Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 296.1

ตอนที่ 296.1

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

••••••••••••••••••••

บทที่ 296: ต่อสู้กับกองบัญชาการใหญ่ (1)

เมื่อมองเห็นพลังอันน่าเกรงขามของคลื่นทะเลพิโรธได้สลายหายไปเพียงเพราะการโจมตีของขวานลึกลับ เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ในเกาะต่างพากันร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

ทั้งหมดรู้สึกเหมือนว่าตนเองรอดพ้นจากความตายและโห่ร้องออกมาราวกับคนบ้า

อย่างไรก็ตาม มันเร็วเกินไปที่จะมีความสุข เพราะว่าคลื่นทะเลพิโรธนั้นเป้าหมายของมันไม่ใช่แค่กองบัญชาการหลักเท่านั้น คลื่นที่แยกออกเป็นสองส่วนนั้นไม่ได้สงบลงจริงๆดั่งที่ตาเห็น

ปีกสองข้างได้ถูกซัดทอดให้เปลี่ยนทิศทางไปด้านข้างแทน ทั้งก้อนหินใหญ่ ต้นไม้ หน้าผาของเกาะได้ถูกคลื่นพิโรธทำลายจนย่อยยับ เกิดเสียงคำรามดังสนั่นออกมาอย่างรุนแรง น้ำทะเลที่มากมายขึ้นมาบนฝั่งทำให้เกาะของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกคล้ายกับจมอยู่ใต้มหาสมุทรชั่วคราว

ผู้ฝึกตนที่กำลังใจดีอยู่เมื่อครู่นี้ กลับกลายเป็นพูดไม่ออกและตื่นตระหนกตามแรงสั่นสะเทือนอันบ้าคลั่งนี้

พวกเขารู้เพียงว่าขวานลึกลับนั้นสามารถหยุดคลื่นทะเลพิโรธที่จะมาถึงตัวของพวกเขาโดยตรง แต่ทว่ารอบข้างของทั้งหมดกลับถูกทำลายจนย่อยยับ

ในตอนนี้คลื่นทะเลพิโรธได้หายไปแล้ว

ณ เวลานี้กองบัญชาการหลักของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกโดยรอบได้กลายเป็นมหาสมุทรโดยสมบูรณ์ ทุกพื้นที่โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยเหล่าอสูรกายประเภทน้ำ

เมื่อยืนมองจากที่สูงจะเห็นได้ว่าเหล่าอสูรกายมากมายจำนวนนับไม่ถ้วนได้ล้อมรอบพื้นที่แห่งนี้ไว้โดยสมบูรณ์แล้ว

เห็นเหล่าอสูรกายมากมายเช่นนี้ เหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวังภายในจิตใจ พวกเขาจะสามารถต้านทานอสูรกายนับล้านตนพวกนี้ได้อย่างไรกัน?

เหล่าอสูรกายได้ขึ้นมาบนเกาะเรียบร้อยแล้ว พวกมันมีพลังและจิตมุ่งหมายที่จะได้รับชัยชนะในคราวนี้ ร่างกายของพวกมันฮึกเหิมอย่างมากพร้อมกับเคลื่อนที่ไปด้านหน้าช้าๆ ตอนนี้พวกมันทั้งหมดอยู่ห่างจากกองบัญชาการหลักเพียงห้าร้อยลี้เท่านั้น! อีกทั้งตอนนี้ยังมีเรือยักษ์มังกรอัคคีกำลังเคลื่อนที่เจ้ามาอย่างใจเย็นอีกด้วย

สำหรับผู้ฝึกตนของสำนักเสวียนเทียน เพียงแค่เห็นมันในครั้งแรกด้วยการมองเพียงผ่านๆยังรู้ได้ว่ามันคือสมบัติของสำนักตนเอง ในตอนนี้บนเรือเต็มไปด้วยกองทัพอสูรกายซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับเหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์อยู่บนนั้น เหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์ที่เห็นเช่นนี้รู้สึกกังวลใจอย่างมากโดยเฉพาะเหล่าคนที่อยู่ในสำนักเสวียนเทียน พวกเขาโกรธแค้นที่ถูกแย่งชิงสมบัติไป ภายในหัวของทุกคนตอนนี้ปรารถนาที่จะเอาสมบัติชิ้นนี้คืนสู่สำนักให้ได้!

แน่นอนว่าพวกเขาก็ทำได้แค่คิดอยู่ในใจเท่านั้น!

ข้างนอกนั้นมีแต่เหล่าอสูรกายมากมาย การวิ่งออกไปนอกพื้นที่เท่ากับวิ่งเข้าหาความตาย! หลังจากที่เรือมังกรอัคคีได้หยุดลง มีบุรุษร่างสูงหกคนเดินออกมาอย่างช้าๆ รูปร่างของพวกเขาสูงใหญ่และแข็งแกร่งอย่างยิ่ง กลุ่มนี้นำโดยซ่งจง ด้านซ้ายมือของเขาคือราชันเหยี่ยวฟ้าเหลยซานเอ๋อ ด้านขวาคืออาวุโสเอ๋าเทียน ส่วนอีกสามคนด้านหลังคือสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออก

ทั้งหมดยืนอยู่จากพื้นที่ไกลๆ ไม่ได้เดินหน้าต่อแต่อย่างใด พวกเขาเพียงให้เวลาผู้ที่อยู่บนเกาะได้หายใจก่อนเท่านั้น ในตอนนี้ทั้งหกคนยืนมองกองบัญชาการหลักของกลุ่มพันธมิตรอย่างเรียบเฉย

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแสดงตัวออกมาแล้ว ล้วนแต่เป็นผู้มีพลังแข็งแกร่งทั้งสิ้น เหล่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกไม่อาจอดทนถูกมองว่าต่ำต้อยด้อยกว่าได้ เหล่าผู้ฝึกตนระดับจินตันนับสิบคนมุ่งหน้าออกมายืนเผชิญหน้ากับซ่งจงทันที

เมื่อทั้งสองได้ยืนอยู่ตรงข้ามกันแล้ว เหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์ได้แสร้งกล่าวออกมาอย่างโศกเศร้า “เจ้าคือซ่งจงงั้นหรือ? เจ้าช่างมีปราณจิตวิญญาณที่ล้นเหลือ อีกทั้งยังหล่อเหลาและฉลาดหลักแหลม! อีกทั้งเจ้ายังเป็นมังกรในหมู่ผู้ฝึกตนมนุษย์อีกด้วย แต่เหตุใดในตอนนี้เจ้าจึงไปยืนรวมอยู่กับเหล่าอสูรกายล่ะ?”

ซ่งจงถูกเหยียดหยามโดยนักบวชลัทธิเต๋าด้านหน้าอย่างโจ่งแจ้ง “เจ้าไม่รู้เรื่องของข้างั้นหรือ? สิ่งที่เจ้ากล่าวออกมานั้นช่างดูเหมือนว่าภายในหัวใจนั้นเต็มไปด้วยศีลธรรมอันดีงาม แต่ทว่าความจริงนั้นหัวใจของพวกเจ้ามีค่าน้อยเสียยิ่งกว่าขยะ!” นักบวชลัทธิเต๋าได้ยินเช่นนั้นไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เขาฉีกยิ้มพร้อมกล่าวต่อ “แน่นอนว่าข้านั้นได้ยินเรื่องที่เจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็มีบางคนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าคิดจะแก้แค้นโดยไม่สนคนบริสุทธิ์เลยงั้นหรือ?”

“เหอะ ข้าถูกสำนักใหญ่ของพวกเจ้าโจมตี แล้วเหตุใดข้าต้องสนใจล่ะ! ข้าถูกกองทัพนับหมื่นคนไล่ล่าเป็นระยะทางกว่าหมื่นลี้ หนีตายราวกับสุนัขจนตรอก เพียงแค่ข้าโชคดีเท่านั้นจึงได้กลับมายืนอยู่ตรงนี้! ทำไมเจ้าจึงคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะสามารถจบลงอย่างสวยงามได้หละ?” ซ่งจงเหยียดปากในขณะที่กล่าวออกมาเช่นนั้น “ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าฟัง วันนี้ข้ามาเพื่อมอบความโชคร้ายให้กับพวกเจ้าทั้งหมด สำหรับผู้ใดที่รังแกข้า มันผู้นั้นจะไม่มีวันได้รับการยกโทษให้ ข้าจะเอาคืนเป็นร้อยพันเท่า!”

“โอ้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น พวกข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวอีกต่อไป!” นักบวชผู้นั้นกล่าวออกมาอย่างขื่นขม

จากนั้นเขาส่ายศีรษะเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “อย่างไรก็ตามกองบัญชาการหลักของพวกเรานั้นไม่ใช่โคลนตม แม้ว่าเจ้าจะมีฝีมือแต่ก็จำเป็นที่จะต้องออกแรงบ้างหละนะ!”

“เหอะ ในสายตาของข้าสิ่งนี้เป็นเพียงไก่งวงน้อยหรือสุนัขจรเท่านั้น ข้าเพียงแค่เป่าเบาๆก็พอแล้ว!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างเย่อหยิ่ง

“โอ้ เช่นนั้นหรือ?” นักบวชลัทธิเต๋าอุทานออกมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่งและกล่าวต่อ “ถ้าหากเจ้ามีเรือมังกรทองคำอยู่ในตอนนี้ แน่นอนว่ามันก็คงสามารถทำให้เจ้าได้รับชัยชนะง่ายขึ้น แต่ทว่าตอนนี้มันคงจะเสียหายอย่างหนักสินะ!”

“และแม้ว่าจะซ่อมแซมมันได้ ก็คงจะต้องใช้เวลาหลายปี แต่เหตุใดพี่ชายตัวน้อยจึงยังกล่าวโอ้อวดเช่นนี้ได้อยู่ล่ะ?”

“เพราะพวกเขาเหล่านี้ยังไงล่ะ!” ซ่งจงกล่าวเช่นนั้นพร้อมกับกวักมือเบาๆ

สามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกที่เห็นเช่นนั้น รีบเร่งพุ่งมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

เหล่านักบวชลัทธิเต๋าที่เห็นเช่นนั้นกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน “ฮ่าฮ่า ข้าก็นึกว่าใคร! แต่เดิมนั้นเป็นเหล่ากบฏที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง! พี่ชายซ่งเอ๋ย ถ้าหากเจ้าคิดว่าไอ้สามตัวนี้จะสามารถช่วยให้เจ้าได้รับชัยชนะได้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะผิดหวัง!”

“เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าถ้าหากเจ้าสามตัวนี้ถูกเนื้อต้องตัวข้า แน่นอนว่าข้าสามารถบีบคอให้พวกมันตายตกไปได้โดยที่ยังไม่ทันกรีดร้อง?”

“แน่นอน ข้าเชื่อว่าผู้แข็งแกร่งอย่างพวกเจ้าจะสามารถจัดการทั้งสามลงได้อย่างง่ายดายราวกับจับแมลงตัวน้อย!” ซ่งจงกล่าวออกมาพร้อมเผยรอยยิ้มลึกลับ “แต่คงไม่หรอก!”

“อะไร?” นักบวชแห่งลัทธิเต๋ารีบถามต่ออย่างกังวล

“แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ใจความสำคัญก็คือพวกเขาทั้งสามสามารถล่มสลายการคงอยู่ของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างสบายใจ

“หืม?” พวกเขางุนงงทันที พร้อมขมวดคิ้วแน่นและถามออกไป “เจ้าหมายความว่าอะไร?”

“เจ้าจะได้รู้ความหมายของมันอย่างแน่นอน!”

จากนั้นซ่งจงตะโกนออกมาทันที “เริ่มได้!”

“รับทราบ!” หนึ่งในสามปีศาจทะเลตะวันออกตอบรับ จากนั้นกล่าวต่อว่า “สหายเอ๋ย บัดนี้เราปีศาจทั้งสามแห่งทะเลตะวันออกได้เข้าร่วมกับเจ้าชายแห่งอสูรกายทะเลตะวันออกแล้ว!”

“ฝ่าบาทนั้นได้กล่าวไว้ว่า เขานั้นไม่ต้องการที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์ เพียงแต่เขาต้องการกำจัดความชั่วร้ายทั้งหลายนี้ให้หมดไปเท่านั้น ผู้ใดที่ยอมจำนน ทางเราจะดูแลเป็นอย่างดี แต่มีข้อยกเว้นคือต้องไม่ได้อยู่ในสำนักพันปีศาจปรารถนา หอเฉวียนจี้ สำนักพันปีศาจและสำนักเสวียนเทียน ถ้าหากพวกเจ้ายอมแพ้ ก็จงอย่าได้เกรงกลัวเหล่าอสูรกายเลย เพราะพื้นที่แห่งนี้เจ้าชายได้มอบให้พวกเราทุกคนและจะแบ่งสมบัติกันอย่างยุติธรรม”

“เจ้าชายได้มีคำสั่งไว้ว่าถ้าหากผู้ใดพร้อมจะมาเป็นกำลังเสริมให้กับกองทัพอสูรกายก็ย่อมได้ เพียงแต่ปฏิบัติกับเหล่าอสูรกายอย่างเท่าเทียมและไม่กดขี่พวกเขา แน่นอนว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถรังแกพวกเจ้าได้”

“และยิ่งไปกว่านั้นในทะเลตะวันออกนั้นมีสมบัติมากมาย มันจะช่วยให้ระดับการฝึกของพวกเจ้าเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

“ข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ พวกเจ้าจะลังเลได้อย่างไร? รีบให้คำตอบเร็วเข้า!” เหล่าผู้ฝึกตนนับหมื่นที่ได้ยินสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกกล่าวออกมาเช่นนั้น ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายทันที พวกเขาเริ่มพูดคุยและปรึกษากันอย่างรวดเร็ว

ในหัวของพวกเขาว่างเปล่าและไม่มั่นคงกับข้อเสนออันยอดเยี่ยมเหล่านี้

เหล่าผู้คนในทะเลตะวันออกนั้นเข้าใจแผนการของซ่งจงอย่างรวดเร็ว เขาโจมตีเข้าไปที่หัวใจหลักของเกาะแห่งนี้อย่างจัง ซ่งจงคิดที่จะทำลายขวัญกำลังใจของเหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์โดยตรง

ถ้าหากมนุษย์เหล่านี้หลงกลไปกับคำเชิญชวน แน่นอนว่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกจะต้องพ่ายแพ้ย่อยยับ เพราะในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างถูกปิดล้อมโดยน้ำทะเลเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเพื่อแก้สถานการณ์ ผู้นำของกลุ่มของมนุษย์จึงตะโกนออกมา “อย่าได้หลงกลในคำพูดของสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออก พวกเขานั้นเป็นเพียงสิ่งชั่วร้ายและไม่เคยทำคุณงามความดีให้กับเหล่ามนุษย์ มันนั้นล้วนใช้ความแข็งแกร่งเพื่อกดขี่พวกเราและกอบโกยผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น อีกทั้งในตอนนี้ยังกลายเป็นคนทรยศที่เข้าร่วมกับกลุ่มอสูรกาย เช่นนี้คำพูดของมันจึงไร้น้ำหนักและไม่มีสิ่งใดควรค่าที่จะเชื่อถือได้!” เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากผู้นำของตนเอง เหล่าผู้ฝึกตนที่มีหัวใจเปี่ยมไปด้วยความหวังเมื่อครู่ได้หมดกำลังใจลงไปทันที ชื่อเสียงของเหล่าสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกนั้นเลวร้ายมากจริงๆ ซึ่งกลิ่นขี้ของสุนัขยังหอมกว่าชื่อของพวกเขา!

สำหรับสามปีศาจแล้วการทรยศนั้นเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก แล้วคำพูดเหล่านั้นจะสามารถเชื่อถือได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าปฏิกริยาเช่นนี้ปีศาจทั้งสามย่อมรับรู้ได้ว่าผู้ฝึกตนมนุษย์กำลังไม่เชื่อใจพวกเขา ตอนนี้ภายในจิตใจของทั้งสามเริ่มกังวลและเกรงกลัวว่าจะถูกซ่งจงลงโทษอย่างรุนแรง แต่ทว่าซ่งจงได้ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่หยี่ระ “เฮ้ พวกเจ้าฟังข้าก่อน! เมื่อก่อนนี้พวกเขาอาจเคยผิดพลาดมาบ้าง แต่ทว่าตอนนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้วและการมาของข้าในวันนี้นั้นมาในนามของเจ้าชายแห่งทะเลตะวันออก แม้ว่าพวกท่านจะไม่เชื่อถือเขา แต่ทว่าตำแหน่งของข้าก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเรื่องล้อเล่นกับพวกท่านได้!”

“ใช่แล้ว และในตอนนี้พวกเจ้ามีกำลังคนเพียงหนึ่งแสนเท่านั้น แล้วจะต่อสามารถต่อสู้กับกองทัพอสูรกายนับล้านที่กำลังยึดครองพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงแค่อสูรกายจำนวนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกมาที่กำลังจะตามมาในภายหลัง พวกเจ้าคิดว่าเหล่าอสูรกายต้องการแวะมาเยี่ยมเยียนพวกเจ้างั้นหรือ? ไม่ใช่เลย พวกเขาต้องการชีวิตพวกเจ้าทั้งหมด! สหายเอ๋ยข้าจะบอกอะไรให้หนึ่งอย่าง หลังจากที่ข้ายอมแพ้ต่อเจ้าชายและมอบความจงรักภักดี พวกเขาต้อนรับข้าอย่างอบอุ่น อีกทั้งยังมอบเกาะวิญญาณให้แก่พวกเรา แน่นอนถ้าหากพวกเจ้าเข้าร่วมกับข้า พวกเจ้าทั้งหมดย่อมได้รับสิ่งเดียวกับที่ข้าได้รับ!”

“พวกเราทั้งหมดนั้นออกเดินทางเพื่อไปต่อสู้แย่งชิงสิ่งเหล่านี้ภายในทะเลตะวันออก แต่ในตอนนี้สิ่งนั้นอยู่ตรงหน้าพวกท่านแล้ว เหตุใดจึงยังต้องอยู่ในกลุ่มของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกด้วยล่ะ? พวกเจ้ากำลังทำลายอนาคตที่สดใสด้วยมือของตนเอง!”

ไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยากล่าวออกมาอย่างเรียบง่าย ซึ่งในตอนนี้เขาไม่ได้ถูกควบคุมด้วยแม่มดเทวะอีกต่อไป

หลังจากที่แม่มดเทวะได้เปิดทางให้กับเขา แน่นอนว่าเขารู้ตัวทันทีว่าหมดหนทางที่จะต่อต้าน สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือการยอมแพ้และทำภารกิจให้สำเร็จเท่านั้น

ที่ซ่งจงยอมปลดปล่อยเขานั้นเพราะว่าซ่งจงนั้นต้องใช้แม่มดเทวะในการซ่อมแซมเรือมังกรทองคำและไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยายังคงมีประโยชน์อยู่ เขาจึงต้องยอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ฉงลั่วเหยานั้นเพิ่งจะยอมแพ้ ดังนั้นเขาจึงมีความกระหายที่จะสร้างผลงานและไม่ยอมแพ้ปีศาจอีกสองตนที่ทำผลงานล่วงหน้าเขาไปแล้ว ในตอนนี้การกล่อมให้คนอื่นยอมแพ้ตามนั้นเป็นสิ่งที่เขามุ่งหวังอย่างถึงที่สุด

ทั้งสามคนนั้นพูดคุยกันเกี่ยวกับการโน้มน้าวผู้คนเหล่านั้นอย่างเคร่งขรึม แน่นอนว่าคำพูดที่เขาเพิ่งกล่าวออกไปมีผลต่อจิตใจของผู้ฟังอย่างมาก จิตใจของผู้คนนั้นสั่นไหวคล้อยตามอย่างช่วยไม่ได้

เหล่าผู้นำของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกนั้นเริ่มกังวล พวกเขานั้นไม่สามารถจะหาเหตุผลมาโต้แย้งสามปีศาจนั้นได้เลย

ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะพูดกับซ่งจงโดยตรง “ซ่งจง เจ้าไม่ยินดีงั้นหรือ เจ้าสมควรจะต่อสู้อย่างมีศักดิ์ศรี เหตุใดจึงเอาแต่วิ่งวุ่นไปมาก่อความวุ่นวาย?”

“ฮ่า ข้าชอบที่จะยืนดูมากกว่า!” ซ่งจงกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ “ข้าไม่ได้กังวลอะไรเลย แม้ว่าพวกเขาจะพูดต่ออีกสักครึ่งวันก็ไม่เป็นไร!” เมื่อเหล่าผู้นำแห่งกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้ยินที่ซ่งจงพ่นออกมา ทั้งหมดแทบจะกระอักเลือดจากความโกรธทันที

แน่นอนว่าคำพูดเล็กน้อยเหล่านี้ไม่อาจมองข้ามได้ ถ้าหากปล่อยให้พวกเขาถูกโน้มน้าวไปอีกครึ่งวัน แน่นอนว่าทั้งหมดจะต้องยกมือยอมแพ้และเข้าร่วมกับซ่งจงอย่างแน่นอน ทั้งหมดกังวลพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “นี่ซ่งจง เจ้าไม่กลัวกองกำลังเสริมของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกที่กำลังจะมางั้นหรือ?

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซ่งจงที่ได้ยินเช่นนั้นลุกขึ้นยืนพร้อมส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกล่าวว่า “ผู้คนในกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกล้วนแต่กระจัดกระจายไปหมดแล้ว อีกทั้งเจ้ายังดูถูกกองทัพของข้ามากเกินไป ถ้าหากเวลานั้นมาถึง แน่นอนว่าข้าจะลงมือด้วยตนเอง!”

“ในตอนนี้กองทัพของอสูรกายนับล้านได้กระจายกันอยู่โดยรอบพื้นที่แห่งนี้ทั้งห้าเส้นทาง แน่นอนว่าพวกเขารอที่จะต้อนรับพวกท่านอยู่ ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ากองกำลังเสริมของท่านจะเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ด้วยเส้นทางไหน!” เมื่อเหล่ากลุ่มพันธมิตรได้ยินเช่นนั้น เขาตื่นตระหนกทันที พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าซ่งจงจะสามารถคิดแผนการที่รอบคอบเช่นนี้ได้

ข่าวใหม่เช่นนี้ยิ่งเขย่าจิตใจของเหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์อย่างมาก สถานการณ์ในตอนนี้นับได้ว่าเลวร้าย ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยเหล่าอสูรกาย อีกทั้งกองกำลังเสริมก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามาช่วยเหลือได้หรือไม่ ถ้าหากไม่ยอมแพ้ในตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คงจะมีเพียงยืนรอความตายเท่านั้น ทุกคนล้วนแตกตื่นและเริ่มเสียขวัญ เหล่าปีศาจทั้งสามเมื่อเห็นเช่นนั้นต่างรื่นเริงทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาดังสนั่น “เฮ้ สหายทั้งหลายพวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีกำลังเสริมมาที่นี่ พวกเจ้าควรที่จะยอมแพ้เสียเถิด ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีเพียงความตายที่รออยู่ด้านหน้า”

“หลายปีที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้จัดการเหล่าอสูรกายด้านนอกให้กลายเป็นซากศพราวกับสุนัขริมทาง อีกทั้งคุณภาพชีวิตของพวกเจ้ายังต้องเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา นั่นเป็นหนทางที่พวกเจ้าเลือกงั้นหรือ?”

“สหายเอ๋ยนับตั้งแต่วันนี้พวกเจ้าจะไม่ต้องตกอยู่ในความกังวลเหล่านั้นอีกต่อไป มาเถิด เจ้าชายจะมอบสมบัติและเกาะมากมายให้กับพวกเราโดยที่ไม่ต้องออกแรงค้นหาและเสี่ยงชีวิต!”

หลังจากเหล่าผู้นำในกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้ยินเช่นนั้น ทุกคนโกรธจัดพร้อมทั้งตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย “ไอ้หมาทรยศ พวกเจ้าทั้งสามยังมีหน้ามากล่าวเช่นนี้อีกงั้นหรือ? สิ่งที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกมีสภาพแวดล้อมที่แย่นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าก่อไว้หรือไง? หน้าด้านเหลือเกิน!”

“โอ้สหายเก่า เจ้ากล่าวเช่นนี้นั้นไม่ถูกต้องนัก! กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกนั้นไม่ใช่สถานที่ที่เต็มไปด้วยความชอบธรรมตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะมาแล้วไม่ใช่หรือ?”

“มันเป็นโลกแห่งทะเลตะวันออกที่พวกเจ้าบอกกล่าวให้ทุกคนอดทนกับมัน จะกล่าวว่าเรื่องราวที่เลวร้ายมันเกิดจากพวกข้าได้อย่างไรกัน?”

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset