Divine King of All Directions 1383

ตอนที่ 1383

หลินเทียนได้ติดตามกลุ่มคนเหล่านั้นไปด้วยความเร็วที่คงที่ก่อนที่จะถึงในประมาณหนึ่งชั่วโมง
พื้นที่ด้านหน้าของเขาเป็นป่าที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยแถมยังเต็มไปด้วยต้นไม้เหี่ยวเฉารวมถึงก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งสายตาของทุกผู้คนล้วนจับจ้องไปในทิศทางเดียวกัน
มันมีหลุมขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าและลึกลงไปจะพบกับประตูหินที่รายล้อมไปด้วยข่ายอาคมมากมาย
“ข่ายอาคมเขตแดนนิรันดร์อมตะ ”
หลินเทียนที่กำลังมองออกไปถึงกับมีดวงตาที่เปล่งประกายออกมาโดยทันที
“ประตูหินนี่มันค่อยข้างเป็นปัญหาไม่น้อยเลยนะ แม้ว่าข่ายอาคมจะอ่อนแรงลงตามกาลเวลาทว่าการที่จะปลดผนึกมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอยู่ดี ”
“เพราะถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะวางเอาไว้นะ ”
“สุสานของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายมันหาได้ยากมากๆ ไม่รู้เลยว่าจะได้พบกับสมบัติมากมายขนาดไหน ”
หลายๆคนพากันส่งเสียงออกมาขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่ด้านหน้า
“ตู้มมม ! ”
คลื่นพลังเทวะอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากพื้นที่ๆอยู่ห่างออกไปก่อนที่ประกายแสงเจิดจรัสจะสาดส่องออกมาจากร่างของคนๆหนึ่งที่กำลังก้าวเข้ามา
“นายน้อยตำหนักกระบี่ทมิฬ ”
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะตะลึงออกมา
เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำมีสายตาที่แหลมคมให้ความรู้สึกเสมือนว่าตัวเขาเป็นกระบี่อันคมกริบ
“ได้ยินว่าตัดผ่านเขตแดนกึ่งจักรพรรดิได้แล้ว เป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ ! ”
หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา
มันเป็นตอนนี้เองที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ได้มีคลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดออกมาพร้อมๆกับปรากฏฝูงสัตว์อสูรที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายอสูรอันเข้มข้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้แต่ผงะไปก่อนที่จะปรากฏภาพของอสูรเขตแดนปรินิพพานที่มีร่างๆหนึ่งยืนอยู่บนศีรษะของมันเสมือนว่าเป็นจ้าวแห่งอสูร
“นายน้อยของขุนเขาหมื่นอสูร ได้ยินว่าเขาเองก็เชี่ยวชาญทักษะหมื่นอสูรอย่างมากแถมยังตัดผ่านเขตแดนกึ่งจักรพรรดิแล้วด้วย เขาสามารถใช้อสูรทั้งหลายเป็นกำลังให้กับตัวเองทำให้ถือว่าเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากมากๆ ”
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆพากันใจสั่นไป
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่มีร่างอีกเจ็ดร่างปรากฏตัวขึ้นมาจากทิศทางที่ต่างกันออกไปซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังแถมส่งกลิ่นอายของจักรพรรดิอันเบาบางออกมาทำให้รู้ได้ว่าพวกเขาล้วนอยู่ในเขตแดนกึ่งจักรพรรดิ
“นิกายเสวี่ยหยุน นิกายฮุนหยวน นิกายจิ่วเจียนเต๋า นิกายหยูหวู นิกายฮานปิง นิกายเหลาฮวนและนิกายเหล่ยหลานต่างส่งนายน้อยของพวกเขามากันทั้งหมด ! ”
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
หลินเทียนที่เพิ่งมาถึงดาวดวงนี้เองก็เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในดาวมาจากความทรงจำของหนึ่งในผู้รุกรานมาก่อนแล้วดังนั้นจึงรู้จักคนเหล่านี้เป็นอย่างดี
หากพูดกันตามปกติแล้วขุมพลังภายในดาวจะแบ่งออกเป็นสามระดับใหญ่ๆซึ่งระดับแรกนั้นเป็นของนิกายจี่หยาน นิกาย เฉินเจียว ตระกูลฟานซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดโดยที่มีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลคอนประจำการ
หลังจากนั้นก็ระดับที่สองอย่างขุมพลังอีกห้าแห่งซึ่งแยกออกเป็นนิกายเฮอฮ้วน นิกายไท่หลิง นิกายซวนหยุน นิกายเชียนคุน และนิกายเฮอเฉินที่ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลาย
หลังจากนั้นก็เป็นขุมพลังทั้งเก้าของทั้งเก้านายน้อยก่อนหน้านี้ที่มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะ
“ได้ยินมาว่านายน้อยทั้งหลายจะมาที่นี่แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาจริงๆ ”
“ถึงอย่างไรนี่มันก็เป็นถึงสุสานของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายเลยนะ ไม่ใช่มีแค่ยาทิพย์ที่สามารถเพิ่มระดับพลังของเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าได้เท่านั้นแต่ยังมีอาวุธอยู่อีกมากมาย การที่พวกเขาจะแห่กันมาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ”
“ใช่”
“ข้าได้ยินมาว่าคนของขุมพลังระดับ 2 เองก็ส่งคนใหญ่คนโตมาเช่นกัน ”
“ว่าไงนะ ? มีเรื่องแบบนี้ด้วย ? เจ้าแน่ใจ ? ”
“ยังยืนยันไม่ได้แต่มีความเป็นไปได้สูงมากๆ ”
หลินเทียนได้หันมองไปทางกลุ่มนายน้อยเหล่านั้นเล็กน้อยก่อนที่จะหันมองออกไปทางประตูที่อยู่ห่างออกไปเพราะแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ธรรมดาแต่ก็ยังไม่อยู่ในสายตาของเขา
เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนกลางแล้วดังนั้นต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้ทำให้สำหรับเขาแล้วคนกลุ่มนี้ก็เป็นเพียงแค่รุ่นเยาว์เท่านั้น
หลายๆคนพากันส่งการโจมตีมากมายกระแทกเข้าใส่ประตูหินที่อยู่ห่างออกไปอย่างบ้าคลั่ง
ณ ตอนนี้เองที่มีเสียงดังสนั่นถูกส่งออกมาก่อนที่จะปรากฏรอยแตกร้าวลามออกไปทั่วทั้งประตู
หลังจากนั้นประตูหินก็ได้แตกออกพร้อมๆกับเผยให้เห็นทางเข้าอันมืดมิด
“เปิดแล้ว ! ”
หนึ่งในผู้คนส่งเสียงอันตื่นเต้นออกมา
เมื่อประตูได้เปิดออกพวกเขาก็ต่างพากันกระโจนเข้าไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
อย่างไรก็ตามมันเป็นตอนนี้เองที่มีหลายๆคนพากันส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชทำให้ผู้คนที่รออยู่ด้านนอกต่างพากันหวาดหวั่น
“นี่มัน ?! ”
“มัน…..เสียงอะไรกัน ? เกิดอะไรขึ้น ? นี่เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากัน ? ”
“ดูเหมือนว่าน่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ! ”
หลายๆคนพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“ตู้มม ! ”
เสียงคำรามอย่างดังถูกส่งออกมาพร้อมๆกับคลื่นพลังอันหนักหน่วงที่กวาดออกไปรอบทิศทาง
ปรากฏกลุ่มหมอกสีดำทมิฬพวยพุ่งออกมาจากทางเข้าด้านหน้าพร้อมพุ่งทะลวงขึ้นสู่ท้องฟ้าทำให้มันถูกย้อมกลายเป็นสีดำ
เสียงกู่ร้องดังสนั่นได้ถูกส่งออกมามากขึ้นกว่าเก่าพร้อมๆกับเสียงโลหะเสียดสีกันอย่างต่อเนื่อง
“กลิ่นอายหยิน ? ทหารหยิน ! มีแม้กระทั่งวิญญาณร้ายพวกนี้อยู่ด้วย ?! ”
“ไม่คิดเลยจริงๆ ! ”
“ลืมไปเลยว่าภายในสุสานของผู้เชี่ยวชาญระดับนี้จะต้องมีอันตรายไม่น้อย ”
หลายๆคนพากันแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปออกมา
หลังจากนั้นเองที่มีเสียงดังสนั่นถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่กองกำลังทหารหยินที่แผดจิตสังหารอันเข้มข้นก้าวเดินออกมา
กลุ่มหมอกรายล้อมร่างกายของพวกเขาเอาไว้ขณะที่แต่ละร่างล้วนมีดวงตาสีแดงก่ำกำลังถือกระบี่และอาวุธอื่นๆสร้างความรู้สึกที่เย็นยะเยือกให้กับผู้คนโดยรอบ
“ทหารหยินพวกนี้มันแข็งแกร่งมากๆ ! ”
หลายคนส่งเสียงออกมา
“แข็งแกร่งจริงๆนั่นแหละแต่มันก็เป็นเพียงทหารหยินเท่านั้น ”
“ใช่ ”
“ฆ่าพวกมันซะ ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ที่นี่ต่างแข็งแกร่งไม่ธรรมดาดังนั้นจึงไม่มีใครหวาดหวั่นไปกับกองกำลังทหารเหล่านี้พร้อมทั้งรีบสังเวยการโจมตีมากมายออกมาฟาดฟันเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามมันเป็นตอนนี้เองที่มีหลายๆคนส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชก่อนที่ร่างของพวกเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
หลินเทียนได้หันมองตามออกไปพร้อมทั้งพบว่าอีกฝ่ายนั้นถูกสังหารโดยผีปราชญ์เขตแดนปรินิพพานที่รวมกลุ่มอยู่กับกองกำลังทหารหยิน
“อ๊ากก ~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวแห่งเต๋าถูกเขมือบเข้าไปทั้งตัว
“ระยำเอ้ย ! ”
หลายๆคนส่งเสียงโห่ร้องออกมา
ไม่นานเสียงกรีดร้องก็ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่กลุ่มผีปราชญ์พากันกระโจนเข้าใส่ทางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
เป็นเพราะว่ามันไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะสามารถรับมือได้ง่ายๆ
“ตู้มม ! ”
กลุ่มหมอกสีดำทมิฬพวยพุ่งขึ้นเหนือฟ้าก่อนที่คลื่นพลังทำลายล้างอันทรงพลังจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่งทำให้พวกเขาได้แต่หวาดผวาไป
และที่สำคัญที่สุดคือในกลุ่มกองกำลังเหล่านี้เต็มไปด้วยผีปราชญ์มากมาย
“อ๊ากก ! ”
เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชถูกส่งออกมาไม่หยุดขณะที่เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทาง
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดาๆทว่ากองกำลังทหารหยินเหล่านี้มันเต็มไปด้วยผีปราชญ์จำนวนมากทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะรับมือ
“ถอยกลับ รีบถอยเร็ว ! ”
หลายๆคนส่งเสียงโห่ร้องออกมา
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเริ่มพากันถอยห่างออกไปเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรับมือกับผีปราชญ์จำนวนมากได้
“เหอะ ! ”
เสียงแสยะถูกส่งออกมาอย่างเย็นชา
นายน้อยนิกายกระบี่ทมิฬก้าวออกมาพร้อมๆกับโบกมือส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งฉีกร่างของศัตรูตรงหน้าออกพลางพุ่งกระโจนออกไปทางประตูหินอย่างรวดเร็ว
“ไสหัวไปไกลๆ ! ”
นายน้อยขุนเขาหมื่นอสูรส่งเสียงออกมาก่อนที่กองกำลังอสูรจะพุ่งเข้าฉีกร่างของศัตรูทั้งหลายออกแล้วไล่ตามนายน้อยนิกายกระบี่ทมิฬไป
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่นายน้อยคนอื่นๆก็ต่างพากันเปิดทางของพวกเขาเข้าไปภายในได้อย่างง่ายดาย
“นี่มัน….แข็งแกร่งจริงๆ ! ”
หลายๆคนพากันส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง
“ผีปราชญ์ถูกสังหารจนหมด ! ”
“ช่วยกันจัดการฝูงทหารหยินเร็ว ! ”
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญส่งเสียงโห่ร้องออกมา
หลินเทียนที่กำลังยืนอยู่ห่างออกไปได้พุ่งผ่านเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ภายในสถานที่แห่งนี้นั้นสองข้างผนังต่างรายล้อมไปด้วยอักขระมากมาย
เขามองไปทางมันก่อนที่จะหยุดสายตาอยู่ที่อักขระปรุงยาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“นี่มัน…….อักขระเฉพาะของทักษะปรุงยา ! ”
เขาได้แต่ผงะไป

Divine King of All Directions

Divine King of All Directions

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1460 อ่านนิยาย

(ผู้แปลคนใหม่ ต่อจากตอนที่ 367 ด้านบน)

( อ่านต่อข้างล่าง )


ในอาณาเขตสวรรค์สิบทิศนั้นเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่งที่น่านับถือมากมาย หลินเทียนผู้ซึ่งได้รับกระบี่อันลึกลับมาโดยบังเอิญนั้นได้หล่อหลอมเทคนิคบ่มเพาะ ศึกษาหลักการของข่ายอาคม ห้ำหั่นเหล่าตระกูลอันแข็งแกร่งและจองหองอย่างไร้พ่าย ! กระบี่ยาวเจ็ดฟุตนี้จะกวัดแกว่งไปทั่วทั้งยุทธภพ ภายใต้อาณาเขตนี้ข้าคือผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง

Options

not work with dark mode
Reset