆได้สูญเสียชีวิตของเขาด้วยน้ํามือของเซกิล

 

เซกิลยืนอยู่ข้างประตูพอร์ทัลและมองดูพื้นที่ที่มอนเตอร์ทําลายล้าง

 

อย่างไรก็ตามมีบางอย่างแปลกๆ

 

มอนเตอร์ไม่ได้โจมตีซีคิล แม้ว่าเขาจะไม่ใช้สกิล[สเตล]ก็ตาม.

 

เกือบจะเหมือนว่ามอนเตอร์คิดว่าเขาเป็นพวกเดียวกัน พวกมันไม่สนใจเขาเลย

 

เซคิลมองไปที่เมืองกําลังถูกทําลายและตะโกนออกมาจากแนวหน้าอย่างบ้าคลัง

 

“ทําลาย! ทําลายขยะด้านหน้าเหล่านี้ของพวกแก!”

 

Options

not work with dark mode
Reset