Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 285

บทที่ 285

ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว

 

ผุ้คนและกลุ่มคนจากนิกายต่างๆ มาถึงพื้นที่กว้างหน้าประตูหิน ในหมู่พวกเขามีอันดับดาราระดับสูงๆ อยู่ในนี้ด้วย

บางคนที่มีอันดับค่อนข้างสูงและเมื่อพวกเขาเห็นมู่หรงตี๋และเซี่ยฮัวชวนพวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าที่ดูจริงจังขึ้น

 

ยิ่งชื่อมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ รัศมีความโดดเด่นของเขาพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

 

พวกเขาทุกคนรู้สึกกดดันที่จะต้องต่อสู้กับสองจากหกนายน้อย

 

“หลี่ฟู่เฉิน”

 

ผู้คนจากนิกายไร้กังวลมาถึงแล้ว

 

ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยเช่นกัน และพวกเขาก็เดินมาทันทีเมื่อเห็นหลี่ฟู่เฉิน

 

“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าทำให้เราตกใจมาก เมื่อเราได้ยินว่าเจ้าได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 1 ที่แม้แต่สามราชาดารา หกนายน้อย และสี่เทพธิดาก็ไม่สามารถทำได้ “ ฟานเฉียนสงกล่าวยกย่อง

 

ฟานเฉียนหยูพูดติดตลกว่า “หลี่ชิเซียงเราจะพึ่งพาการปกป้องจากเจ้าในอนาคต”

 

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะแห้งๆ และตอบว่า “ถ้าข้าสามารถปกป้องตัวเองได้ในอนาคต ข้าก็จะสามารถปกป้องเจ้าได้อย่างแน่นอน”

 

พวกเขาสองคนไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับเหล่านั้นจะไม่อยู่ในเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับตลอดไป และคงมีสักวันที่พวกเขาจะจากไป และเมื่อวันนั้นมาถึง ตำแหน่งศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับก็ไม่นับเป็นอะไร

 

กลับกัน มันอาจเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองด้วยซ้ำ

 

พวกเขาสองคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า ถ้าหลี่ฟู่เฉินตอบแบบนี้แสดงว่าพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริงแล้ว

 

“นิกายอุปกรณ์ลึกลับมาถึงแล้ว”

 

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังสนทนากันก็มีความวุ่นวายอีกครั้ง

 

พวกเขามองไปที่สัตว์วิญญาณสามตัวที่ลงมาจากท้องฟ้า ฟานเฉียนสงกล่าวเบาๆ “นิกายอุปกรณ์ลึกลับ เป็นนิกายที่น่ากลัวที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก และแทบจะไม่มีนิกายใดที่สามารถแข่งขันกับหรือเทียบเท่าพวกเขาได้ หนึ่งในสามราชาดารา ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ก็มาจากนิกายอุปกรณ์ลึกลับ”

 

“ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว?”

 

หลี่ฟู่เฉินรู้ได้ด้วยสันชาติญาณว่านิกายอุปกรณ์ลึกลับนั้นน่ากลัวเพียงใด

 

นิกายนี้มีรากฐานที่มั่นคงมากและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมื่อเทียบกับนิกายอุปกรณ์ลึกลับแล้วนิกายนภาดาราก็ถือได้ว่าเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แม้แต่กระทั้งตระกูลต้วนหลินที่มีประวัติอันยาวนานก็ยังเป็นกลุ่มตัวน้อย เมื่อเทียบกับนิกายอุปกรณ์ลึกลับ นิกายเดียวที่สามารถเทียบเคียงได้กับนิกายอุปกรณ์ลึกลับในประวัติศาสตร์ก็คือ นิกายชั้นยอด หุบเขานิรันดร์

 

ในฐานะที่เป็นผู้มีความสามารถพิเศษจากนิกายอุปกรณ์ลึกลับ ราชาดาราไร้เคลื่อนไหวไม่ได้มีเพียงแค่โครงกระดูกระดับ 6 ดาวแต่เพียงเท่านั้น การฝึกฝนของเขายังถูกโปรดปรานจากสวรรค์อีกด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญตีเหล็กและเป็นผู้เชี่ยวชาญลวดลายอุปกรณ์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นับพันปีของนิกายอุปกรณ์ลึกลับ ความสามารถที่แท้จริงที่เขามีมากเพียงพอที่จะพันคอคนจนตายได้

 

ฟานเฉียนหยูผู้งดงามกลัวว่าหลี่ฟู่เฉินอาจไม่รู้เกี่ยวกับสามราชาดารา ดังนั้นเธอจึงอธิบายอย่างละเอียดว่า “หลี่ชิเซียง ในบรรดาสามราชาดารา ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิงมีความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งยังนิกายอุปกรณ์ลึกลับเองก็มีเทคนิคลับมากมาย และพวกเขาบางคนมีผู้ฝึกฝนร่างกายด้วยการเขียนลวดลายด้วย ยิ่งอันดับของลวดลายสูงเท่าไหร่ร่างกายก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ในระหว่างการแข่งขันการจัดอันดับดาราเมื่อสามปีก่อน นอกเหนือจากราชาดาราอีกสองคนแล้ว ไม่มีใครสามารถทำลายการป้องกันของเขาได้”

 

“ถูกแล้ว จากสิ่งที่ข้ารู้เมื่อสามปีก่อน ร่างกายของเขาถูกตราไว้ด้วยลวดลายระดับลึกลับขั้นต่ำ ข้าสงสัยว่าเขาเพิ่มความสามารถนั้นขึ้นบ้างรึยัง” ฟานเฉียนสงเข้าร่วมวงสนทนาด้วย

 

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้แสดงอาการแปลกใจเมื่อได้ยินข้อมูลทั้งหมดนี้

 

อย่างแรกเขารู้เกี่ยวกับข้อมูลของนิกายอุปกรณ์ลึกลับและราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง อยู่ก่อนแล้ว

 

อย่างที่สอง เขาเองก็ฝึกฝนเช่นเดียวกัน ด้วยบทดาบไร้สมบูรณ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับลวดลายอุปกรณ์

 

ความแตกต่างก็คือบทดาบไร้สมบรูณ์ของเขาคือการประทับลวดลายแห่งดาบลงบนกระดูกสันหลัง ในขณะที่นิกายอุปกรณ์ลึกลับ เห็นได้ชัดว่าสามารถประทับลวดลายลงบนร่างกายได้เพียงอย่างเดียวได้เท่านั้น นั้นจึงถือว่าเป็นรูปแบบภายนอก

 

“ภายในและภายนอกหรือ นั้นค่อนข้างน่าสนใจ” หลี่ฟู่เฉินอยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับนิกายอุปกรณ์ลึกลับ

 

หลังจากที่เขาประทับบทดาบทองแดงลงบนกระดูกของเขาแล้ว นอกเหนือจากการแปลงพลังฉีเพลิงโลกันต์แท้จริงไปเป็นพลังฉีดาบทองแดง มันก็ได้เปลี่ยนความแข็งแกร่งของกระดูกของเขาอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด หากจะบอกว่า ถ้ามีใครสักคนที่มีความสามารถเท่าๆ กับหลี่ฟู่เฉินสามารถเฉือนแขนของเขาได้ แต่พวกเขาจะทำได้แค่เฉือนผิวหนังและเนื้อของเขาเท่านั้น พวกเขาจะไม่สามารถตัดกระดูกของเขาได้

 

เนื่องจากความแข็งแกร่งของกระดูกเขาก็เทียบได้กับอาวุธระดับลึกลับขั้นกลางแล้ว

 

ในขณะที่สมาชิกของนิกายอุปกรณ์ลึกลับสามารถประทับลวดลายได้แค่บนร่างกายเท่านั้น นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะมีพลังป้องกันที่ผิวหนังและเนื้อของพวกเขาสูงมาก หากไม่มีพลังโจมตีที่รุนแรงมากพอ มันก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำลายการป้องกันของพวกเขา

 

ฉีเหิง มีผมสั้นและมีกล้ามเนื้อที่กำยำ กระโดดลงมาจากด้านหลังของสัตว์วิญญาณ ท่าร่างของเขาดูรวดเร็วและรุนแรงมาก

 

ตอนนี้ แม้แต่กระทั้ง มู่หรงตี๋และเซี่ยฮัวชวนก็มีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างไม่ทันสังเกต

 

สามราชาดาราเปรียบเสมือนก้อนหินขนาดยักษ์ที่กดทับหัวใจของทุกคน ก่อนที่ก้อนหินจะถูกเคลื่อนออกไป พวกเขาคงจะไม่สามารถหายใจอย่างถูกต้องตามจังหวะได้

 

ร่างกายของฉีเหิงแข็งแกร่งมาก และเขาก็สูงกว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่ สายตาของเขากวาดตามองผู้คนที่นี่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า ขณะเดียวกันเขาก็มองเห็นมู่หรงตี๋และเซี่ยฮัวชวน ซึ่งทำให้เขาหยุดชะงักเล็กน้อย เพราะสองคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของหกนายน้อยและค่อนข้างมีความสามารถที่น่ากลัว

 

“หนึ่งในสามยอดอัจฉริยะอยู่ที่นี่แล้ว ยากที่จะจินตนาการได้ว่าจะมีฉากแบบไหนเมื่อทั้งสามมารวมตัวกันทั้งหมด” ผู้มีความสามารถพิเศษบางคนที่มาที่นี่เพื่อชมการแข่งขันต่างก็พูดคุยกันและก็รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น

 

ราชาดาราที่ไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง อยู่ในอันดับที่ 2 ของการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งก่อน และถือเป็นราชาในกลุ่มเยาวชน

 

นายน้อยต้วนหลิน เซี่ยฮัวชวน อยู่ในอันดับที่ 15 ในขณะที่นายน้อยนภาดารา มู่หรงตี๋ อยู่ในอันดับที่ 35

 

สองคนหลังอาจจะอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่า แต่ทั้งคู่ก็ยังเด็ก โดยเฉพาะ มู่หรงตี๋ เขาอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น เมื่อครั้งที่เข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งก่อน

 

การได้อันดับที่ 35 เมื่ออายุ 20 ปีนับเป็นศักยภาพโดยกำเนิดที่ไม่มีใครเทียบได้

 

การมีอยู่ของพวกเขาทั้งสามทำให้คนอื่นสูญเสียความมั่นใจ เหมือนกับหิ่งห้อยที่เผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์ซึ่งส่องแสง มันไม่สามารถเทียบรัศมีได้เลย

 

ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูมองไปที่พวกเขาทั้งสามก่อนที่จะมองไปยังหลี่ฟู่เฉิน

 

พวกเขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

 

หลี่ฟู่เฉินอาจมีชื่อเสียง แต่เขาก็ไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันการจัดอันดับดารา ในแง่ของชื่อเสียงและความสามารถพื้นฐานของเขายังเทียบไม่ได้กับสามคนนี้

 

“ในระหว่างการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งนี้ อย่างน้อยหลี่ฟู่เฉินก็สมควรสามารถขึ้นสู่ 30 อันดับแรกได้” ฟานเฉียนสงคิดในใจ

 

ในความคิดของเขา หากนายน้อยนภาดารา มู่หรงตี๋ ที่ได้อยู่ในอันดับ 35 เมื่อตอนเขาอายุ 20 ปี หลี่ฟู่เฉินก็คงจะไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา หากคิดไปว่า หลี่ฟู่เฉินอยู่ใน 30 อันดับแรกนั้น มันก็มีความเป็นไปได้ที่สูงกว่ามาก

 

ก่อนที่ความปั่นป่วนจะสิ้นสุดลง ไม่นานหลังจากที่นิกายอุปกรณ์ลึกลับมาถึงหุบเขานิรันดร์ก็มาถึงเช่นกัน

 

ตามชื่อของพวกเขา หุบเขานิรันดร์ ความกล้าหาญและชื่อเสียงของพวกเขามีมาอย่างยาวนาน ตอนนี้พวกเขามีโครงกระดูก 6 ดาวอยู่สองคน หนึ่งในนั้นคือนายน้อยหุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุน ส่วนอีกคนก็คือ เทพธิดาพิรุณกระจ่าง ชูมู่หยู

(หมายเหตุ TL(คนแปลอิ้ง): ก่อนหน้านี้ฉันปล่อยให้เป็นชื่อของพวกเป็น เทพธิดามู่หยู และเทพธิดาฉิงหวู แต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าแปลชื่อของพวกเขาตามชื่อเรื่อง)

 

นายน้อยหุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำของนายน้อยทั้งหก เขาอยู่ในอันดับที่ 5 ของการจัดอันดับดารา และในบรรดาสี่คนที่เอาชนะเขาได้ก็เป็นสามราชาดาราที่ยังไม่ตัดผ่าน ส่วนอันดับที่ 4 เป็นอัจฉริยะซึ่งตอนนี้ได้ก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญไปแล้ว

 

สำหรับเทพธิดาพิรุณกระจ่าง ชูมู่หยู เธออาจจะยังไม่ได้รับการจัดอันดับดารา เพราะเมื่อสามปีก่อนเธอยังเด็กมาก เธออายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับดารา ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในการจัดอันดับดารา

 

การมาถึงของทั้งสองคนทำให้บรรยากาศกลายเป็นหนักอึ้ง มันให้ความรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าอยู่ในอากาศ สนามพลังฉีของเหล่าอัจฉริยะชั้นยอดเหล่านี้ทำให้พวกอัจฉริยะบางคนจากนิกายอื่นๆ รู้สึกถึงความกดดัน

 

“คนนั้นคือ หลี่ฟู่เฉิน ที่เจ้ากล่าวถึง?”

 

นายน้อยหุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุนดูหล่อเหลามาก และกำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปยังหลี่ฟู่เฉินอย่างรวดเร็ว

 

ชูมู่หยูตอบกลับ “เถิงชิเซียง มันเป็นเขา”

 

“น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่การฝึกฝนของเขาอ่อนแอเกินไป เขาอยู่เพียงระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพี เขายังด้อยกว่าเจ้าเสียด้วยซ้ำ” เถิงชิหยุนส่ายหัว ไม่ใช่ว่าเขากำลังดูถูกหลี่ฟู่เฉิน ในความเป็นจริงเขายกย่องหลี่ฟู่เฉินมาก มิฉะนั้นเขาจะไม่เอ่ยชื่อของหลี่ฟู่เฉินด้วยซ้ำ

 

แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ และมันก็เป็นไปได้ที่ความสามารถในการต่อสู้จะเกินระดับฝึกฝนจริงๆ ไป

 

ระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีจะสามารถปะทะกับอัจฉริยะที่อยู่ในขอบเขตปฐพีระดับที่ 9 ได้ดี แต่เมื่อเขาพบกับคู่ต่อสู้ระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพี มันจะมากเกินไปสำหรับเขาสำหรับการที่เขาจะรับมือมัน

 

 

ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels

Favorite